Work-life integration บทความ

Work Life Integration คืออะไร นับว่าเป็นคำนิยามใหม่ ที่จะมาล้มแนวคิดการทำงานแบบ Work-Life Balance อย่างสิ้นเชิง ต้องอธิบายเกี่ยวกับ Work-Life Balance ก่อนว่าเป็นแนวคิดการทำงานที่แยกออกจากเรื่องส่วนตัว อย่างชัดเจน เวลางานก็ทำงาน เมื่อถึงเวลาส่วนตัวก็แทบจะปิดมือถือ ไม่ติดต่อในเรื่องงาน ไม่คิดเรื่องงาน ใช้เวลากับครอบครัวให้เต็มที่ แฮงค์เอาท์ไปเที่ยวกับเพื่อนๆ ในช่วงนอกเวลางาน เรียกว่าเป็นแนวคิดในการทำงานในอุดมคติของใครหลายคน เลยทีเดียวทั้งเจ้าของกิจการและมนุษย์เงินเดือน

แต่ในความเป็นจริงแล้วการทำงานแบบ Work-Life Balance นั้นอาจไม่เหมาะกับใครหลายคน เนื่องจากการทำงานที่เปลี่ยนแปลงไป เรามีเทคโนโลยีที่เชื่อมต่องานและชีวิตส่วนตัวมากขึ้น เกี่ยวพันจนแทบจะแยกออกจากกันไม่ได้ จนได้เกิดเป็นแนวคิดการทำงานแบบ Work-Life Integration ขึ้นมา

Work Life Integration คืออะไร แนวคิดเป็นอย่างไร

Work-life integration บทความ

Work-Life Integration คือแนวคิดการทำงานที่หลอมรวมระหว่างชีวิตส่วนตัว กับชีวิตการทำงานเข้าด้วยกัน ไม่ได้แบ่งแยกออกชัดเจนแบบ Work-Life Balance เพราะเนื่องจาก

ตัวอย่างเช่นในวันหยุดหากคุณมีงานคั่งค้างอยู่ไม่มาก คุณจะทำงานจากที่บ้าน จากร้านกาแฟ หรือจะพื้นที่ Co-working Space ก็ได้ โดยใช้ระยะเวลาไม่นาน อาจตอบอีเมลลูกค้าที่สำคัญๆ บ้าง แต่ไม่จำเป็นต้องตอบอีเมลทั้งหมด รวมไปถึงเมื่อถึงเวลาทำงานที่ยืดหยุ่นได้ ไม่จำเป็นต้องเข้า 9 โมงเช้า ออก 6 โมงเย็น เหมือนก่อน

ซึ่งการแบ่งเวลานับว่าเป็นส่วนสำคัญ ถ้าเราไม่สามารถแบ่งเวลาได้อย่างเป็นระบบ จะทำให้การทำงานแบบ Work-Life Integration หมดความหมายไปในทันที ทำงานก็ไม่เสร็จ แถมยังกินเวลาส่วนตัวไปอีก

รวมไปถึงต้องได้รับการสนับสนุนโดยองค์กร เช่นการใช้ตางรางงานที่ยืดหยุ่น เช่นสามารถเลือกเวลาเข้างานได้ตั้งแต่ 7-9 โมงเช้า แล้วถึงค่อยนับไปอีก 8 ชั่วโมง ถึงจะเลือกงาน หรือยกเว้นให้บางหน้าที่ บางตำแหน่งสามารถทำงานได้จากที่บ้าน หรือ Co-working Space หรือการใช้เทคโนโลยีช่วยอย่างการใช้ Google G Suite จัดการไฟล์ด้านเอกสาร สามารถแก้ไขร่วมกันได้ ไฟล์งานจะเป็นเวอร์ชันล่าสุดเสมอ

ซึ่งที่กล่าวมานั้น นับว่าเป็นสิ่งสำคัญมากๆ เราไม่สามารถเปลี่ยนวัฒนธรรมขององค์กรได้ ดังนั้นแนวคิดของการทำงานแบบ Work-Life Integration ที่ทำงานต้องมีส่วนช่วยสนับสนุนด้วยเช่นกัน จริงๆ แล้วเราอาจปรับข้อดีของการทำงานทั้งสองแบบเข้าด้วยกัน มาใช้กับเราให้ดีที่สุดจะดีกว่า

วิธี รับมือ TOXIC PERSON คนมีพิษ คิดลบ คิดร้าย ในที่ทำงาน
ทำอย่างไรให้มีความสุขและประสบความสำเร็จมากที่สุด (สำหรับธุรกิจ, การทำงาน)
4 วิธีจัดการกับความเครียด ที่เกิดจากการทำงานจนรู้สึกว่าไม่ใช่วันของคุณ
4 วิธีจุดไฟสำหรับคน หมดไฟในการทำงาน ให้กลับมามีแรงอีกครั้ง
งานออนไลน์ ที่น่าสนใจ ทำได้จริง ได้เงินจริง (งดขายตรง หาดาวน์ไลน์ ขายประกัน คลิกโฆษณา และแชร์ลูกโซ่)

ที่มา [1]

 Work-Life Integration กับคนรุ่นใหม่

Work-Life Integration คือการผสมผสานงานกับการใช้ชีวิตเข้าด้วยกัน แนวคิดนี้กำลังมาแรงแซงวิธีคิดแบบเดิมคือ Work-Life Balance อย่างสิ้นเชิง เพราะ Work-Life Balance คือการที่แยกเรื่องงานกับเรื่องส่วนตัวออกจากกันให้ชัดเจน เช่น เมื่อหมดเวลางาน ก็จะไม่ตอบอีเมลหรือรับโทรศัพท์เรื่องงาน แล้วหันไปให้เวลากับครอบครัวหรือเรื่องส่วนตัวอย่างเต็มที่

ปัจจุบัน อาจเป็นเรื่องยากสำหรับหลายคนที่จะแยกงานกับเวลาส่วนตัวออกจากกันให้เด็ดขาด เพราะฉะนั้น Work-Life Integration จึงเป็นทางออกใหม่ 

เราสามารถบริหารจัดการลำดับความสำคัญของการทำงานและเรื่องอื่นๆ ตามที่เห็นสมควร โดยนำเทคโนโลยีใหม่ในรูปแบบต่าง ๆ อย่างการประชุมออนไลน์ หรือระบบ cloud computing เป็นต้น มาใช้เป็นเครื่องมือในการผสมผสาน Work กับ Life ให้เข้ากันได้อย่างลงตัว

ณ ตอนนี้เชื่อได้เลยว่าคนรุ่นใหม่คงให้ความสนใจกับเรื่อง Work-life Integration มากขึ้นจนทำให้องค์กรเองก็ต้องปรับตัวตามไปด้วย 

Gallup หนึ่งในบริษัทที่ปรึกษาชั้นนำ ได้ทำการสำรวจความคิดเห็นขององค์กรต่างๆ ทั่วโลก พบว่าการสร้างบรรยากาศการทำงานที่ยืดหยุ่นและการส่งเสริมให้พนักงานทำงานแบบ Work-life Integration มีส่วนอย่างมากในการทำให้พนักงานรู้สึกผูกพัน (Engaged) และอยากอยู่กับองค์กรต่อไป (Loyal)

นอกจากนั้น Gallup ยังพบอีกว่าพนักงานส่วนใหญ่ยินดีลดเงินเดือนของตนเองลงเล็กน้อยเพื่อแลกกับการได้ทำงานตามสถานที่อื่นๆ นอกเหนือจากออฟฟิศด้วย

อย่างไรก็ตาม ปัจจัยสำคัญในการทำให้แนวคิดเรื่อง Work & Life Integration สัมฤทธิ์ผลได้ ต้องอาศัยทักษะการบริหารจัดการเวลาที่ดี แบ่งเวลาให้เป็น และมีวินัยกับตารางเวลาที่กำหนดขึ้นด้วย

อย่าลืมกดติดตาม LINE OA : Leadership Hacks สำหรับข่าวสารและอาหารสมองดี