ปกป้องพีซีที่ใช้ Windows 7 ของคุณด้วย Avast Free AntivirusMicrosoft ไม่สนับสนุน Windows 7 อีกแล้วแต่ Avast ยังสนับสนุนอยู่! การปกป้องแอนติไวรัสระดับสูงของจะยังคงได้รับการอัปเดตอย่างเต็มที่บน Windows 7 Show
ผู้ใช้ของเราหลงรัก Avast Free Antivirus สำหรับ Windows 7
6 207 ผู้ใช้ให้คะแนนเรา 4.7/5 ความต้องการของระบบการปกป้องของ Avast นั้นทั้งทรงพลังแถมยังไม่กินพื้นที่ แค่ต้องมีพีซีที่มี RAM 256 MB+ และพื้นที่ว่าง 1.5 GB บนฮาร์ดดิสก์ หากพีซี Windows 7 มีทุกอย่างแล้ว (ซึ่งมักจะมี) คุณก็พร้อมแล้ว Avast Antivirus สามารถใช้ได้กับ Windows 11, 10, 8.1, 8, 7, Vista, XP SP3นอกจากนี้ Avast ยังมีโซลูชันการรักษาความปลอดภัยสำหรับ Android และ Mac ของคุณ บรรดาผู้ใช้ได้แสดงความคิดเห็นกันแล้วไม่ยุ่งยาก ใช้ง่าย และใช้ได้จริง Migenawaelฉันรัก Avast ฉันใช้มาอย่างน้อย 5 ปีแล้ว หรืออาจมากกว่า และจะใช้ต่อไป TerriewaelTommyฉันชอบมากที่ Avast ปกป้องได้ทั้งคอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มือถือ และ iPod ของฉัน และฉันแค่ต้องใช้บัญชีเดียว! ง่ายมาก Anna ฉันชอบซอฟต์แวร์นี้และใช้มาหลายปีแล้ว เพื่อนๆ และครอบครัวก็ใช้ด้วยเหมือนกัน ถ้าคอมพิวเตอร์ของคุณติดไวรัส ซอฟต์แวร์นี้จะเสาะหาไวรัสไปจนถึงรากฐานของระบบปฏิบัติการ และจัดการไวรัสให้คุณ รักมาก! Cokeนี่คือแอนติไวรัสที่ดีที่สุดในตลาด ประสิทธิภาพสูงและใช้ง่าย จะใช้ซ้ำแล้วซ้ำอีกแน่นอน Kimberlyวิธีติดตั้ง Avast Antivirus สำหรับ Windows 7 การเริ่มต้นปกป้อง พีซีหรือแล็ปท็อปของคุณจากไวรัสและมัลแวร์ด้วยแอนติไวรัสของ Avast สำหรับ Windows 7 ถือเป็นเรื่องง่ายอย่างยิ่ง
เสร็จแล้ว! อุปกรณ์ของคุณปลอดภัยแล้วในตอนนี้ คำถามที่พบบ่อย
นับตั้งแต่ Microsoft ยุติการรองรับ Windows 7 ในวันที่ 14 มกราคม 2020 การสนับสนุนทางเทคนิคและการอัปเดตด้านความปลอดภัยจาก Microsoft จะไม่สามารถใช้งานได้สำหรับผู้ที่ยังใช้ระบบปฏิบัติการนี้ โชคดีที่ยังมีวิธีรักษาความปลอดภัยให้กับเครื่องพีซีที่ใช้ Windows 7 ของคุณ นั่นคือซอฟต์แวร์รักษาความปลอดภัยของบุคคลที่สามเช่นที่ Avast มีให้
วิธีเดียวกับที่คุณปกป้องพีซีจากไวรัสคอมพิวเตอร์ด้วยแอนติไวรัสที่ทรงพลัง! แต่ถ้าคุณกำลังมองหาแอนติไวรัสที่ดีสำหรับไวรัสบนพีซี คุณจะไม่พบตัวเลือกที่ดีไปกว่า Avast Antivirus สำหรับ Windows 7 โปรแกรมสแกนและเครื่องมือกำจัดไวรัสสำหรับ Windows 7 ที่มีประสิทธิภาพของเราจะค้นหามัลแวร์ต่างๆ ในระบบของคุณแล้วลบออก รวมทั้งป้องกันไม่ให้พีซีของคุณติดไวรัสคอมพิวเตอร์อื่นๆในอนาคต ไม่ว่ามัลแวร์ใดจะคุกคามระบบของคุณ Avast ก็คือทางออก
Windows 7 มี Microsoft Security Essentials รวมอยู่โดยอัตโนมัติ แต่ก่อนที่พวกเขาจะหยุดการอัปเดต MSE มีเพียงการรักษาความปลอดภัยในระดับพื้นฐานเท่านั้น ซึ่งหมายความว่าในการรักษาความปลอดภัยของ Windows 7 คุณต้องมีแอนติไวรัสของบุคคลที่สามที่มีประสิทธิภาพและเชื่อถือได้เพื่อให้คุณปลอดภัย
คุณอาจยังรับ Avast Antivirus สำหรับ Windows 7 ได้เนื่องจากเรายังคงรองรับระบบปฏิบัติการนี้อยู่ เราจะดำเนินการต่อเพื่อให้แน่ใจว่าความปลอดภัยทั้งแบบชำระเงินและแบบฟรีของเรายังคงใช้งานร่วมกันได้
Avast เสนอหนึ่งในแอปแอนติไวรัสที่ดีที่สุดสำหรับ Windows อันดับแรกเราใช้เครือข่ายการตรวจจับการคุกคามที่ใหญ่ที่สุดในโลก ร่วมกับการรักษาความปลอดภัยที่ทรงพลังหกชั้นเพื่อระบุและบล็อกการคุกคามจากมัลแวร์ ซึ่งรวมถึงการคุกคามแบบ Zero-day อันดับที่สอง แอนติไวรัสของเรามาพร้อมกับเครื่องมือกำจัดสปายแวร์ที่ทรงพลัง, การป้องกันแรนซัมแวร์บนพีซี Windows 7 และการสแกนไวรัสที่ครอบคลุม สุดท้ายนี้ ตัวเลือกและการตั้งค่าที่มีให้เลือกมากมายของเราทำให้คุณมั่นใจได้ว่าคุณจะได้รับการป้องกันในระดับที่ต้องการ
หากคุณเลือกที่จะอัปเกรดจาก Windows 7 คุณจะต้องถอนการติดตั้งและติดตั้งซอฟต์แวร์แอนติไวรัสใหม่ ซึ่งคุณสามารถทำได้ฟรี หากคุณมีผลิตภัณฑ์ Avast Premium Security เวอร์ชันชำระเงิน คุณอาจต้องป้อนรหัสเปิดใช้งานอีกครั้งเพื่อคงคุณสมบัติแบบชำระเงินไว้ เมื่อคุณทำเช่นนั้น คุณจะสามารถเพลิดเพลินกับสิ่งใหม่ล่าสุดและดีที่สุดจากทั้ง Avast และ Microsoft โดยเฉพาะหากคุณอัปเกรดเป็น Windows 10 และ Avast Antivirus สำหรับ Windows 10 แบ่งปันบทความนี้วิธีปิด Windows Defender บน Windows ให้หยุดการทำงานทั้งแบบชั่วคราว และถาวรผู้ใช้งานระบบปฏิบัติการ Windows น่าจะคุ้นเคยกับเครื่องมือป้องกันไวรัสอย่าง "Windows Defender" ที่ติดมาพร้อมกับตัวระบบปฏิบัติการกันเป็นอย่างดี ซึ่งในสมัยก่อนเราก็ต้องยอมรับว่า มันทำงานได้ไม่ค่อยจะดีนักเมื่อเทียบกับ โปรแกรมป้องกันไวรัส (Antivirus Software) ที่มาจาก บุคคลที่สาม (3rd-Party) แต่ในปัจจุบันนี้นั้นตัว Windows Defender ที่อยู่ในระบบปฏิบัติการ Windows 11 ต้องยอมรับว่ามันมีประสิทธิภาพที่สูงขึ้นมาก จากการทดสอบของ av-test.org พบว่ามันทำคะแนนการทดสอบได้สูงไม่แพ้โปรแกรมแบบเสียเงินอื่นๆ แล้ว บทความเกี่ยวกับ Microsoft อื่นๆ อย่างไรก็ตาม ผู้ใช้บางคนอาจต้องการปิดการทำงานของ Windows Defender เอาไว้ ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม ซึ่งโดยปกติแล้ว ผู้ใช้ก็สามารถสั่งปิดได้ด้วยตนเองอยู่แล้ว แต่มันก็มีปัญหาตรงที่ Microsoft ออกแบบมาให้เมื่อเวลาผ่านไปสักพัก หรือเมื่อผู้ใช้รีสตาร์ท (รีบูต) ตัวระบบปฏิบัติการ Windows มันก็จะเปิดการทำงานของ Windows Defender ให้เราใหม่อีกครั้งโดยอัตโนมัติ ซึ่งมันก็เป็นเรื่องดีในแง่ของความปลอดภัย แต่ก็เป็นเรื่องน่ารำคาญได้เช่นกันหากว่าผู้ใช้ไม่ต้องการใช้งานจริง ๆ ในบทความนี้เราก็จะมาแนะนำวิธีการปิด Windows Defender ทั้งแบบชั่วคราว และแบบถาวรมาฝาก ทำอย่างไร ? เชิญอ่านต่อได้เลย วิธีปิด Windows Defender แบบชั่วคราว (How to turn off Windows Defender temporarily ?)เรามาเริ่มกันที่การปิดแบบชั่วคราว วิธีนี้เมื่อเวลาผ่านไปสักพัก หรือเรารีสตาร์ตระบบคอมพิวเตอร์ ตัวป้องกันไวรัส Windows Defender ก็จะกลับมาทำงานตามปกติให้อัตโนมัติ
วิธีปิด Windows Defender แบบถาวร (How to turn off Windows Defender permanently ?)สำหรับคนที่ต้องการปิดการทำงานของ Windows Defender แบบถาวรไปเลย เราก็มีวิธีการทำมาฝากเช่นกัน แต่ควรจะแน่ใจว่าตัวคุณเอง มีความสามารถในการเฝ้าระวังภัยอันตราย จากโลก อินเทอร์เน็ต ได้เป็นอย่างดี ไม่เข้าชมเว็บไซต์อันตราย หรือต้องการปิดเพราะมี โปรแกรมป้องกันไวรัสบุคคลที่สาม (3rd-Party Antivirus Software) ไว้ใช้งานอยู่แล้ว ขั้นตอนการปิด Windows Defender แบบถาวร จะสามารถทำได้ 2 วิธี วิธีแรกจะใช้การแก้ไขค่าของไฟล์รีจิสทรี (Windows Registry) ส่วนวิธีที่สองจะเป็นการแก้ไขค่า Local Group Policy นั่นเอง ถ้าถามว่าวิธีไหนง่ายกว่า ? การแก้ไขค่า Local Group Policy ก็ดูจะง่ายกว่า แต่มีข้อจำกัดตรงที่สามารถทำได้เฉพาะบน Windows เวอร์ชัน Pro, Enterprise และ Education เท่านั้น หากคุณใช้งาน Windows Home จะไม่สามารถทำได้ ซึ่งก็จะต้องเลือกใช้วิธีแก้ไขค่า Registry แทน วิธีปิด Windows Defender แบบถาวร ด้วย Local Group Policy (เฉพาะผู้ใช้งาน Windows เวอร์ชัน Pro, Enterprise และ Education)
วิธีปิด Windows Defender แบบถาวร ด้วย Registry Editor (ทำได้บน Windows ทุกเวอร์ชัน)
ก็หวังว่าบทความนี้จะช่วยให้ผู้ที่ต้องการปิดการทำงานของ Windows Defender แบบถาวร จะสามารถทำได้แล้วนะ ที่มา : www.maketecheasier.com , www.av-test.org
|