รูปแบบการจัดสวนแบ่งออกเป็น 3 รูปแบบ

         เอกลักษณ์สวนฝรั่งเศสคือการออกแบบสวนอย่างมีแบบแผน (Formal Garden) มีความสมมาตร เส้นสายที่เป็นระเบียบ มีความสมดุลของพรรณไม้และองค์ประกอบทางสถาปัตยกรรม ทำให้เกิดความรู้สึกที่สงบ รายละเอียดทุกอย่างในสวนมีสัดส่วนที่แน่นอน แม้จะมีความเป็นแฟชั่นตามแบบฉบับฝรั่งเศส แต่ก็ให้ความรู้สึกที่ปลอดภัยและความงามที่ไร้กาลเวลา ปิดล้อมด้วยต้นไม้ใบเขียวที่ถูกตัดแต่งเป็นรูปทรงเรขาคณิต รวมทั้งดอกไม้สีสันต่าง ๆ ที่จัดเรียงอย่างสมดุล

        สวนฝรั่งเศสกำเนิดขึ้นในช่วง ค.ศ. 1650-1750 โดยได้รับอิทธิพลมาจากสวนแบบอิตาเลียน เมื่อครั้งที่พระเจ้าชาร์ลที่ 3 แห่งฝรั่งเศสทรงมีชัยเหนือดินแดนอิตาลีและได้รับเอารูปแบบการจัดสวนมาใช้ เอกลักษณ์ของสวนแบบอิตาเลียนก็คือ การประดับประดาด้วยประติมากรรมต่างๆ เช่น เทพปกรณัมตามตำนานตะวันตก รูปสัตว์ หรือรูปสลักใบหน้าคน

        สวน ฝรั่งเศสเน้นมุมมองของการจัดสวนที่เป็นแบบแผน ด้วยการปลูกพันธุ์ไม้ตัดแต่งให้เป็นลวดลายเรขาคณิต มีขนาดที่สัมพันธ์กับสัดส่วนของมนุษย์และให้ความรู้สึกมีชีวิตชีวา ซึ่งสวนขนาดใหญ่ประเภทอื่น ๆ ไม่อาจให้ความรู้สึกเช่นนี้ได้
แนวคิดหลัก ของสวนฝรั่งเศสคือ การออกแบบให้เห็นเส้นแกน (Axis) ที่ทอดยาวไปจนสุดสายตา มีการคำนวณด้วยสูตรทางคณิตศาสตร์ เพื่อให้เกิดทัศนียภาพ (Perspective) ที่ได้สัดส่วนกัน โดยจะยึดแกนหลักเป็นเกณฑ์ในการการออกแบบรายละเอียดต่าง ๆ อาทิเช่น การกำหนดทิศทางการมองเห็นภูมิทัศน์โดยรอบซึ่งมองเห็นได้ในระยะต่าง ๆ กันจากตัวอาคาร นอกจากนี้ยังมีการตกแต่งด้วยงานประติมากรรมที่ได้แรงบันดาลใจมาจากตำนานเทพ ปกรณัมในนิยายกรีก เพื่อสร้างเรื่องราวและเพิ่มความน่าสนใจ

สวนฝรั่งเศส นิยมสร้างความรู้สึกเชื่อมต่อระหว่างพื้นที่ภายในและภายนอกอาคาร โดยใช้ลูกเล่นในการจัดการสวนให้ดูเป็นส่วนหนึ่งของพื้นที่ภายในอาคาร เช่น การจัดสวนให้มีพื้นที่ปิดล้อมโดยแบ่งเป็นเรื่องราวต่าง ๆ ตามเทพนิยาย หรือเรื่องราวในวรรณกรรม เช่น สวน Jardin des Versailles ในพระราชวังแวร์ซายส์ ที่มีการตกแต่งและแบ่งสวนออกเป็นส่วนต่าง ๆ ประดับด้วยรูปปั้นของเทพต่าง ๆ ตามตำนานเทพนิยายกรีก อาทิ โพไซดอน เทพเจ้าแห่งท้องทะเล เป็นต้น

 สวนฝรั่งเศส ประกอบด้วยแบบแผนที่เป็นองค์ประกอบสำคัญ 5 อย่างคือ

1.รูปทรงเรขาคณิต (Geometrical Pattern) สวนฝรั่งเศสเน้นการควบคุมธรรมชาติให้อยู่ภายใต้ แบบแผนที่กำหนดไว้ โดยออกแบบให้เป็นรูปทรงเรขาคณิตแบบสมมาตร (Symmetry) เพื่อให้เกิดบรรยากาศความสงบ
2. ทางเดินเล็ก ๆ (Little Path) ทางเดินหลักควรขนาบข้างด้วยพุ่มไม้ที่ตกแต่งอย่างเรียบร้อย ประดับตามมุมต่าง ๆ ด้วยม้านั่งหรือรูปปั้นซึ่งถือเป็นจุดเด่น เพื่อเป็นจุดรวมของสายตาและเพื่อสัมพันธ์กับแนวคิดการออกแบบสวนโดยรวม รูปปั้นแบบคลาสสิกให้ความรู้สึกถึงความงดงามในอดีต สวนฝรั่งเศสสมัยใหม่ให้ใช้รูปปั้นแบบโมเดิร์นเพื่อสร้างบรรยากาศที่ดูร่วม สมัยยิ่งขึ้น วัสดุปูทางเดินก็มีความสำคัญไม่น้อย ไม่ว่าจะเลือกใช้แผ่นหินขนาดใหญ่ หรือก้อนหินขนาดเล็ก ๆ ปูพื้นทางเดิน ควรหลีกเลี่ยงลวดลายที่ดูวุ่นวายเพราะจะไปทำลายบรรยากาศความสงบของสวนได้
3. พุ่มไม้หรือซุ้มต้นไม้: Berceau (แบร์โซ) องค์ประกอบที่สำคัญที่สุดของสวนฝรั่งเศสคือ การออกแบบตัดแต่งต้นไม้ใบสีเขียวให้เป็นรูปทรงต่าง ๆ เพื่อให้สามารถชื่นชมความงามได้ตลอดปี ตกแต่งทางเดินด้วยรูปสลักหรือรูปปั้นหรือพุ่มไม้ที่ตัดแต่งเป็นรูปทรงกรวย คว่ำเพื่อเน้นจุดสนใจในแนวดิ่ง
4. บ่อน้ำ (Pond) สวนฝรั่งเศสที่มีความสวยงามอีกแบบคือสวนแบบวงกลม (Circle Garden) ที่รายล้อมบ่อน้ำและประดับด้วยต้นไม้ขนาดเล็ก ๆ ที่มีสีสัน เพื่อสร้างความน่าสนใจจากเส้นสายของสวนที่ดูเรียบ ๆ สวนแบบวงกลมให้ความรู้สึกที่สงบและให้ความรู้สึกของพื้นที่ปิดล้อมได้ มากกว่า
5. กระบะต้นไม้ (Flower Bed) แม้แต่สวนขนาดเล็กก็สามารถปรับให้เป็นสวน Formal Style แบบสวนฝรั่งเศสได้ โดยใช้เส้นสายรอบนอกเป็นองค์ประกอบในการสร้างความน่าสนใจให้กับสวน เช่น กระบะต้นไม้ทรงสี่เหลี่ยม 2 ชุด ปลูกต้นไม้ที่มีลำต้นในแนวตั้งเพื่อให้เป็นจุดเด่น ตัดแต่งพุ่มไม้เป็นรูปปิรามิดหรือแท่งรูปสี่เหลี่ยมปลายแหลม (Obelisk) และปลูกพืชคลุมดินที่โคนต้น ซึ่งสามารถนำวิธีนี้ไปใช้ได้ไม่ว่าคุณต้องการสวนสมัยใหม่แบบเรียบง่ายหรือ สวนแบบคลาสสิก
การจัดสวนแบบเรขาคณิต คือ เป็นรูปสี่เหลี่ยมทั้งหมด ความหมายแสดงถึงความแน่นอน มีความเชื่อมั่นในตัวเองสูง

การจัดสวนแบบธรรมชาติ ผู้จัดสวนจะต้องมีจินตนาการดี รู้เรื่องสภาพธรรมชาติ มีความรู้เกี่ยวกับพันธุ์ไม้ที่จะนำมาปลูก

การจัดสวน หรือตกแต่งสวนในพื้นที่ที่พักอาศัย ถือได้ว่าเป็นเรื่องปกติที่หลายๆ คนต้องการให้หน้าบ้านหรือภายในบ้านนั้นมีความสวยงาม ร่มรื่น หรือว่าแขกไปใครมาก็จะเอ่ยทัก หรือถามว่าเออสวนสวยจัง ก็จะเป็นที่พึงพอใจของเจ้าของบ้าน ทั้งนี้การจัดสวนหน้าบ้านนั้นส่วนใหญ่แล้วจะไม่มีการวางองค์ประกอบที่ตายตัวหรือถูกต้องมากนัก

แต่ก็จะมีหลักการออกแบบหรือจัดสวนที่ให้เข้ากับพื้นที่บริเวณบ้านอยู่ เพราะว่าไม่ใช่ว่านึกอยากจะจัดสวนก็จัดเลย วางตรงไหนก็ได้ ไม่ใช่ เพียงแต่การจัดสวนนั้นจำเป็นต้องมีหลักการออกแบบและการวางเพื่อความสะดวกในการเลือกซื้อและเหมาะสมกับพื้นที่บ้านด้วย

รูปแบบการจัดสวนแบ่งออกเป็น 3 รูปแบบ
1.สวนดอกไม้หน้าบ้านสร้างความรื่นรมย์น่ามอง

การออกแบบจัดสวน หรือตกแต่งสวน

หลักการออกแบบสวนหรือจัดสวนสำหรับที่อยู่อาศัยนั้น  โดยปกติแล้วก็มีหลักการง่ายๆ อยู่ทั่วไป  โดยจะขึ้นอยู่กับว่าเจ้าของบ้านนั้นมีสไตล์ในการชอบสวนในรูปแบบใด อีกทั้งการจัดสวนเองก็สามารถทำได้ด้วยตนเองอีกด้วย ทั้งนี้การจัดสวนมีทั้งแบบตามหลักการจัดสวนที่ถูกต้อง หรือจะใช้หลักการแบบของตัวเอง หรือจะเป็นตามหลักความเชื่อทางโหราศาสตร์ ก็ได้เช่นกัน ทั้งนี้การจัดสวนก็มีรูปแบบที่เฉพาะเจาะจงได้เช่นกัน อาจจะเป็นสวนแบบญี่ปุ่น แบบโรมัน หรือแบบไทยๆ ก็ได้เช่นกัน ซึ่งการจัดสวนเหมือนกับเป็นการสร้างแนวความคิดที่ตีกรอบให้แตกต่างออกไปด้วย

กล่าวง่ายๆ เลย คือ การจัดสวนหรือตกแต่งสวนก็เปรียบได้กับศาสตร์ของศิลปะที่จะต้องใช้ทักษะหลายด้านเพื่อให้สวนที่จะทำนั้นออกมาได้สมบูรณ์แบบที่สุด การตกแต่งสวนดอกไม้หน้าบ้านก็เช่นกัน เพราะว่าถ้าเราไม่รู้เรื่องขององค์ประกอบการวางสวนและทิศทางต่างๆ แล้ว ก็จะทำให้สวนออกมาไม่สมบูรณ์แบบตามที่ตั้งใจไว้ อีกทั้งยังเป็นการปรับทัศนียภาพของบ้านให้ดูมีความสวยงามและร่มรื่นเพิ่มขึ้น หรือเป็นการสร้างบรรยากาศให้บ้านดูมีจุดสนใจเพิ่มขึ้นนั่นเอง

การจัดสวนเปรียบเสมือนการสร้างศิลปะอย่างนึ่งของเรา ซึ่งการวาดรูปก็คือศิลปะ การจัดสวนให้เป็นไปตามองค์ประกอบที่เราเป็นคนวางกำหนดว่าต้นไม้ชนิดนี้ บ่อน้ำพุ หรือแม้แต่สวนดอกไม้ขนาดเล็กหน้าบ้านแบบดอกนี้ จุดนี้ ต้องอยู่ตำแหน่งนี้ ให้เป็นไปตามทิศทางที่เรากำหนด ก็ถือว่าเป็นการสรรสร้างงานศิลปะแขนงหนึ่งเช่นกัน ซึ่งการจัดสวนไม่ว่าจะเป็นในตัวบ้าน ข้างบ้าน หรือแม้กระทั่งหน้าบ้าน ก็ถือว่าเราจะต้องใช้ประสบการณ์และการเรียนรู้เรื่องของงานศิลปะเข้ามามีส่วนด้วยเช่นกัน

สวนหน้าบ้าน บางบ้านอาจจะมีขนาดพอดี ไม่เล็กหรือไม่ใหญ่เกินไป ก็ต้องมีการกำหนดขอบเขตว่าเราจะจัดวางดอกไม้ในรูปแบบไหน ต้องใช้ดอกอะไรบ้าง การไล่สีของดอกไม้หรือพรรณไม้ที่จะนำมาประดับ ซึ่งล้วนแล้วแต่มีศิลปะเข้ามาเกี่ยวข้องทั้งสิ้น บอกไม่ได้เลยว่าการจัดสวนที่ถูกต้องเป็นอย่างไร เพราะไม่มีขอบเขตที่ตายตัว แต่ก็มีการวางแปลนไว้สำหรับการจัดวางเพื่อความสวยงามและเป็นระเบียบเท่านั้นเอง เพราะว่าศิลปะกับการจัดสวนถือเป็นของคู่กัน ที่ต้องนำทั้งทักษะและการปฏิบัติมาเป็นองค์ประกอบที่สอดคล้องและเกี่ยวข้องกันด้วยนั่นเอง

เริ่มต้นออกแบบแปลนสวน

สิ่งแรกเลยก่อนที่เราจะเริ่มลงมือทำสวนนั้นจะต้องมีการวาดหรือออกแบบแปลนสวนเสียก่อน ไม่ว่าจะเป็นสวนขนาดใหญ่ หรือขนาดเล็ก ตามหน้าบ้าน ก็ต้องมีการวาดแปลนเพื่อเตรียมการสำหรับการสร้างสวนขึ้นมา ซึ่งการออกแบบแปลนนั้นจะช่วยให้การทำงานตามลำดับขั้นตอนของการทำสวนนั้นรวดเร็วยิ่งขึ้น

สามารถทำงานได้ง่ายและสำเร็จไปได้ด้วยดี โดยเราจะเริ่มตั้งแต่การสำรวจพื้นที่ว่ามีขนาดพื้นที่เท่าไหร่ เหมาะกับการทำสวนประเภทไหน แบบไหน หรือต้องมีการสอบถามเจ้าของพื้นที่หรือคนที่จะทำสวนก่อน และทำการวิเคราะห์ข้อมูลที่ได้มานั้นจะเป็นอย่างไร

ซึ่งในกรณีนี้ถ้าจ้างทีมงานออกแบบสวนอาจจะมีการประเมินราคาหรือค่าออกแบบให้ด้วย แต่ถ้าทำเองก็แค่วางแผนและเตรียมการเท่านั้นก็เพียงพอ เพราะว่าการทำสวนในแต่ละครั้งนั้นอาจจะมีรายละเอียดที่ค่อนข้างยุ่งยากและวุ่นวาย  แม้แต่เรื่องเล็กน้อยก็ไม่ควรที่จะมองข้ามไปได้เลย เพราะว่ารายละเอียดนั้นเป็นสิ่งที่สำคัญเป็นอย่างมากในการจัดสวน

รูปแบบการจัดสวนแบ่งออกเป็น 3 รูปแบบ
2.แปลนการออกแบบสวนที่ถูกต้องตามโครงสร้างของนักออกแบบสวน

วิธีการจัดสวน   

โดยการจัดสวนอาจจะแบ่งเป็น 2 แบบ คือ จ้างทีมงานออกแบบและจัดสวน กับจัดสวนด้วยตัวเอง

  • การออกแบบจ้างทีมงานออกแบบ

ซึ่งขั้นตอนการออกแบบโดยทีมงานที่รับจ้างจัดสวนนั้นอาจจะมีขั้นตอนต่างๆ ได้ ไม่ว่าจะเป็น

-การจัดหาวัสดุอุปกรณ์ต่างๆ ในการตกแต่งสวน การปรับพื้นที่บริเวณ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการปรับปรุงพื้นที่ ตำแหน่งการวางก้อนหิน

-การเตรียมพรรณไม้ เพื่อที่จะเริ่มปลูกพรรณไม้แต่ละชนิด การปูหญ้า และวางทางเท้าสำหรับทางเดิน

-ทีมงานที่รับจัดสวนก็จะมีการเก็บรายละเอียดของงานที่ได้รับมอบหมายให้เรียบร้อย และส่งมอบงานเมื่อครบกำหนดหรืองานเสร็จ เป็นอันว่าเสร็จขั้นตอน

แต่การจัดสวนที่จะจ้างทีมงานสำหรับจัดสวนนั้นส่วนใหญ่แล้วจะเป็นแหล่งท่องเที่ยว หรือไม่ก็ตามสถานที่สำคัญ อย่างเช่น พิพิธภัณฑ์ สวนสาธารณะ หรือแหล่งสถานที่ท่องเที่ยวเชิงโบราณคดีต่างๆ เพราะว่าการจ้างทีมงานมาจัดสวนนั้นจะมีค่าใช้จ่ายในแต่ละครั้งค่อนข้างสูง ถ้าไม่ได้เป็นแหล่งท่องเที่ยวหรือสถานที่สำคัญก็ไม่มีความจำเป็นมากนักที่จะต้องจ้างทีมงานจัดสวนมา

  • การออกแบบจัดสวนด้วยตัวเอง

ส่วนใหญ่แล้วการจัดสวนด้วยตัวเองนั้นจะนิยมจัดสวนหรือตกแต่งสวนกันตามที่พักอาศัย หรือสถานที่ที่มีพื้นที่ไม่กว้างมากนัก เหมาะสำหรับการสร้างสรรค์จินตนาการ และเผยแพร่ไอเดียผ่านการจัดสวนได้ไม่ยากเลย โดยการจัดสวนด้วยตัวเองนั้นก็จะมีขั้นตอนที่คล้ายๆ กับการจ้างทีมจัดสวน แต่จะดีตรงที่เจ้าของบ้านหรือผู้ที่อยากจัดสวนเอง สามารถเลือกสรรวัสดุ อุปกรณ์ รวมไปถึงพรรณไม้ต่างๆ มาใช้ในการจัดสวนด้วยตัวเอง ยิ่งเป็นสวนดอกไม้หน้าบ้าน  อาจจะเรียกพรรณไม้ที่มีความคงทนต่อสภาพอากาศที่ดีเสียหน่อย

แต่ข้อเสีย ก็คือ อาจจะใช้เวลาในการจัดสวนค่อนข้างช้า เพราะว่ายังไม่ชำนาญ และยิ่งเป็นมือใหม่ก็อาจจะต้องเสียเวลาทำเสียหน่อย แต่ข้อดี คือ ได้ใช้เวลาอยู่กับครอบครัวได้มากยิ่งขึ้น และไม่เปลืองเงินด้วย

รูปแบบการจัดสวนแบ่งออกเป็น 3 รูปแบบ
3.การจัดการสวนหน้าบ้านให้ดูสบายตาและมีความหลากหลาย

สภาพพื้นที่ใน การจัดสวน

ถ้าเราไม่ได้ออกแบบสวนดอกไม้หรือแต่งสวนด้วยตัวเอง การสำรวจหาข้อมูลต่างๆ เกี่ยวกับสถานที่ ถือเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการออกแบบสวน ไม่ว่าจะเป็นสวนดอกไม้ หรือสวนขนาดใหญ่ ถือได้ว่าเป็นเรื่องสำคัญเป็นอย่างมากเลยทีเดียว ฉะนั้นแล้วผู้ที่ออกแบบหรือคนที่ทำสวนเองก็ต้องศึกษาสภาพพื้นที่ของสถานที่นั้นๆ ก่อนว่าจะจัดสวนในรูปแบบใด หรือใช้พรรณไม้ ดอกไม้ ชนิดไหน โดยข้อมูลที่ควรทราบเลย คือ

–สภาพภูมิอากาศ โดยสภาพอากาศของแต่ละพื้นที่นั้นจะไม่เหมือนกัน การดูสภาพอากาศจึงถือว่าเป็นเรื่องสำคัญอีกเรื่องหนึ่งของการทำสวนหรือออกแบบสวน เพราะว่าจะได้รู้ว่าสวนแต่ละพื้นที่นั้นเหมาะกับการใช้พรรณไม้หรือดอกไม้แบบไหนในการมาตกแต่ง จะทำให้เลือกพรรณไม้ได้อย่างถูกต้อง รวมไปถึงเรื่องแสง ฝน และลม ก็เป็นสิ่งสำคัญ เพราะว่าปัจจัยทั้งหมดนี้เป็นตัวเชื่อมโยงในการวางแผนการออกแบบสวนที่เหมาะสมกับสภาพพื้นที่ รวมไปถึงบริเวณที่อยู่อาศัยด้วย

–พื้นที่ สภาพพื้นที่นั้นเป็นอย่างไร ดินที่จะปลูกพรรณไม้หรือแต่งสวนนั้นมีความเป็นกรด-ด่าง เป็นดินเหนียวหรือดินร่วน ความสูงต่ำ กว้าง-ยาว มากน้อยเพียงใด ต้องถมดินหรือไม่ ขนาดของพื้นที่เท่าไหร่ จะทำสวนบริเวณไหนของบ้าน

–ทิศ ทิศทางก็ถือว่าอีกหนึ่งเรื่องที่ขาดไม่ได้ในการออกแบบสวน เพราะว่าจะต้องดูว่าทิศทางแต่ละพื้นที่นั้นอยู่ทางไหน ทิศเหนืออยู่ทางไหน ใต้ ออก ตก อยู่ทางไหน เพราะว่าการรู้ทิศทางจะช่วยทำให้รู้เรื่องของแสงและทิศทางลมได้ ซึ่งจะเป็นตัวส่งผลให้ต้นไม้หรือดอกไม้นั้นเจริญเติบโตได้ดี

–สิ่งปลูกสร้าง ลักษณะของบ้าน ตัวอาคารต่างๆ ก็เป็นสิ่งที่ต้องรู้ เพราะว่าเราจะรู้ว่าจะต้องจัดสวนในรูปแบบใดเพื่อให้มีความกลมกลืนกับสภาพแวดล้อม ตัวบ้าน หรืออาคาร อีกทั้งยังเป็นการเสริมสร้างความสวยงาม และทำให้เกิดประโยชน์ใช้สอยให้ได้มากที่สุดด้วย

–การรวมพรรณของเดิมที่มีอยู่แล้ว ถ้าหากว่าบ้าน หรืออาคาร หรือพื้นที่ไหน มีพรรณไม้หรือดอกไม้ของเดิมอยู่แล้ว ก็จะต้องมีการจัดวางตำแหน่ง หรือแยกไปรวมกันก่อน เพื่อให้ง่ายต่อการคัดแยกว่าจะปลูกหรือจัดวางในลักษณะใด ให้มีความกลมกลืนกับพื้นที่มากที่สุด

ที่สำคัญสำหรับการสำรวจพื้นที่ที่จะเริ่มจัดสวน ผู้ออกแบบสวนควรจะมีการวาดแปลนสวนหรือออกแบบแปลนสวนก่อน อาจจะต้องรวมตัวอาคาร หรือบ้าน หรือสิ่งก่อสร้าง ที่มีอยู่ทั้งหมดเข้าไปด้วยคร่าวๆ เพราะว่าการจัดสวนหรือตกแต่งสวน ไม่ว่าจะเป็นสวนดอกไม้ หรือสวนใดๆ ก็ตาม การสร้างความกลมกลืนของสวนกับพื้นที่นั้นๆ ถือเป็นเรื่องสำคัญ เพราะนอกจากจะช่วยดึงจุดเด่นของสวนแล้ว ยังสร้างความสวยงามได้อีกทางด้วย

การหาข้อมูลในการทำสวนหรือตกแต่งสวนดอกไม้ถือว่ามีความจำเป็นอย่างมาก เพราะว่าถ้าเรารู้ว่าเราชอบ สไตล์การตกแต่งสวนแบบไหน หรือมีความชอบในเรื่องใดเป็นพิเศษ จะทำให้ง่ายต่อการทำสวนมากขึ้น ทั้งนี้เรื่องสอบถามอาจจะเป็นของทีมงานที่เริ่มจัดสวนเสียส่วนใหญ่ที่ต้องสอบถาม เพราะว่าจะได้รู้ถึงเรื่องความชอบ รสนิยมของเจ้าของพื้นที่ หรือสมาชิกในครอบครัว และสถานที่นั้นๆ ด้วย นอกจากนี้อาจจะมีการสังเกตระหว่างถามด้วยว่าในพื้นที่มีอะไรที่เป็นจุดสนใจได้บ้าง และสังเกตสภาพแวดล้อมทั่วไปด้วย

ทั้งนี้สภาพแวดล้อมทั่วไปที่สังเกตได้อาจจะเป็นพวกลักษณะของสวนเดิม เวลาที่ใช้ในการดูแลสวน สมาชิกในครอบครัวมีกี่คน ต้องการมุมพักผ่อนหรือมุมสงบหรือเปล่า ความชอบเรื่องพรรณไม้ รสนิยมเรื่องสี และวัสดุอื่นๆ  งบประมาณที่ต้องการ เป็นต้น เพราะข้อมูลเหล่านี้จะช่วยให้นักตกแต่งสวน หรือคนที่ทำสวนเองประหยัดในหลายๆ เรื่อง และทำงานได้เร็วขึ้น

รูปแบบการจัดสวนแบ่งออกเป็น 3 รูปแบบ
4.การจัดวางสวนหย่อมหน้าบ้านเพื่อความสวยงาม

การเตรียมพื้นที่จัดสวน

การจัดสวนดอกไม้ที่ถูกต้องนั้น หลังจากที่เราเริ่มสอบถามสมาชิกในบ้าน หรือทีมงานจัดสวน ได้สอบถามเจ้าของพื้นที่แล้ว ก็มาถึงการจัดลำดับและวางแผนเพื่อแยกข้อมูลออกเป็นส่วนๆ ให้ง่ายต่อการทำงานมากขึ้น ซึ่งข้อมูลต่างๆ ที่ได้มานั้น ทางเจ้าของพื้นที่หรือจะเป็นเจ้าของสวนอาจจะมีการวางงบประมาณในการตกแต่งสวนที่จำกัด จึงจำเป็นที่จะต้องมีการวางแผนเสียก่อน

อย่างแรกของการวางแผนนั้น คือ เราต้องตัดสิ่งที่ไม่จำเป็นออกไปก่อน และเลือกสิ่งที่จำเป็นหรือมีความสัมพันธ์กันกับเจ้าของพื้นที่ก่อนเป็นเรื่องแรก ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะช่วยให้การทำงานนั้นง่ายขึ้น และเจ้าของก็จะได้ใช้สอยกับสวนที่ทำขึ้นอย่างเป็นประโยชน์เต็มที่  ส่วนเรื่องของพรรณไม้ ผู้ตกแต่งสวนเองก็จะเป็นคนเลือกสรรเองกับมือ ถ้างบประมาณที่มีเกินกำหนดอาจจะหาสิ่งอื่นมาทดแทนได้เช่นกัน

หลังจากที่เราได้ทำการวิเคราะห์ข้อมูลหรือรายละเอียดจากการสอบถามคนในครอบครัวแล้ว ก็จะมีการร่างแบบขึ้นมาเพื่อที่จะหาความเชื่อมโยงของความสำคัญว่าสิ่งใดที่สำคัญมากที่สุด  หรือสิ่งใดมีความสำคัญน้อยที่สุด  และก็จะได้ส่วนที่จำเป็นเท่านั้นที่จะนำมาตกแต่งในสวนได้ ซึ่งวิธีนี้ก็จะช่วยให้สวนดอกไม้หน้าบ้าน หรือแม้แต่สวนใหญ่ๆ สามารถลดระยะเวลาในการเตรียมงาน และหาวัสดุอุปกรณ์ต่างๆ ได้เร็วยิ่งขึ้น อีกทั้งยังเป็นเรื่องของความเหมาะสมกับตัวบ้าน และสภาพแวดล้อมของบ้าน อีกด้วย

ในการเขียนแปลนเพื่อตกแต่งสวนนั้นส่วนใหญ่แล้วจะเป็นการเขียนเพื่อวางกรอบหรือรายละเอียดของสวนทั้งหมดว่าเราจะตกแต่งหรือทำสวนออกมาในลักษณะเช่นนี้ แต่กรณีนี้จะเป็นการตกแต่งสวนสำหรับสวนที่มีพื้นที่ขนาดใหญ่ ในกรณีที่ตกแต่งสวนหน้าบ้าน ไม่ว่าจะเป็นสวนย่อม หรือสวนดอกไม้ อาจจะมีการร่างแปลนเล็กๆ เพื่อเป็นการจัดวางองค์ประกอบก็ได้เช่นกัน หรือจะไม่ใช่การวาดแปลน แต่เป็นการสร้างรายละเอียดคร่าวๆ แทนก็ได้

รูปแบบการจัดสวนแบ่งออกเป็น 3 รูปแบบ
5.แปลนการออกแบบ การจัดสวน ที่ถูกหลัก

การเขียนแปลนสำหรับตกแต่งสวน

ในส่วนของคำว่าแปลนนั้น คือ รูปร่างของสถานที่หรือสิ่งของที่มองจากด้านบนลงมา เป็นการบอกรายละเอียดหรือที่ตั้งของวัตถุ ทิศทาง หรือขนาดของสิ่งของคร่าวๆ โดยปกติแล้วแปลนจะมีการแบ่งออกเป็นหลากหลายรูปแบบตามลักษณะหรือความเหมาะสมกัน

โดยขั้นตอนการเขียนแปลนหรือร่างแปลนสำหรับการตกแต่งสวนทุกรูปแบบนั้น จะช่วยให้ผู้ออกแบบหรือคนทำสวนนั้นสามารถทำงานได้ง่ายขึ้น โดยจะเริ่มเขียนแปลนจากสิ่งต่างๆ ดังนี้

–กำหนดทางเดิน การกำหนดทางเดินนั้น จะต้องให้มีความสอดคล้องกับตัวบ้าน และอาคาร ทั้งภายในและภายนอก โดยจัดวางทางเดินให้ได้โดยรอบตัวบ้าน จากหน้าบ้านไปหลังบ้าน และจากหลังบ้านไปยังจุดทางเดินต่างๆ โดยจัดวางไม่ให้เกิดการติดขัด ซึ่งวัสดุที่ใช้ทำทางเดินก็จะขึ้นอยู่กับการใช้งานเป็นหลักและรูปแบบของสวนด้วย

–การวางตำแหน่งของต้นไม้ เมื่อเรากำหนดทิศทางการวางทางเดินเสร็จแล้ว ต่อมาก็คือการวางตำแหน่งของต้นไม้หรือดอกไม้ที่จะทำ การจัดสวน ควรเลือกพรรณไม้ที่มีขนาดใหญ่ก่อน หรือเป็นไม้ที่ให้ความร่มเงาตามจุดต่างๆ ได้ดี อาจจะเป็นวางไว้ตรงบริเวณรอบๆ บ้าน หรือใกล้ริมถนน ก็ได้เช่นกัน ส่วนของดอกไม้นั้นอาจจะเป็นดอกไม้แบบพุ่ม เพื่อช่วยเพิ่มความสวยงามให้กับสวนหน้าบ้านได้เป็นอย่างดี

การจัดวางต้นไม้นั้นอาจจะวางเป็นแนวเส้นตรงตามทางเดิน หรือปลูกสลับกับไม้ประเภทพุ่มก็ได้ แต่การเลือกพรรณไม้หรือดอกไม้นั้นต้องระมัดระวังเสียหน่อย เพราะพรรณไม้บางชนิดนั้นต้องการความสะอาดในพื้นที่ค่อนข้างมาก การทิ้งใบของพรรณไม้หรือดอกไม้อาจจะมีแมลงหรือโรคมารบกวนได้ จึงควรหลีกเลี่ยงพรรณไม้ที่มีการผลัดใบบ่อยๆ และตำแหน่งควรเลือกพรรณไม้หรือดอกไม้ให้เหมาะสมด้วย

–มีการกำหนดพื้นที่ใช้สอยให้เกิดประโยชน์สูงสุด และเพิ่มความสวยงาม เมื่อเราจัดสวนเสร็จแล้ว ไม่ว่าจะเป็นการกำหนดทางเดินทางเท้า หรือการวางตำแหน่งของดอกไม้หรือพรรณไม้แล้ว ก็มาดูส่วนที่เหลือว่าจะใช้ประโยชน์อย่างไรได้บ้าง เพื่อให้ใช้สอยได้อย่างเต็มที่ แล้วค่อยตกแต่งเพิ่มความสวยงามในบริเวณนั้นๆ ตามมา ไม่ว่าจะเป็นห้องครัว หรือบริเวณหลังบ้าน ที่สำหรับตากผ้า ฯลฯ เมื่อเรากำหนดได้เรียบร้อยแล้วก็จะเริ่มการประดับตกแต่งเพื่อปิดบังส่วนที่ไม่อยากให้คนภายนอกมองเห็นได้ต่อไป

ในการตกแต่งสวนดอกไม้หรือสวนหน้าบ้านนั้น สิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้เลย คือ วัชพืช ซึ่งถ้าเราต้องการปลูกดอกไม้หรือพรรณไม้ขนาดเล็ก ก็ควรจะมีการกำจัดวัชพืชในดินออกเสียก่อน เพื่อที่จะได้ลงมือปลูกต้นไม้ โดยควรเตรียมดินและกำจัดวัชพืชให้เรียบร้อยประมาณ 1-2 สัปดาห์ ก่อนที่จะลงมือปลูก แต่ถ้าวัชพืชงอกขึ้นมาบ่อย เราก็ควรที่จะกำจัดบ่อยเสียหน่อย เพราะว่าเมื่องอกขึ้นมาสูงแล้วการกำจัดอาจจะยากเสียหน่อย แต่วัชพืชยังไงก็ต้องมีการเจริญเติบโต การกำจัดวัชพืชอาจจะใช้วิธีถอนออก หรืออาจจะมีการฉีดพ่นยาฆ่าหญ้า แต่การฉีดพ่นนี้ ข้อเสียเลย คือ อาจจะต้องทิ้งไว้สักระยะเพื่อยานั้นออกฤทธิ์และสลายไปเอง

รูปแบบการจัดสวนแบ่งออกเป็น 3 รูปแบบ
6.สีสันของดอกไม้ช่วยเพิ่มความสวยงามให้กับบริเวณหน้าบ้าน

การเลือกพรรณไม้ในการตกแต่งสวน

การเลือกพรรณไม้ที่จะนำมาใช้ในการตกแต่งสวนหน้าบ้านนั้นถือว่าเป็นเรื่องสำคัญเป็นอย่างมาก เพราะว่าถ้าเราเลือกพรรณไม้ที่ไม่สามารถทนต่อสภาพอากาศได้ดี จะทำให้ความสวยงามของดอกไม้หรือพรรณไม้ชนิดนั้นหมดความสวยงามไปได้อย่างรวดเร็วแน่นอน จึงเป็นเรื่องที่สำคัญมากของการเลือกดอกไม้หรือพรรณไม้สำหรับแต่งสวนหน้าบ้าน เรามาทำความเข้าใจกันดีกว่าว่าการเลือกพรรณไม้หรือดอกไม้สำหรับตกแต่งสวนหน้าบ้านนั้นควรเลือกจากอะไร

การเลือกพรรณไม้หรือดอกไม้ที่จะใช้ในการประดับตกแต่งสวนนั้นถือเป็นเรื่องสำคัญ เพราะว่าพรรณไม้หรือดอกไม้ที่จะนำมาตกแต่งสวนนั้นมีหลายประเภท มีทั้งไม้ยืนต้น ไม้พุ่ม และไม้คลุมดิน ดอกไม้ก็เช่นกัน มีหลากหลายลักษณะให้เลือก ซึ่งพรรณไม้ที่จะนำมาปลูกนั้นจะต้องไล่เรียงระดับไป จากต้นขนาดใหญ่ไปจนถึงดอกไม้ขนาดเล็ก โดยวางให้ถูกจุดก็จะช่วยให้การแต่งสวนนั้นง่ายยิ่งขึ้น นอกจากนี้การปลูกไม้พุ่มควรจะเว้นระยะห่างให้เหมาะสมกับการเจริญเติบโตของไม้พุ่มชนิดนั้นด้วย  นอกจากนี้ยังมีไม้คลุมดิน พรรณไม้ประเภทนี้จะเคลื่อนย้ายได้ง่ายเพราะอยู่ในถุงพลาสติก ในการปลูกก็ทำเช่นเดียวกับไม้พุ่ม พอหลังจากปลูกแล้วก็ควรรดน้ำให้ชุ่ม และคอยดูแลเอาใจใส่ ก็จะได้พุ่มไม้หรือไม้คลุมดินตามที่ต้องการอย่างแน่นอน

รูปแบบการจัดสวนแบ่งออกเป็น 3 รูปแบบ
7.สวนหน้าบ้านหลากหลายสไตล์การจัดวางและตกแต่ง

ปัญหาและอุปสรรคในการออกแบบหรือจัดสวน

ถึงแม้ว่า การจัดสวน จะมีทีมงานที่เป็นมืออาชีพหรือมีการวางแผนไว้ก่อนแล้ว หรือการร่างแปลน รวมไปถึงเตรียมวัสดุต่างๆ ไว้ที่เรียบร้อย  แต่ความผิดพลาดก็ย่อมมีอยู่แล้วเป็นเรื่องปกติ  ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของพรรณไม้ องค์ประกอบของสิ่งก่อสร้างโดยรวม รวมไปถึงโครงสร้างทั้งหมดของสวน เรามาดูกันดีกว่าว่ามีอะไรบ้าง

–ความผิดพลาดในเรื่องของพรรณไม้ การเกิดความผิดพลาดจากพรรณไม้นั้นเกิดจากที่เราไม่ได้ศึกษารายละเอียดของพรรณไม้แต่ละชนิดให้ดี ทำให้การวางตำแหน่งในการปลูกนั้นผิด รวมไปถึงระยะในการปลูก ในบางครั้งจำนวนพรรณไม้ที่ต้องการอาจจะไม่เพียงพอมากนัก นอกจากนี้การจัดวางกลุ่มพรรณไม้ ดอกไม้ ให้เข้ากัน จะต้องใช้หลักศิลปะเข้ามามีส่วนร่วมด้วย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของสี ความสมดุล ความกลมกลืน ลักษณะพื้นผิว ความสูง-ต่ำ และการเจริญเติบโตของพรรณไม้หรือดอกไม้แต่ละชนิดด้วย

ถ้าเป็น การจัดสวน เลียนแบบธรรมชาติก็จำเป็นที่จะต้องหาพรรณไม้ที่มีความใกล้เคียงกับธรรมชาติมากที่สุด รวมไปถึงสวนเองก็ต้องมีการออกแบบให้กลมกลืนกับสภาพแวดล้อมด้วยเช่นกัน สิ่งเหล่านี้อาจจะต้องใช้เวลาและประสบการณ์เป็นตัวช่วยด้วย เพื่อที่การออกแบบสวนหรือจัดสวนจะได้ออกมาดียิ่งขึ้น

–สิ่งก่อสร้างภายในสวน  นอกจากพรรณไม้หรือดอกไม้ภายในสวนแล้ว  สิ่งปลูกสร้างหรือสิ่งก่อสร้างต่างๆ  ก็มีความจำเป็นภายในสวนเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นหิน ตอไม้ โอ่ง ไห สระน้ำ น้ำพุ ฯลฯ สิ่งเหล่านี้มีให้เลือกมากมาย ต่างกันก็มีสีสันและรูปแบบที่แตกต่างกันออกไปตามความเหมาะสมของสวนแต่ละประเภท ราคาก็อาจจะมีการแตกต่างกันบ้างตามแต่วัสดุที่นำมาใช้ ส่วนใหญ่ที่ผิดพลาดกันนั้นจะเกิดขึ้นจากรายละเอียดของสิ่งเหล่านั้น และความเหมาะสมที่นำมาใช้ นอกจากนี้ถ้าเราออกแบบแปลนสวนไว้แล้ว และไม่สามารถหาสิ่งของชนิดนั้นได้ ก็จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแบบแปลนใหม่นั่นเอง

–โครงสร้างของสวน ทั้งสวนดอกไม้ และสวนไม้ประดับ การจัดสวนที่ดีนั้น นอกจากเรื่องของการออกแบบและพรรณไม้ รวมไปถึงองค์ประกอบที่มีความเหมาะสมแล้วนั้น โครงสร้างพื้นฐานก็มีส่วนที่สำคัญ ไม่ว่าจะเป็นสวนดอกไม้ขนาดย่อม หรือสวนพรรณไม้ขนาดใหญ่ ล้วนแล้วแต่มีโครงสร้างพื้นฐานด้วยกันทั้งนั้น

ถ้าโครงสร้างพื้นที่ผิดจะทำให้การวางแปลนสวนและการวางตำแหน่งต่างๆ ในสวนผิดไปด้วย ถือได้ว่าโครงสร้างพื้นฐานของสวนนั้นเหมือนเป็นรากฐานที่มีความสำคัญเป็นอย่างมากเลยทีเดียว ซึ่งการศึกษาวิธีการดูดอกไม้  พรรณไม้ และการดูแลต่างๆ ล้วนเป็นสิ่งที่มีความจำเป็นสำหรับการจัดสวนทุกประเภท เพราะว่าถ้าเราปลูกต้นไม้หรือดอกไม้ได้ดี มีการเตรียมดินที่ดี หลุมปลูกที่เหมาะสม ดอกไม้หรือพรรณไม้ที่จัดลงหลุมนั้นก็จะเจริญเติบโตได้เป็นอย่างดี และปัญหาในเรื่องของการดูแลก็จะน้อยลง

ในการจัดสวนดอกไม้ที่ถูกต้องนั้นจะต้องมีการวางแผนและขั้นตอนต่างๆ ให้ถี่ถ้วน ไม่ว่าจะเป็นการจัดสวนดอกไม้ขนาดย่อมหน้าบ้าน หรือพื้นที่ๆ มีจำกัด รวมไปถึง การจัดสวน แบบแปลนพื้นที่ขนาดใหญ่ ก็ต้องมีหลักการใน การจัดสวน ที่คล้ายคลึงกัน เพียงแต่ลักษณะการออกแบบนั้นอาจจะต่างกัน เพราะขนาดของพื้นที่ใช้สอย รวมไปถึงการคัดเลือกพรรณไม้ ดอกไม้ และวัสดุที่จะนำมาตกแต่งสวน ก็ควรจะมีลักษณะที่กลมกลืนไปด้วยกัน จึงจะเป็นเรื่องที่ดีสำหรับ การจัดสวน ถึงแม้จะเป็นสวนดอกไม้ขนาดย่อม แต่สภาพแวดล้อมโดยรวมก็เป็นปัจจัยที่สำคัญใน การจัดสวนให้ออกมาเป็นที่ดึงดูดและสวยงามมากขึ้นนั่นเอง

สำหรับ การจัดสวน ดอกไม้หน้าบ้านที่ถูกต้องนี้ เป็นเนื้อหาบทความเกี่ยวกับวิธีการจัดสวนทุกรูปแบบ ซึ่ง การจัดสวน จะใช้วิธีและลักษณะ การจัดสวน ในแบบเดียวกัน คือ ต้องมีการปรึกษา สอบถาม ร่างแบบ วาดแปลน เพื่อให้ได้สวนดอกไม้หรือสวนนั่งเล่นที่ดีที่สุด ทั้งนี้การออกแบบต่างๆ รวมไปถึงวิธีการจัดสวนนั้น อาจจะขึ้นอยู่กับความถนัดของแต่ละคน หรือแต่ละทีมงานที่มีความชำนาญที่ต่างกันออกไป แต่ทุกอย่างนั้นล้วนแล้วแต่ว่าถ้าเราศึกษารายละเอียดต่างๆ อย่างเข้าใจ ก็จะไม่ยากเลย ลองนำบทความนี้เป็นตัวทำความเข้าใจได้จะดีกว่า ซึ่งอาจจะไม่บอกรายละเอียดการวัดต่างๆ แต่เป็นวิธีที่สามารถกะเกณฑ์เตรียมงานจัดสวนได้ง่ายเลยทีเดียว

ขอขอบคุณแหล่งข้อมูลอ้างอิง

https://sites.google.com/site/lookmoo7889/,https://home.kapook.com/view111048.html,https://home.kapook.com/view189495.html,http://www.suangarden.com/%E0%B8%82%E0%B8%B1%E0%B9%89%E0%B8%99%E0%B8%95%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%AD%E0%B8%AD%E0%B8%81%E0%B9%81%E0%B8%9A%E0%B8%9A%E0%B8%AA%E0%B8%A7%E0%B8%99,https://www.sanook.com/home/18477/

รูปแบบของสวนมีแบบ อะไรบ้าง

แบบสวนบาหลี ... .
แบบสวนฝรั่งเศส ... .
แบบสวนเซนญี่ปุ่น ... .
แบบสวนเกาหลี ... .
แบบสวนวินเทจ ... .
แบบสวนโมร็อคโค ... .
แบบสวนโมเดิร์น ... .
แบบสวนพืชแห้งแล้ง.

สวนนามธรรมมีรูปแบบการจัดอย่างไร

การจัดสวนนามธรรมจึงเป็นการจัดสวนที่ไม่มีพื้นที่แน่นอน อาจจะเป็นเพียงกระบะทรายแคบ ๆ หรือพื้นที่กว้างเป็นไร่ก็ได้ ซึ่งทั้งหมดนี้อยู่ที่ความต้องการ และความรู้สึกของผู้จัดเป็นหลัก ดังนั้นสวนนามธรรมจึงสามารถจัดได้ทุกที่ที่ต้องการไม่ว่าจะเป็นหน้าบ้าน หลังบ้าน ข้างบ้าน ระเบียงห้อง หรือดาดฟ้าก็สามารถเป็นสวนนามธรรมได้ทั้งนั้น

การจัดสวนหย่อมเป็นการจัดสวนแบบใด

สวนหย่อม (Small garden) หมายถึง การจัดสวนที่เล็กกะทัดรัด ใช้พื้นน้อย จัดเป็นเป็นจุดๆ ในบริเวณบ้าน เช่น หน้าบ้าน กลางบ้าน มุมบ้าน หรือบริเวณหลังบ้าน เพื่อเพิ่มความโดดเด่นสวยงาม ดูร่มรื่นสบายตาให้กับพื้นที่ในบริเวณของเราได้ การจัดสวนหย่อมถือเป็นแบบที่นิยมมากที่สุด เพราะประหยัดเนื้อที่ และประหยัดค่าใช้จ่าย ดูแลไม่ยากมาก ...

สวนประดิษฐ์มีรูปแบบการจัดอย่างไร

พื้นที่ในการจัดสวนแบบประดิษฐ์ นั้นนิยมทำกันกับพื้นที่ที่มีความราบเรียบ ไม่สูงๆ ต่ำๆ การจัดวางต้นไม้หรือวัตถุองค์ประกอบโดยรวม จะต้องมีความสมดุลแบบประดิษฐ์ หรือ "Formal balance" โดยที่ต้นไม้หรือวัตถุนั้นๆจะต้องเป็น ชนิดเดียวกัน รูปทรงเหมือนกัน ขนาดที่เท่ากัน จำนวนและระยะห่างช่องไฟต้องมีความสมดุลเท่าๆกัน ต้นไม้ วัตถุที่นำ ...