หลายคนคงเข้าใจว่า ever หมายความว่าเคย ความจริงแล้วไม่ใช่เช่นนั้น ถ้าอย่างนั้นคำว่าเคย ในภาษาอังกฤษ ใช้คำว่าอะไรได้บ้าง เรามาเริ่มกันเลย คำว่าเคยในภาษาอังกฤษ = Present perfect tense = S + has/have + V3 เช่น กำลังฝึกภาษาอังกฤษอยู่ไหม?รับฟรี eBook คำศัพท์ TOEIC 1,099 คำ ที่พบบ่อย (สุ่ม 50 คน/วัน แจก!!! Email บทเรียนภาษาอังกฤษทุกวัน 1 ปี) ข้าพเจ้ายินยอมให้ส่งไฟล์หนังสือ และใช้ข้อมูลเพื่อวัตถุประสงค์การตลาด ส่ง eBook เข้า SMS Loading... Thank you!You have successfully joined our subscriber list. He has had a girlfriend. เขาเคยมีแฟน He hasn’t had a girlfriend. เขาไม่เคยมีแฟน He has never had a girlfriend. เขาไม่เคยมีแฟน Have you ever had a girlfriend? คุณเคยมีแฟนไหม
I have been to Japan. ฉันเคยไปญี่ปุ่น I haven’t been to japan. ฉันไม่เคยไปญี่ปุ่น I have never been to japan. ฉันไม่เคยไปญี่ปุ่น Have you ever been to japan. คุณเคยไปญี่ปุ่นไหม
ข้อควรระวัง
นอกจากนี้ เรายังมีคำว่า use to ซึ่งมีความหมายว่า เคย เคยทำอะไรอย่างต่อเนื่องในอดีตแต่ในปัจจุบันไม่ทำแล้ว เคยทำเป็นนิสัย เช่น used to 1 : กิจวัตรประจำที่เคยทำในอดีต I used to exercise every day. เมื่อก่อนฉันออกกำลังกายทุกวัน He used to smoke. เขาเคยสูบบุหรี่ (เคยสูบจนเป็นนิสัย แต่ปัจจุบันไม่ได้สูบแล้ว) used to 2 : ความจริงทั่วไปในอดีต เราใช้ used to เพื่อพูดถึงความจริงในอดีตที่ปัจจุบันไม่เป็นจริงอีกแล้วในปัจจุบัน เช่น I used to live in Paris. ฉันเคยอาศัยอยู่ในปารีส (ปัจจุบันไม่ได้อยู่แล้ว) I used to be a teacher. ฉันเคยเป็นครู (เมื่อก่อนเคยเป็นแต่ตอนนี้ไม่เป็นแล้ว) I’m used to being a teacher ฉันชินซะแล้วกับการเป็นครู หมายเหตุ ความแตกต่างของ has/have + V3 กับ use to จะให้ความหมายแตกต่างกัน เช่น I have been to Vietnam. ฉันเคยไปเวียดนาม (อาจจะเคยไปเที่ยว) I use to go to Vietnam. ฉันเคยไปเวียดนาม (เคยไปบ่อยๆ อาจจะมีอาชีพเป็นแอร์โฮสเตส หรือเป็นไกด์) I used to get a GPA of 4 when I was young. ฉันเคยได้เกรด 4 ตอนเด็กๆ อาจจะครั้งเดียว หรือมากกว่า แต่ตอนนี้ไม่ได้แล้ว I have been getting a GPA of 4 since when I was young. ฉันเรียนเก่งมากๆ เลยได้เกรด 4 มาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว และก็ยังเป็นอย่างนี้อยู่เรื่อยๆ I had been getting a GPA of 4 until I reached undergraduate. ฉันได้เกรด 4 มาตลอด จนกระทั่งเข้ามหาลัย เพราะมันยากมากๆ เกรด 4 เลยไม่ได้แล้ว ๑๐.พื้นที่บริเวณพระบรมมหาราชวังและวัดพระแก้วเคยเป็นถิ่นฐานของชาวจีน (รัชกาลที่ ๑ให้ย้ายไปที่ใหม่ที่จัดให้ คือ บริเวณ"ตลาดน้อย"ในปัจจุบัน ต่อมาชุมชนขยายตัวจนกลายเป็นเยาวราชในปัจจุบัน) The compound of the Grand Palace and the Temple of the Emerald Buddha used to be the Chinese civilians' settlement. ๑๓. ตลาดน้ำดำเนินสะดวกปัจจุบัน เคยถูกเรียกว่าตลาดน้ำศาลาแดง The present Damnernsaduak Floating Market used to be called Saladaeng Floating Market. หมายเหตุ : ตลาดน้ำดำเนินสะดวกเคยมีอยู่หลายจุดตลอดคลองดำเนินสะดวก มีชื่อเรียกต่างๆกันไป หลังจากปี พ.ศ.๒๕๐๐ ตลาดน้ำค่อยๆเลิกกันไปจนเหลืออยู่ตลาดเดียว แถมยังย้ายตำแหน่งกระเถิบเข้ามาใกล้ถนนที่ตัดใหม่ตอนนั้น จากที่อยู่บริเวณศาลาแดง ปากคลองลัดราชบุรี ก็ย้ายเข้ามาบริเวณคลองย่อยชื่อคลองต้นเข็ม เพราะมีต้นเข็มปลูกอยู่เรียงราย ในที่สุดบริเวณที่เป็นคลองต้นเข็มจึงเป็นตำแหน่งแห่งที่ของตลาดน้ำดำเนินสะดวกในสมัยปัจจุบัน ๑๔. ถนนข้าวสาร หมายถึงถนนของข้าวสาร เคยเป็นคลองใช้สำหรับขนส่งข้าว Khaosan Road ,meaning the road of rice, used to be a canal for rice transportation. (รัชกาลที่๕ ให้ถมคลอง สร้างถนน พระราชทานนามว่า ถนนข้าวสาร) ๑๕. เกาะช้าง เคยเป็นเกาะที่เต็มไปด้วยไข้มาลเรีย(หรือ ไข้ป่า หรือไข้จับสั่น แล้วแต่จะเรียก) Koh Chang used to be a malarious island. หมายเหตุ: การกลายมาเป็นแหล่งท่องเที่ยวในปัจจุบัน จริงๆแล้วเกิดจากนักท่องเที่ยวต่างชาติเมื่อหลายสิบปีก่อนที่นิยมมาบุกเบิกหาที่เที่ยว แล้วก็บอกต่อๆกันไป ๑๖. เจ้าหน้าที่ป่าไม้ของรัฐหลายคนเคยเป็นพรานป่า เขา(พวกเขา)ได้กลับตัวกลับใจเสียใหม่แล้ว Many government ranger used to be hunters. They have mended their ways. ๑๗. เขาเคยไว้ผมตั้งเหมือนดิโด้ฟิโด้ ตอนนี้เขาไว้ผมกระเซิงแบบดาราเกาหลี He used to wear flinging hair like a Fido Dido. Now he wears fluffy hair like a Korean star. 2. ในประโยคคำถาม ถ้าต้องการถามว่า "เคย...........ไหม?" ในความหมายที่เป็นครั้งๆไป ไม่ได้เป็นช่วงระยะเวลาหนึ่งในอดีต ให้ใช้โครงสร้างว่า " have/has ..............ever +V3?" แต่ถ้าต้องการถามว่า "เคย..............ไหม?" ในความหมายที่เป็นช่วงเวลาหนึ่งในอดีต ให้ใช้โครงสร้างว่า "Did.........use to+V...?" (เป็นแบบ modern grammar) หรือ "Used ..........to+V ?" (เป็นแบบ conservative grammar) อย่างใดอย่างหนึ่ง ตัวอย่าง ๑.คุยเคยได้ยินชื่อ โทนี่ จา ไหม? Have you ever heard of Tony Ja? ๒.คุณเคยอยู่ในชนบทไหม? Did you use to live in the rural? / Used you to live in the rural? ๓.คุณเคยเรียนภาษาญี่ปุ่นไหม? (ต้องการถามแบบไม่เจาะจงว่าเป็นช่วงระยะเวลา ผู้ถามกล่าวแบบนี้แสดงว่าเพียงแต่ต้องการทราบแบบเผินๆว่าเคยเรียนมาบ้างไหม แต่ไม่จริงจังว่าต้องเรียนเป็นเรื่องเป็นราว) Have you ever learnt(studied) Japanese? ๔.คุณเคยเรียนภาษาญี่ปุ่นไหม? (ต้องการถามแบบละเอียด หมายความว่าผู้ถามอยากทราบว่าผู้ฟังเคยเรียนภาษาญี่ปุ่นเป็นเรื่องเป็นราวช่วงเวลาหนึ่งในอดีตหรือไม่) Did you use to learn(study) Japanese? /Used you to learn(study) Japanese? ๕.เขาเคยเป็นเด็กดื้อไหม? (เคยเป็นเด็กดื้อเป็นบางครั้งไหม?) Has he ever been a naughty boy? ๖.เขาเคยเป็นเด็กดื้อไหม? (เคยเป็นเด็กดื้อเป็นช่วงเวลาหนึ่งในอดีตไหม?) Did he use to be a naughty boy?/Used he to be a naughty boy? ๗.เราเคยพบกันมาก่อนไหม? Have we ever met before? (ไม่ระบุว่ากี่คน) Have we ever met each other before? (2 คน) Have we ever met one another before? (มากกว่า2คน) หมายเหตุ: ปัจจุบันนี้เขาให้ใช้ one another และ each other แทนกันได้แล้ว แต่ถ้าใครเจอพวกอนุรักษ์นิยมทางภาษา เขาอาจจะไม่ยอม ๘.คุณเคยได้ยินเรื่องการจับอาวุธขึ้นสู้ของชาวบ้านบางระจันไหม? Have you ever heard of the Bangrachans levy in mass? Have you ever heard of the Bangrachan villagers levy in mass? หมายเหตุ: 1.levy in mass ออกเสียงว่า เลฝิ อัง มาซ 2. คำว่า lacal (n) หมายถึงคนท้องถิ่นนั้น สามารถใช้แทน villager ได้
หรือจะใช้อีกรูปแบบที่ไม่ใช่หลักไวยากรณ์นี้ คือ be+unheard of จะได้ประโยคว่า I am unheard of this name. ในที่นี้ unheard เป็น คำadjective เรื่องที่ 1 -The location at the Borommaphiman Throne Hall used to be that of a royal armory. -The site at the Borommaphiman Throne Hall used to be that of a royal armory. -พระที่นั่งบรมพิมานเคยเป็นที่สงวนไว้เป็นที่ประทับของรัชกาลที่ ๖ ขณะที่ทรงดำรงตำแหน่งพระบรมโอรสาธิราช -The Borrommaphiman Throne Hall used to be preserved as King Rama VI's residence while he was the crown prince. หมายเหตุ : .ในข้อเท็จจริงก็คือว่า พระองค์มิได้เสด็จมาประทับจริงที่พระที่นั่งบรมพิมานในขณะที่ทรงดำรงตำแหน่งพระบรมโอรสาธิราช เนื่องจากทรงเห็นว่าไม่เป็นการสะดวกเพราะพระองค์มีบริวารที่เป็นชายฉกรรจ์อยู่มาก ย่อมไม่เหมาะสมที่จะให้ตามเข้าไปรับใช้ในเขตพระราชฐานชั้นใน ต่อเมื่อพระองค์ได้ขึ้นครองราชย์แล้วจึงเสด็จเข้าไปประทับโดยแท้จริง -พระที่นั่งบรมพิมานเคยเรียกชื่อว่าพระที่นั่งภานุมาศจำรูญ Borommaphiman Throne Hall used to be named Phanumat Chamroon Throne Hall. หมายเหตุ : พระที่นั่งองค์นี้นั้น รัชกาลที่๕ให้สร้างโดยใช้ชื่อว่า ภานุมาศจำรูญ ต่อเมื่อรัชกาลที่๖ขึ้นครองราชย์แล้วจึงทรงให้เปลี่ยนชื่อเป็น บรมพิมาน หมายเหตุ พระราชอาคันตุกะท่านแรกที่ได้พักอยู่ที่พระที่นั่งบรมพิมาน คือ พณฯท่านประธานาธิบดีซูการ์โน แห่งอินโดนีเซีย ในปีพ.ศ.๒๕๐๔ The first royal guest to have stayed at Borommaphiman Throne Hall is the General Sukarno of Indonesia. It was in 1961. เรื่องที่ 2 Queen Elizabeth II has been to Thailand twice. พระนางเจ้าอลิซาเบทที่2 ได้เคยเสด็จมาเมืองไทยแล้ว2ครั้ง Queen Elizabeth II has visited Thailand twice. พระนางเจ้าอลิซาเบทที่2 ได้เคยเสด็จประพาสมาเมืองไทยแล้ว2ครั้ง The second Thailand visit of Queen Elizabeth II was during October 1996.การเสด็จครั้งที่สองของพระนางเจ้าอลิซาเบธ อยู่ในช่วงเดือน ตุลาคม พ.ศ.๒๕๓๙ It was a 5-day visit เป็นการเสด็จมาประพาส๕วัน The first visit was in 1972. การเสด็จมาครั้งแรกอยู่ในปี พ.ศ.๒๕๑๕ The queen and Prince Philip the royal consort stayed overnight at the Phuphan Rachaniwet (Sakhon Nakhon province) before returning to the UK on 1st November 1996. พระองค์และเจ้าชายฟิลิปพระราชสวามีประทับแรมที่พระตำหนักภูพานราชนิเวศน์ ก่อนจะเสด็จกลับสหราชอาณาจักรในวันที่ ๑ พฤศจิกายน ๒๕๓๙ เรื่องที่่ 3 Sanamluang or the Royal Main Ground used to be a 9-hole golf-course for the foreigner officials during the reign of King Rama V (1868-1910). สนามหลวงเคยเป็นสนามกอล๋ฟขนาด๙หลุมสำหรับให้ข้าราชการต่างประเทศได้ใช้เล่นกัน ในสมัยรัชกาลที่๕ (พ.ศ.๒๔๑๑-๒๔๕๓) It was abolished after 1910 ,the year of King Rama V demise. ถูกยกเลิกหลังปีค.ศ.1910 อันเป็นปีสวรรคตของรัชกาลที่๕. The site was used for the cramation of the king and more royal family members. ที่ตั้งถูกใช้สำหรับการถวายพระเพลิงพระองค์และพระบรมวงษานุวงศ์อีกหลายองค์ (เอกสารระบุว่าเรียกกันว่า ตีคลี เนื้อที่สนามกินไปถึงบริเวณหน้ากระทรวงกลาโหมเลยไปทางถนนสนามไชย วังสราญรมย์ ไปจนเกือบถึงวัดโพ แสดงว่าต้องหวดลูกให้ข้ามถนนราชดำเนินข้ามไปในหลุมอื่นๆ จนหลุมสุดท้าย) |