ภาพ สาม มิติ แบบ ใด ที่ เขียน แล้ว ภาพ สวยงาม เสมือน จริง

การเขียนภาพไอโซเมตริก (Isometric)

ภาพ สาม มิติ แบบ ใด ที่ เขียน แล้ว ภาพ สวยงาม เสมือน จริง

การเขียนแบบ 3 มิติแบบไอโซเมตริก

 คำว่า  “ไอโซ  (ISO)”  เป็นภาษากรีกซึ่งแปลว่า  “เท่ากันหรือเหมือนกัน”  และคำว่า  “เมตริก”  (Metric)  หมายถึง  หน่วยการวัด  เมื่อนำคำทั้งสองมารวมกันเป็น  ไอโซเมตริก  (Isometric)  จึงหมายถึง  ภาพ  3  มิติ  ที่มีด้านท่ากันทุกด้าน  ดังนั้นภาพไอโซเมตริกจึงเป็นภาพ  3  มิติที่เขียนง่าย  ที่มีมุมเอียงและสัดส่วนแน่นอน  ภาพไอโซเมตริกนี้จะแสดงให้เห็นถึงด้านหน้า  ด้านข้าง  และด้านบน  โดยที่ขอบงานจะตั้งตรงขึ้นในแนวดิ่ง  และชิ้นงานจะถูกสมมติให้วางเอียงไปด้านหน้าประมาณ  35 องศา  16  ลิปดา  ซึ่งจะได้ภาพด้านข้างเอียงทำมุม  30  องศา  กับแนวระดับเท่ากันทั้งสองด้าน

การเขียนไอโซเมตริกจะต้องใช้เครื่องมือช่วยและต้องเขียนให้อยู่ในแนวแกนหลักเสมอ

  1. ความหมายของภาพ
    ภาพสามมิติหมายถึง การเขียนภาพโดยการนำพื้นผิวแต่ละด้านของชิ้นงานมาเขียนประกอบกันเป็นรูปเดียว ทำให้สามารถมองเห็นลักษณะรูปร่าง พื้นผิว ได้ทั้งความกว้าง ความยาว และความหนาของชิ้นงาน ทำให้ภาพสามมิติมีลักษณะคล้ายกับการมองชิ้นงานจริง ภาพสามมิติที่เขียนในงานเขียนแบบมีหลายประเภท แต่ละประเภทก็มีความแตกต่างกันในการวางมุมการเขียน และขนาดของชิ้นงานจริง กับขนาดชิ้นงานในการเขียนแบบซึ่งผู้เขียนแบบต้องศึกษาลักษณะของภาพสามมิติแต่ละประเภทต่างๆ ให้เข้าใจ เพื่อสามารถปฏิบัติการเขียนแบบได้อย่างถูกต้อง

    2. ประเภทของภาพสามมิติ

    ภาพสามมิติสามารถแบ่งออกได้หลายประเภท ดังนี้
    2.1 ภาพสามมิติแบบ TRIMETRIC เป็นภาพสามมิติที่มีความสวยงาม และลักษณะ
    คล้ายของจริงมากที่สุดและเป็นภาพที่ง่ายต่อการอ่านแบบเพราะเป็นภาพที่เขียนได้ยาก เนื่อง
    จากมุมที่ใช้เขียนเอียง 12 องศา และ 23 องศา และอัตราความยาวของแต่ละด้านไม่เท่ากัน

    2.2 ภาพสามมิติแบบ DIMETRIC เป็นภาพสามมิติที่มีลักษณะคล้ายกับภาพถ่ายและ
    ง่ายต่อการอ่านแบบ แต่ไม่ค่อยนิยมในการเขียนแบบเพราะเป็นภาพที่เขียนได้ยาก เนื่องจากมุม
    ที่ใช้เขียน เอียง 7 องศา และ 42 องศา และขนาดความหนาของภาพที่เขียนจะลดขนาดลงครึ่ง
    หนึ่งของความหนาจริง 

    2.3 ภาพสามมิติแบบ ISOMETRIC เป็นภาพสามมิติที่นิยมเขียนมาก เพราะภาพที่
    เขียนง่าย เนื่องจากภาพมีมุมเอียง 30 องศา ทั้งสองข้างเท่ากัน และขนาดความยาวของภาพ
    ทุกด้านจะมีขนาดเท่าขนาดงานจริง ภาพที่เขียนจะมีขนาดใหญ่มากทำให้เปลืองเนื้อที่กระดาษ

    2.4 ภาพสามมิติแบบ OBQIUE
    เป็นภาพสามมิติที่นิยมเขียนมาก สำหรับงานที่มีรูปร่างเป็นส่วนโค้ง หรือรูกลมเพราะสามารถเขียนได้ง่ายและรวดเร็วเนื่องจากภาพ OBQIUE จะวางภาพด้านหนึ่งอยู่ในแนวระดับ เอียงทำมุมเพียงด้านเดียว โดยเขียนเป็นมุม 45 องศา สามารถเขียนเอียงได้ทั้งด้านซ้ายและขวาความหนาของงานด้านเอียงขนาดลดลงครึ่งหนึ่ง ภาพ OBQIUE มี 2 แบบ คือ แบบคาวาเลียร์ (CAVALIER) และแบบคาบิเนต (CABINET)

#isomettric #เขียนภาพ 3D  #ไอโซเมตริก #ความหมาย isomettric

ดูเพิ่มเติม.. 

กว่าจะมาเป็นภาพ 3D perspective ภาพเสมือนจริง

การทำภาพ 3 มิติที่นำเสนอให้เห็นมุมมองภาพเสมือนจริง โดยใช้เทคโนโลยีทางด้าน IT เข้ามาช่วย ผู้ประกอบการหลายท่านต้องใช้รูปภาพ 3 มิติ เข้ามาเป็นช่วยในการนำเสนอผลงาน การขาย อย่างเช่น ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ โครงการรีสอร์ท งานสถาปัตย์ งานโครงสร้าง การตกแต่งต่อเติมอาคาร บู๊ทขายของ การออกแบบสิ่งปลูกสร้าง การออกแบบบูธจัดแสดงสินค้า ผังบริเวณ รายละเอียดตัวบ้าน อาคารต่างๆ ก่อนสร้างจริง เป็นต้น

เรามาทำความเข้าใจกับภาพ 3D perspective หรือ ที่มักเรียกกันว่า ภาพตีพ กันก่อน ภาพ 3 มิติ เป็นภาพที่สร้างขึ้นมาโดยสิ่งๆนั้นยังไม่ได้ถูกสร้างขึ้นจริง เป็นภาพที่ถูกสร้างขึ้นในมุมมองภาพที่แตกต่างกัน ในสมัยก่อนจะใช้การวาดเพื่อจำลองภาพขึ้นมาแต่ในปัจจุบันมีความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีมากขึ้น วิวัฒนาการการทำภาพตีฟก็จะใช้คอมพิวเตอร์เข้ามาช่วยในการทำงาน จะมีโปรแกรมต่างๆที่เข้ามาสนับสนุนทำให้การสร้างภาพขึ้นมาสักหนึ่งชิ้นง่ายขึ้นและเหมือนรูปจริงมากขึ้น สามารถสร้างสรรค์ได้ทั้งตัวอาคาร เพิ่มวัสดุ แสง สี Furniture คน สถานที่รอบๆ เข้าไปในรูปภาพได้อย่างสมจริง ทำให้ภาพดูมีชีวิตชีวามากขึ้น และมีความน่าสนใจมากขึ้นนั้นเอง

ในการเนรมิตภาพ 3D แบบเบสิก ในขั้นแรกของการทำเริ่มจากเทคนิคการรับ brief อย่างชาญฉลาดจากลูกค้า ในการรับบรีฟงานมักจะเจอลูกค้าหลากหลายรูปแบบ ทั้งแบบที่ brief ดีแสนดีบอกละเอียดยิบทุกความต้องการ หรือแบบที่ไม่บอกอะไรให้เราคิดจินตนาการเอาเอง ฉะนั้น การรับมือต้องเริ่มจากตัวของเราเองก่อน โดยการค้นหาเนื้อหาใจความสำคัญให้ตรงจุด หาสิ่งที่ลูกค้าต้องการสงสัยจุดไหนถามทันที หา Concept ,Theme image, material  ที่ลูกค้าต้องการ เช่น ในการทำ 3D ให้คอนโดแห่งหนึ่ง เราต้องทราบรายละเอียดว่าในแต่ละชั้นประกอบไปด้วยอะไรบ้าง สิ่งอำนวยความสะดวก แสงในแต่ละช่วงเวลา ท้องฟ้า วัสดุที่ใช้ในการตกแต่งมีอะไรบ้าง เป็นลักษณะใด จุดเด่นพื้นที่ต่างๆบริเวณโดยรอบต้องเป็นไปในลักษณะใด

ภาพ สาม มิติ แบบ ใด ที่ เขียน แล้ว ภาพ สวยงาม เสมือน จริง

หลังจากที่เราได้ข้อมูลจากการ brief ของลูกค้ามาแล้ว จะมีทั้งข้อมูลที่เป็นประโยชน์และข้อมูลที่มีแต่น้ำไม่มีเนื้อ จะต้องนำข้อมูลที่ได้เหล่านั้นมาคัดกรอง นำเอาข้อมูลที่ใช้ได้มารวบรวมแล้วร่างโครงสร้างที่ต้องการออกมาก่อนลงมือจริง เพราะการเขียนแบบร่างขึ้นมาก่อนจะทำให้มองภาพได้ชัดเจนขึ้น มีการจัดสรรทุกอย่างได้เป็นระบบมากขึ้น สามารถเห็นภาพรวมของการจัดวางได้เป็นส่วนๆ จากนั้นมาลงพื้นที่จริงกันเลย กำหนด แปลน ที่แสดงขนาด ระยะ ขอบเขตต่างๆชัดเจน ตาม Concept หรือ Image ที่ร่างเอาไว้เลย ในการทำภาพจะต้องออกมาดูแล้วไม่ขัดกับสายตา เป็นภาพที่ดูเป็นธรรมชาติให้ความรู้สึกที่เหมือนภาพนั้นสมบูรณ์แล้ว จะได้งานที่สวยงามตรงกับความต้องการมากยิ่งขึ้น

ประโยชน์ของ ภาพ 3 มิติ

ภาพเพอร์สเปคตีพช่วยให้การ present งานกับลูกค้า หรือการเสนอไอเดีย แนวความคิดให้แก่ผู้ร่วมลงทุน หัวหน้างาน ได้เห็นภาพที่ชัดเจนมากขึ้นรวมไปถึงบรรยากาศ ความรู้สึกของภาพ แสดงถึงตัวโครงสร้างของงานให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ภาพที่สวยงามและดึงดูดใจก็จะช่วยให้สามารถปิดงานกับลูกค้าได้ง่ายขึ้น ในการสร้างโครงการสักหนึ่ง โครงการก็จะสามารถคุยเรื่องแบบได้ง่ายขึ้นกับผู้ที่ดำเนินการก่อสร้างได้สะดวกมากขึ้นสามารถสื่อสารกันให้เข้าใจตรงกัน อีกหนึ่งประโยชน์ที่สำคัญคือ เรื่องของงบประมาณการมีภาพแล้วสามารถทำให้เราวางแผนต้นทุนที่ต้องใช้ให้เกิดข้อผิดพลาดน้อยที่สุด งบที่ใช้สร้างไม่บานปลาย ควบคุมค่าใช้จ่ายได้ดีมากขึ้น

ภาพ สาม มิติ แบบ ใด ที่ เขียน แล้ว ภาพ สวยงาม เสมือน จริง

3D REAL ESTATE PHOTOGRAPHY
ภาพ 3D มีความสำคัญกับธุรกิจทางด้านอสังหาริมทรัพย์อย่างไรบ้าง ในผู้ประกอบธุรกิจทางด้านอสังหาริมทรัพย์คงปฏิเสธไม่ได้เลยว่าภาพตีพ ถือเป็นองค์ประกอบหลักของธุรกิจเลย 3D เป็นการจำลองภาพสถานการณ์ของอสังหาริมทรัพย์ที่มีอยู่ มักถูกสร้างขึ้นด้วยภาพนิ่ง VDO Animation หรือภาพพาโนรามา 360 องศา เทคโนโลยีเหล่านี้ที่ทำให้ลูกค้าสามารถรู้สึกเหมือนกับอยู่ในสถานที่นั่นได้อย่างสมจริง ประโยชน์หลักๆวันนี้ WISDOM สรุปมาให้สั้นๆทั้งหมด 3 ข้อด้วยกันมาเริ่มกันเลย

1. ภาพ 3D ทำให้เห็นภาพชัดเจนมากขึ้น

เนื่องจากธุรกิจจะต้องมีการโปรโมทและจำลองโครงการขึ้นมาก่อนการก่อสร้างจริง ทำให้ผู้เข้าชมได้รับประสบการณ์ ความเข้าใจซึ่งทำให้ได้รับความชัดเจนเกี่ยวกับพื้นที่ที่ลูกค้ากำลังสนใจ อสังหาริมทรัพย์ที่ประสบความสำเร็จต้องอาศัยการทำภาพที่มีคุณภาพ รูปภาพที่ใช้จะต้องแสดงถึงความเป็นมืออาชีพ สื่อสารรายละเอียด ลงดีเทลได้อย่างชัดเจนเสมือนจริงที่สุด

2. 3D ทำให้เกิดการกระตุ้นใจให้เกิดการซื้อได้เพิ่มมากขึ้น

ภาพ 3D ทัศนียภาพ ที่ผ่านการ Design มาแล้วนำมาขึ้นเป็นภาพเสมือนจริง ภาพที่ทำได้สวยงามและเหมือนจริงมากที่สุดจะกระตุ้นใจสร้างอารมณ์และความรู้สึกอยากได้ เป็นตัวช่วยในการส่งเสริมการขาย กระตุ้นยอดขายได้เป็นอย่างดี

3. สร้างเอกลักษณ์ที่แตกต่าง

โดดเด่นในตัวผลิตภัณฑ์ ในทางการแข่งขันธุรกิจอสังหาริมทรัพย์มีคู่แข่งมากมาย แข่งกันสูงในตลาด การสร้างจุดเด่นให้แก่ product นำให้เหนือกว่าคู่แข่งของคุณเอง จะทำให้เป็นที่สนใจขึ้นมาได้ในการแข่งขันและยังเป็นการสร้างความมั่นใจ ความเชื่อมั่น สร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้แก่ลูกค้าและองค์กรได้อีกด้วย

ทั้งหมดเป็นเพียง process ในเบื้องต้นของการทำภาพ 3D perspective ซึ่งขั้นตอนในการทำกว่าจะมาเป็นเป็นภาพสักภาพนั้นต้องใช้เวลาเป็นอย่างมาก เพื่อให้ได้รูปภาพเสมือนจริงที่มีมุมมอง มีมิติ ดึงดูดความสนใจได้ ในทุกๆขั้นตอนถือเป็นส่วนสำคัญทั้งหมด หากเริ่มต้นมาดี ขั้นตอนต่อไปก็จะง่ายมากขึ้น

ติดตามข่าวสารจาก wisdom (digital creative agency) เพิ่มเติมได้ที่ : https://wisdomstudio.co.th/article/

บทความฉบับย่อ ทาง Facebook : https://www.facebook.com/Thewisdom.Ltd/posts/703634006716576