วิทยาศาสตร์ ป.2 เรื่อง แสงและการ มอง เห็น

สาระสำคัญ/ความคิดรวมยอด

แสงเป็นสิ่งจำเป็นที่ช่วยในการมองเห็นสิ่งต่าง ๆ เมื่อมองวัตถุที่เป็นแหล่งกำเนิดแสง

จะมีแสงจากแหล่งกำเนิดแสงเข้าสู่ตาโดยตรง แต่การมองวัตถุที่ไม่เป็นแหล่งกำเนิดแสง

ต้องอาศัยแสงจากวัตถุที่เป็นแหล่งกำเนิดแสงตกกระทบวัตถุ แล้วสะท้อนเข้าสู่ตา

ตัวชี้วัด/จุดประสงค์การเรียนรู้

จุดประสงค์ด้านความรู้

นักเรียนอธิบายการมองเห็นวัตถุต่าง ๆ

จุดประสงค์ด้านทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์

1. การสังเกต

2. การจัดกระทำและสื่อความหมายข้อมูล

3. การตีความหมายข้อมูลและลงข้อสรุป

จุดประสงค์ด้านคุณธรรม

1. มีความมุ่งมั่นในการทำงาน

2. มีความสามัคคี ช่วยเหลือในการทำงานกลุ่มร่วมกัน

3. มีความซื่อสัตย์ต่อตนเอง

4. มีจิตสาธารณะต่อสิ่งแวดล้อม

การวัดผลและประเมินผล

1. การตอบคำถามในใบงาน

2. สังเกตทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ในการทำกิจกรรม

3. สังเกตพฤติกรรมด้านคุณธรรมขณะทำกิจกรรม

ค่มู ือครูรายวิชาพน้ื ฐานวิทยาศาสตร์ ป.2 เล่ม 2 | หน่วยที่ 3 แสงและสิ่งมชี ีวิต 12 แนวการจดั การเรียนรู้ (60 นาที) ในการตรวจสอบความรู้ ครูเพียง รับฟังเหตุผลของนักเรียนและยังไม่ ขนั้ ตรวจสอบความรู้ (10 นาที) เฉลยคำตอบใด ๆ แต่ชักชวนให้ 1. ครูตรวจสอบความรู้เดิมของนักเรียนเกี่ยวกับแหล่งกำเนิดแสง นักเรียนไปหาคำตอบด้วยตนเองจาก การอา่ นเนื้อเรื่อง โดยอาจแจกกระดาษให้นักเรียนวาดรูปหรือเขียนช่ือวัตถุท่ีเป็น แหล่งกำเนิดแสง และวัตถุที่ไม่ใช่แหล่งกำเนิดแสงท่ีนักเรียนรู้จัก นักเรียน อาจตอบคำถามห รือ จากนั้นสุ่มนักเรียนออกมานำเสนอและบอกเหตุผลว่าเพราะเหตุใด อภิปรายไม่ได้ตามแนวคำตอบ ครูควร จึงคิดเช่นนนั้ ให้ เว ล า นั ก เรี ย น คิ ด อ ย่ า ง เห ม า ะ ส ม ร อ ค อ ย อ ย่ า ง อ ด ท น แ ล ะ รั บ ฟั ง ขน้ั ฝึกทักษะจากการอา่ น (35 นาที) แนวความคิดของนกั เรยี น 2. นักเรยี นอ่านช่ือเรื่อง และคำถามใน คิดก่อนอ่าน ในหนังสือเรียน หน้า 4 แลว้ ร่วมกนั อภิปรายในกล่มุ เพ่ือหาคำตอบตามความเข้าใจ ของกลุ่ม ครูบันทึกคำตอบของนักเรียนบนกระดานเพ่ือใช้ เปรยี บเทียบกับคำตอบภายหลงั การอา่ นเนอื้ เรอื่ ง 3. นักเรียนอ่านคำใน คำสำคัญ ท้ังภาษาไทยและภาษาอังกฤษ (หากนักเรียนอา่ นไม่ได้ ครูควรสอนอ่านใหถ้ กู ตอ้ ง) 4. นักเรียนอ่านเนอื้ เร่ืองตามวิธีการอ่านที่เหมาะสมกับความสามารถ ของนักเรียน และร่วมกันอภิปรายใจความสำคัญ โดยใช้คำถาม ดังนี้ 4.1 เมื่อเดินลึกเข้าไปในถ้ำ ทำไมจึงเห็นส่ิงต่าง ๆ ไม่ชัดเจน (ภายในถำ้ ค่อย ๆ มดื ลง) 4.2 ทำอย่างไรนักเรียนท่ีอยู่ในถ้ำจึงจะมองเห็นส่ิงต่าง ๆ ในถ้ำ ชดั เจนขนึ้ (เปิดไฟฉาย) 4.3 ส่ิงท่ีนักเรียนพบภายในถ้ำ คืออะไร (หินงอก หินย้อยท่ีมี รูปร่างตา่ ง ๆ) 4.4 เพราะเหตุใดเม่ือเปิดไฟฉายจึงมองเห็นหินงอกหินย้อย (ไฟฉายทำให้เกิดแสง) 4.5 วตั ถุทท่ี ำให้เกิดแสงเรยี กว่าอะไร (แหลง่ กำเนดิ แสง) 4.6 เมื่อเดินเข้าไปถึงปลายถ้ำ นักเรียนพบแหล่งกำเนิดแสงใด (ดวงอาทติ ย์) 4.7 ลักษณะของแสงที่ส่องลงมาจากเพดานถ้ำเป็นอย่างไร (ลักษณะเป็นลำแสงสอ่ งลงมาจากชอ่ งทเี่ พดานถ้ำ) สถาบนั ส่งเสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ⎯

13 คมู่ อื ครูรายวิชาพนื้ ฐานวิทยาศาสตร์ ป.2 เลม่ 2 | หน่วยที่ 3 แสงและสง่ิ มีชีวติ 4.8 แสงจากดวงอาทิตย์มีประโยชน์อย่างไร (ช่วยให้มองเห็น การเตรยี มตัวลว่ งหนา้ สำหรบั ครู สิง่ ตา่ ง ๆ ทำให้ออกจากถำ้ ได้อย่างปลอดภยั ) เพื่อจัดการเรียนรู้ในครง้ั ถดั ไป 4.9 จากเนื้อเรื่อง แหล่งกำเนิดแสงมีอะไรบ้าง (ไฟฉายและ ดวง ใน ค รั้งถั ด ไป นั ก เรีย น จ ะ ได้ ท ำ อาทติ ย์) กิจกรรมที่ 1.1 แสงเคล่ือนที่อย่างไร โดยการ สังเกตการเคลื่อนท่ีของแสงจากชุดสาธิตการ 4.10 การมองเห็นส่ิงต่าง ๆ ต้องอาศัยส่วนประกอบอะไรบ้าง เคลื่อนที่ของแสงที่ครูเตรียมให้ ดังน้ันครูควร (ตาและแสงจากแหลง่ กำเนิดแสง) เตรียมชุดสาธิตให้เพียงพอกับจำนวนกลุ่ม นักเรียน โดยควรให้แต่ละกลุ่มร่วมกันสังเกต ขัน้ สรุปจากการอ่าน (15 นาที) ชุดสาธิต 1 ชุด และเน่ืองจากเป็นกิจกรรมที่ 5. ครูและนักเรียนร่วมกันอภิปรายเพื่อให้ได้ข้อสรุปว่าการมองเห็น ต้องใช้การสังเกตแนวการเคลื่อนท่ีของแสง ครู อาจต้องเตรียมห้องให้มืดลงกว่าเดิมเพ่ือให้ สิ่งต่าง ๆ นอกจากอาศัยส่วนประกอบท่ีสำคัญ คือ ดวงตาแล้ว นักเรียนสังเกตแนวการเคลื่อนที่ของแสงได้ แสงจากแหล่งกำเนิดแสงก็เป็นสิ่งสำคัญท่ีช่วยให้เรามองเห็น ชัดเจนข้ึน ส่งิ ตา่ ง ๆ รอบตวั ได้ 6. นักเรียนตอบคำถามจากเรื่องท่ีอ่านในรู้หรือยัง ในแบบบันทึก กจิ กรรมหน้า 4 7. ครูและนักเรียนร่วมกันอภิปรายเพื่อเปรียบเทียบคำตอบของ นักเรียนในรู้หรือยัง กับคำตอบท่ีเคยตอบและบันทึกไว้ใน คิดก่อนอ่าน จากน้ันให้นักเรียนฝึกเขียนคำว่า แหล่งกำเนิดแสง ในเขียนเปน็ ในแบบบนั ทึกกิจกรรมหนา้ 4 8. ครูชักชวนนักเรียนตอบคำถามท้ายเร่ืองที่อ่าน แสงจาก แหลง่ กำเนดิ แสงตา่ ง ๆ มลี กั ษณะการเคล่อื นทอี่ ย่างไร ครูบันทึกคำตอบของนักเรียนบนกระดานโดยยังไม่เฉลย คำตอบ แต่ชกั ชวนให้นักเรยี นหาคำตอบจากการทำกิจกรรม ⎯ สถาบันสง่ เสริมการสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี

คูม่ ือครูรายวิชาพน้ื ฐานวทิ ยาศาสตร์ ป.2 เล่ม 2 | หน่วยที่ 3 แสงและสิง่ มีชีวติ 14 ข้นั ตอนการประกอบชุดสาธติ การเคลือ่ นทขี่ องแสง 3 2 4 ครูสามารถเตรียมทำชุดสาธิตการเคลื่อนท่ีของแสงล่วงหน้า 1 สำหรบั ใช้ในกจิ กรรม ซงึ่ มีขนั้ ตอน ดังน้ี 1. เตรียมกล่องกระดาษซึง่ อาจเปน็ กลอ่ งเค้กแล้วนำมาพ่นสเปรยส์ ีดำ ด้านในกล่องเพื่อใช้เป็นชุดสาธิตการเคลื่อนที่ของแสง หรือ ดาวโหลดแผ่นพับสำเร็จรูปจาก QR code แล้วนำมาติดบน กระดาษแขง็ สีดำ http://ipst.me/10507 2. กรณีที่ใช้แผ่นพับสำเร็จรูป ให้นำแผ่นพับหมายเลข 1 มาตัดตาม รอยสแี ดงแลว้ พบั ตามรอยประ เจาะรูเพื่อเปน็ ชอ่ ง สำหรับสงั เกต 3. พับกระดาษให้เป็นรูปกล่อง จากน้ันติดแผ่นใสท่ีมีขนาดใหญ่กว่า ช่องสีเ่ หลีย่ มที่อยู่บนกล่องเพื่อเป็นชอ่ งสำหรับสังเกต ตดิ แผ่นใส 4. เจาะรูด้านข้างกล่อง 1 รู สำหรับสอดธูป หรือถ้าใช้แผ่นพับ สำเร็จรูป ให้ตัดแผ่นพับหมายเลข 3 แล้วนำมาติดทับรูเพื่อเป็น ช่องสำหรบั เปดิ ปดิ ควนั ธูป 5. เจาะช่องด้านล่างของกล่องแล้วนำแผ่นพั บหมายเลข 2 มาประกอบท่บี รเิ วณรูด้านบนกล่อง สถาบันสง่ เสริมการสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ⎯

15 ค่มู ือครรู ายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์ ป.2 เลม่ 2 | หน่วยท่ี 3 แสงและสงิ่ มชี ีวติ 6. พ่นสเปรย์สีดำที่ลูกปิงปอง จากน้ันเจาะลูกปิงปองที่พ่นสีแล้วให้ เป็นรูกว้างพอที่จะครอบหลอดไฟฟ้าได้ แล้วใช้เข็มหมุดเจาะรูให้ รอบลูกปิงปอง หรือใช้แผ่นพับตัวครอบหลอดไฟฟ้าหมายเลข 4 มาตัดและพับตามรอย แล้วประกอบเป็นตัวครอบหลอดไฟฟ้า รูปทรงต่าง ๆ 7. นำลูกปิงปองหรือตัวครอบหลอดไฟฟ้ารูปทรงต่าง ๆ ท่ีเจาะรูแล้ว มาครอบหลอดไฟฟา้ ขนาด 2.5 V 8. นำสายไฟฟ้าจากข้ัวหลอดไฟฟ้าที่ใส่ตัวครอบหลอดเรียบร้อยแล้ว สอดออกมาด้านนอกของกล่องแล้วต่อเข้ากับฐานใส่ถ่านไฟฉาย ขนาด AA 1.5 V 2 ก้อน 9. ปรับตัวครอบหลอดไฟฟ้าท่ีอยู่ภายในกล่องให้อยู่ท่ีระดับ กลางกล่องเพ่ือให้สามารถสังเกตลำแสงภายในกล่องขณะทำ กจิ กรรมไดง้ ่ายและรอบทศิ ทาง 10.ปิดกล่องโดยใชเ้ ทปใสในการยึดติด ** ครูอาจเตรียมหลอดไฟฟ้าลักษณะต่าง ๆ เพิ่มเติมจากทรงกลม เพอื่ ให้นกั เรียนไดส้ ังเกตการลกั ษณะการเคล่ือนที่ของแสง ⎯ สถาบนั ส่งเสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี

คมู่ อื ครูรายวิชาพ้นื ฐานวทิ ยาศาสตร์ ป.2 เล่ม 2 | หน่วยท่ี 3 แสงและสง่ิ มชี ีวิต 16 แนวคำตอบในแบบบนั ทกึ กิจกรรม วัตถุทีท่ ำใหเ้ กดิ แสงได้ ไฟฉาย และดวงอาทติ ย์ แหล่งกำเนิดแสง แหล่งกำเนิดแสง สถาบนั สง่ เสรมิ การสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ⎯

17 คูม่ อื ครรู ายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์ ป.2 เลม่ 2 | หน่วยท่ี 3 แสงและสง่ิ มชี ีวิต กิจกรรมท่ี 1.1 แสงเคลอื่ นทอ่ี ย่างไร กิจกรรมน้ีนักเรียนจะได้ฝึกการสังเกต เขียนแผนภาพ และ บรรยายลักษณะการเคลอื่ นทข่ี องแสงจากแหลง่ กำเนิดแสง เวลา 3 ชว่ั โมง จดุ ประสงค์การเรียนรู้ สงั เกต เขียนแผนภาพ และบรรยายลักษณะการเคลื่อนท่ีของแสงจาก แหล่งกำเนดิ แสง วสั ดุ อปุ กรณ์สำหรับทำกจิ กรรม สง่ิ ทค่ี รูต้องเตรียม/ห้อง 1. ธูป 1 หอ่ 2. ไมข้ ีดไฟ 1 กล่อง สิง่ ทีค่ รูตอ้ งเตรยี ม/กลุ่ม 1. ชุดสาธิตการเคล่ือนท่ีของแสง 1 ชดุ ทกั ษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ สื่อการเรียนรู้และแหลง่ เรียนรู้ S1 การสงั เกต 1. หนงั สอื เรยี น ป.2 เล่ม 2 หนา้ 5-7 S8 การลงความเหน็ จากข้อมูล 2. แบบบันทึกกจิ กรรม ป.2 เล่ม 2 หนา้ 5-9 S13 การตคี วามหมายข้อมลู และลงขอ้ สรปุ 3. วีดทิ ศั น์ตัวอย่างการปฏิบตั กิ ารทางวทิ ยาศาสตร์ S14 การสร้างแบบจำลอง สำหรบั ครู เร่อื ง แสงเคล่ือนท่ีออกจากแหล่งกำเนดิ ทกั ษะแหง่ ศตวรรษท่ี 21 แสงอยา่ งไร C4 การสอื่ สาร http://ipst.me/9866 C5 ความร่วมมือ ⎯ สถาบนั สง่ เสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี

คมู่ ือครรู ายวิชาพ้นื ฐานวทิ ยาศาสตร์ ป.2 เล่ม 2 | หน่วยที่ 3 แสงและสิง่ มชี ีวิต 18 แนวการจัดการเรยี นรู้ ในการตรวจสอบความรู้ ครู เพียงรับฟังเหตุผลของนักเรียนและ 1. ครูชวนนักเรียนดูวิดีโอคลิปหรือภาพต่าง ๆ ที่มีแสงจาก ยังไม่เฉลยคำตอบใด ๆ แต่ชักชวน แหล่งกำเนิดแสงท่ีหลากหลาย เช่น แสงจากหลอดไฟฟ้า แสงจาก ให้นักเรียนไปหาคำตอบด้วยตนเอง ดวงอาทิตย์ แสงจากไฟฉาย จากน้ันถามนักเรียนว่าแสงจาก จากการทำกิจกรรม แหล่งกำเนิดแสงต่าง ๆ เคล่ือนที่อย่างไร (นักเรียนตอบตามความ เข้าใจ) ชดุ สาธิตการเคล่ือนที่ของแสง 2. นักเรียนอ่านช่ือกิจกรรม และทำเปน็ คิดเป็น โดยร่วมกนั อภปิ ราย ทกั ษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์และทกั ษะแห่งศตวรรษที่ เพ่ือตรวจสอบความเข้าใจจุดประสงค์ในการทำกิจกรรม ตามแนว 21 ทนี่ ักเรียนจะไดฝ้ กึ จากการทำกจิ กรรม คำถาม ดงั น้ี 2.1 กิจกรรมนี้นักเรียนจะได้เรียนเรื่องอะไร (ลักษณะการ S1 การสังเกตสว่ นประกอบและการเปลย่ี นแปลงที่ เคลือ่ นที่ของแสงจากแหล่งกำเนดิ แสง) เกดิ ขึน้ ในชุดสาธิตการเคลื่อนท่ขี องแสง 2.2 นกั เรียนจะได้เรยี นรู้เรอ่ื งนี้ด้วยวธิ ีใด (สงั เกต) 2.3 เมื่อเรียนแล้วนักเรียนจะทำอะไรได้ (เขียนแผนภาพและ S8 การลงความเหน็ จากข้อมูลว่าแสงเคลือ่ นทอี่ อกจาก บรรยายลกั ษณะการเคล่ือนท่ขี องแสงจากแหล่งกำเนิดแสง) แหลง่ กำเนดิ แสงเป็นแนวตรงทกุ ทศิ ทาง 3. นักเรียนบันทึกจุดประสงค์ลงในแบบบันทึกกิจกรรม หน้า 5 และ S14 การสรา้ งแบบจำลองโดยการเขียนแผนภาพแสดง อา่ นส่งิ ที่ต้องใช้ในการทำกจิ กรรม ลักษณะการเคลือ่ นท่ีของแสงจากแหลง่ กำเนดิ แสง 4. นักเรียนอ่านทำอยา่ งไร จากนั้นรว่ มกันอภิปรายเพอื่ สรปุ ลำดบั C4 การสอ่ื สารโดยการร่วมกันอภปิ รายเก่ยี วกับลกั ษณะ ขั้นตอนการทำกจิ กรรมตามความเขา้ ใจ โดยใช้แนวคำถาม การเคลอ่ื นท่ีของแสง ดงั ตอ่ ไปน้ี 4.1 นกั เรียนตอ้ งสังเกตสิง่ ใดเป็นอนั ดับแรก (สังเกตส่วนประกอบ C5 ความรว่ มมือในการทำกจิ กรรมและการอภิปราย ของชุดสาธิตการเคลอื่ นทีข่ องแสง) 4.2 เมอื่ สังเกตชดุ สาธติ การเคลอื่ นท่ีของแสงแล้ว นักเรยี นตอ้ งทำ อะไรต่อ (เปิดไฟของชุดสาธิต แล้วสังเกตการเปล่ียนแปลงที่ เกิดขน้ึ และระบแุ หลง่ กำเนดิ แสง) 4.3 นกั เรยี นจะบันทกึ ผลการสังเกต โดยวธิ กี ารใด (การวาดรูป) 4.4 หลังจากบันทึกผลการสังเกตแล้ว นักเรียนต้องทำอะไรต่อ (จุดธูปแล้วสอดเข้าไปในช่องท่ีเจาะไว้ด้านข้างชุดสาธิต เพื่อให้ควันธูปอยู่ในกล่อง สังเกตการเปลี่ยนแปลงอีกครั้ง บันทึกผลโดยการวาดรปู ) ในระหว่างการทำกิจกรรมในข้ันตอนน้ีครูอาจลองเปล่ียน หลอดไฟฟ้าให้เป็นลักษณะต่าง ๆ เช่น แบบเหล่ียม หรืออาจ เปล่ียนตัวครอบหลอดไฟฟ้าจากลกู ปิงปองทรงกลมเปน็ ตวั ครอบท่ี สถาบันสง่ เสรมิ การสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ⎯

19 คู่มอื ครรู ายวิชาพืน้ ฐานวทิ ยาศาสตร์ ป.2 เลม่ 2 | หน่วยที่ 3 แสงและส่ิงมชี ีวติ มีรูปทรงลักษณะอ่ืน เช่น รูปทรงส่ีเหลี่ยม รูปทรงสามเหลี่ยมแล้ว ลกั ษณะการเคล่อื นที่ของแสงจาก ให้นกั เรยี นสงั เกตการเปลีย่ นแปลงทีเ่ กิดขึ้น แหล่งกำเนิดแสง 4.5 นักเรียนจะแสดงลักษณ ะการเคล่ือนที่ของแสงจาก นักเรียนอาจไม่สามารถตอบ แหล่งกำเนิดแสงได้ด้วยวิธีใด (การเขียนแผนภาพโดยใช้ คำถามหรืออภิปรายได้ตามแนว ลูกศรแสดงลักษณะการเคลื่อนท่ีของแสงจากแหล่งกำเนิด คำตอบ ครูควรให้เวลานักเรียน แสง) คิดอย่างเหมาะสม รอคอยอย่าง ครูอาจช่วยให้นักเรียนเข้าใจข้ันตอนการทำกิจกรรมได้ดีขึ้น อดทน และรับฟังแนวความคิด โดยอาจเขียนเป็นแผนผังแสดงลำดับขั้นตอนอย่างย่อไว้บน ของนกั เรยี น กระดานเพ่ือใหน้ ักเรยี นเขา้ ใจขั้นตอนทั้งหมด 5. เม่ือนักเรียนเข้าใจวิธีการทำกิจกรรมในทำอย่างไรแล้ว ครูแจก อปุ กรณ์ และให้นักเรยี นเร่มิ ปฏบิ ตั กิ จิ กรรมตามขน้ั ตอน 6. หลังจากทำกิจกรรมแล้ว ครูนำอภิปรายผลการทำกิจกรรม โดยใช้ คำถามดังนี้ 6.1 ชุดสาธิตการเคลื่อนท่ีของแสงมีส่วนประกอบอะไรบ้าง (นักเรียนตอบตามลักษณะที่สังเกตเห็น เช่น ภายในกล่องมีสี ดำ มีลูกปิงปองสีดำเจาะรูรอบด้าน ด้านในมีหลอดไฟฟ้าต่อ กบั ถา่ นไฟฉาย) 6.2 แหล่งกำเนิดแสงของชุดสาธิตการเคลื่อนที่ของแสง คืออะไร (หลอดไฟฟ้า) 6.3 เมื่อเปิดไฟ นักเรียนสังเกตเหน็ อะไร (เห็นแสงทะลุผ่านรูทุกรู ของลกู ปิงปอง) 6.4 เมื่อสอดธูปเข้าไปในกล่อง นักเรียนสังเกตเห็นอะไร (เห็น แนวลำแสงเป็นแนวตรงออกจากรูทุกรูท่ีเจาะไว้บนลูก ปิงปอง) 6.5 แนวลำแสงมีลักษณะเป็นอยา่ งไร (เปน็ เสน้ ตรง) 6.6 แนวลำแสงจากหลอดไฟฟ้าท่ีทะลุผ่านรูของลูกปิงปองมี ทิศทางใดบ้าง (ทุกทิศทาง ด้านหน้า ด้านบน ด้านซ้าย ด้านขวา และด้านล่างของลกู ปิงปอง) 6.7 เม่ือเปลี่ยนหลอดไฟฟ้าจากรูปทรงกลมเป็นรูปทรงลักษณะ อื่น หรือเปลี่ยนตัวครอบหลอดไฟฟ้าจากรูปทรงกลมเป็น รูปทรงลักษณะอื่น ผลการสังเกตเหมือนหรือแตกต่างจาก เดิมหรือไม่ อย่างไร (ไม่แตกต่าง โดยยังสังเกตเห็นแสง ออกมาจากทกุ รูที่เจาะไว้และเป็นแนวตรงเหมือนกนั ) ⎯ สถาบันสง่ เสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี

คมู่ อื ครรู ายวิชาพน้ื ฐานวทิ ยาศาสตร์ ป.2 เล่ม 2 | หน่วยที่ 3 แสงและสง่ิ มชี ีวติ 20 6.8 เพราะเหตุใดจึงต้องใช้ควันธูปในชุดสาธิตการเคล่ือนท่ีของ ความรเู้ พิ่มเติมสำหรับครู แสง (ช่วยใหเ้ หน็ แนวลำแสงได้ชดั เจน) การใช้ควันธูปในชุดสาธิตการ 7. ครูและนกั เรียนร่วมกันอภิปรายและลงข้อสรุปว่าแสงเคลอ่ื นท่ีจาก เค ลื่ อ น ท่ี ข อ ง แ ส ง ช่ ว ย ใ ห้ เร า ส า ม า ร ถ แหลง่ กำเนิดแสงทกุ ทิศทางเปน็ แนวตรง (S13) สังเกตเห็นลำแสงได้ชัดเจนเน่ืองจากเม่ือ แสงกระทบควันธูปแล้วจะสะท้อนมาเข้า 8. ครูและนักเรียนร่วมกันอภิปรายวิธีการเขียนแผนภาพแสดง ตาเรา นอกจากควันธูปแล้ว ควันไฟ หรือ ลักษณะการเคล่ือนที่ของแสงจากแหล่งกำเนิดแสงและลงข้อสรุป ฝุ่นละอองต่าง ๆ ก็ช่วยให้เราสังเกตเห็น วา่ สามารถเขียนแผนภาพแสดงแนวการเคลื่อนที่ของแสงด้วยการ ลำแสงได้เช่นกัน ใช้ลูกศรโดยหัวลูกศรพุ่งออกจากแหล่งกำเนิดแสงในทุกทิศทาง (S13) 9. นักเรียนร่วมกันอภิปรายเพ่ือตอบคำถามในฉันรู้อะไร โดยครูอาจ ใช้คำถามเพิ่มเติมในการอภิปรายเพ่อื ใหไ้ ดแ้ นวคำตอบที่ถูกต้อง 10. นักเรียนร่วมกันสรุปสิ่งที่ได้เรียนรู้ในกิจกรรมนี้ จากน้ันนักเรียน อ่านสงิ่ ที่ไดเ้ รยี นรู้ และเปรยี บเทียบกบั ข้อสรปุ ของตนเอง 11. ครูสามารถแนะนำให้นักเรียนใช้แอพพลิเคชันสำหรบั การสังเกต ภาพเสมือนจริง (AR) เร่ืองการเคลื่อนท่ีของแสงจากแหล่งกำเนิด แสงในหนงั สอื เรียนหนา้ 7 12. ครูให้ความรู้เพ่ิมเติมแก่นักเรียนว่าแหล่งกำเนิดแสงบางอย่าง อาจดูเหมือนมีแสงออกจากแหล่งกำเนิดแสงน้ัน ๆ ในบาง ทิศทาง ทั้งน้ีเพราะแสงถูกบังคับให้เคลื่อนที่ออกมาได้ในบาง ทิศทางเท่านั้น เช่น แสงจากกระบอกไฟฉายถูกบังคับให้แสงพุ่ง ออกไปทางดา้ นหน้าของไฟฉาย ดงั รปู 13. ครูกระตุ้นให้นักเรียนฝึกตั้งคำถามเก่ียวกับเรื่องท่ีสงสัยหรือ อยากรู้เพิ่มเติมใน อยากรู้อกี ว่า จากนั้นครอู าจสุ่มนักเรียน 2 -3 คน นำเสนอคำถามของตนเองหน้าช้ันเรียน และให้นักเรียน ร่วมกนั อภิปรายเกย่ี วกบั คำถามทน่ี ำเสนอ 14. ครูน ำอภิ ป ราย เพื่ อให้ นั กเรียน ท บ ท วน ว่าได้ฝึกทั กษ ะ กระบวนการทางวิทยาศาสตร์และทักษะแห่งศตวรรษท่ี 21 อะไรบ้างและในข้นั ตอนใดบา้ ง แสงจากไฟฉาย สถาบนั ส่งเสริมการสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ⎯

21 คมู่ อื ครูรายวิชาพื้นฐานวทิ ยาศาสตร์ ป.2 เลม่ 2 | หน่วยท่ี 3 แสงและส่ิงมชี ีวิต ความรเู้ พิม่ เตมิ สำหรบั ครู การเตรยี มตัวล่วงหนา้ สำหรับครู เพ่ือจัดการเรียนรูใ้ นคร้ังถัดไป แนวลำแสงแต่ละเส้นท่ีลากจาก แหล่งกำเนิดแสง เรียกว่า รังสีของแสง ในครั้งถัดไป นักเรียนจะได้ทำ เขียนแทนได้ด้วยลูกศร โดยหัวลูกศร กิจกรรมที่ 1.2 มองเห็นวัตถุต่าง ๆ ได้ แสดงทศิ ทางทแ่ี สงเคลือ่ นทีไ่ ป อย่างไร โดยการสังเกตการมองเห็นวัตถุ ที่เป็นแหล่งกำเนิดแสงและวัตถุท่ีไม่เป็น แหล่งกำเนดิ แสงโดยการมองวตั ถุในกล่อง ดังน้ันครูควรเตรียมสถานที่ให้เหมาะกับ กิจกรรม โดยอาจต้องปิดประตูหน้าต่าง เพ่ือให้ห้องเรียนมดื ลงกว่าเดมิ ⎯ สถาบันส่งเสริมการสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี

ค่มู ือครรู ายวิชาพ้ืนฐานวิทยาศาสตร์ ป.2 เล่ม 2 | หน่วยท่ี 3 แสงและสง่ิ มชี ีวิต 22 แนวคำตอบในแบบบนั ทึกกจิ กรรม สังเกต เขียนแผนภาพ และบรรยายลักษณะการเคลื่อนที่ของแสงจาก แหลง่ กำเนดิ แสง หลอดไฟฟา้ สถาบันสง่ เสริมการสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ⎯

23 คมู่ ือครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์ ป.2 เล่ม 2 | หน่วยที่ 3 แสงและส่งิ มีชีวติ ⎯ สถาบนั ส่งเสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี

ค่มู อื ครรู ายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์ ป.2 เล่ม 2 | หน่วยท่ี 3 แสงและส่ิงมีชีวติ 24 หลอดไฟฟ้า แตกต่างกัน ไมเ่ หน็ เหน็ แนวการเคล่อื นทีข่ องแสงจากแหล่งกำเนิดแสง ทุกทิศทาง สถาบนั ส่งเสริมการสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ⎯

25 คู่มือครรู ายวิชาพนื้ ฐานวทิ ยาศาสตร์ ป.2 เลม่ 2 | หน่วยท่ี 3 แสงและส่งิ มีชีวิต แนวตรง แหลง่ กำเนดิ แสง แนวตรง ทกุ ทิศทาง หวั ลูกศร ⎯ สถาบนั ส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

ค่มู อื ครูรายวิชาพื้นฐานวทิ ยาศาสตร์ ป.2 เล่ม 2 | หน่วยที่ 3 แสงและส่งิ มชี ีวิต 26 ทกุ ทิศทาง แนวตรง คำถามของนกั เรยี นท่ตี ั้งตามความอยากรขู้ องตนเอง สถาบนั ส่งเสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ⎯

27 คู่มือครรู ายวิชาพื้นฐานวทิ ยาศาสตร์ ป.2 เลม่ 2 | หน่วยที่ 3 แสงและส่งิ มีชีวิต แนวการประเมินการเรยี นรู้ การประเมินการเรยี นร้ขู องนักเรียนทำได้ ดังนี้ 1. ประเมินความรู้เดิมจากการอภิปรายในชัน้ เรยี น 2. ประเมินการเรยี นรู้จากคำตอบของนักเรียนระหว่างการจดั การเรียนรแู้ ละจากแบบบนั ทึกกิจกรรม 3. ประเมนิ ทกั ษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์และทักษะแหง่ ศตวรรษท่ี 21 จากการทำกจิ กรรมของนักเรยี น การประเมินจากการทำกจิ กรรมที่ 1.1 แสงเคลื่อนท่ีอยา่ งไร ระดับคะแนน 1 คะแนน หมายถึง ควรปรับปรงุ 3 คะแนน หมายถงึ ดี 2 คะแนน หมายถงึ พอใช้ รหัส สง่ิ ทีป่ ระเมนิ ระดับคะแนน ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ S1 การสังเกต S8 การลงความเห็นจากขอ้ มูล S13 การตคี วามหมายขอ้ มูลและลงขอ้ สรปุ S14 การสรา้ งแบบจำลอง ทักษะแห่งศตวรรษที่ 21 C4 การสอื่ สาร C5 ความรว่ มมือ รวมคะแนน ⎯ สถาบนั ส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

คมู่ ือครูรายวิชาพนื้ ฐานวทิ ยาศาสตร์ ป.2 เล่ม 2 | หน่วยที่ 3 แสงและสงิ่ มชี ีวติ 28 ตาราง แสดงการวเิ คราะห์ทักษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตรต์ ามระดบั ความสามารถของนักเรยี น โดยอาจใชเ้ กณฑก์ ารประเมนิ ดงั น้ี ทกั ษะกระบวนการ รายการประเมิน ระดบั ความสามารถ ทางวิทยาศาสตร์ ดี (3) พอใช้ (2) ควรปรับปรุง (1) S1 การสงั เกต การบรรยาย สามารถใช้ประสาทสัมผัส สามารถใช้ประสาทสัมผัส สามารถใช้ประสาท รายละเอียดของส่ิง เก็บรายละเอียดข้อมูลและ เก็บรายละเอียดข้อมูล สั ม ผั ส เ ก็ บ ทส่ี งั เกต คือ ลำแสง บรรยายส่ิงที่สังเกตได้ด้วย และบรรยายสิ่งท่ีสังเกตได้ รายละเอียดข้อมูลได้ ทอ่ี อกจาก ตนเอง โดยไม่เพิ่มความ โดยไม่เพ่ิมความคิดเห็น บ า ง ส่ ว น แ ล ะ แหลง่ กำเนิดแสง คดิ เห็น แต่อาศัยการชี้แนะของครู บรรยายสิ่งท่ีสังเกต เป็นแนวตรง และ หรือผู้อน่ื ได้ แต่มีการเพิ่มเติม ออกจาก ความคดิ เหน็ สว่ นตัว แหลง่ กำเนดิ แสงทุก ทศิ ทาง S8 การลง การลงความเห็ น สามารถลงความเห็นจาก สามารถลงความเห็นจาก สามารถลงความเหน็ ความเห็นจาก จากข้อมูลว่าแสง ขอ้ มูลได้ถกู ต้องดว้ ยตนเอง ข้อมูลได้ถูกต้องโดยอาศัย จากข้อมลู ได้แต่ไม่ ข้อมูล เคล่ือนท่ีออกจาก ว่าแสงเคลื่อนที่ออกจาก การชี้แนะจากครูหรือ ครบถว้ น แม้วา่ จะได้ แหล่งกำเนิดแสง แหล่งกำเนิดแสงเป็นแนว ผู้อ่ืนว่าแสงเคลื่อนท่ีออก รบั คำช้ีแนะจากครู เป็นแนวตรง ทุก ตรงทกุ ทศิ ทาง จากแหล่งกำเนิดแสงเป็น หรือผูอ้ ื่น ทศิ ทาง แนวตรง ทกุ ทิศทาง S13 การ การตีความหมาย ส าม ารถ ตี ค วาม ห ม าย สามารถตีความห มาย สามารถ ตีความหมายข้อมูล ข้ อ มู ล จ า ก ก า ร ข้อมูลจากการสังเกตได้ ข้อมูลจากการสังเกตได้ ตคี วามหมายข้อมูล และลงข้อสรุป สั ง เ ก ต ว่ า แ ส ง ถู ก ต้ อ ง ค รบ ถ้ ว น ด้ ว ย ถูก ต้ อ งโด ย อาศั ย ก าร จากการสงั เกตได้ เคลื่อนที่ออกจาก ตนเองว่าแสงเคลื่อนท่ีออก ชี้แนะจากครูหรือผู้อ่ืนว่า เพยี งบางสว่ น แม้ว่า แหล่งกำเนิดแสงทุก จากแหล่งกำเนิดแสงทุก แสงเคล่ือนท่ีออกจาก จะไดร้ ับคำชแี้ นะ ทศิ ทางเปน็ แนวตรง ทศิ ทางเป็นแนวตรง แ ห ล่ ง ก ำ เนิ ด แ ส ง ทุ ก จากครูหรอื ผู้อ่นื วา่ ทิศทางเป็นแนวตรง แสงเคลือ่ นท่ีออก จากแหลง่ กำเนิดแสง ทกุ ทิศทางเปน็ แนว ตรง สถาบนั ส่งเสรมิ การสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ⎯

29 ค่มู อื ครรู ายวิชาพื้นฐานวทิ ยาศาสตร์ ป.2 เลม่ 2 | หน่วยท่ี 3 แสงและสงิ่ มีชีวติ ทักษะกระบวนการ รายการประเมิน ระดับความสามารถ ทางวิทยาศาสตร์ ดี (3) พอใช้ (2) ควรปรบั ปรงุ (1) S14 ก า ร ส ร้ า ง การอธบิ ายลกั ษณะ สามารถอธิบายลักษณะ สามารถอธิบายลักษณะ สามารถอธิบาย แบบจำลอง การเคลื่อนท่ขี อง การเคล่อื นทขี่ องแสงจาก การเคลื่อนท่ขี องแสงจาก ลักษณะการเคลอ่ื นที่ แสงจาก แหล่งกำเนดิ แสง โดยการ แหล่งกำเนิดแสง โดยการ ของแสงจาก แหลง่ กำเนิดแสง เขยี นแผนภาพได้ถูกตอ้ ง เขียนแผนภาพได้ถูกตอ้ ง แหล่งกำเนดิ แสง โดย โดยการเขียน ดว้ ยตนเอง จากการชีแ้ นะจากครหู รือ การเขียนแผนภาพได้ แผนภาพ ผ้อู ื่น แต่นำเสนอข้อมลู แต่ ไมส่ มบูรณ์ ครบถว้ น แม้ว่าจะได้รับการ ช้แี นะจากครูหรือผู้อ่ืน ตาราง แสดงการวิเคราะห์ทักษะแห่งศตวรรษที่ 21 ตามระดับความสามารถของนกั เรียน โดยอาจใช้เกณฑ์การประเมิน ดังนี้ ทกั ษะแห่ง รายการประเมิน ระดับความสามารถ ศตวรรษที่ 21 C4 การสือ่ สาร การนำเสนอ ดี (3) พอใช้ (2) ควรปรบั ปรงุ (1) แผนภาพแสดง C5 ความ ลกั ษณะการ สามารถนำเสนอแผนภาพ สามารถนำเสนอแผนภาพ ส า ม า ร ถ น ำ เ ส น อ ร่วมมือ เคลื่อนที่ของแสง จากแหลง่ กำเนิด แสดงลกั ษณะการ แสดงลักษณะการเคล่ือนที่ แผนภาพแสดงลักษณะ แสงให้ผู้อ่นื เขา้ ใจ เคลือ่ นท่ีของแสงจาก ของแสงจากแหล่งกำเนิดแสง การเคล่อื นที่ของแสงจาก การทำงานร่วมกบั ผอู้ น่ื ในการอภิปราย แหล่งกำเนดิ แสงไดถ้ ูกต้อง ไดถ้ ูกตอ้ ง จากการช้ีแนะของ แหล่งกำเนิดแสงได้แต่ไม่ และนำเสนอ ลกั ษณะการ ดว้ ยตนเอง ครหู รือผูอ้ น่ื ครบ ถ้วน แม้ว่าจะได้ เคลอ่ื นที่ของแสง จากแหล่งกำเนิด รับคำช้ีแนะจากครูหรือ แสง รวมท้ังยอมรับ ความคดิ เห็นของ ผอู้ นื่ ผอู้ ่ืน สามารถทำงานร่วมกับ สามารถทำงานร่วมกับผู้อื่นใน สามารถทำงานร่วมกับ ผู้อื่นในการอภิปรายและ การอภิปรายและนำเสนอ ผู้อื่นในการอภิปรายและ น ำเส น อ ลั ก ษ ณ ะ ก า ร ลักษณะการเคล่ือนที่ของแสง นำเสนอเปน็ บางช่วงเวลา เค ลื่ อ น ท่ี ข อ งแ ส งจ าก จากแหล่งกำเนิดแสง รวมทั้ง ที่ทำกิจกรรม แต่ไม่แสดง แหล่งกำเนิดแสง รวมท้ัง ยอมรับความคิดเห็นของผู้อ่ืน ค ว าม ส น ใจ ต่ อ ค ว าม ยอมรับความคิดเห็นของ เป็นบางชว่ งเวลาทที่ ำกจิ กรรม คิดเห็นของผู้อ่ืน ท้ังนี้ ผู้อ่ืนตัง้ แตเ่ รม่ิ ตน้ จนสำเร็จ ต้ อ ง อ า ศั ย ก า ร ก ร ะ ตุ้ น จากครูหรอื ผูอ้ นื่ ⎯ สถาบันสง่ เสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี

คมู่ อื ครรู ายวิชาพนื้ ฐานวทิ ยาศาสตร์ ป.2 เลม่ 2 | หน่วยท่ี 3 แสงและสิ่งมชี ีวิต 30 กิจกรรมที่ 1.2 มองเห็นวตั ถตุ า่ ง ๆ ได้อย่างไร กิจกรรมนี้นักเรียนจะได้ฝึกการสังเกตและอธิบายการ ม อ ง เห็ น วั ต ถุ ที่ เป็ น แ ห ล่ ง ก ำ เนิ ด แ ส ง แ ล ะ วั ต ถุ ที่ ไ ม่ เป็ น แหล่งกำเนิดแสง ตลอดจนรวบรวมข้อมูลและเสนอแนะแนว ทางการป้องกันอันตรายท่ีอาจเกิดกับตาเนื่องจากมองวัตถุใน บรเิ วณทม่ี แี สงสว่างไม่เหมาะสม เวลา 3 ช่วั โมง จุดประสงค์การเรยี นรู้ 1. สงั เกตและอธิบายการมองเห็นวัตถทุ ี่เปน็ แหลง่ กำเนดิ แสง 2. สังเกตและอธิบายการมองเห็นวตั ถุที่ไมเ่ ปน็ ทักษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ แหลง่ กำเนดิ แสง S1 การสังเกต S7 การพยากรณ์ 3. รวบรวมขอ้ มูลและเสนอแนะแนวทางการป้องกนั S8 การลงความเห็นจากข้อมูล S13 การตีความหมายข้อมูลและลงข้อสรุป อันตรายที่อาจเกิดกบั ตาเน่ืองจากการมองวัตถุใน S14 การสร้างแบบจำลอง บรเิ วณที่มแี สงสวา่ งไม่เหมาะสม ทกั ษะแหง่ ศตวรรษที่ 21 วัสดุ อปุ กรณ์สำหรบั ทำกจิ กรรม C4 การสื่อสาร C5 ความรว่ มมือ สงิ่ ทค่ี รตู อ้ งเตรยี ม/กลุ่ม C6 การใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศและการส่อื สาร 1. ลกู บอลพลาสติกสี 1 ลกู สอ่ื การเรยี นรู้และแหล่งเรียนรู้ 2. เทยี นไข 1 เลม่ 1. หนงั สือเรยี น ป.2 เลม่ 2 หนา้ 8-12 2. แบบบนั ทึกกิจกรรม ป.2 เลม่ 2 หนา้ 10-16 3. กล่องกระดาษ 1 กลอ่ ง 3. วดี ิทัศน์ตวั อย่างการปฏิบตั ิการทางวทิ ยาศาสตร์ 4. ดินนำ้ มัน 1 ก้อน สำหรบั ครู เร่อื ง มองเหน็ วตั ถุได้อยา่ งไร http://ipst.me/9867 5. ฝาขวดนำ้ 1 ฝา ส่ิงทคี่ รตู ้องเตรยี ม/ห้อง 1. เทปใส 1 มว้ น 2. ไม้ขดี ไฟ 1 กล่อง สถาบันส่งเสริมการสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ⎯

31 คมู่ ือครรู ายวิชาพ้ืนฐานวทิ ยาศาสตร์ ป.2 เลม่ 2 | หน่วยท่ี 3 แสงและส่งิ มชี ีวิต แนวการจดั การเรยี นรู้ ในการตรวจสอบความรู้ ครู เพียงรับฟังเหตุผลของนักเรียนและ 1. ครูชักชวนนักเรียนทำกิจกรรมเพ่ือให้ตระหนักถึงความสำคัญของ ยังไม่เฉลยคำตอบใด ๆ แต่ชักชวน ตาซึ่งเป็นอวัยวะสำคัญในการมองเห็นโดยอาจตรวจสอบความรู้ ให้นักเรียนไปหาคำตอบด้วยตนเอง เดิมของนักเรียนเพื่อเชื่อมโยงไปสู่กิจกรรมที่ 1.2 โดยใช้คำถามว่า จากการทำกิจกรรม ถ้าเราหลับตาแล้วเดินหาส่ิงของในห้อง นักเรียนจะสามารถหา ส่ิงของนั้นได้หรือไม่ เพราะเหตุใด ทั้งนี้ครูอาจให้นักเรียนลอง หลับตาแล้วเดินหาสิ่งของในห้อง เพ่ือให้ทุกคนตระหนักว่าตามี ความสำคัญต่อการมองเห็น จากน้ันครูอาจถามนักเรียนต่อว่า นอกจากตาแล้ว ยังต้องอาศัยสิ่งใดอีกท่ีช่วยให้มองเห็นสิ่งต่าง ๆ รอบตวั เรา (นกั เรียนตอบตามความเข้าใจของตนเอง) 2. นักเรียนอ่านชื่อกจิ กรรม และทำเปน็ คดิ เป็น โดยร่วมกันอภิปราย เพื่อตรวจสอบความเข้าใจจุดประสงค์ในการทำกิจกรรม ตามแนว คำถามดังน้ี 2.1 กิจกรรมนี้นักเรียนจะได้เรียนเร่ืองอะไร (การมองเห็นวัตถุ ท้ังที่เป็นแหล่งกำเนิดแสงและไม่เป็นแหล่งกำเนิดแสง รวมท้ังแนวทางการป้องกันอนั ตรายทอ่ี าจเกิดกบั ตาเน่ืองจาก การมองวตั ถใุ นบริเวณท่มี ีแสงสว่างไม่เหมาะสม) 2.2 นักเรียนจะได้เรียนรู้เรื่องนี้ด้วยวิธีใด (สังเกตและรวบรวม ขอ้ มูล) 2.3 เมอื่ เรยี นแลว้ นกั เรียนจะทำอะไรได้ (อธบิ ายการมองเห็นวัตถุ ท่ีเป็นแหล่งกำเนิดแสงและวัตถุท่ีไม่เป็นแหล่งกำเนิดแสง และเสนอแนะแนวทางการป้องกันอันตรายท่ีอาจเกิดกับตา เนอ่ื งจากการมองวตั ถใุ นบริเวณท่มี ีแสงสว่างไมเ่ หมาะสม) 3. นกั เรียนบันทึกจุดประสงค์ลงในแบบบันทึกกิจกรรม หน้า 10 และ อ่านส่ิงทตี่ อ้ งใช้ในการทำกจิ กรรม 4. นักเรียนอา่ นทำอย่างไร ตอนท่ี 1 แล้วร่วมกนั อภปิ รายเพ่ือสรุป ลำดับขนั้ ตอนตามความเขา้ ใจ โดยครูใช้คำถามดังตอ่ ไปนี้ 4.1 เม่ือได้รับอุปกรณ์แล้ว นักเรียนต้องจัดอุปกรณ์อย่างไรบ้าง (เจาะรูที่ด้านข้างกล่องกระดาษ 1 รู ให้มีขนาดเท่ากับแท่ง ดินสอ นำดินน้ำมันบรรจุลงในฝาขวดน้ำ แล้วใช้เทปกาวติด ฝาขวดน้ำให้ติดกับกล่องให้แน่น ปักเทียนไขลงในดินน้ำมัน จากนั้นนำลกู บอลวางในกล่องข้าง ๆ เทียนไข) ⎯ สถาบันสง่ เสรมิ การสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

คู่มือครรู ายวิชาพนื้ ฐานวทิ ยาศาสตร์ ป.2 เลม่ 2 | หน่วยที่ 3 แสงและส่งิ มีชีวิต 32 4.2 หลังจากจัดวางอุปกรณ์เสร็จแล้ว นักเรียนต้องพยากรณ์ ตัวอยา่ งการจัดวางอุปกรณ์ เก่ียวกับเร่ืองใด (ถ้ามองผ่านรูเข้าไปในกล่องที่ปิดฝาสนิท ระหว่างก่อนจุดเทียนไขและเมื่อจุดเทียนไข แล้วจะมองเห็น ทกั ษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์และทกั ษะแห่ง ลูกบอลและเทียนไขท่อี ยใู่ นกล่องแตกตา่ งกันหรอื ไม)่ ศตวรรษที่ 21 ท่ีนักเรียนจะไดฝ้ กึ จากการทำกจิ กรรม 4.3 เม่ือพยากรณ์และตรวจสอบการพยากรณ์แล้ว นักเรียนต้อง ตอนท่ี 1 ร่วมกันอภิปรายเก่ียวกับอะไร (สาเหตุท่ีทำให้มองเห็นวัตถุที่ S1 การสังเกตการมองเหน็ สง่ิ ท่อี ยใู่ นกลอ่ ง เปน็ แหล่งกำเนิดแสงและวตั ถุท่ีไมเ่ ปน็ แหล่งกำเนิดแสง) S7 การพยากรณ์เกยี่ วกับการมองเหน็ เทยี นไขและ 4.4 หลังจากอภิปรายแล้ว นักเรียนต้องทำขั้นตอนใดต่อไป ลูกบอลท่ีอยใู่ นกล่อง (เขียนแผนภาพแสดงแนวการเคลื่อนที่ของแสงท่ีทำให้ S8 การลงความเห็นจากข้อมูลเกยี่ วกบั การมองเหน็ ม อ ง เห็ น วั ต ถุ ท่ี เป็ น แ ห ล่ ง ก ำ เนิ ด แ ส ง แ ล ะ วั ต ถุ ที่ ไ ม่ เป็ น แหลง่ กำเนิดแสง) วตั ถทุ ี่เปน็ แหลง่ กำเนดิ แสงและไม่เปน็ ครูอาจทบทวนข้ันตอนหรือวิธีการเขียนแผนภาพแสดงการ แหลง่ กำเนดิ แสง S14 การสร้างแบบจำลองโดยการเขยี นแผนภาพ เคล่ือนที่ของแสงจากแหล่งกำเนิดแสงโดยใช้ลูกศร ซึ่งนักเรียนได้ แสดงลักษณะการเคล่ือนท่ขี องแสงจาก เรียนผ่านมาแล้วในกิจกรรมท่ี 1.1 นอกจากน้ีครูควรให้นักเรียน แหล่งกำเนิดนแักสเงรียนอาจไม่สามารถตอบ แต่ละกลุ่มแบ่งงานหน้าที่ต่าง ๆ ในขณะจัดวางอุปกรณ์การทำ C4 การสือ่ สคาำรถโดายมกหารรือนอำภเสิปนรอายผไลดก้ตาารมสแงั เนกวตใน กิจกรรม และกำชับให้นักเรียนทุกคนสังเกตผลการทำกิจกรรม กิจกรรมคำตอบ ครูควรให้เวลานักเรียน อย่างละเอยี ด C5 ความร่วอคมิดดมอทือยในน่ากงแเาลหระมทราำับะกฟสิจมังกแรรนรอมวคแคอลวยะาอกมยาค่าริดง 5. เมอ่ื นกั เรียนเขา้ ใจวิธกี ารทำกิจกรรมในทำอยา่ งไรแล้ว ครแู จก อภปิ รายของนกั เรยี น อปุ กรณ์ และให้นักเรยี นเร่มิ ปฏบิ ัติกิจกรรมตามขั้นตอน 6. หลังจากทำกิจกรรมแล้ว ครูนำอภิปรายผลการทำกิจกรรม ตอนท่ี 1 โดยใชค้ ำถามดงั น้ี 6.1 นักเรียนมองผ่านรูเข้าไปในกล่อง ก่อนจุดเทียนไข การ มองเห็นเทียนไขและลูกบอลเป็นอย่างไร (มองไม่เห็นท้ัง เทียนไขและลูกบอล) 6.2 นักเรียนมองผ่านรูเข้าไปในกล่อง เม่ือจุดเทียนไข แล้วการ มองเห็นเทียนไขและลูกบอลเป็นอย่างไร (มองเห็นท้ังเทียน ไขและ ลกู บอล) 6.3 แหล่งกำเนิดแสงของกิจกรรมน้ี คืออะไร (เปลวไฟจาก เทียนไข) 6.4 การมองเห็นเปลวไฟจากเทียนไขมีขั้นตอนอย่างไร (แสงจาก เปลวไฟจากเทียนไขซ่ึงเป็นแหล่งกำเนิดแสงเคลื่อนท่ีเขา้ สู่ตา โดยตรง) สถาบันส่งเสริมการสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ⎯

33 คู่มอื ครูรายวิชาพน้ื ฐานวทิ ยาศาสตร์ ป.2 เล่ม 2 | หน่วยที่ 3 แสงและส่งิ มีชีวติ 6.5 วัตถุที่ไม่ใช่แหล่งกำเนิดแสงในกิจกรรมนี้ คืออะไร (เทียนไข ทีย่ งั ไมไ่ ดจ้ ดุ และลูกบอล) 6.6 เม่ือจุดเทียนไขแล้ว นักเรียนเห็นเทียนไขและลูกบอลได้ อย่างไร (แสงจากเปลวเทียนไขซึ่งเป็นแหล่งกำเนิดแสงตก กระทบเทียนไขและลูกบอลซ่ึงเป็นวัตถุท่ีไม่ใช่แหล่งกำเนิด แสงแล้วสะท้อนเขา้ ส่ตู า) 6.7 เพราะเหตุใดการมองเห็นวัตถุที่เป็นแหล่งกำเนิดแสงและไม่ เป็นแหล่งกำเนิดแสงจึงแตกต่างกัน (เพราะวัตถุท่ีเป็น แหล่งกำเนิดแสง จะมีแสงในตัวเอง ทำให้แสงเข้าสู่ตาได้ โดยตรง แต่วัตถุที่ไม่เป็นแหล่งกำเนิดแสง จะไม่มีแสงใน ตัวเอง ทำใหต้ ้องอาศยั แสงจากวตั ถุทเ่ี ป็นแหล่งกำเนิดแสงมา ตกกระทบแล้วสะท้อนเข้าตา) 6.8 เขียนแผนภาพแสดงแนวการเคล่ือนท่ีของแสงท่ีทำให้ ม อ ง เห็ น วั ต ถุ ที่ เป็ น แ ห ล่ ง ก ำ เนิ ด แ ส ง แ ล ะ วั ต ถุ ที่ ไม่ เป็ น แหล่งกำเนิดแสงได้อย่างไร (แผนภาพแสดงแนวการ เคลื่อนท่ีของแสงจากวัตถุท่ีเป็นแหล่งกำเนิดแสง แสดงได้ ด้วยลูกศร โดย ให้ หั วลูกศรพุ่ งออ กจากวัต ถุที่ เป็ น แหล่งกำเนิดแสงเข้าสู่ตา แต่การมองเห็นวัตถุท่ีไม่เป็น แหล่งกำเนิดแสง แสดงได้โดยให้หัวลูกศรพุ่งออกจากวัตถุท่ี เป็นแหล่งกำเนิดแสงเข้าสู่วัตถุที่ไม่เป็นแหล่งกำเนิดแสง จากนั้นให้หัวลูกศรพุ่งออกจากวัตถุที่ไม่เป็นแหล่งกำเนิด แสงเขา้ สตู่ า) ครใู ห้ความรู้เพ่ิมเติมว่าการเขียนแผนภาพแสดงการมองเห็น แหล่งกำเนิดแสงจะเขียนลูกศรแสดงแนวการเคลื่อนที่ของแสง ออกจากแหล่งกำเนิดแสงไปยังตาของคนที่มอง ครูเขียนตัวอย่าง แผนภาพแนวการเคลื่อนที่ของแสงจากหลอดไฟฟ้าซ่ึงเป็นวัตถุท่ี เป็นแหลง่ กำเนดิ แสงไปยงั ตาไว้บนกระดาน ดงั รูป ⎯ สถาบันสง่ เสริมการสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี

คู่มือครูรายวิชาพ้ืนฐานวทิ ยาศาสตร์ ป.2 เล่ม 2 | หน่วยท่ี 3 แสงและส่ิงมชี ีวิต 34 ส่วนการเขียนแผนภาพแสดงการมองเห็นวัตถุท่ีไม่เป็นแหล่งกำเนิด แสงจะเขียนลูกศรแสดงแนวการเคลื่อนท่ีของแสงจากแหล่งกำเนิด แสงมากระทบวัตถุแล้วสะท้อนเข้าสู่ตา ครูเขียนตัวอย่างแผนภาพ แนวการเคลื่อนที่ของแสงจากแหล่งกำเนิดแสงกระทบดินสอซ่ึงเป็น วัตถุท่ีไม่เป็นแหล่งกำเนิดแสงแล้วสะท้อนเข้าสู่ตาไว้บนกระดาน ดงั รปู 7. ครูอาจให้ตัวแทนนักเรียนออกมาวาดแผนภาพการมองเห็น เปลวไฟจากเทียนไขที่อยู่ภายในกล่อง และการมองเห็นลูกบอล ภายในกล่องบนกระดาน 8. ครูชักชวนให้นักเรียนเปรียบเทียบผลการสังเกตกับการพยากรณ์ ของตนเองด้วย 9. ครูตรวจสอบความเข้าใจเร่ืองการมองเห็นของนักเรียน โดยอาจ ถามว่าถ้าเราตอ้ งเดนิ เข้าไปหาสิง่ ของในหอ้ งที่มืดสนิท นกั เรียนจะ สามารถมองเห็นสิ่งของได้หรือไม่ เพราะเหตุใด (เราไม่สามารถ มองเห็นส่ิงของใดในห้องได้เลย เพราะไม่มีแสงจากแหล่งกำเนิด แสงมากระทบส่ิงของน้ัน ๆ ทำให้ไม่สามารถมองเห็นส่ิงของได้) และทำอย่างไรจึงจะสามารถหาส่ิงของน้ันได้ (เราต้องหาแสงจาก แหล่งกำเนิดแสงต่าง ๆ เช่น แสงจากไฟฉายหรือแสงจากเทียนไข มาช่วยในการมองเหน็ ) นักเรียนบางคนอาจคิดว่าถ้ามองส่ิงของในห้องท่ีมืดสนิทใน ช่วงแรกอาจจะมองไม่เห็นวัตถุ แต่เมื่อสายตาชินต่อความมืด สักพักสายตาจะปรับ ทำให้สามารถมองเห็นวัตถุได้ ครูควรแก้ไข แนวคดิ คลาดเคล่ือนของนกั เรยี น โดยอาจจดั กิจกรรม ดังนี้ - นำกระดาษ A4 จำนวน 3 – 4 แผ่น วางซ้อนกัน แลว้ มว้ นกระดาษให้เปน็ ทรงกระบอก สถาบันส่งเสรมิ การสอนวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ⎯

35 ค่มู ือครูรายวิชาพ้นื ฐานวิทยาศาสตร์ ป.2 เล่ม 2 | หน่วยที่ 3 แสงและส่ิงมชี ีวิต - นำม้วนกระดาษทรงกระบอกวางในแนวตั้งบนหน้า กระดาษ A4 ท่ีม้วนเปน็ ทรงกระบอก หนังสือให้ครอบตัวอักษรในหนังสือ โดยให้ปลายม้วน กระดาษทรงกระบอกแนบกับพ้ืนกระดาษ ดังรูป หนงั สอื - ให้นักเรียนมองตัวหนังสือที่ปลายม้วนกระดาษ ทกั ษะกระบวนการทางวิทยาศาสตรแ์ ละทักษะแห่ง ทรงกระบอกที่วางทับไว้ โดยให้เบ้าตาแนบชิดกับปลาย ศตวรรษท่ี 21 ทีน่ ักเรยี นจะไดฝ้ กึ จากการทำกจิ กรรม ด้านบนของม้วนกระดาษทรงกระบอก ผลที่ปรากฏคือ นักเรยี นจะไมส่ ามารถมองเห็นตัวหนงั สือได้ ไม่ว่าจะมอง ตอนที่ 2 อยู่นานเพียงใดก็ตาม C4 การสอื่ สารโดยการนำเสนอแนวทางการ - เมื่อให้นักเรียนเอียงม้วนกระดาษเล็กน้อยเพื่อให้ปลาย ปอ้ งกนั อนั ตรายในรูปแบบท่นี ่าสนใจ ด้านล่างของม้วนกระดาษเผลอข้ึน แล้วมองตัวหนังสือ C5 ความรว่ มมือในการอภิปรายเกย่ี วกบั อันตราย อีกคร้ัง ในคร้ังน้ีนักเรียนจะสามารถมองเห็นตัวหนังสือ ได้ ที่อาจเกดิ กบั ตาเมื่อทำกจิ กรรมในบรเิ วณที่มี แสงสว่างไมเ่ หมาะสม ครูนำอภิปรายเกี่ยวกับการมองไม่เห็นหรือมองเห็นตัวหนังสือใน C6 การใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศและการสอื่ สาร ในการสืบค้นข้อมูลจากแหล่งเรยี นรูต้ า่ ง ๆ กิจกรรมดังกล่าวเพื่อให้ได้ข้อสรุปว่า เราจะเห็นตัวหนังสือเมื่อมีแสง มากระทบตัวหนังสือ แล้วสะท้อนเข้าสู่ตา จากน้ันครูและนักเรียน รว่ มกันอภิปรายว่าท่นี กั เรยี นเคยคดิ ว่าถา้ มองส่ิงของในหอ้ งมืด เม่อื รอ สกั พักสายตาจะปรับให้มองเห็นในทีม่ ืดได้ แสดงว่าในห้องนน้ั ไม่ได้มืด สนิทจริง แตย่ ังคงมีแสงจากแหล่งกำเนดิ แสงมากระทบวัตถุอยู่ 10.นักเรียนอา่ นทำอยา่ งไร ตอนท่ี 2 แล้วรว่ มกันอภิปรายเพ่ือสรุป ลำดบั ขั้นตอนตามความเข้าใจ โดยครใู ช้คำถามดังต่อไปนี้ 10.1นักเรียนต้องทำอะไรเป็นขั้นตอนแรก (ร่วมกันอภิปราย เกี่ยวกับอันตรายที่อาจเกิดกับตาเมื่อทำกิจกรรมในบริเวณที่ มแี สงสว่างไมเ่ หมาะสม) 10.2หลังจากอภิปรายแล้ว นักเรียนจะทำอะไรต่อไป (อ่านใบ ความรู้เร่ืองอันตรายจากการมองวัตถุในบริเวณท่ีมีแสงสว่าง ไม่เหมาะสม สบื ค้นข้อมูลจากแหล่งเรียนรู้ต่าง ๆ และบันทึก ผลการรวบรวมข้อมูล) 10.3เม่ือนักเรยี นได้ข้อมูลเกี่ยวกับอันตรายจากการมองในบริเวณ ที่มีแสงสว่างไม่เหมาะสมแล้ว นักเรียนต้องทำอะไรต่อ (ร่วมกันอภิปรายและนำเสนอแนวทางการป้องกันอันตราย ในรูปแบบทีน่ า่ สนใจ) ⎯ สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี

คู่มอื ครูรายวิชาพ้นื ฐานวิทยาศาสตร์ ป.2 เล่ม 2 | หน่วยท่ี 3 แสงและสิ่งมีชีวติ 36 10.4การนำเสนอข้อมูลในรูปแบบที่น่าสนใจ ทำได้อย่างไรบ้าง (นักเรียนตอบตามความเข้าใจ เช่น ทำโปสเตอร์ วาดรูป) 11.เม่อื นกั เรยี นเข้าใจวิธีการทำกิจกรรมในทำอยา่ งไรแล้ว ครใู ห้ นักเรยี นเรม่ิ ปฏบิ ตั ิกิจกรรมตามข้ันตอนของกจิ กรรม 12.หลังจากทำกิจกรรมแล้ว ครูนำอภิปรายผลการทำกิจกรรม โดยใช้ คำถามดงั นี้ 12.1บรเิ วณท่ีมีแสงสว่างไม่เหมาะสมมีลักษณะอย่างไร (บริเวณที่ มีแสงสว่างไม่เหมาะสม ได้แก่ บรเิ วณท่ีมแี สงน้อย หรอื มีแสง จ้ามากเกนิ ไป) 12.2การจ้องมองจอโทรศัพท์เคลื่อนที่เป็นเวลานาน ๆ อาจะเกิด ผลเสียอยา่ งไรบา้ ง (อาจทำใหเ้ กิดอาการตาพรา่ ) 12.3 วิธีการป้องกันอันตรายที่อาจเกิดกับตาจากการมองวัตถุ ใน บริเวณท่ีมีแสงสว่างไม่เหมาะสม ทำได้อย่างไรบ้าง (ไม่จ้อง มองจอโทรศัพท์หรือคอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน ไม่มอง จอโทรทัศน์ในห้องที่ปิดไฟมืด และต้องจัดแสงสว่างให้ เหมาะสมกบั ลกั ษณะการทำงาน) 12.4อาชีพใดที่ต้องทำงานกับแสงจ้า และจะมีวิธีการป้องกันได้ อย่างไร (ช่างเช่ือมเหล็ก มีวิธีป้องกัน คือ ต้องสวมหน้ากาก ป้องกันแสงจ้าจากประกายไฟในขณะทำงานเพื่อป้องกัน อันตรายท่ีอาจเกิดกบั ตา) 13.ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปผลการทำกิจกรรมดังนี้ การมองเห็น วัตถุต่าง ๆ ต้องมีแสงเข้าสู่ตา โดยการมองเห็นวัตถุ ท่ีเป็น แหล่งกำเนิดแสง จะมีแสงจากแหล่งกำเนิดแสงเข้าสู่ตาโดยตรง สว่ นการมองเห็นวัตถุที่ไม่เปน็ แหล่งกำเนิดแสง ต้องอาศัยแสงจาก วัตถุท่ีเป็นแหล่งกำเนิดแสงมาตกกระทบวัตถุนั้นแล้วสะท้อนเข้าสู่ ตา การมองวัตถุในบริเวณท่ีมีแสงสว่างมากหรือน้อยเกินไป จะ เป็นอันตรายต่อตา ป้องกันได้โดยจัดความสว่างให้เหมาะสมกับ การทำกิจกรรมต่าง ๆ (S13) 14.นกั เรียนร่วมกันอภิปรายเพ่ือตอบคำถามใน ฉันรู้อะไร โดยครูอาจ ใช้คำถามเพม่ิ เติมในการอภปิ รายเพ่อื ให้ได้แนวคำตอบท่ีถูกตอ้ ง 15.นักเรยี นรว่ มกนั สรุปสงิ่ ที่ไดเ้ รียนรใู้ นกิจกรรมนี้ จากน้ันนกั เรยี น อ่าน สง่ิ ทไ่ี ด้เรียนรู้ และเปรยี บเทียบกับข้อสรปุ ของตนเอง สถาบันสง่ เสริมการสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ⎯

37 คมู่ ือครูรายวิชาพน้ื ฐานวทิ ยาศาสตร์ ป.2 เล่ม 2 | หน่วยท่ี 3 แสงและสิง่ มีชีวิต 16.ครูกระตุ้นให้นักเรียนฝกึ ต้งั คำถามเก่ียวกับเรอื่ งท่ีสงสัยหรืออยากรู้ การเตรียมตัวลว่ งหน้าสำหรบั ครู เพิ่มเติมใน อยากรู้อีกว่า จากนั้นครูอาจสุ่มนักเรียน 2 -3 คน เพื่อจดั การเรยี นรูใ้ นครงั้ ถดั ไป นำเสนอคำถามของตนเองหน้าชัน้ เรยี น จากน้ันให้นักเรยี นร่วมกัน อภิปรายเกี่ยวกับคำถามทนี่ ำเสนอ ในคร้ังถัดไป นักเรียนจะได้เรียนบท ท่ี 2 ส่ิงมีชีวิต โดยครูเตรียมภาพสัตว์และพืช 17.ครูนำอภิปรายเพ่ือให้นักเรียนทบทวนว่าได้ฝึกทักษะกระบวนการ ที่นักเรียนคุ้นเคยในแหล่งท่ีอยู่หน่ึง ๆ เช่น ทางวิทยาศาสตร์และทักษะแห่งศตวรรษที่ 21 อะไรบ้างและใน ภาพแมวหรือสุนัขกำลงั กินน้ำในอ่างหรือสระ ขั้นตอนใดบา้ ง น้ำท่ีมีต้นไม้เจริญเติบโตอยู่เพื่อให้นักเรียน สังเกตและตอบคำถามในการทบทวนความรู้ 18.นักเรียนร่วมกันอ่านรู้อะไรในเร่ืองน้ี ในหนังสือเรียน หน้า 13 ครู พื้นฐาน นำอภิปรายเพื่อนำไปสู่ข้อสรุปเกี่ยวกับสิ่งที่ได้เรียนรู้ในเร่ืองนี้ จากน้ันครูกระตุ้นให้นักเรียนตอบคำถามในช่วงท้ายของเนื้อเรื่อง ดังน้ี “การป้องกันอันตรายที่อาจเกิดกับตาทำได้โดยจัดแสงสว่าง ให้เหมาะสมกับการทำกิจกรรมต่าง ๆ ลองคิดดูสิว่า กิจกรรม แต่ละอย่างต้องใช้แสงมากน้อยแตกต่างกันอย่างไร” โดยนักเรียน ตอบคำถามตามความคิดของตนเอง เช่น การอ่านหนังสือต้องใช้ แสงสว่างที่พอเหมาะ คือ ไม่อ่านหนังสือบริเวณกลางแจ้งที่มีแสง จ้าเกินไปหรือในห้องที่มีแสงสว่างน้อย ถ้าจำเป็นต้องอ่านหนังสือ ในห้องที่มีความสว่างน้อยก็อาจใช้โคมไฟเพ่ือเพิ่มความสว่างให้ เหมาะสม นอกจากน้ีครูอาจตั้งคำถามเพ่ือเชื่อมโยงไปยังบทต่อไป โดยอาจใช้คำถามว่านอกจากประโยชน์ของแสงในเรื่องการ มองเห็นแล้ว แสงจากดวงอาทิตย์ยังมีประโยชน์ต่อมนุษย์ สัตว์ พืช หรือไม่ อย่างไร โดยนักเรียนไปหาคำตอบได้จากการเรียนใน บทต่อไป ⎯ สถาบันสง่ เสรมิ การสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

คมู่ อื ครูรายวิชาพ้นื ฐานวิทยาศาสตร์ ป.2 เล่ม 2 | หน่วยท่ี 3 แสงและสิ่งมชี ีวติ 38 แนวคำตอบในแบบบนั ทกึ กจิ กรรม สงั เกตและอธิบายการมองเห็นวัตถุทเ่ี ปน็ แหล่งกำเนดิ แสง สงั เกตและอธิบายการมองเห็นวัตถุทไ่ี มเ่ ป็นแหล่งกำเนดิ แสง นักเรียน ✓ พยากรณ์ ✓ ตามความ คิดเหน็ ของ ตนเอง สถาบันสง่ เสรมิ การสอนวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ⎯

39 คู่มือครรู ายวิชาพ้นื ฐานวิทยาศาสตร์ ป.2 เลม่ 2 | หน่วยที่ 3 แสงและสิ่งมีชีวิต นกั เรียน ✓ พยากรณ์ ✓ ตามความ คิดเหน็ ของ ตนเอง ⎯ สถาบนั ส่งเสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี

ค่มู อื ครรู ายวิชาพน้ื ฐานวิทยาศาสตร์ ป.2 เล่ม 2 | หนว่ ยท่ี 3 แสงและสงิ่ มีชีวิต 40 รวบรวมข้อมลู และเสนอแนะแนวทางการปอ้ งกันอนั ตรายท่ีอาจเกิด กบั ตาจากการมองวตั ถุในบริเวณท่ีมีแสงสวา่ งไม่เหมาะสม บริเวณที่มแี สงสวา่ งไม่เพียงพอ หรือบรเิ วณที่มแี สงจ้ามากเกินไป ทำให้เกิดอาการตาพร่า แนวทางการป้องกนั ตามทน่ี ักเรยี นสบื คน้ ขอ้ มูลและรว่ มกันอภปิ ราย เช่น ไมม่ อง วัตถตุ า่ ง ๆ ในท่ีมดื หรือในบรเิ วณทีม่ แี สงสวา่ งไมเ่ พียงพอ หรอื บริเวณที่มแี สงจ้า มากเกนิ ไป ป้องกันไดโ้ ดยจัดแสงสวา่ งใหเ้ หมาะสมกับลกั ษณะงาน สถาบนั สง่ เสริมการสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ⎯

41 คู่มอื ครูรายวิชาพน้ื ฐานวิทยาศาสตร์ ป.2 เลม่ 2 | หน่วยท่ี 3 แสงและสิง่ มีชีวิต แตกต่าง มองไมเ่ หน็ มองเห็น เปลวเทยี นไข ตา แสงจากแหล่งกำเนดิ แสง แสงจากแหลง่ กำเนิดแสง ตา ⎯ สถาบันสง่ เสรมิ การสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

ค่มู อื ครรู ายวิชาพ้นื ฐานวทิ ยาศาสตร์ ป.2 เล่ม 2 | หนว่ ยท่ี 3 แสงและสง่ิ มชี ีวิต 42 วัตถทุ ่เี ป็นแหล่งกำเนดิ แสง วัตถุทไ่ี ม่เปน็ แหล่งกำเนิดแสง ตา แหลง่ กำเนิดแสง แสง แสง กระทบ มาก นอ้ ย เกดิ อาการตาพรา่ สถาบนั ส่งเสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ⎯

43 คมู่ ือครรู ายวิชาพื้นฐานวทิ ยาศาสตร์ ป.2 เลม่ 2 | หน่วยที่ 3 แสงและสง่ิ มีชีวิต ไมจ่ ้องมองสง่ิ ตา่ ง ๆ ในบริเวณทีม่ แี สงจา้ เกนิ ไป แตถ่ ้าจำเป็นตอ้ งมองส่ิงต่าง ๆ ใน บรเิ วณท่ีมีแสงจา้ อาจป้องกันไดโ้ ดยสวมแว่นตากันแดด ทำกจิ กรรมในบรเิ วณที่มีแสง สวา่ งเพยี งพอและเหมาะสมกบั กิจกรรม ไมจ่ ้องจอคอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน ไม่มอง จอโทรทัศน์ในห้องท่ปี ดิ ไฟมืด บริเวณทมี่ ีแสงสวา่ งไม่เพยี งพอหรือมากเกินไป น้อย มาก แสง ตา ⎯ สถาบันส่งเสรมิ การสอนวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี

ค่มู อื ครรู ายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์ ป.2 เล่ม 2 | หน่วยท่ี 3 แสงและสิ่งมชี ีวติ 44 คำถามของนักเรยี นที่ต้ังตามความอยากร้ขู องตนเอง สถาบนั สง่ เสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ⎯

45 คู่มอื ครูรายวิชาพืน้ ฐานวิทยาศาสตร์ ป.2 เลม่ 2 | หน่วยท่ี 3 แสงและส่งิ มชี ีวิต วาดรูปหรอื เขียนข้อความสรุปสิง่ ทไ่ี ดเ้ รียนร้จู ากบทเรยี นนี้ ตามความเข้าใจของนักเรียน ⎯ สถาบันส่งเสรมิ การสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

คู่มือครรู ายวิชาพืน้ ฐานวิทยาศาสตร์ ป.2 เล่ม 2 | หน่วยท่ี 3 แสงและส่งิ มชี ีวติ 46 แนวการประเมินการเรียนรู้ การประเมินการเรยี นรู้ของนักเรียนทำได้ ดังน้ี 1. ประเมินความรู้เดิมจากการอภปิ รายในชัน้ เรยี น 2. ประเมินการเรยี นรจู้ ากคำตอบของนักเรยี นระหวา่ งการจัดการเรยี นร้แู ละจากแบบบนั ทึกกจิ กรรม 3. ประเมินทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตรแ์ ละทกั ษะแห่งศตวรรษท่ี 21 จากการทำกิจกรรมของนักเรียน การประเมนิ จากการทำกจิ กรรมท่ี 1.2 มองเหน็ วตั ถตุ ่าง ๆ ไดอ้ ยา่ งไร ระดับคะแนน 2 คะแนน หมายถงึ พอใช้ 1 คะแนน หมายถึง ควรปรับปรุง 3 คะแนน หมายถึง ดี สิง่ ท่ีประเมิน ระดับคะแนน รหัส ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ S1 การสังเกต S7 การพยากรณ์ S8 การลงความเหน็ จากข้อมูล S13 การตคี วามหมายขอ้ มลู และลงข้อสรุป S14 การสร้างแบบจำลอง ทักษะแห่งศตวรรษที่ 21 C4 การส่อื สาร C5 ความรว่ มมือ C6 การใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศและการส่อื สาร รวมคะแนน สถาบนั ส่งเสริมการสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ⎯

47 คมู่ อื ครูรายวิชาพน้ื ฐานวทิ ยาศาสตร์ ป.2 เลม่ 2 | หน่วยที่ 3 แสงและส่งิ มชี ีวติ ตาราง แสดงการวเิ คราะหท์ ักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตรต์ ามระดบั ความสามารถของนักเรยี น โดยอาจใช้เกณฑ์การประเมนิ ดงั นี้ ทกั ษะกระบวนการ รายการประเมิน ระดบั ความสามารถ ทางวิทยาศาสตร์ ดี (3) พอใช้ (2) ควรปรบั ปรุง (1) S1 การสังเกต การบรรยาย สามารถใช้ประสาทสัมผสั สามารถใช้ประสาทสมั ผัส สามารถใช้ประสาท รายละเอียด เก็บรายละเอยี ดข้อมลู เกบ็ รายละเอียดข้อมลู สมั ผัสเก็บ เก่ยี วกบั การ เก่ียวกับการมองเห็นวัตถุ เกยี่ วกับการมองเห็นวัตถุ รายละเอยี ดข้อมลู มองเห็นวัตถุต่าง ๆ ตา่ ง ๆ โดยไมเ่ พ่ิมความ ตา่ ง ๆ ได้ จากการชีแ้ นะ เก่ียวกบั การมองเห็น คดิ เหน็ ไดด้ ว้ ยตนเอง ของครูหรือผอู้ ื่น วตั ถุตา่ ง ๆ ได้ บางสว่ น แมว้ า่ จะได้ รบั คำชีแ้ นะจากครู หรือผ้อู ื่น S7 การพยากรณ์ การพยากรณ์การ สามารถพยากรณ์การ สามารถพยากรณ์การ พยากรณก์ าร มองเหน็ วัตถุทอ่ี ยู่ มองเหน็ วัตถุท่อี ยู่ในกล่อง มองเหน็ วัตถุที่อยู่ในกลอ่ ง มองเห็นวัตถุทอี่ ยู่ใน ในกล่องกอ่ นจุด ก่อนจุดเทยี นไขและเมื่อ ก่อนจดุ เทยี นไขและเมอื่ กลอ่ งกอ่ นจดุ เทยี น เทยี นไขและเม่ือจดุ จดุ เทียนไขแลว้ ไดโ้ ดย จุดเทียนไขโดยอาศยั ไขและเมื่อจุด เทยี นไขแล้ว อาศยั ขอ้ มลู หรือความรู้ท่ีมี ขอ้ มูลหรือความรทู้ ่ีมีอยู่ เทยี นไขแล้วโดย อยดู่ ว้ ยตัวเอง แตต่ ้องอาศัยการชแ้ี นะ ไม่ไดใ้ ช้ข้อมูลหรอื ของครูหรอื ผ้อู นื่ ความรทู้ ีม่ ีอยู่ S8 การลง ลงความเห็นจาก สามารถลงความเห็นจาก สามารถลงความเห็นจาก สามารถลงความเห็น ความเหน็ จาก ข้ อ มู ล ว่ า ก า ร ข้อมูลได้ว่าการมองเห็นส่ิง ข้อมูลได้ว่าการมองเห็น จากข้อมูลเกี่ยวกับ ขอ้ มลู มองเห็นส่ิงต่าง ๆ ตา่ ง ๆ ได้ต้องมีตาและแสง ส่ิงต่าง ๆ ได้ต้องมีตาและ การมองเห็นได้เพียง ได้ต้องมีตาและแสง จากวตั ถุทีเ่ ป็นแหล่งกำเนิด แ ส ง จ า ก วั ต ถุ ท่ี เป็ น บางส่วน แม้ว่าจะได้ จ า ก วั ต ถุ ท่ี เป็ น แสง ได้อย่างถูกต้องด้วย แ ห ล่ งก ำเนิ ด แ ส ง ได้ รับคำช้ีแนะจากครู แหลง่ กำเนิดแสง ตนเอง ถูกต้อง จากการช้ีแนะ หรอื ผู้อื่น ของครูหรอื ผอู้ ื่น ⎯ สถาบันส่งเสริมการสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี

ค่มู ือครูรายวิชาพน้ื ฐานวทิ ยาศาสตร์ ป.2 เลม่ 2 | หนว่ ยที่ 3 แสงและสิง่ มชี ีวิต 48 ทกั ษะกระบวนการ รายการประเมนิ ระดบั ความสามารถ ทางวิทยาศาสตร์ ดี (3) พอใช้ (2) ควรปรับปรุง (1) S13 การ การตีความหมาย ส าม ารถ ตี ค วาม ห ม าย สามารถตีความห มาย สามารถ ตคี วามหมายข้อมลู ข้ อ มู ล จ า ก ก า ร ข้อมูลจากการสังเกต การ ข้อมูลจากการสังเกต การ ตีความหมายข้อมลู และลงข้อสรปุ สั งเก ต แ ล ะ ก าร อภิปราย และลงข้อสรุปได้ อภิปราย และลงข้อสรุป จากการสงั เกต การ อ ภิ ป ร าย ว่ า ก า ร ถูกต้อง ครบถ้วน ด้วย ได้ถูกต้อง ครบถ้วน จาก อภิปราย และลง มองเห็นวัตถุต่าง ๆ ตนเอง การชีแ้ นะของครหู รือผอู้ ืน่ ขอ้ สรปุ ได้ถกู ต้อง แต่ ต้องมีแสงเข้าสู่ตา ไมค่ รบถ้วน แมว้ า่ จะ โดยการม องเห็ น ได้รับคำชแี้ นะจาก วั ต ถุ ที่ เ ป็ น ครหู รือผอู้ ื่น แ ห ล่ ง ก ำ เนิ ด แ ส ง จ ะ มี แ ส ง จ า ก แ ห ล่ ง ก ำ เนิ ด แ ส ง เข้าสู่ตาโดยตรง แต่ การมองเห็นวัตถุที่ ไม่เป็นแหล่งกำเนิด แสง ต้องอาศัยแสง จ า ก วั ต ถุ ท่ี เป็ น แหล่งกำเนิดแสงมา ตกกระทบวัตถุแล้ว ส ะ ท้ อ น เข้ าสู่ ต า ก า ร ม อ ง วั ต ถุ ใน บริเวณท่ีมแี สงสวา่ ง ม า ก ห รื อ น้ อ ย เกิ น ไ ป จ ะ เป็ น อั น ต ร า ย ต่ อ ต า ป้ อ ง กั น ได้ โ ด ย จั ด ค ว า ม ส ว่ า ง ใ ห้ เหมาะสมกับการทำ กิจกรรมตา่ ง ๆ สถาบันส่งเสรมิ การสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ⎯

49 คมู่ ือครูรายวิชาพน้ื ฐานวิทยาศาสตร์ ป.2 เล่ม 2 | หน่วยที่ 3 แสงและสิ่งมีชีวติ ทักษะกระบวนการ รายการประเมนิ ระดบั ความสามารถ ทางวิทยาศาสตร์ ดี (3) พอใช้ (2) ควรปรับปรุง (1) สามารถเขยี น S14 การสรา้ ง การเขยี นแผนภาพ สามารถเขียนแผนภาพ สามารถเขียนแผนภาพ แผนภาพแสดงแนว การเคล่อื นทขี่ องแสง แบบจำลอง แสดงแนวการ แสดงแนวการเคล่ือนที่ แสดงแนวการเคล่ือนที่ ที่ทำให้มองเห็นวัตถุ ท่เี ปน็ แหลง่ กำเนิด เคล่อื นที่ของแสงท่ี ของแสงที่ทำใหม้ องเห็น ของแสงท่ีทำให้มองเห็น แสงและวตั ถุท่ีไม่ เปน็ แหล่งกำเนดิ แสง ทำให้มองเห็นวัตถุที่ วตั ถทุ ีเ่ ปน็ แหลง่ กำเนดิ แสง วัตถุทีเ่ ป็นแหล่งกำเนดิ ไดถ้ ูกตอ้ งเปน็ บางส่วน แม้ว่าจะได้ เป็นแหลง่ กำเนิด และวตั ถุที่ไมเ่ ป็น แสงและวัตถุท่ีไม่เปน็ รับคำชี้แนะจากครู หรือผูอ้ น่ื แสงและวตั ถุที่ไม่ แหล่งกำเนิดแสงได้ถูกต้อง แหลง่ กำเนิดแสงได้ เป็นแหลง่ กำเนดิ ดว้ ยตนเอง ถกู ต้อง จากการชีแ้ นะ แสง ของครูหรือผ้อู น่ื ตาราง แสดงการวิเคราะห์ทักษะแหง่ ศตวรรษที่ 21 ตามระดับความสามารถของนกั เรียน โดยอาจใชเ้ กณฑก์ ารประเมิน ดงั น้ี ทักษะแห่ง รายการประเมิน ระดับความสามารถ ศตวรรษที่ 21 C4 การสือ่ สาร การนำเสนอแนว ดี (3) พอใช้ (2) ควรปรบั ปรุง (1) ทางการป้องกัน C5 ความ อันตรายจากการ สามารถนำเสนอแนว สามารถนำเสนอแนวทางการ สามารถนำเสนอแนว รว่ มมือ มองวัตถุในบรเิ วณที่ มแี สงสวา่ งไม่ ทางการป้องกนั อนั ตราย ปอ้ งกนั อนั ตรายจากการมอง ทางการป้องกันอันตราย เหมาะสม จากการมองวตั ถุใน วัตถใุ นบรเิ วณท่ีมีแสงสวา่ งไม่ จ า ก ก า ร ม อ งวั ต ถุ ใน การทำงานรว่ มกับ ผูอ้ ืน่ รวมทง้ั ยอมรับ บริเวณทม่ี ีแสงสว่างไม่ เหมาะสมได้ด้วยตนเอง แต่ บริเวณที่มีแสงสว่างไม่ ความคิดเหน็ ของ ผู้อืน่ ในการอภปิ ราย เหมาะสมในรปู แบบที่ รูปแบบการนำเสนอยังไม่ เหมาะสมได้โดยอาศัย สาเหตทุ ีท่ ำให้ มองเหน็ วตั ถุท่ีเปน็ น่าสนใจได้ด้วยตนเอง นา่ สนใจเทา่ ทค่ี วร ก า ร ช้ี แ น ะ ข อ ง ค รู ห รื อ ผู้ อ่ื น แ ต่ รู ป แ บ บ ก า ร นำเสนอยังไมน่ ่าสนใจ สามารถทำงานร่วมกับ สามารถทำงานร่วมกับผู้อื่น สามารถทำงานร่วมกับ ผู้อื่นรวมท้ังยอมรับความ รวมท้ังยอมรับความคิดเห็น ผู้อ่ืนได้ในบางช่วงของ คิดเห็นของผู้อ่ืนในการ ขอ งผู้อ่ื น ใน การอ ภิ ป ราย การทำกิจกรรม แต่ไม่ อภิปรายสาเหตุที่ทำให้ สาเหตุที่ทำให้มองเห็นวัตถุท่ี แ ส ด งค ว าม ส น ใจ ต่ อ ม อ ง เห็ น วั ต ถุ ท่ี เป็ น เป็นแหล่งกำเนิดแสงและวัตถุ ความคิดเห็นของผู้อ่ืน แหล่งกำเนิดแสงและวัตถุ ทไ่ี ม่เปน็ แหล่งกำเนิดแสง และ ท้ั ง นี้ ต้ อ ง อ า ศั ย ก า ร ⎯ สถาบนั สง่ เสริมการสอนวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี

คมู่ อื ครูรายวิชาพน้ื ฐานวิทยาศาสตร์ ป.2 เลม่ 2 | หน่วยที่ 3 แสงและสง่ิ มีชีวติ 50 ทักษะแห่ง รายการประเมนิ ระดบั ความสามารถ ควรปรบั ปรุง (1) ศตวรรษท่ี 21 กระตุ้นจากครูหรือผู้อ่ืน แหลง่ กำเนดิ แสง ดี (3) พอใช้ (2) ตลอดเวลาทีท่ ำกิจกรรม C6 การใช้ และวัตถทุ ี่ไมเ่ ปน็ ท่ีไม่เป็นแหล่งกำเนิดแสง อันตรายที่อาจเกิดกับตา และ เทคโนโลยี แหล่งกำเนิดแสง อันตรายที่อาจเกิดกับตา การน ำเสนอแนวท างการ สามารถสบื ค้นข้อมูล สารสนเทศและ อนั ตรายท่ีอาจเกิด แล ะก ารน ำเส น อ แน ว ป้องกันอันตรายท่ีอาจเกิดกับ เกยี่ วกับอันตรายท่ีอาจ การส่อื สาร กบั ตา และการ ทางการป้องกันอันตรายที่ ตาเมื่อทำกิจกรรมในบริเวณที่ เกดิ กับตาเนอ่ื งจากการ นำเสนอแนว อ าจ เกิ ด กั บ ต าเมื่ อ ท ำ มีแสงสว่างไม่เหมาะสม ท้ังนี้ มองวัตถุในบรเิ วณท่ีมี ทางการป้องกนั กิจกรรมในบริเวณที่มีแสง ส า ม า ร ถ ท ำ ได้ เป็ น บ า ง แสงสวา่ งไมเ่ หมาะสม อนั ตรายที่อาจเกิด สว่างไม่เหมาะสม ท้ังน้ี ช่วงเวลาท่ที ำกิจกรรม จากแหล่งเรียนรตู้ า่ ง ๆ กับตาเม่ือทำ สามารถทำได้ต้ังแต่เร่ิมต้น ไดไ้ ม่ครบถ้วน สมบูรณ์ กจิ กรรมในบรเิ วณท่ี จนสำเร็จ แม้วา่ จะได้รบั คำชแ้ี นะ มีแสงสวา่ งไม่ จากครูหรือผู้อื่น เหมาะสม สามารถสืบค้นข้อมลู สามารถสืบคน้ ข้อมลู เกยี่ วกับ การสืบค้นข้อมลู เกีย่ วกับอนั ตรายที่อาจ อนั ตรายท่ีอาจเกิดกบั ตา เกย่ี วกบั อันตรายท่ี เกดิ กับตาเน่อื งจากการ เน่อื งจากการมองวัตถุใน อาจเกิดกบั ตา มองวัตถุในบริเวณที่มีแสง บริเวณท่มี แี สงสว่างไม่ เนื่องจากการมอง สวา่ งไมเ่ หมาะสมจาก เหมาะสมจากแหลง่ เรยี นรู้ วัตถุในบริเวณท่ีมี แหลง่ เรียนรู้ตา่ ง ๆ ได้ ตา่ งๆ ได้ครบถว้ น แต่ต้อง แสงสว่างไม่ ถกู ต้อง ครบถว้ นด้วย อาศัยการชีแ้ นะของครูหรือ เหมาะสมจากแหลง่ ตนเอง ผู้อนื่ เรียนรตู้ า่ ง ๆ สถาบันส่งเสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ⎯

51 ค่มู ือครรู ายวิชาพืน้ ฐานวิทยาศาสตร์ ป.2 เลม่ 2 | หน่วยท่ี 3 แสงและส่งิ มีชีวิต กิจกรรมท้ายบทท่ี 1 แสง (2 ช่ัวโมง) 1. นักเรียนวาดรูปหรือเขียนสรุปสิ่งที่ได้เรียนรู้จากบทน้ี ในแบบบันทึก กิจกรรมหนา้ 17 2. นักเรยี นตรวจสอบการสรปุ ส่ิงที่ได้เรยี นรู้ของตนเองโดยเปรียบเทียบกับ ภาพสรปุ เน้ือหาประจำบทในหวั ข้อ รอู้ ะไรในบทน้ี ในหนังสอื เรียน หน้า 14 3. นักเรียนกลับไปตรวจสอบคำตอบของตนเองในสำรวจความรู้ก่อนเรียน ในแบบบันทึกกิจกรรม หน้า 2 อีกคร้ัง ถ้าคำตอบของนักเรียนไม่ถูกตอ้ ง ให้ขีดเส้นทับข้อความเหล่านั้น แล้วแก้ไขให้ถูกต้อง หรืออาจแก้ไข คำตอบด้วยปากกาท่ีมีสีต่างจากเดิม นอกจากน้ีครูอาจนำคำถามในรูป นำบทในหนงั สือเรยี น หน้า 2 มาร่วมกนั อภิปรายคำตอบอีกครงั้ 4. นักเรียนทำ แบบฝึกหัดท้ายบทท่ี 1 แสง ในแบบบันทึกกิจกรรมหน้า 18 จากนั้นนำเสนอคำตอบหน้าช้ันเรียน ถ้าคำตอบยังไม่ถูกต้องครูควร นำอภิปรายหรอื ให้สถานการณ์เพิ่มเติมเพื่อแก้ไขแนวคิดคลาดเคลื่อนให้ ถูกตอ้ ง 5. นักเรียนร่วมกันทำกิจกรรมร่วมคิด ร่วมทำ โดยนักเรียนร่วมกันหาวิธี และทำโคมไฟรปู สตั วท์ ่มี ีแสงสวา่ งออกจากโคมไฟได้ทกุ ทิศทาง ⎯ สถาบันส่งเสรมิ การสอนวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี

ค่มู อื ครูรายวิชาพ้นื ฐานวิทยาศาสตร์ ป.2 เล่ม 2 | หน่วยที่ 3 แสงและสิ่งมชี วี ติ 52 แนวคำตอบในแบบฝึกหดั ทา้ ยบท สถาบันส่งเสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ⎯

53 คู่มือครรู ายวิชาพืน้ ฐานวิทยาศาสตร์ ป.2 เลม่ 2 | หน่วยที่ 3 แสงและสิ่งมีชีวิต ✓ มีแสงในตวั เอง เราสามารถมองเหน็ ไฟในกองไฟไดโ้ ดยตรง ไม่ต้องใช้ แสงจากแหลง่ กำเนิดแสงอน่ื ช่วยในการมองเห็น ✓ การจอ้ งมองจอโทรศัพท์ทมี่ แี สงจ้าในห้องมดื จะทำใหเ้ ราเกิดอาการตาพรา่ ได้ ⎯ สถาบนั สง่ เสรมิ การสอนวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี

ค่มู อื ครูรายวิชาพ้นื ฐานวิทยาศาสตร์ ป.2 เล่ม 2 | หนว่ ยท่ี 3 แสงและสิ่งมีชีวิต 54 สถาบันสง่ เสริมการสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ⎯

55 คู่มือครูรายวิชาพื้นฐานวทิ ยาศาสตร์ ป.2 เล่ม 2 | หน่วยท่ี 3 แสงและสิง่ มีชีวิต บทท่ี 2 สง่ิ มีชีวติ จุดประสงค์การเรยี นรปู้ ระจำบท เม่อื เรียนจบบทน้ี นักเรยี นสามารถ 1. เปรยี บเทยี บลกั ษณะของสิง่ มีชีวิตและส่งิ ไมม่ ชี วี ติ 2. ระบวุ า่ พืชต้องการแสง นำ้ และสงิ่ จำเปน็ อื่น ๆ ในการเจริญเตบิ โต 3. ดแู ลพชื ใหไ้ ดร้ บั น้ำและแสงท่ีเหมาะสมเพ่อื ให้พชื เจรญิ เติบโต 4. สรา้ งแบบจำลองและบรรยายวัฏจกั รชวี ติ ของ พชื ดอก เวลา 15 ช่วั โมง แนวคดิ สำคญั รอบตัวเรามีท้ังส่ิงมีชีวิตและสิ่งไม่มีชีวิต ซ่ึงมี บทนม้ี ีอะไร สิ่งมีชวี ติ และสิ่งไมม่ ชี ีวติ ลักษณะแตกต่างกัน พืชดอกเป็นส่ิงมีชีวิตประเภทหน่ึงท่ี ส่ิ ง มี ชี วิ ต แ ล ะ ส่ิ ง ไม่ มี ชี วิ ต มี ต้องการแสง น้ำ อากาศ และธาตุอาหารในการ เรื่องท่ี 1 ลกั ษณะแตกตา่ งกนั อยา่ งไร เจริญ เติบโต ขณ ะท่ีพืชดอกเจริญ เติบโตจะมีการ กจิ กรรมที่ 1 ชีวติ ของพืช เปลี่ยนแปลงรูปร่างลักษณะที่เป็นแบบรูปหมุนเวียน พื ช ต้ อ ง ก า ร อ ะ ไร ใน ก า ร ต่อเนื่องกนั เป็นวฏั จักร เร่ืองที่ 2 เจริญเตบิ โต กจิ กรรมท่ี 2.1 วั ฏ จั ก ร ชี วิ ต ข อ ง พื ช ด อ ก เป็ น สือ่ การเรยี นรแู้ ละแหลง่ เรียนรู้ อย่างไร กจิ กรรมที่ 2.2 1. หนงั สอื เรียน ป. 2 เล่ม 2 หนา้ 16-39 2. แบบบนั ทึกกจิ กรรม ป. 2 เลม่ 2 หนา้ 23-57 ⎯ สถาบันสง่ เสริมการสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี

ค่มู ือครรู ายวิชาพ้นื ฐานวทิ ยาศาสตร์ ป.2 เลม่ 2 | หนว่ ยท่ี 3 แสงและสงิ่ มชี ีวติ 56 ทักษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์และทกั ษะแห่งศตวรรษที่ 21 กจิ กรรมท่ี 1 2.1 2.2 รหสั ทกั ษะ  ทกั ษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์  S1 การสังเกต  S2 การวัด S3 การใชจ้ ำนวน  S4 การจำแนกประเภท  S5 การหาความสัมพนั ธร์ ะหว่าง   สเปซกบั สเปซ   สเปซกับเวลา S6 การจดั กระทำและสื่อความหมายขอ้ มูล  S7 การพยากรณ์  S8 การลงความเห็นจากข้อมูล  S9 การตั้งสมมติฐาน S10 การกำหนดนยิ ามเชิงปฏิบตั กิ าร S11 การกำหนดและควบคุมตวั แปร S12 การทดลอง S13 การตคี วามหมายข้อมูลและลงขอ้ สรปุ S14 การสรา้ งแบบจำลอง ทักษะแห่งศตวรรษท่ี 21 C1 การสร้างสรรค์ C2 การคดิ อยา่ งมีวจิ ารณญาณ C3 การแก้ปัญหา C4 การสื่อสาร C5 ความรว่ มมือ C6 การใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศและการสอื่ สาร หมายเหตุ : รหสั ทักษะที่ปรากฏน้ี ใชเ้ ฉพาะหนงั สือคู่มอื ครูเลม่ นี้ สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ⎯

57 คูม ือครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร ป.2 เลม 2 | หนวยที่ 3 แสงและสงิ่ มชี ีวติ แนวคิดคลาดเคลือ่ น แนวคดิ คลาดเคล่ือนท่ีอาจพบและแนวคดิ ที่ถกู ตองในบทท่ี 2 สงิ่ มชี ีวติ มดี ังตอไปน้ี แนวคิดคลาดเคลื่อน แนวคดิ ทถี่ ูกตอ ง พชื เปน สิ่งไมมีชวี ิต (Allen, 2014) พืชเปนส่ิงมีชีวิต เพราะมีการสืบพันธุ เจริญเติบโต หายใจ กินอาหาร ขับถาย เคลื่อนไหว และตอบสนองตอสิ่งเราได (Allen, 2014, Enger et al., 2012) แสงจากดวงอาทิตยมีประโยชนแตไมมีความสําคัญตอการ แสงจากดวงอาทิตยมีความจําเปนสําหรับการสังเคราะหดวยแสง ดาํ รงชีวติ ของพชื (Fries-Gaither, 2009) หรือการสรางอาหารของพชื (Enger et al., 2012) แสงจากดวงอาทิตยชวยใหพืชเจริญเติบโตได โดยพืชมีการ สารสเี ขียวในพืช (คลอโรฟลล) จะตรึงพลังงานแสงจากดวงอาทิตย เกบ็ ความรอ นไว (Barman et al., 2006) สําหรับใชในกระบวนการสังเคราะหดวยแสง (Barman et al., 2006, Enger et al., 2012) พืชหายใจเขาโดยใชแกสคารบอนไดออกไซดและหายใจ พืชรับทั้งแกสคารบอนไดออกไซดและแกสออกซิเจนผานทางใบ ออกโดยปลอยแกสออกซิเจนออกมา (Barman et al., เ พ่ื อ นํ า ไ ป ใ ช ใ น ก ร ะ บ ว น ก า ร ที่ แ ต ก ต า ง กั น คื อ ใ ช แ ก ส 2006) คารบ อนไดออกไซดในกระบวนการสังเคราะหดวยแสง และใชแกส ออกซิเจนในการหายใจ สําหรับแกสออกซิเจนที่พืชปลอยออกมา นั้นมาจากกระบวนการสังเคราะหดวยแสงของพืช (Enger et al., 2012) เมลด็ พชื เปน สง่ิ ไมมชี ีวิต (BSCS, 2006) เมล็ดพืชเปนสิ่งมีชีวิต ในเมล็ดมีตนออน (เอ็มบริโอ) ท่ีสามารถ เจรญิ เติบโตเปนตน พืชได (BSCS, 2006) พชื ดอกสรา งผลกอนแลวจงึ สรางเมล็ด หลงั จากปฏิสนธิ เมล็ดและผลของพืชมีการพัฒนาและเจริญเติบโต (BSCS, 2006) ไปพรอมกัน (BSCS, 2006) วัฏจกั รชีวิตของส่ิงมชี วี ิตมีจุดเรมิ่ ตน จากไข (egg) หรือเมล็ด วัฏจักรชีวิตเปนการเปลี่ยนแปลงของส่ิงมีชีวิตท่ีเปนแบบรูป (seed) (Ho et al., 2004) หมุนเวียนตอเนื่องไป ไมมีจุดเร่ิมตนท่ีแนนอน จะเริ่มจากระยะใด ระยะหนึ่งก็ได แตมีการเปลี่ยนแปลงตอเนื่องหมุนเวียนเปนวัฏจักร ท่ีมีแบบรูปคงท่ี ซึ่งระยะเวลาท่ีมีเซลลไขและเมล็ดจะเปนชวงหน่ึง ของวฏั จักรชวี ิต (Ho et al., 2004) ถาครูพบวามีแนวคิดคลาดเคล่ือนใดที่ยังไมไดแกไขจากการทํากิจกรรมการเรียนรู ครูควรจัดการเรียนรูเพ่ิมเติม เพือ่ แกไขตอ ไป  สถาบนั สง เสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี

ค่มู อื ครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์ ป.2 เลม่ 2 | หน่วยที่ 3 แสงและส่ิงมีชวี ิต 58 บทน้เี ริ่มตน้ อย่างไร (1 ชว่ั โมง) ใน ก าร ท บ ท ว น ค ว า ม รู้ พ้ืนฐาน ครูควรให้เวลานักเรียน 1. ครูทบทวนความรู้พ้ืนฐานเกี่ยวกับส่วนต่าง ๆ ของพืช มนุษย์ และ คดิ อย่างเหมาะสม รอคอยอย่าง สัตว์ โดยนำภาพสัตวแ์ ละพชื ทนี่ กั เรยี นคุ้นเคยในแหล่งท่ีอยหู่ นึ่ง ๆ มา อดทน นักเรียนต้องตอบคำถาม ให้นักเรียนสังเกต เช่น ภาพแมวหรือสุนัขกำลังกินน้ำในอ่างหรือสระ เหล่าน้ีได้ถูกต้อง หากตอบไม่ได้ นำ้ ที่มีตน้ ไมเ้ จรญิ เตบิ โตอยู่ โดยใช้คำถามดังนี้ ห รือลืมครูต้องให้ ความ รู้ที่ 1.1 ในภาพมีส่ิงใดบ้าง (นักเรียนตอบตามส่ิงท่ีปรากฏในภาพ เช่น ถูกตอ้ งทันที แมว พืช อ่างนำ้ นำ้ ) 1.2 ในภาพมีสัตว์ชนิดใด (นักเรียนตอบตามสิ่งท่ีปรากฏในภาพ เช่น ในการตรวจสอบความรู้ ครู แมว) รั บ ฟั ง เห ตุ ผ ล ข อ ง นั ก เรี ย น เป็ น 1.3 ร่างกายของสัตว์ในภาพประกอบด้วยส่วนใดบ้าง (นักเรียนตอบ สำคัญ ครูยังไม่เฉลยคำตอบใด ๆ ตามความเป็นจรงิ เช่น มศี รี ษะ ตา จมกู ปาก ขา หาง) แต่ชักชวนให้หาคำตอบท่ีถูกต้อง 1.4 ในภาพมีพืชชนิดใดบ้าง (นักเรียนตอบตามส่ิงที่ปรากฏในภาพ จากกิจกรรมต่าง ๆ ในบทเรยี นน้ี ครอู าจช่วยบอกช่ือพืช ในกรณีท่ีนกั เรยี นไม่รจู้ ักช่ือพืชชนิดนั้น ๆ) 1.5 พืชในภาพมีส่วนประกอบอะไรบ้าง (นักเรียนตอบตามความ เป็นจรงิ เชน่ มีใบ ลำตน้ อาจมีดอก หรือผล) 1.6 จากภาพแหล่งท่ีอยู่นี้เหมาะสมกับแมวหรือไม่ เพราะเหตุใด (เหมาะสมเปน็ ทอ่ี ยอู่ าศยั ของแมว เพราะมแี หลง่ น้ำให้แมวด่ืม) 2. ครูตรวจสอบความรู้เดิมของนักเรียนเกี่ยวกับลักษณะของส่ิงมีชีวิต โดยใช้คำถาม ดังนี้ 2.1 จากภาพส่ิงใดเป็นสิ่งมีชีวิต (นักเรียนตอบตามความเข้าใจ คือ แมว พชื ) 2.2 เพราะเหตุใดสิ่งท่ีนักเรียนตอบในข้อ 2.1 จึงเป็นสิ่งมีชีวิต (นักเรียนตอบตามความเข้าใจ) 2.3 จากภาพส่ิงใดเป็นส่ิงไม่มีชวี ิต (นักเรยี นตอบตามความเข้าใจ เช่น อา่ งน้ำ น้ำ) 2.4 เพราะเหตุใดสิ่งท่ีนักเรียนตอบในข้อ 2.3 จึงเป็นสิ่งไม่มีชีวิต (นกั เรยี นตอบตามความเข้าใจ) 3. ครูให้นักเรียนอ่าน ชื่อบท และจุดประสงค์การเรียนรู้ประจำบท ใน หนังสือเรียนหน้า 17 จากนั้นครูใช้คำถามเพื่อตรวจสอบความเข้าใจ ดังน้ี 3.1 บทนี้จะได้เรยี นเรือ่ งอะไร (เรื่องสิง่ มีชวี ิต) สถาบันสง่ เสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ⎯

59 คูม่ ือครรู ายวิชาพ้นื ฐานวิทยาศาสตร์ ป.2 เลม่ 2 | หน่วยท่ี 3 แสงและสง่ิ มีชีวติ 3.2 จากจุดประสงค์การเรียนรู้เมื่อเรียนจบบทนี้นักเรียนสามารถทำ ถ้านักเรียนไม่สามารถตอบ อะไรได้บ้าง (สามารถเปรียบเทียบลักษณะของส่ิงมีชีวิตและ คำถามหรืออภิปรายได้ตามแนว ส่ิงไม่มีชีวิต ระบุส่ิงที่พืชใช้ในการเจริญเติบโต รวมถงึ สามารถดูแล คำตอบ ครูควรให้เวลานักเรียน พืชให้ได้รับน้ำและแสงท่ีเหมาะสมเพ่ือให้พืชเจริญเติบโต และ คิดอย่างเหมาะสม รอคอยอย่าง สามารถสร้างแบบจำลองและบรรยายวัฏจักรชวี ิตของพืชดอกได)้ อดทน และรับฟังแนวความคิด ของนกั เรียน 4. นักเรียนอ่านช่ือบทและแนวคิดสำคัญ ในหนังสือเรียนหน้า 18 จากนั้นครูใช้คำถามว่า จากการอ่านแนวคิดสำคัญ นักเรียนคิดว่าจะ ได้เรียนเกี่ยวกับเร่ืองอะไรบ้าง (เรียนเรื่องลักษณะของส่ิงมีชีวิตและ สงิ่ ไม่มีชีวติ การเจริญเติบโตของพชื ดอก และวฏั จกั รชีวิตของพืชดอก) 5. ครูชักชวนให้นักเรยี นสงั เกตรูป และอ่านเน้ือเรื่องในหนังสือเรียนหน้า 18 โดยครูฝึกทักษะการอ่านตามวิธีการอ่านท่ีเหมาะสมกับ ความสามารถของนักเรยี น ครูตรวจสอบความเข้าใจจากการอ่าน โดย ใชค้ ำถามดงั นี้ 5.1 สถานท่ีในรปู คือท่ีใด (โรงพยาบาล) 5.2 เราจะพ บสิ่งใดบ้างในโรงพ ยาบ าล (นักเรียนตอบ ตาม ประสบการณ์เดิม เช่น คนไข้ แพทย์ พยาบาล พนักงาน สิ่งของ เคร่ืองใช้ ส่ิงตกแตง่ สถานท่ี เช่น โต๊ะ เก้าอ้ี เครื่องมอื แพทย์ พืช) 5.3 จากรปู นักเรียนคดิ ว่ามีสิ่งใดที่เราจะไม่ได้พบเห็นในโรงพยาบาล ทั่ว ๆ ไป (หุน่ ยนต์) 5.4 จากรูป หนุ่ ยนตส์ ามารถทำอะไรได้บา้ ง (เดินรับส่งเอกสาร) 5.5 มนษุ ย์สามารถเดนิ รบั ส่งเอกสารไดห้ รือไม่ (ได้) 5.6 มนุษย์กับหุ่นยนต์มีสิ่งใดเหมือนและมีสิ่งใดแตกต่างกันบ้าง (นักเรียนตอบตามความเข้าใจ เช่น มนุษย์กับหุ่นยนต์มีส่วนต่าง ๆ ของรา่ งกายบางส่วนเหมือนกัน แต่หุ่นยนต์ไม่มีขา และมีปากแต่ ไมส่ ามารถพูดได้เหมือนมนษุ ย)์ 5.7 มนุษย์เป็นส่ิงมีชีวิตหรือไม่ เพราะเหตุใด (นักเรียนตอบตาม ความเข้าใจของตนเอง เช่น มนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิต เพราะ เคลื่อนไหวได้ กินอาหารได้) 5.8 หุ่นยนต์เป็นส่ิงมีชีวิตหรือไม่ เพราะเหตุใด (นักเรียนตอบตาม ความเข้าใจของตนเอง เช่น หุ่นยนต์ไม่เป็นสิ่งมีชีวิต เพราะ หุน่ ยนตไ์ มก่ ินอาหาร ไม่หายใจ) 5.9 ในภาพมีส่ิงใดเป็นส่ิงมีชีวิต และมีส่ิงใดบ้างเป็นส่ิงไม่มีชีวิต (นักเรียนตอบตามความเข้าใจของตนเอง เช่น แพทย์ พยาบาล ⎯ สถาบนั สง่ เสรมิ การสอนวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี

คูม่ ือครูรายวิชาพืน้ ฐานวิทยาศาสตร์ ป.2 เล่ม 2 | หน่วยท่ี 3 แสงและสง่ิ มชี วี ิต 60 พนักงาน และพืช เป็นสิ่งมีชีวิต ส่วนโต๊ะ เก้าอ้ี เครื่องมือแพทย์ การเตรยี มตวั ลว่ งหน้าสำหรบั ครู และหนุ่ ยนต์เปน็ ส่ิงไม่มชี ีวิต) เพื่อจัดการเรยี นรู้ในครงั้ ถดั ไป 5.10 ส่ิงมีชีวิตและส่ิงไม่มีชีวิตเหมือนหรือแตกต่างกัน อย่างไร (นักเรียนตอบตามความเข้าใจของตนเอง) ในคร้ังถัดไป นักเรียนจะได้เรียน 6. ครูชักชวนนักเรียนตอบคำถามเกี่ยวกับส่ิงมีชีวิตในสำรวจความรู้ เรื่องท่ี 1 ส่ิงมีชีวิตกับส่ิงไม่มีชีวิต ครูควร กอ่ นเรยี น เตรียมส่ือการสอน อาจเตรียมภาพสุนัข 7. นักเรียนทำสำรวจความรู้ก่อนเรียน ในแบบบันทึกกิจกรรม หน้า 24 กบ และกะลา หรือนำกะลาจริงมาให้ โดยนักเรียนอ่านคำถามแต่ละข้อ ครูตรวจสอบความเข้าใจของ นักเรียนสังเกตประกอบการอา่ นเนอื้ เรือ่ ง นักเรียน จนแน่ใจว่านักเรียนสามารถทำได้ด้วยตนเอง จึงให้นักเรียน ตอบคำถาม คำตอบของแต่ละคนอาจแตกต่างกัน และคำตอบอาจถูก หรอื ผดิ กไ็ ด้ 8. ครูสังเกตการตอบคำถามของนักเรียนเพื่อตรวจสอบว่านักเรียนมี แนวคิดเก่ียวกับส่ิงมีชีวิตอย่างไรโดยอาจสุ่มให้นักเรียน 2-3 คน นำเสนอคำตอบของตนเอง ครูยังไม่ต้องเฉลยคำตอบ แต่จะให้ นกั เรียนยอ้ นกลับมาตรวจสอบอีกครง้ั หลังจากเรียนจบบทนีแ้ ล้ว ทั้งนี้ ครูควรบันทึกแนวคิดคลาดเคล่ือนหรือแนวคิดท่ีน่าสนใจของนักเรยี น แล้วนำมาใช้ในการออกแบบการจัดการเรียนรู้เพ่ือแก้ไขแนวคิด คลาดเคลื่อนให้ถูกต้อง และต่อยอดแนวคิดที่น่าสนใจของนักเรียน ตอ่ ไป สถาบันสง่ เสริมการสอนวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ⎯

61 คมู่ ือครรู ายวิชาพ้นื ฐานวิทยาศาสตร์ ป.2 เลม่ 2 | หน่วยท่ี 3 แสงและส่ิงมีชีวิต แนวคำตอบในแบบบนั ทกึ กิจกรรม การสำรวจความร้กู ่อนเรยี น นักเรยี นอาจตอบคำถามถกู หรือผิดก็ไดข้ น้ึ อยู่กบั ความรเู้ ดิมของนักเรยี น แตเ่ ม่ือเรียนจบบทเรียนแลว้ ใหน้ กั เรยี นกลับมาตรวจสอบคำตอบอีกคร้ังและแก้ไขให้ถูกต้อง ดังตัวอยา่ ง ⎯ สถาบนั ส่งเสรมิ การสอนวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี