Freeware กับ Shareware คืออะไร แตกต่างกันอย่างไร

คุณผู้อ่านอาจจะคุ้นเคยกับคำว่า ‘ซอฟต์แวร์’ แต่ถ้าพูดถึงคำว่า ‘Shareware’ หลายๆ คนอาจไม่คุ้นเคยนัก และอาจไม่มีความเข้าใจกับคำนี้มากเท่าไหร่ วันนี้เราได้นำความรู้เกี่ยวกับ Shareware มาฝากกัน

Shareware โหลดไปใช้งานแบบฟรีๆ กันก่อนเลย

โดย Shareware ก็คือโปรแกรมประเภทหนึ่ง แต่มีคุณสมบัติเฉพาะตัวก็คือมีจุดประสงค์ให้ผู้ใช้งานได้ลองดาวน์โหลดไปทดลองใช้กันก่อน ซึ่ง Shareware นี้จะถูกจำกัดความสามารถบางประการเอาไว้ ถ้าผู้ใช้งานดาวน์โหลดไปใช้แล้วเกิดความรู้สึกชอบใจ ช่วยทำให้การทำงานเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ก็สามารถจ่ายเงินเพื่อซื้อโปรแกรม Version สมบูรณ์แบบจากผู้สร้างมาใช้งานได้เลย คุณสามารถค้นหา Shareware ได้จากการโฆษณาทางหน้าเว็บไซต์ต่างๆ, CD ที่แถมมากับนิตยสารหรือแถมมากับหนังสือพิมพ์ เป็นต้น เปรียบเสมือน Tester ที่เปิดโอกาสให้ผู้ใช้งานได้ลองใช้จริงก่อน หลังจากนั้นเมื่อพบว่ามันดีจริงแล้วก็ค่อยซื้อไปใช้ซึ่งเป็นสิ่งที่อำนวยประโยชน์ให้แก่ผู้ใช้งานมาก

มีการกำหนดระยะเวลา

โดยจะมีการแจกจ่ายโปรแกรมที่ให้คุณทดลองใช้งานมาก่อน และมีการกำหนดช่วงเวลาที่ให้ใช้งานฟรีมาด้วย นอกจากนี้ก็ยังมีการจำกัดความสามารถบางอย่างในระดับสูง ซึ่งถ้าคุณอยากใช้งานแบบครบทุกองค์ประกอบ หรืออยากใช้งานแบบไม่มีวันหมดอายุ ก็สามารถติดต่อซื้อได้ สำหรับข้อสังเกตที่จะทำให้คุณผู้อ่านได้ทราบว่า โปรแกรมนั้นเป็น Shareware หรือไม่ให้สังเกตจากคำว่า Free trial หรือ โปรแกรมทดลองใช้งาน Trial version

โดยคำ Shareware จะมีความหมายที่แตกต่างจากซอฟต์แวร์ หรือโปรแกรมที่วางจำหน่ายทั่วไป ซึ่งเป็นโปรแกรมที่ใช้ในเชิงพาณิชย์แบบเต็มรูปแบบ มีการจำหน่ายสิทธิ์ในตัวโปรแกรมแบบขายขาด แต่ก็ผู้ใช้งานก็ไม่อาจขายสำเนาให้ผู้อื่นได้เพราะเป็นการผิดกฎหมาย ส่วนอีกคำหนึ่งที่ผู้คนมักเกิดความสับสน ก็คือ Freeware ซึ่งโปรแกรมประเภทนี้ จัดเป็นโปรแกรมลิขสิทธิ์ แต่ผู้สร้างก็ไม่อาจคิดค่าตอบแทนใดๆ ได้ แต่บางครั้งผู้สร้างโปรแกรมก็จะเปิดเพื่อขอรับบริจาคจากผู้ใช้งานได้ ซึ่งถ้าคุณดาวน์โหลดไปใช้งานแล้วรู้สึกว่าดี ช่วยตอบโจทย์บางประการให้แก่ชีวิต คุณก็อาจจะจ่ายเงินบริจาคให้ผู้สร้างตามกำลังเพื่อเป็นขวัญกำลังใจให้เขาก็ได้

ลักษณะที่โดดเด่นของโปรแกรมประเภท Shareware ได้แก่…

  1. 1. เปิดให้ใช้งานเพียง 30 วัน ซึ่งดาวน์โหลดมาใช้ทดลองฟรีได้
  2. 2. ไม่อาจใช้ความสามารถเสริมบางตัวได้ โดยเฉพาะความสามารถที่อยู่ในระดับสูง ซึ่งถ้าคุณจะใช้งานในส่วนนี้ ต้องจ่ายเงินซื้อโปรแกรม เพื่อนำมาใช้งานตามต้องการ
  3. คุณจะพบกับการถามถึงเรื่องลิขสิทธิ์ เมื่อคุณได้ทดลองใช้ไปสักระยะหนึ่งแล้ว ตัวโปรแกรมก็จะปรากฏข้อความขึ้นมาว่าต้องการหาลิขสิทธ์ของโปรแกรม เพื่อเป็นการตอกย้ำว่า โปรแกรมนี้ใกล้จะหมดอายุการใช้งานฟรีแล้ว
  4. โปรแกรมประเภท Shareware เช่น Cyberlink, Power DVD, Internet Download Manager และอื่นๆอีกมากมาย

ข้อดีที่เห็นได้อย่างเด่นชัดของโปรแกรม Shareware นี้ก็คือ ทำให้ผู้บริโภคเกิดความมั่นใจว่า เมื่อซื้อมาแล้วจะไม่เสียเงินเปล่า เพราะว่าตรงกับความต้องการในการใช้งานจริงๆ เป็นเสมือนกับสินค้าทดลอง

อย่างไรก็ตามการที่คนๆ หนึ่งจะสร้างโปรแกรมขึ้นมาได้นั้น เขาจะต้องทุ่มเททั้งแรงกายแรงใจ, ทุ่มเทเวลา, ความรู้,การศึกษาอย่างต่อเนื่อง เพราะฉะนั้นการสนับสนุนโปรแกรมที่ถูกลิขสิทธิ์ จึงเป็นอีกหนึ่งความสำคัญที่อยากให้คุณผู้อ่านตระหนัก ในปัจจุบันนี้เป็นยุคที่อินเทอร์เน็ตเฟื่องฟู การใช้งานคอมพิวเตอร์เข้าถึงผู้คนทุกแห่งเพราะฉะนั้นการจำหน่ายโปรแกรมเหล่านี้ก็จะมีราคาที่ไม่แพง เป็นจำนวนเงินที่ทุกคนสามารถจ่ายได้ เพราะฉะนั้นถ้าคุณสนใจโปรแกรมตัวไหนแล้วล่ะก็อย่าลืมจ่ายเงิน เพื่อให้ได้โปรแกรมดีๆ ถูกลิขสิทธิ์มาใช้งาน อีกทั้งยังเป็นแรงสนับสนุนให้ผู้ผลิตสร้างโปรแกรมดีๆพร้อมพัฒนา Version ใหม่ๆออกมามากมายด้วยนะคะ

ก่อนหน้านี้เราได้เคยพูดถึงภาพรวมในส่วนของ ประเภทของ สัญญาอนุญาตซอฟต์แวร์ (Software License) กันไปแล้ว ซึ่งซอฟต์แวร์แต่ละแบบก็มีลักษณะแตกต่างกันออกไปอย่างเห็นได้ชัด แต่ซอฟต์แวร์อีกชนิดหนึ่งที่น่าสนใจ และทุกคนน่าจะเคยใช้งานผ่านมือกันมาบ้างก็คงหนีไม่พ้น แชร์แวร์ (Shareware) ซึ่งถ้าดูผิวเผินแล้ว Shareware เป็นซอฟต์แวร์ที่จะต้องมีการเสียเงินใช้ ด้วยเงื่อนไขอะไรบางอย่าง ที่ทางผู้พัฒนาเขากำหนดขึ้นมา แต่จริงๆ แล้ว มันมีความหมายที่ลึกซึ้งไปมากกว่านั้นอีก ลองมาดูแต่ละประเภทกันเลย

บทความเกี่ยวกับ Software License อื่นๆ

Shareware เป็นซอฟต์แวร์ประเภทหนึ่งที่ทางผู้ผลิตเปิดให้ผู้ใช้ได้ทำการ “ทดลองใช้งาน” ซอฟต์แวร์นั้น ๆ ก่อนแบบไม่เสียค่าใช้จ่าย แต่อาจมีเงื่อนไขหรือข้อจำกัดการใช้งานเพิ่มเติมที่แตกต่างกันไปตามประเภทของ Shareware นั้น ๆ

อย่างที่ระบุไปข้างต้นว่า Shareware ต่าง ๆ ก็จะมีเงื่อนไขการใช้งานแตกต่างกันไปตามประเภท ซึ่งประเภทของ Shareware นั้นก็สามารถแบ่งได้ 7 ประเภท ดังนี้

1. Adware คืออะไร ?

สำหรับ Adware นั้นย่อมาจาก “Advertising-Supported Software” หรือที่สามารถแปลความหมายตรงตัวได้ว่าเป็นซอฟต์แวร์ที่เปิดให้ผู้ใช้สามารถทดลองใช้งานได้โดยมีเงื่อนไขว่าจะมีติดโฆษณาบนซอฟต์แวร์นั้น (อาจเป็นโฆษณา Pop-up ให้คอยกดปิดหรือแถบโฆษณาแบบ แบนเนอร์บริเวณใดบริเวณหนึ่งก็ได้)

และประเภทของโฆษณาที่ผู้ใช้มักพบเห็นได้บ่อย ๆ ก็มักจะเป็นโฆษณาจากเว็บไซต์ต่าง ๆ ที่ผู้ใช้เข้าเยี่ยมชม ซึ่งทางผู้พัฒนาซอฟต์แวร์ประเภทนี้ จะรับเงินสนับสนุนจากการ ให้พื้นที่ลงโฆษณาเหล่านั้นนั่นเอง (Thaiware.com เราก็มีนะ เพื่อความอยู่รอดคร้าบ แหะๆ)

Freeware กับ Shareware คืออะไร แตกต่างกันอย่างไร

ภาพจาก : https://antivirus.comodo.com/blog/comodo-news/what-is-adware-and-their-removal-methods/

ส่วนในเรื่องของระยะเวลาการใช้งานและฟังก์ชันการทำงานต่าง ๆ ของโปรแกรมนั้นก็ขึ้นอยู่กับทางผู้พัฒนา เพราะบางเจ้าอาจเปิดให้ใช้แบบไม่จำกัดระยะเวลา อาศัยรับเงินจากโฆษณาเท่านั้น หรือบางเจ้าอาจสงวนฟีเจอร์บางอย่างไว้ให้กับผู้ที่จ่ายเงินซื้อเวอร์ชันเต็มก็ได้เช่นกัน แต่หลัก ๆ แล้วหากผู้ใช้เสียเงินซื้อเวอร์ชันเต็มแล้วก็จะไม่พบโฆษณากวนใจอีกต่อไป

2. Crippleware คืออะไร ?

ในส่วนของ Crippleware นั้นส่วนมากมักจะพบได้บ่อยในซอฟต์แวร์ประเภท โปรแกรมปรับแต่งรูป (Photo Editing Software), โปรแกรมตัดต่อวิดีโอ (Video Editing Software) หรือแม้แต่ประเภท โปรแกรมจับภาพหน้าจอ (Screen Capturing Software) ต่าง ๆ

โดย Shareware ประเภทนี้ ก็มักมีจุดสังเกตง่าย ๆ เป็นการเพิ่ม “ลายน้ำ (Watermark)” เข้ามาเพิ่มเติม ซึ่งหากผู้ใช้ต้องการใช้งานแบบไม่ติดลายน้ำก็จะต้องเสียเงินซื้อเวอร์ชันเต็มนั่นเอง

Freeware กับ Shareware คืออะไร แตกต่างกันอย่างไร

ภาพจาก : https://i.ytimg.com/vi/NWiMQIJbeL8/hqdefault.jpg

3. Demo (Trialware) คืออะไร ?

Demo หรือ Trialware นี้ก็เป็นซอฟต์แวร์ที่ทางบริษัทผู้พัฒนาได้เปิดให้ผู้ใช้ทั่วไปสามารถดาวน์โหลดมา “ทดลองใช้งาน” ก่อนได้ในระยะเวลาที่จำกัด เช่น 7 วัน (1 สัปดาห์), 14 วัน (2 สัปดาห์), 30 วัน (1 เดือน) หรือระยะเวลาตามที่ทางผู้พัฒนาระบุไว้ในเงื่อนไขการทดลองใช้งาน

โดยเมื่อครบกำหนดระยะเวลาที่ทางผู้พัฒนากำหนดเอาไว้แล้ว ผู้ใช้จะไม่สามารถใช้งานซอฟต์แวร์นั้น ๆ ต่อได้อีกและมีข้อความปรากฎขึ้นให้ผู้ใช้ทำการ “ซื้อ License ของซอฟต์แวร์” หรือกรอกรหัส License Key เพื่อใช้งานต่อไป

Freeware กับ Shareware คืออะไร แตกต่างกันอย่างไร

ภาพจาก : https://i1.taimienphi.vn/tmp/cf/aut/so-sanh-freeware-trialware-va-shareware-2.jpg

4. Donationware คืออะไร ?

ส่วน Donationware ก็หมายถึงซอฟต์แวร์ที่ทางผู้พัฒนาเปิดให้ผู้ใช้สามารถใช้งานได้แบบเต็มประสิทธิภาพ โดยภายในซอฟต์แวร์จะมีลิงก์ให้ผู้ใช้ทำการบริจาคเงิน (Donate) เพื่อสนับสนุนผู้พัฒนาตามความต้องการของผู้ใช้ (ซอฟต์แวร์ประเภทนี้ เห็นได้น้อยในหมู่ผู้พัฒนาโปรแกรมชาวไทย)

ถ้าหากเราว่าไม่มีความประสงค์ที่จะบริจาค เราก็ยังสามารถใช้งานได้ฟรีเช่นกัน แต่แนะนำให้บริจาค สักเล็กน้อย เพื่อเป็นค่ากาแฟ หรือค่าอาหารของผู้พัฒนาบ้างน่าจะดีกว่านะ :)

Freeware กับ Shareware คืออะไร แตกต่างกันอย่างไร

ภาพจาก : https://tntsoftworks.wixsite.com/software/message-encrypter

5. Freemium Software คืออะไร ?

Freemium Software นั้นมาจากคำว่า "Free + Premium + Software" โดยมันจะหมายถึงซอฟต์แวร์ที่เปิดให้ผู้ใช้สามารถดาวน์โหลดมาใช้งานได้แบบไม่เสียค่าใช้จ่าย แต่มีการจำกัดความสามารถบางอย่างของตัวซอฟต์แวร์นั้น ๆ ไว้ สงวนให้เฉพาะผู้ที่ซื้อ License ของซอฟต์แวร์สามารถใช้งานได้เท่านั้น ส่วนผู้ใช้ทั่ว ๆ ไปที่ดาวน์โหลดมาใช้ฟรีก็สามารถใช้งานโปรแกรมได้ภายใต้เงื่อนไขและฟีเจอร์ที่กำหนดนั่นเอง

Freeware กับ Shareware คืออะไร แตกต่างกันอย่างไร

ภาพจาก : https://bmtoolbox.net/patterns/freemium/

6. Nagware คืออะไร ?

ในส่วนของ Nagware นั้นก็เป็น Shareware อีกประเภทที่น่าจะสร้างความปวดหัวให้กับผู้ใช้งานอยู่ไม่น้อย เพราะซอฟต์แวร์ประเภทนี้ ถึงแม้ว่าจะเปิดให้ผู้ใช้ดาวน์โหลดมาใช้งานกันได้แบบ ไม่เสียค่าใช้จ่ายใด ๆ ก็จริง แต่ว่ามันก็มาพร้อมข้อจำกัดอย่างการเด้ง “แจ้งเตือน” ให้ผู้ใช้ทำการซื้อ License อยู่บ่อยครั้ง

และถึงแม้ว่าเราจะสามารถกดปิดการแจ้งเตือนเหล่านั้นลงไป และใช้งานซอฟต์แวร์ได้ตามปกติ (ข้อความจะหายไปอย่างถาวรหากผู้ใช้ซื้อ License) ดังนั้นผู้ใช้หลาย ๆ คนยอมเสียเงินซื้อ License เพื่อไม่ให้มีการแสดงผลข้อความแจ้งเตือนเหล่านั้นอีก

Freeware กับ Shareware คืออะไร แตกต่างกันอย่างไร

ภาพจาก : https://pdfill.de.uptodown.com/windows

7. Postcardware คืออะไร ?

Postcardware หรือที่บางครั้งเรียกกันว่า Cardware ก็ได้ มันเป็น Shareware ประเภทที่ผู้ใช้จะต้องทำการ "ส่งข้อความ" หาผู้พัฒนาเพื่อขอให้งานซอฟต์แวร์นั้น ๆ โดยส่วนมากมักให้ส่งอีเมลหาเพื่อติดต่อผู้พัฒนา จากนั้นทางผู้พัฒนาก็จะส่งซอฟต์แวร์มาให้ใช้งาน โดยซอฟต์แวร์ที่ส่งมาให้นั้นอาจมีข้อจำกัดในการใช้งานเพิ่มเติมหรือไม่มีก็ได้ ขึ้นอยู่กับทางผู้พัฒนา

Freeware กับ Shareware คืออะไร แตกต่างกันอย่างไร

ภาพจาก : https://technewspedia.com/postcardware-what-is-it-and-what-is-it-for-examples-%E2%96%B7-2020/

ประโยชน์ของ Shareware

สำหรับซอฟต์แวร์อย่าง Shareware ที่ทางผู้พัฒนาได้เปิดโอกาสให้ผู้ใช้ได้ทดลองใช้งานซอฟต์แวร์กันก่อนนั้นก็เป็นตัวช่วยประกอบการตัดสินใจซื้อ ซอฟต์แวร์ลิขสิทธิ์ (Licensed Software) หรือ โปรแกรมแท้ ของผู้ใช้อยู่ไม่น้อย เพราะตัวผู้ใช้เองสามารถที่จะทดลองใช้งานและเปรียบเทียบซอฟต์แวร์ชนิดเดียวกันกับของบริษัทอื่น ๆ เพื่อตามหาซอฟต์แวร์ที่ถูกใจที่สุดก่อนตัดสินใจซื้อได้ ไม่ต้องเสียเงินและความรู้สึกไปเปล่า ๆ กับการซื้อ License ของ ซอฟต์แวร์ ที่คิดว่าน่าจะถูกใจมาใช้งาน แต่เมื่อใช้งานจริงกับพบว่าไม่เข้ามือและไม่ชอบฟีเจอร์หลาย ๆ อย่างของซอฟต์แวร์ที่เสียเงินซื้อไปแล้ว

ถึงแม้ว่า Shareware จะมี “เงื่อนไขหรือข้อกำจัดในการใช้งาน” บางประการที่ขึ้นอยู่กับทางผู้พัฒนาซอฟต์แวร์นั้น ๆ ที่บางครั้งอาจดูน่าหงุดหงิดใจเล็กน้อย แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่ามันเป็นซอฟต์แวร์อีกประเภทที่มีประโยชน์กับผู้ใช้ค่อนข้างมากเลยทีเดียว

Shareware และ freeware มีข้อดีข้อเสียแตกต่างกันอย่างไร

ฟรีแวร์นั้นคล้ายกับแชร์แวร์ (shareware) คือสามารถใช้ได้ทุกจุดประสงค์เหมือนกัน แต่แชร์แวร์อาจมีระยะเวลาทดลองใช้และต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเพื่อต่ออายุ หรือเปิดฟังก์ชันการใช้งานที่สมบูรณ์ และฟรีแวร์ต่างจากซอฟต์แวร์เสรี (free software) คือ ซอฟต์แวร์เสรีอนุญาตให้เปิดเผยรหัสต้นฉบับและอนุญาตให้ผู้อื่นนำไปพัฒนาต่อได้ ในขณะที่ ...

Freeware Shareware และ Open Source แตกต่างกันอย่างไร

Freeware (ซอฟต์แวร์เสรี หรือ ซอฟต์แวร์แจกฟรี) Shareware (ซอฟต์แวร์ทดลองใช้อีกรูปแบบ) Open Source Software (ซอฟต์แวร์เปิดเผยซอร์สโค้ด)

Freeware หมายถึงอะไร

ฟรีแวร์ของฟรีหมายถึง ซอฟต์แวร์ต่าง ๆ ที่แม้จะจดทะเบียนลิขสิทธิ์เอาไว้ แต่ก็ยินยอมให้มีการคัดลอกเอาไปใช้ได้อย่างเสรี โดยไม่คิด เงิน (ต่างกับ public domain ซึ่งไม่มีการจด ทะเบียนใด ๆ เลย ใครจะคัดลอกหรือนำไปใช้ ก็สามารถทำได้ทั้งสิ้น)

สิทธิ์ของ Shareware คืออะไร

แชร์แวร์ (อังกฤษ: shareware) คือชนิดของโปรแกรมที่ผู้เป็นเจ้าของแจกจ่ายให้ผู้ใช้โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ ในลักษณะของการทดลองใช้งาน และมักมีการจำกัดความสามารถของโปรแกรมที่ใช้งานได้ ความสามารถที่ใช้งานได้ หรือ ระบบความสะดวกสบาย แชร์แวร์มักเปิดให้ดาวน์โหลดได้จากอินเทอร์เน็ตผ่านทางหน้าเวป หรือ จากแผ่นซีดีที่แถมมากับ ...