บริการที่ให้ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตสามารถใช้โปรแกรมบราวเซอร์ในการเปิดข้อมูลในลักษณะ

เว็บเบราว์เซอร์ (web browser) คือโปรแกรมคอมพิวเตอร์ ที่ผู้ใช้สามารถดูข้อมูลและโต้ตอบกับข้อมูลข่าวสารสนเทศที่จัดเก็บในหน้าเว็บไซต์ที่สร้างด้วยภาษาเฉพาะ เช่น ภาษาเอชทีเอ็มแอล (html) ที่จัดเก็บไว้ในระบบบริการเว็บโฮสติ้งหรือเว็บเซิร์ฟเวอร์ หรือระบบคลังข้อมูลอื่น ๆ โดยโปรแกรมเว็บเบราว์เซอร์เปรียบเสมือนเครื่องมือในการติดต่อกับเครือข่ายคอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่ที่เรียกว่าเวิลด์ไวด์เว็บเพื่อแสดงผล ข้อมูลต่างๆที่อยู่ในไฟล์มาแสดงผลผ่านหน้าจอคอมพิวเตอร์ตามผู้ใช้งาน

เวิลด์ไวด์เว็บ (www) หมายถึง เครื่อข่ายที่เชื่อต่อกันทั่วโลก หรือ ที่เราเรียกว่า เว็บ คือรูปแบบหนึ่งของระบบการเชื่อมโยงเครือข่ายข่าวสาร ใช้ในการค้นหาข้อมูลข่าวสารบน Internet จากแหล่งข้อมูลหนึ่ง ไปยังแหล่ง ข้อมูลที่อยู่ห่างไกล ให้มีความง่ายต่อการใช้งานมากที่สุด   

ประโยชน์ของ Web Browser

สามารถดูเอกสารภายในเว็บเซิร์ฟเวอร์ได้ อย่างสวยงามมีการแสดงข้อมูลในรูปของ ข้อความ ภาพ และระบบมัลติมีเดียต่างๆ ทำให้การดูเอกสารบนเว็บมีความน่าสนใจมากขึ้น ส่งผลให้อินเตอร์เน็ตได้รับความนิยมเป็นอย่างมากเช่นในปัจจุบัน ปัจจุบัน web browser ส่วนใหญ่จะรองรับ html 5 และ อ่าน css เพื่อความสวยงามของหน้า web page

เว็บเบราว์เซอร์ (web browser) ที่เป็นที่นิยมอย่างแพร่หลาย ดังนี้

  • Google Chrome
  • Mozilla Firefox
  • Internet Explorer
  • Opera
  • Safari
  • บริษัทรับทำเว็บคุณภาพ
  • หลังคาชิงเกิ้ลรูฟ
  • หลังคายางมะตอย

บริการที่ให้ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตสามารถใช้โปรแกรมบราวเซอร์ในการเปิดข้อมูลในลักษณะ

อินเตอร์เน็ตเข้าใกล้การเป็นปัจจัยสำคัญในชีวิตรองจากปัจจัย 4 เงินและสมาร์ทโฟน ซึ่งการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตในปัจจุบันสามารถเข้าได้หลากหลายช่องทาง และช่องทางเหล่านั้นจะถูกเรียกว่า “เว็บบราวเซอร์ (Web Browser)” ที่สำคัญเว็บบราวเซอร์ในปัจจุบันมีมากมายหลายค่ายที่พัฒนาขึ้นมา เว็บบราวเซอร์เหล่านี้ต่างมีความสามารถและจุดเด่นที่แจกจ่างกันไป ยิ่งไปกว่านั้นยังสามารถเข้าเว็บบราวเซอร์ได้จากหลายๆ อุปกรณ์

แน่นอนว่าเว็บบราวเซอร์คือประตูสู่โลกอินเตอร์เน็ต ซึ่งหากมองในแง่เทคโนโลยีเว็บบราวเซอร์ก็เป็นหนึ่งโปรแกรมที่ควรมีติดไว้ทุกเครื่อง แต่หากมองในแง่นักการตลาดเว็บบราวเซอร์คือแพลตฟอร์มที่สำคัญในการนำเสนอข้อมูลข่าวสารผ่านแต่ละแพลตฟอร์มที่มีความแตกต่างกัน นี่คือเว็บบราวเซอร์ทั้ง 7 ที่มีผู้นิยมใช้มากในปี 2017

1. Internet Explorer

ยังคงถือว่าเว็บบราวเซอร์ Internet Explorer หรือ IE เป็นแพลตฟอร์มที่มีความเก่าแก่มากที่สุดแพลตฟอร์มหนึ่ง เนื่องจากเป็นโปรแกรมพื้นฐานที่อยู่คู่กับระบบปฏิบัติการ Windows มาตั้งแต่ยุคสมัย Windows 3.11 ซึ่งชื่อก็บอกอยู่แล้วว่า เป็นโปรแกรมสำหรับการเชื่อมต่อกับโลกอินเตอร์เน็ตด้วยความที่โปปรแกรมมีมานานมากแถมยังเป็นพื้นฐานในระบบปฏิบัติการจึงทำให้ถูกละเลย แต่เมื่อมีการพัฒนาจนมาสู่รุ่น IE11 ก็ช่วยให้การเข้าถึงอินเตอร์เน็ตมีประสิทธิภาพสูงขึ้น ถึงขนาดการันตีว่าใช้ความสามารถของ Ram และ CPU น้อยกว่า Firefox และ Chrome

บริการที่ให้ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตสามารถใช้โปรแกรมบราวเซอร์ในการเปิดข้อมูลในลักษณะ

2. Mozilla Firefox

ยังคงอยู่ใน Top Chart สำหรับเว็บบราวเซอร์จิ้งจอกไฟอย่าง Mozilla Firefox ซึ่งครั้งหนึ่งเคยขึ้นไปถึงเว็บบราวเซอร์ที่ดีที่สุด เนื่องจากมีการใช้ทรัพยากรของเครื่องคอมพิวเตอร์น้อยกว่าเว็บบราวเซอร์ค่ายอื่นๆ นอกจากนี้ Firefox ยังมีแถบเครื่องมือใช้งานและแท็บหน้าต่างอินเตอร์เน็ตที่ดูเรียบร้อย ไม่รกมากมาย สำหรับในเวอร์ชั่นล่าสุด Firefox ได้เพิ่มฟีเจอร์ป้องกันการรบกวนจากโฆษณา รวมไปถึงการป้องกันเว็บไซต์ที่อาจเป็นภัยคุกคามต่อระบบคอมพิวเตอร์ได้ และยังรองรับการแสดงผลเว็บไซต์ในรูปแบบ 3 มิติ

บริการที่ให้ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตสามารถใช้โปรแกรมบราวเซอร์ในการเปิดข้อมูลในลักษณะ

3. Google Chrome

หนึ่งในเว็บบราวเซอร์ที่เคยขึ้นสู่ตำแหน่งเว็บบราวเซอร์ที่มีผู้นิยมใช้มากที่สุด ซึ่งในยุคสมัยหนึ่ง Chrome ถูกจัดให้เป็นเว็บบราวเซอร์ที่มีการประมวลผลได้อย่างรวดเร็ว ใช้ทรัพยากรในคอมพิวเตอร์น้อยที่สุด แต่นั่นคือเรื่องของอดีตเพราะในปัจจุบัน Chrome ไม่ใช่เว็บบราวเซอร์ที่ประมวลผลได้เร็วที่สุด แถมปัจจุบัน Chrome ยังเป็นเว็บบราวเซอร์ที่ใช้ทรัพยยากรในคอมพิวเตอร์เปลื่องมากที่สุดโปรแกรมหนึ่ง หากจะหาข้อดีก็คงจะเป็นการเชื่อมโยงเว็บบราวเซอร์กับบัญชีต่างๆ ของ Google ช่วยให้สะดวกในการใช้งาน Google

บริการที่ให้ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตสามารถใช้โปรแกรมบราวเซอร์ในการเปิดข้อมูลในลักษณะ

4. Opera

เว็บบราวเซอร์ที่ถูกจับตามองมาโดยตลอด เนื่องจากมีความสามารถได้โดดเด่นแต่ก็ยังเด่นไม่เกิน 3 เว็บบราวซอร์ด้านบน ซึ่ง Opera ยืนยันว่าเป็นเว็บบราวเซอร์ที่มีฟังก์ชั่นในการประหยัดแบตเตอรี่ได้ถึง 50% แต่ฟังก์ชั่นนี้ใน Firefox ก็มีเช่นกัน ที่สำคัญ Opera ยังเคลมว่าสามารถป้องกันโฆษณาต่างๆ ได้โดยไม่ต้องเพิ่มส่วนเสริมใด ทำให้สามารถโหลดหน้าเพจได้เร็วขึ้น 90%

บริการที่ให้ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตสามารถใช้โปรแกรมบราวเซอร์ในการเปิดข้อมูลในลักษณะ

5. Opera Neon

เป็นอีกหนึ่งเวอร์ชั่นที่ออกมาใหม่ของ Opera โดยใช้ชื่อว่า Neon โดยในเวอร์ชั่นนี้นอกจากจะอัดแน่นด้วยฟังก์ชั่นการทำงานของเว็บบราวเซอร์ Opera ชุดใหญ่แล้ว ยังเพิ่มฟังก์ชั่นในเรื่องของลูกเล่นเสริมเข้าไปไม่ว่าจะเป็นแท็บรูปแบบใหม่ ความสามารถในการนำวอลเปเปอร์ใส่ลงไปในเว็บบราวเซอร์ และการแยกหน้าจอ เรียกว่าเป็นเว็บบราวเซอร์ที่ไม่ได้มีเพียงแค่ฟังก์ชั่นการใช้งานที่หลากหลาย แต่ยังเน้นไปที่เรื่องของความสวยงามอีกด้วย

บริการที่ให้ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตสามารถใช้โปรแกรมบราวเซอร์ในการเปิดข้อมูลในลักษณะ

6. Microsoft Edge

สำหรับเว็บบราวเซอร์ตัวนี้เรียกว่าได้ เป็นต้นกำเนิดของ IE11 ในยุคที่เว็บบราวเซอร์ IE ไม่ได้รับความนิยมจากผู้ใช้งาน ซึ่งรูปแบบของ Microsoft Edge ยังเป็นรูปแบบพื้นฐานสำหรับ IE11 นอกจากนี้ยังมีฟังก์ชั่น Web Note ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถบันทึกและแบ่งปันคำอธิบายประกอบหรือการเขียนอื่นๆ ที่สำคัญยังได้ลดขอบของหน้าเว็บเพจลงตามชื่อ Edgeช่วยเพิ่มความสะดวกสบาย พร้อมความสามารถในการเล่นไฟล์แฟลช พร้อมทั้งสามารถกำหนดมาตรฐาน JavaScript ได้อีกด้วย

บริการที่ให้ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตสามารถใช้โปรแกรมบราวเซอร์ในการเปิดข้อมูลในลักษณะ

7. Vivaldi

เป็นอีกหนึ่งโปรแกมเว็บบราวเซอร์ แม้ว่าจะเป็นโปรแกรมที่มีคนรู้จักในวงแคบๆ และฟังก์ชั่นการำงานไม่ได้เลิศเลอเหมือนโปรแกรมจากค่ายใหญ่ๆ ทั้งหลาย แต่ความสามารถในเรื่องของการจัดการแท็บต่างๆเป็นฟังก์ชั่นหนึ่งที่โดดเด่นสำหรับ Vivaldi

บริการที่ให้ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตสามารถใช้โปรแกรมบราวเซอร์ในการเปิดข้อมูลในลักษณะ

Source: T3


  • TAGS
  • google chrome
  • Internet Explorer
  • Mozilla Firefox
  • Opera
  • Vivaldi
  • Web Browser
  • กูเกิ้ล โครม
  • วิวัลดี
  • อินเตอร์เน็ต เอ็กซ์พลอเรอร์
  • เว็บบราวเซอร์
  • โมซิลล่า ไฟร์ฟ็อกซ์
  • โอเปร่า