ความคาดหวังในการเรียนออนไลน์

จากการแพร่ระบาดของ Coronavirus (COVID-19) ทำให้โรงเรียนเกือบทั่วโลกประกาศปิด (ติดตามข้อมูลการสำรวจจำนวนประเทศที่ประกาศปิดสถาบันการศึกษาและจำนวนนักเรียนทั่วโลกที่ได้รับผลกระทบ โดย UNESCO) และเปลี่ยนรูปแบบการเรียนการสอนเป็นออนไลน์ เพื่อลดความเสี่ยงในการแพร่กระจายของ COVID-19 ซึ่ง International Society for Technology in Education (ISTE) ซึ่งเป็นองค์กรไม่แสวงหาผลกำไรที่ให้บริการแก่นักการศึกษาที่สนใจในการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีเพื่อการศึกษา ได้เสนอแนะ 10 กลยุทธ์สำหรับการเรียนรู้ออนไลน์ในช่วงการแพร่ระบาดของ Coronavirus (COVID-19)

ISTE แนะนำ 10 กลยุทธ์สำหรับการเรียนรู้ออนไลน์ในช่วงการแพร่ระบาดของ COVID-19 ได้แก่

  1. การรับรองความเท่าเทียมกันทางดิจิทัล
  2. การฝึกซ้อม
  3. การกำหนดความคาดหวังที่ชัดเจนแก่ครูและผู้ปกครอง
  4. การใช้เวลาวางแผน
  5. การเตรียมความพร้อมในการเข้าถึง
  6. การกำหนดตารางเวลาประจำวัน
  7. การจัดให้มีการเรียนรู้ที่แข็งแกร่ง
  8. การออกแบบการเรียนรู้ตามอัธยาศัย
  9. การให้ความสำคัญกับอารมณ์ความรู้สึก
  10. การเลือกเครื่องมือที่เหมาะสม

การรับรองความเท่าเทียมกันทางดิจิทัล

ความเท่าเทียมกันทางดิจิทัลเป็นอุปสรรคที่ใหญ่ที่สุดของการเรียนรู้ออนไลน์ ไม่ใช่ทุกครอบครัวที่มีคอมพิวเตอร์และอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง และครอบครัวส่วนใหญ่ไม่มีคอมพิวเตอร์หนึ่งเครื่องต่อหนึ่งคน ในสถานการณ์ COVID-19 ผู้ปกครองอาจต้องทำงานที่บ้าน หมายความว่าหลายคนอาจต้องการใช้คอมพิวเตอร์ในเวลาเดียวกัน จึงต้องมีการสำรวจครูและครอบครัวของนักเรียนล่วงหน้าว่าใครต้องการคอมพิวเตอร์และแบนด์วิดท์ (bandwidth) และการตรวจสอบว่าโปรแกรมการเรียนออนไลน์ทั้งหมดสามารถทำงานบนอุปกรณ์อื่นๆ เช่น โทรศัพท์มือถือ  หน่วยงานของรัฐต้องพิจารณาวิธีการจัดหาและบริการ Wi-Fi ให้แก่ครูหรือนักเรียนที่ไม่มี Wi-Fi ที่บ้าน

การฝึกฝน

โรงเรียนที่จัดให้มีการเรียนรู้ออนไลน์เป็นส่วนหนึ่งของการเรียนแบบปกติอยู่แล้ว การต้องเปลี่ยนรูปแบบการเรียนมาสู่ออนไลน์ 100% คงไม่ใช่ประเด็นใหญ่ แต่สำหรับครูและโรงเรียนที่ไม่ได้ใช้ระบบการจัดการการเรียนการสอนออนไลน์อย่างสม่ำเสมอ จำเป็นต้องฝึกฝนครูและนักเรียนเกี่ยวกับแอพพลิเคชันและเทคโนโลยีที่อาจจำเป็นต้องใช้ในขณะที่ปิดโรงเรียน เพื่อให้การเรียนการสอนเดินต่อไปได้อย่างเร็วที่สุด สิ่งหนึ่งที่เน้นย้ำคือทักษะหลายอย่างที่เรียนรู้ในช่วงประกาศปิดเรียนนี้จะเป็นประโยชน์ต่อการเรียนการสอนในห้องเรียนปกติต่อไป

การกำหนดความคาดหวังที่ชัดเจนแก่ครูและผู้ปกครอง

ในช่วงปิดเรียน การสื่อสารระหว่างครู ผู้ปกครองและนักเรียนมีความสำคัญมากกว่าที่เคย ในสภาพแวดล้อมออนไลน์ ความวิตกกังวลของทุกคนอยู่ในระดับสูง ช่องทางการสื่อสารและการสื่อสารต้องชัดเจนและรวบรัด ควรมี FAQ สรุปรายละเอียดทั้งหมดเกี่ยวกับวิธีการที่โรงเรียนจะดำเนินการในระหว่างปิดเรียนเพื่อให้ครูและผู้ปกครองเข้าใจตรงกัน เช่น เครื่องมือที่นักเรียนจะต้องใช้ วิธีการลงชื่อเข้าใช้ หลักสูตรการเรียนออนไลน์ สิ่งที่คาดหวังให้ผู้ปกครองทำเพื่อสนับสนุนนักเรียน นอกจากนี้โรงเรียนควรตั้งค่าการส่งข้อความทั่วชุมชนเพื่อสื่อสารได้อย่างรวดเร็ว จากนั้นแนะนำคนในชุมชนค้นหารายละเอียดผ่านอีเมลหรือบนเว็บไซต์ของโรงเรียน โดยครูจำเป็นจะต้องให้การสนับสนุนด้านเทคนิคและให้แน่ใจว่าผู้ปกครองรู้วิธีขอความช่วยเหลือหากเกิดปัญหา

การใช้เวลาวางแผน
หากการปิดเรียนเกิดขึ้นก่อนที่ครูจะพร้อมสอนออนไลน์ ให้ใช้เวลาระดมสมองเพื่อสร้างแผนสำหรับการเรียนออนไลน์ร่วมกันและเพื่อเตรียมตัวให้พร้อมก่อนที่จะเริ่มการเรียนออนไลน์กับนักเรียน (แต่ต้องยอมรับว่าเรามีเวลาไม่มากในสถานการณ์เช่นนี้)  เพื่อให้แน่ใจว่าการดำเนินการจะเป็นไปอย่างราบรื่นที่สุดเท่าเป็นได้

การเตรียมความพร้อมในการเข้าถึง

ตรวจสอบให้แน่ใจว่าครูสามารถเข้าถึงทุกสิ่งที่ต้องการจากที่บ้านในกรณีที่ไม่สามารถกลับไปโรงเรียนหรือนำคอมพิวเตอร์ของโรงเรียนกลับบ้านและย้ายไฟล์ไปไว้ในระบบคลาวด์

การกำหนดตารางเวลาประจำวัน

เวลาที่ครูและนักเรียนต้องเข้าสู่ระบบควรกำหนดอย่างชัดเจน การใช้เวลาบนหน้าจอแบบเต็มวันนั้นมากไปสำหรับนักเรียนและครู โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับครอบครัวที่ต้องแบ่งปันคอมพิวเตอร์เพื่อใช้งาน โรงเรียนหลายแห่งเลือกใช้เวลาเช็คอินสองครั้งคือตอนเช้าและตอนบ่าย แล้วจากนั้นให้ครอบครัวมีความยืดหยุ่นเกี่ยวกับการจัดตารางเรียนที่บ้าน บางโรงเรียนอาจจัดตารางเข้าเรียนสามวิชาในช่วงเช้าและมีเวลาช่วงบ่ายเพื่อศึกษาตามอัธยาศัย  และโต้ตอบกับครูในช่วงเวลาทำงาน ในวันถัดไปช่วงเช้านักเรียนเข้าร่วมชั้นเรียนที่เหลือทางออนไลน์และมีเวลาทำงานกับครูในช่วงบ่าย

การจัดให้มีการเรียนรู้ที่แข็งแกร่ง

ควรมีการแบ่งการเรียนรู้เป็นชิ้นเล็กๆ เพื่อไม่กดดันผู้เรียน มีความชัดเจนเกี่ยวกับความคาดหวังในการเข้าร่วมออนไลน์ของนักเรียน การให้ข้อเสนอแนะ (หรืออย่างน้อยบ่อยครั้ง) ทันทีผ่านการตรวจสอบความรู้ออนไลน์ของครู ความคิดเห็นเกี่ยวกับเอกสารการทำงานร่วมกัน และการแชทเพื่อให้นักเรียนมีแรงจูงใจและก้าวไปข้างหน้า การประชุมเสมือน การแชทสด หรือวิดีโอการสอน เพื่อรักษาการเชื่อมต่อของมนุษย์

การออกแบบการเรียนรู้ตามอัธยาศัย

ผู้ปกครองของนักเรียนอาจทำงานอยู่ที่ทำงานหรือทำงานที่บ้านและไม่สามารถช่วยเหลือการเรียนออนไลน์ของนักเรียนได้มากนัก ดังนั้นสิ่งสำคัญคือการออกแบบการเรียนรู้ที่ไม่ต้องการการสนับสนุนจากผู้ปกครองมากนัก ทั้งนี้การให้คำแนะนำสำหรับผู้ปกครองเกี่ยวกับวิธีที่สามารถช่วยเหลือเด็กๆ ในรูปแบบการเรียนรู้ออนไลน์นับเป็นสิ่งที่มีประโยชน์ รวมถึงการให้ข้อมูลตารางเวลาและความคาดหวังของการเรียนในวิชาและในแต่ละสัปดาห์

การให้ความสำคัญกับอารมณ์ความรู้สึก

การตรวจสอบเกี่ยวกับความรู้สึกกังวลในระหว่างที่ถูกแยกตัวอยู่ในบ้านนั้นสำคัญ ควรมีการสื่อสารกับนักเรียนและครูเพื่อนร่วมงานโดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่ไม่คุ้นเคยกับเครื่องมือดิจิทัลเพื่อดูว่าต้องการความช่วยเหลือหรือใครที่จะคุยด้วยหรือไม่ เพื่อคลายความกังวลใจ แม้ว่าการทำงานที่บ้านอาจสนุก แต่มันก็เป็นเรื่องท้าทายที่จะทำงานตามตารางเวลาปกติ บางสิ่งที่สามารถช่วยได้ เช่น การพักสมองเป็นประจำ การแบ่งเวลาออกกำลังกาย การจัดตารางเวลาการนอน การจำกัดสิ่งรบกวนเมื่อทำได้ การกำหนดเป้าหมายรายวันและรายสัปดาห์

การเลือกเครื่องมือที่เหมาะสม

มีเครื่องมือสำหรับการเรียนการสอนออนไลน์จำนวนมาก รวมถึงเครื่องมือฟรี แต่สิ่งสำคัญคือการเลือกเครื่องมือที่เหมาะสมกับเนื้อหาวิชาและผู้เรียน ยกตัวอย่างเช่น Arizona State University ที่เลือกใช้เครื่องมือเพื่อช่วยให้นักเรียนจดจ่อกับการใช้ตัวอักษรสีต่างๆ บนหน้าจอเพื่อช่วยให้สามารถแยกความคิดที่สำคัญ พยายามทำคำแนะนำออนไลน์ที่สั้น เรียบง่ายและชัดเจนผ่านรูปแบบวิดีโอ นอกจากนี้ยังงโปรแกรมช่วยให้ผู้ใช้เบลอฉากหลัง เช่น ในกรณีที่มีการประชุมทางวิดีโอระหว่างครูและผู้ปกครองนักเรียนในขณะที่อยู่ที่บ้านเพื่อให้ความเป็นส่วนตัว นอกจากนี้ การเรียนรู้ออนไลน์ยังเสนอโอกาสที่ดีในการทบทวนจรรยาบรรณดิจิทัลและปลูกฝังความเป็นพลเมืองดิจิทัลลงในกิจกรรมการทำงานร่วมกันออนไลน์

ความพร้อมในการเรียนออนไลน์ มีอะไรบ้าง

1.จัดเตรียมอุปกรณ์สำหรับการเรียนให้พร้อม (คอมพิวเตอร์, โทรศัพท์มือถือ, ทีวี ฯลฯ) 2.ประสานกับสถานศึกษาในรูปแบบการเรียนการสอน (ตารางเรียน, การมอบหมายงาน ฯลฯ) 3.จัดสภาพแวดล้อมบรรยากาศการเรียน 4.ควบคุมเวลาในการเรียนและดูแลพฤติกรรมการใช้สื่อออนไลน์

ได้อะไรจากการเรียนออนไลน์

ทำไมควรเลือกเรียนออนไลน์.
บริหารเวลาเรียนได้ตามความสะดวก ... .
วิกฤตไหนก็ไม่เป็นอุปสรรค ... .
ทบทวนบทเรียนได้ตลอดเวลา ... .
มีหลักสูตรใหม่ๆ อัปเดตเสมอ ... .
ประหยัดค่าใช้จ่าย.

รู้สึกยังไงกับการเรียนออนไลน์

การเรียนออนไลน์นอกจากสร้างความเหนื่อยล้าสะสม ยังทำให้เด็กเบื่อหน่าย ขาดจินตนาการ และขาดโอกาสในการทำกิจกรรมอื่นๆ เพราะชีวิต 50% คือการเรียนออนไลน์ และอีก 50% ที่เหลือคือการทำการบ้าน ทำให้แทบไม่มีเวลาพักผ่อนหรือแบ่งให้กิจกรรมอื่นๆ ที่สร้างความสุขในชีวิตได้เลย เพราะตื่นมาก็ต้องอยู่หน้าคอมและอยู่อย่างนั้นทั้งวัน แทบจะไม่ ...

นักเรียนชอบอะไรมากที่สุดเกี่ยวกับการเรียนออนไลน์

สิ่งที่ยอดเยี่ยมอีกอย่างเกี่ยวกับชั้นเรียนออนไลน์คือมีให้เลือก ค่อนข้างหลากหลาย คุณสามารถค้นหาหลักสูตรระดับใดก็ได้ที่คุณต้องการทางออนไลน์เพื่อช่วยให้คุณก้าวหน้าในด้านการศึกษาและอาชีพของคุณ ดังนั้นไม่ว่าคุณจะอยากเรียนอะไรโอกาสที่จะมีบางอย่างที่เหมาะกับคุณ - และคุณไม่ต้องไปเริ่มที่ไหนเลย!