ระบบ ปฏิบัติการ android ข้อดี ข้อเสีย

Android กับ iOS เหมือนอาหารไทยกับอาหารญี่ปุ่น ทั้งสองไม่ได้อร่อยไปกว่ากันหรอก แต่อยู่ที่ว่าใครจะชอบกินแบบไหน

ระบบ ปฏิบัติการ android ข้อดี ข้อเสีย

อิสระ
Android เหมือนคอมพิวเตอร์เลย ติดตั้งแอพจากไหนก็ได้ เชื่อมต่อแกับอุปกรณ์ภายนอกได้ง่าย (เสียบ USB กับคอมเครื่องไหนก็ได้) เข้าถึงไฟล์ต่างๆและปรับแต่งการตั้งค่าของเครื่องได้

ง่าย
iOS เป็นระบบที่มีความซับซ้อนน้อย จุดเด่นคือมีบริการจากส่วนกลางไม่ว่าจะเป็น iTunes, Games Center และ iCloud ทำให้ผู้ใช้รู้สึกได้ถึงความเป็นหนึ่งเดียวระบบ (บัญชีเดียวใช้บริการได้อย่างครอบคลุม) ที่น่าสนใจคือปลอดภัยจากมัลแวร์

ระบบ ปฏิบัติการ android ข้อดี ข้อเสีย

จอมพลัง
ถ้าชอบการปรับแต่งความสามารถให้กับระบบ ต้องเลือก Android สามารถลงแอพเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้กับเครื่อง ส่วนจุดเด่นของระบบนี้คือ “Multitask” สามารถทำงานได้หลายแอพพร้อมกันในเวลาเดียว

เสถียร
iOS ไม่ได้แค่ลื่นเฉพาะหน้าโฮมกรีนนะ แต่แอพต่างๆก็ไหลลื่น ประหยัดพลังงานแม้จะเปิดแอพค้างไว้ ที่สำคัญคือลงแอพมากขึ้น ประสิทธิภาพเครื่องไม่ได้ด้อยลงไปเลย

ระบบ ปฏิบัติการ android ข้อดี ข้อเสีย

นักสร้างสรรค์
สำหรับ Android แค่เปลี่ยนธีมใหม่ ก็สร้างความรู้สึกว่าเหมือนได้เปลี่ยนเครื่องใหม่ สามารถปรับแต่งโฮมสรีนได้อย่างอิสระ และสำหรับคนที่ชอบแชทเป็นชีวิตจิตใจต้องเลือก Android มีคีบอร์ดเก่งๆให้เลือกหลายตัว ที่สำคัญพิมพ์แบบ Swipe ได้

นักเล่น
iOS โดดเด่นด้านความบันเทิง ทั้งเกมส์และแอพมีให้เลือกจำนวนมากและมีคุณภาพ มีแอพระดับพรีเมี่ยมจาก Apple และที่สำคัญคือเครื่องที่ใช้ iOS รุ่นใหม่ๆ เล่นแอพเก่าๆได้เลย

สรุป
หลายๆอย่างทั้ง iOS กับ Android นั้นทำได้เหมือนกัน แต่ที่ยกมานั้นเป็นจุดเด่นที่ระบบมี เป็นสิ่งที่ผู้ใช้ระดับ “ทั่วๆไป” พึงจะสัมผัสได้ แต่ถ้าคุณอยู่ในระดับ GEEK ทั้งสองระบบ ทำอะไรได้มากกว่าที่อธิบายไป

ขอขอบคุณเว็บไซต์ http://makky.in.th/2375/

          รวมจุดเด่นและข้อดีของ iOS กับ Android ต่างกันอย่างไรบ้าง สำหรับใช้ในการตัดสินใจว่าจะใช้ iPhone หรือมือถือ Android ดี

ระบบ ปฏิบัติการ android ข้อดี ข้อเสีย

ภาพจาก : shutterstock.com / Tada Images

          ปัจจุบันโทรศัพท์มือถือจะมีแบ่งออกเป็น 2 ระบบปฏิบัติการหลัก ๆ คือ iOS และ Android ซึ่งแต่ละระบบต่างก็มีจุดเด่นและข้อดีที่แตกต่างกันไป สำหรับบางคนที่กำลังจะซื้อมือถือใหม่ และอาจลังเลหรือตัดสินใจไม่ได้ว่าจะเลือกใช้ iPhone ที่เป็นระบบ iOS หรือใช้ Android ดี วันนี้เราจึงรวมจุดเด่นหลัก ๆ ของทั้ง 2 ระบบมาให้ลองพิจารณากัน ดังนี้

จุดเด่นของ iOS

ระบบ ปฏิบัติการ android ข้อดี ข้อเสีย

1. ใช้งานร่วมกับอุปกรณ์อื่น ๆ ของแอปเปิลได้ดี

          สำหรับผู้ที่ใช้อุปกรณ์อื่น ๆ ของแอปเปิลอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็น Mac, iPad หรือ Apple Watch การเลือกใช้ iPhone ก็จะช่วยให้สามารถใช้งานร่วมกับอุปกรณ์อื่น ๆ ได้สะดวกขึ้น เนื่องจากแอปเปิลได้ออกแบบระบบ Ecosystem มาให้ทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพอยู่แล้ว แถมยังใช้งานได้คล่องและถนัด ไม่ต้องเสียเวลาปรับตัวมากนัก

2. แอปฯ (บางส่วน) ใช้งานลื่นไหลกว่า

          เนื่องจาก iPhone มีเพียงยี่ห้อเดียวและมีแค่ไม่กี่รุ่น ทำให้การพัฒนาแอปฯ ออกมารองรับระบบปฏิบัติการ iOS ทำได้ง่ายและมีประสิทธิภาพกว่า หลาย ๆ แอปฯ จึงใช้งานได้ลื่นไหลและพบบั๊กน้อยกว่าบน Android ที่มีอุปกรณ์หลากหลายแบรนด์สารพัดรุ่น ซึ่งพัฒนาแอปฯ มาให้เสถียรได้ยากกว่า 

3. การอัปเดตระบบที่รวดเร็วสม่ำเสมอ

          เนื่องจาก iOS เป็นระบบปฏิบัติการที่แอปเปิลเป็นผู้ดูแลเองทั้งหมด จึงมีการอัปเดตที่รวดเร็วและสม่ำเสมอ เมื่อพบบั๊กหรือช่องโหว่ใด ๆ ก็จะมีอัปเดตออกมาแก้ในไม่ช้า ซึ่งต่างจาก Android ที่การอัปเดตขึ้นอยู่กับยี่ห้อมือถือนั้น ๆ แถมในแต่ละรุ่นก็ได้รับการอัปเดตและการสนับสนุนที่แตกต่างกันไป

4. ความปลอดภัยสูงกว่า

          iOS เป็นระบบปฏิบัติการแบบปิดที่ผู้ใช้ไม่สามารถติดตั้งแอปฯ จากนอก App Store เองได้ (นอกจากการเจลเบรกเครื่อง) อีกทั้งแอปฯ ต่าง ๆ ที่จะเข้ามาอยู่ใน App Store ได้นั้นจะต้องผ่านการคัดกรองของแอปเปิลอย่างเข้มงวดมากกว่าฝั่ง Android จึงมีความปลอดภัยที่สูงกว่า เสี่ยงเจอมัลแวร์หรือแอปฯ ปลอมน้อยกว่า

จุดเด่นของ Android

ระบบ ปฏิบัติการ android ข้อดี ข้อเสีย

1. มีมือถือให้เลือกหลากหลายกว่า

          นอกจาก iPhone ของแอปเปิลแล้ว มือถือยี่ห้ออื่น ๆ ส่วนใหญ่ในปัจจุบันจะเป็นระบบปฏิบัติการ Android แทบทั้งหมด จึงทำให้ผู้ใช้ Android มีตัวเลือกที่หลากหลาย มีตั้งแต่มือถือรุ่นราคาประหยัดไปจนถึงรุ่นเรือธง ชอบดีไซน์แบบไหน สเปกยังไง ก็มีให้เลือกตามต้องการ

2. ปรับแต่งและใช้งานได้อิสระกว่า

          เนื่องจาก Android เป็นระบบแบบเปิด ที่บริษัทผู้ผลิตมือถือและผู้พัฒนาต่าง ๆ สามารถปรับแต่งระบบเองได้ รวมทั้งตัวผู้ใช้ก็สามารถใช้งานได้อิสระมากกว่า iOS สามารถเชื่อมต่อกับ PC ที่เป็น Windows ได้ง่าย ถ่ายโอนไฟล์ระหว่างอุปกรณ์ได้สะดวก และอื่น ๆ อีกมากมาย

3. ติดตั้งแอปฯ นอก Store หลักได้

          มือถือรวมทั้งแท็บเล็ตที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Android สามารถติดตั้งแอปฯ นอก Google Play Store ได้อย่างง่ายดายในรูปแบบของไฟล์ APK ทำให้มีช่องทางในการเลือกและติดตั้งแอปฯ หลากหลายมากกว่าฝั่ง iOS (แต่ก็ต้องระวังเจอมัลแวร์ด้วยนะ)

4. ใช้พอร์ต USB Type-C

          ในขณะที่ iPhone จนถึงปัจจุบันยังคงใช้พอร์ต Lightning เป็นหลักอยู่ แต่มือถือ Android ใช้พอร์ต USB Type-C เหมือนกันหมด (ยกเว้นมือถือราคาประหยัดบางรุ่นที่ใช้ microUSB) ทำให้เชื่อมต่อกับอุปกรณ์เสริมต่าง ๆ ได้ง่ายกว่า รวมทั้งใช้สายชาร์จร่วมกันได้อีกด้วย

          นอกจากจุดเด่นและข้อดีต่าง ๆ ของแต่ละระบบปฏิบัติการที่ได้กล่าวไปแล้ว อีกหนึ่งสิ่งที่แตกต่างกันก็คือแอปฯ ที่มีให้ใช้บนแต่ละระบบ ซึ่งบางแอปฯ หรือบางเกมก็อาจมีเฉพาะบน iOS แต่บางแอปฯ ก็มีแต่บน Android ซึ่งไม่สามารถฟันธงได้ว่าของระบบไหนจะดีกว่ากัน กรณีนี้คงต้องพิจารณากันตามความต้องการในการใช้งานของแต่ละคน รวมถึงความชื่นชอบในเรื่องของดีไซน์ความสวยงามหรือปัจจัยอื่น ๆ เพิ่มเติมด้วยนั่นเอง