บทบาทของ big data ด้านสุขภาพและสาธารณสุข

งานที่เกี่ยวข้องกับค้าปลีก/ผู้บริโภค

    - การวางตลาดของผลิตภัณฑ์และการวิเคราะห์ทางการตลาด
    - การบริหารจัดการส่งเสริม การขาย และโปรแกรมการสร้างความภักดีต่อ Brand ของลูกค้า
    - การวิเคราะห์และบริหารจัดการห่วงโซ่อุปทาน
    - การสำรวจข้อมูลพฤติกรรมของผู้บริโภคผ่านทาง Web
    - การแบ่งส่วนตลาดของผู้บริโภค

กรณีการใช้งานด้านบริการทางการเงิน

    - การปฏิบัติตามกฎระเบียบและการรายงาน
    - การวิเคราะห์และบริหารจัดการความเสี่ยง
    - การตรวจสอบทุจริตและวิเคราะห์และการวิเคราะห์การรักษาความปลอดภัย
    - CRM กับโปรแกรมสร้างความภักดีของลูกค้า
    - ความเสี่ยงเกี่ยวกับการปล่อยเครดิต การให้คะแนนและการวิเคราะห์
    - การวิเคราะห์แบบแผนทางการค้าขายที่ผิดปกติ
    - การเฝ้าระวังการค้า (Trade Surveillance)

การใช้งานด้านบริการ Web และ Digital Media

    - วิเคราะห์ปริมาณของ click stream ขนาดใหญ่
    - การกำหนดเป้าหมายการโฆษณา การวิเคราะห์ และพยากรณ์แนวโน้ม
    - การป้องกันการใช้งานผิดวิธี และการฉ้อโกงทาง Web
    - การวิเคราะห์กราฟการใช้งานบนสังคมออนไลน์ และการแบ่งส่วนประเภทลูกค้าและการจัดทำ Profile
    - การจัดทำและบริหารจัดการแคมเปญ ทางการตลาดและโปรแกรมสร้างความภักดีต่อผลิตภัณฑ์

การใช้งานด้านสุขภาพและสาธารณสุข
    - ข้อมูลประกอบการรักษา เช่นข้อมูลประวัติผู้ป่วย ประวัติการรักษาพยาบาล ประวัติการแพ้ยา หรือข้อมูลประวัติครอบครัวที่ใช้ประกอบการวิเคราะห์
    - ผู้ผลิตยาและเวชภัณฑ์ใช้ข้อมูลมากและหลากหลายเพื่อหาสาเหตุของการเจ็บป่วยที่แท้จริง การวิเคราะห์เพื่อจำเพาะเจาะจงกลุ่มผู้ป่วยที่จะทดลองและติดตามผลของการรักษาจากยาและเวชภัณฑ์ที่พัฒนาขึ้นใหม่ และเพื่อการพัฒนากลยุทธ์ด้านการตลาดของยานั้นๆ
    - การวิเคราะห์ลักษณะรูปแบบการแพร่เชื้อ เพื่อใช้ในงานวิจัยทางการแพทย์
    - การวิเคราะห์คุณภาพในการดูแลรักษาผู้ป่วย
    - การบริหารจัดการเกี่ยวกับอุปทานของเครื่องมือแพทย์และยา
    - ข้อมูลการแพทย์และสาธารณสุข ช่วยให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในภาครัฐมีข้อมูลประกอบการตัดสินใจ ในการกำหนดนโยบายและกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องกับทางสาธารณสุข เช่น สิ่งแวดล้อม มลภาวะเป็นพิษ เป็นต้น
    - ผู้รับผิดชอบค่ารักษาพยาบาล เช่นผู้ให้บริการประกันสุขภาพ โดยมีส่วนช่วยในการวิเคราะห์ลักษณะการเจ็บป่วย การรักษาพยาบาลตามแต่ลักษณะเฉพาะกลุ่ม จำแนกตามอายุ กลุ่มอาชีพ หรือพฤติกรรมส่วนบุคคล โรคประจำตัว หรือโยงไปถึงข้อมูลอื่นๆ เช่น ข้อมูลพฤติกรรมการขับขี่ยานพาหนะ สถิติอุบัติเหตุ เพื่อออกแบบจำลองในการวางแผนคิดคำนวณค่าเบี้ยประกัน การเคลมค่ารักษาพยาบาล

ในอุตสาหกรรมสาธารณสุขจะมีอะไรที่สำคัญไปกว่าผลลัพธ์ด้านสุขภาพ? ในทุกวันผู้ให้บริการด้านสาธารณสุขทั่วโลกต่างพยายามค้นหาวิถีทางที่จะปรับปรุงคุณภาพชีวิตของพวกเรา แต่ก็นั่นแหละปัจจุบันโลกได้เปลี่ยนไปพูดได้ว่าโลกเปลี่ยนแปลงไปเร็วเกินกว่าที่เราจะตามทันด้วยซ้ำ การทำงานคนเดียวคงมิอาจปรับปรุงคุณภาพชีวิตคนไข้ได้อีกต่อไปเพราะจำนวนข้อมูลด้านสาธารณสุขได้เติบโตอย่างรวดเร็วเรียกได้ว่า เพิ่มขึ้นทุกๆ วินาทีก็ว่าได้ ซึ่งนั่นมันทำให้เพิ่มความยากในการค้นหารูปแบบที่เหมาะสมกับข้อมูล ข้อมูลขนาดใหญ่หรือที่เรียกกันว่า Big Data ไม่ใช่สิ่งที่น่าเย้ายวนนักหรอก เพราะมันสามารถเป็นพรอันประเสริฐหรือเป็นสาเหตุของความหายนะก็ได้ในเวลาเดียวกัน มันมีความเป็นไปได้ทั้งสองทางไม่ว่าจะเป็นทำให้เราเข้าใจอย่างลึกซึ้งหรือเป็นม่านหมอกที่คอยบดบังทาง

บทบาทของ big data ด้านสุขภาพและสาธารณสุข
Credit: ShutterStock.com

ความจริงแล้ว Data Science ได้กำลังปรับปรุงผลลัพธ์ในทางที่ดีขึ้นจนเรียกได้ว่าไม่อาจประเมินค่าได้ เนื่องจากได้สร้างความความเป็นอัตโนมัติมากมายที่ทำให้พัฒนาการต่างๆดีขึ้นตามลำดับ ทั้งความเร็ว ความสามารถในการย่อและขยายข้อมูล รวมถึงความถูกต้องแม่นยำ สิ่งที่ควรพิจารณาอย่างยิ่งคือการมองไปที่ความสามารถในการพยากรณ์โรคระบาด ความก้าวหน้าในการรักษา และการทำให้คนไข้พักรักษาตัวในโรงพยาบาลอย่างสะดวกสบายและปลอดภัย โดยในทางสาธารณสุขแล้ว Data Science ควรจะถูกพิจารณาความเป็นอัจฉริยะในแง่คุณประโยชน์มากกว่าการเป็นเพียงปัญญาประดิษฐ์เท่านั้น ซึ่งแผนการเตรียมการในการเพิ่มบริการเหล่านี้แก่ผู้เชี่ยวชาญทางสาธารณสุขได้เริ่มขึ้นแล้ว

เหตุผลที่ 1 ข้อมูลค่ารักษาพยาบาล

จากผลการสำรวจการปฏิบัติหน้าที่ของโรงพยาบาลแห่งชาติพบว่า ในปี 2010 ได้มีผู้ป่วยที่ได้รับอนุญาตให้ออกจากโรงพยาบาล (Discharge) จำนวน 35.1 ล้านคนภายในระยะเวลาที่อยู่ในโรงพยาบาลเฉลี่ย4.8 วัน และมีการรายงามเพิ่มเติมว่ายังมีผู้ป่วยอีกจำนวน 51.4 ล้านคนที่ยังอยู่ในขั้นตอนรักษา จากผลการสำรวจการรักษาพยาบาลผู้ป่วยนอกในปี 2011 พบว่ามีผู้ป่วยนอกจากแผนกดูแลผู้ป่วยนอกจำนวน 125.7ล้านคน และแผนกผู้ป่วยฉุกเฉินจำนวน 136.3 ล้านคน และยังมีข้อมูลพื้นฐานเพิ่มเติมอีกจำนวนหนึ่งแสดงข้อมมูลการรักษาพยาบาลในระบบสาธารณสุขของสหรัฐอเมริกาอีกด้วย การนำ Data Science มาประยุกต์ใช้กับข้อมูลเหล่านี้จะทำให้เกิดความเข้าใจข้อมูลมากยิ่งขึ้นและสร้างความเป็นไปได้ในการลดหรือหลีกเลี่ยงการแพร่กระจายของเชื้อโรคหรือแม้กระทั่งจัดการการลุกลามได้ด้วย การรวมเข้าด้วยกันของสถิติ การสำรวจวิเคราะห์ข้อมูลและการพยากรณ์ข้อมูลจะนำไปสู่การบริหารต้นทุนให้มีประสิทธิภาพสำหรับอาการป่วยที่เฉพาะเจาะจงและลดความซ้ำซ้อนที่ไม่จำเป็นในการรักษาได้อีกด้วย การสร้างพลังแห่งการคาดการณ์ที่มีประโยชน์เหล่านี้คือการใช้ความรู้ที่จะเปลี่ยนแปลงรูปแบบพฤติกรรมของวันนี้

เหตุผลที่ 2 ข้อมูลด้านการรักษา

แหล่งข้อมูลได้รวบรวมมาจากบันทึกการรักษาของแพทย์ ผลการทดลองจากห้องแล๊บ และการเก็บข้อมูลจากเทคโนโลยีการฉายภาพทางการแพทย์ในระหว่างการตรวจรักษาคนไข้ ตัวอย่างเช่นในทุกวันโรงพยาบาลใช้อัลกอริทึมของการประมวลผลภาษาธรรมชาติ (Natural language processing algorithms) ในการวิเคราะห์ประวัติคนไข้ ซึ่งพวกเขาอาจจะระบุถึงความเสี่ยงที่แน่นอนของอาการป่วยในคนไข้แต่ละบุคคลได้ และเมื่อไม่นานมานี้ก็ได้มีรายงานว่าผู้ให้บริการทางสาธารณสุขไม่ยอมรับการอ่านผลความดันเลือดที่ผ่านการอ่านสามครั้งโดยไม่ต่อเนื่องกันจากการตรวจสอบ 26% ของผู้ป่วยในแผนกกุมารเวช ซึ่งถูกตรวจสอบโดยสมาคมการแพทย์อเมริกัน (The American Medical Association) ซึ่งการยอมรับนี้จะต้องผ่านการวิเคราะห์จากข้อมูลที่เพิ่มขึ้นจำนวนมากซึ่งอาจจจะเป็นงานที่ยากขึ้นสำหรับผู้ให้บริการทางสาธารณสุข

เหตุผลที่ 3 ข้อมูลด้านการวิจัยและพัฒนายา

เมื่อไม่นานมานี้ ได้เกิดความร่วมมือในการพัฒนาระหว่างบริษัทยา ซึ่งได้พิจารณาโครงการ Data Sphere, การเริ่มต้นการแชร์ความรู้และข้อมูล, การรวมข้อมูล, รวมถึงการวิเคราะห์ข้อมูลประวัติการรักษาโรคมะเร็งเพื่อวัตถุประสงค์ในการรวบรวมข้อมูลในการวิจัยเพื่อเพิ่มความรวดเร็วในการค้นหาและการรักษาโรคมะเร็ง พลังแห่งข้อมูลอันมากมายมหาศาลคือการวิเคราะห์และการโฟกัสไปยังการค้นหาวิธีการรักษาสำหรับผู้ป่วยโรคมะเร็ง

เหตุผลที่ 4 ข้อมูลพฤติกรรมคนไข้รวมถึงความคิดเห็น

จากผลการศึกษาของสมาคมการแพทย์อเมริกันคาดว่า Wearable หรืออุปกรณ์สวมใส่อิเล็กทรอนิกส์จะมีจำนวน 52 ล้านชิ้นภายในปี 2019 ซึ่ง Wearable สามารถรายงานและตรวจจับอัตราการเต้นหัวใจ รูปแบบการนอน การเดิน และอีกมากมาย ขณะที่มีการเพิ่มมิติอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องในหลายบริบทเข้ามา ทั้งการค้นหาพิกัด รูปแบบพฤติกรรม รวมถึงสถิติชีวภาพ การรวมสิ่งเหล่านี้เข้ากับข้อมูลวิถีชีวิตหรือ Lifestyle ที่ไม่มีโครงสร้างผ่านSocial media กลายเป็นศูนย์รวมอำนาจ ซึ่งนั่นมันมากกว่าแค่จำนวนและการส่งเสียง (Tweet)

บทบาทของ big data ด้านสุขภาพและสาธารณสุข
Credit: ShutterStock.com

จะเห็นได้อย่างชัดเจนว่าเราจะมีประสบการณ์lสำหรับการใช้ประโยชน์มากมายที่มาจากการวิเคราะห์ข้อมูลทั้งในและนอกวงการสาธารณสุข เราจะเห็นความต่อเนื่องในการผลักดันการป้องกันผ่านการรักษาซึ่งมุ่งประเด็นไปที่การพยายากรณ์ผลลัพธ์การรักษาเป็นสำคัญ

มันอาจจะยังไม่เป็นที่นิยมแพร่หลายหรือเป็นที่กล่าวขานในตอนนี้ แต่ในอนานคตเมื่อเรามองย้อนกลับมาที่ Data Science มันจะกลายเป็นสิ่งที่สำคัญและมีความหมายในวงการสาธารณสุขมาก มันจึงดูสมเหตุสมผลที่จะคาดหวังว่ามีความเป็นไปได้ที่จะฟื้นฟูเยียวยาอาการเจ็บป่วยและบาดเจ็บได้เร็วขึ้น มีอายุยืนยาว เพราะการค้นพบยาใหม่ๆ ที่มีประโยชน์และสร้างประสิทธิภาพกับการผ่าตัดที่โรงพยาบาล สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นได้เพราะการวิเคราะห์ Big Data

อะไรที่ทำให้การอยู่ในยุคของ Big Data เป็นเรื่องที่น่ายินดี นั่นคือสิ่งที่เป็นแรงผลักดันให้วงการสาธารณสุข การค้นหาเครื่องมือ ทักษะ และเทคนิคต่างๆ เพื่อให้สามารถทำงานกับข้อมูลผู้ป่วยที่มีอย่างท่วมท้นมากมายคือความเข้าใจอย่างลึกซึ่งในธรรมชาติของข้อมูล เมื่อวงการสาธารณสุขได้นำ Data Science มาใช้อย่างเต็มรูปแบบ มันจะเปลี่ยนแปลงอนาคตของคุณทุกคน

ที่มา: http://www.cio.com/article/3001216/analytics/4-big-reasons-why-healthcare-needs-data-science.html

เกี่ยวกับ Data Science Thailand

Data Science Thailand เป็นแหล่งรวมข้อมูล Data Science เพื่อการพัฒนา Data Science ในประเทศไทย

ทางทีมงานยังได้จัดตั้ง Data Sci Lab, Thailand เพื่อให้บริการด้านงานวิจัย ให้คำปรีกษา และ จัดอบรม ที่เกี่ยวกับ Data Science โดยใน Lab ของเราจะแบ่งงานเป็นสามส่วนคือ (1) การเรียนรู้และพัฒนาเทคโยโลยีที่เกี่ยวกับ Big Data (2) การทำ Data mining ซิ่งรวมถีง Predictive Analytics และ (3) การทำ Data Visualization สนใจติดต่อได้ที่ [email protected]

บทบาทของ Big Data ในด้านต่างๆมีอะไร

Big Data เป็นเทคโนโลยีที่มีประโยชน์สามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้หลากหลายด้านไม่ว่าจะเป็นการวางแผนระดับประเทศ การวางแผนธุรกิจในองค์กร การวางแผนด้านการศึกษา การวางแผนด้านการแพทย์ และในด้านอื่นๆ อีกหลากหลายด้าน ถึงแม้ว่า Big Data จะมีประโยชน์อยู่มาก แต่หากขาดการสนับสนุนที่ดีจากองค์กรก็อาจทำให้ไม่ประสบความสำเร็จได้

The Six VS of Big Data คืออะไร

6 Vs of Big Data : คุณลักษณะ 6 ประการของฐานข้อมูลคุณภาพสูง คำว่า Big Data มักจะสื่อถึงชุดข้อมูลที่มีขนาดใหญ่ ซึ่งอาจจะแบ่งย่อยออกเป็นข้อมูล 3 รูปแบบคือ 1. ข้อมูลเชิงโครงสร้าง (structured data) 2. ข้อมูลกึ่งโครงสร้าง (semi-structured data)

Big Data มีประโยชน์อย่างไรกับกิจกรรมโลจิสติกส์

บริษัทโลจิสติกส์ให้ความสำคัญกับการเพิ่มประสิทธิภาพของ Big Data เนื่องจากช่วยให้หลีกเลี่ยงการจัดส่งที่ล่าช้าและประหยัดเงิน มีทรัพยากรจำนวนมากที่ถูกกำหนดและวางแผนเส้นทางสำหรับยานพาหนะจัดส่งสำหรับผู้ขับขี่ และการจัดส่งเป็นงานที่ซับซ้อนโดยเฉพาะอย่างยิ่ง หากดำเนินการด้วยตัวเอง

Big Data สามารถนำมาใช้ในงานราชการอย่างไร

ในปัจจุบันนี้ การนำ Big Data มาใช้ในภาครัฐ เพื่อแก้ปัญหาความเดือดร้อนและลดความเหลื่อมล้ำ โดยนำข้อมูลในระบบราชการจากหลายหน่วยงาน เช่น ข้อมูลสาธารณสุข ทะเบียนราษฎ์ ที่ตั้งของธุรกิจ โรงพยาบาล สถานบำบัด สถานการณ์จ้างงานมาวิเคราะห์และการเชื่อมโยงกัน เกิดเป็นข้อมูลขนาดใหญ่ Big Data ของภาครัฐ ผ่านกระบวนการวิเคราะห์เชื่อมโยง ...