แบบทดสอบหน่วยที่ 4การตัดเย็บและดัดแปลงเสื้อผ้า ง 33106ธ.ค. 3 Posted by krupaga หน่วยที่ 4 ทักษะการแก้ปัญหาในการทำงาน (การตัดเย็บและดัดแปลงเสื้อผ้า)
เขียนใน แบบทดสอบหน่วยที่ 4การตัดเย็บเสื้อผ้า ง 33106 ใส่ความเห็น โซเดียมไบคาร์บอเนต (Sodium bicarbonate) มีลักษณะเป็นผลึกสีขาวที่ละลายน้ำได้ดี มีความเป็นด่าง เมื่อทำปฏิกิริยากับส่วนผสมที่เป็นกรดในส่วนผสมของเหลวก็จะทำให้เกิดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) จนทำให้เกิดฟองก๊าซ หลายคนที่สับสนว่าโซเดียมไบคาร์บอเนตกับโซเดียมคาร์บอเนตมันเหมือนหรือแตกต่างกันอย่างไร มาลองทำความเข้าใจกันครับ
ข้อแตกต่าง : โซเดียมคาร์บอเนตและโซเดียมไบคาร์บอเนตจะมีความเป็นด่างสูง แต่โซเดียมไบคาร์บอเนตจะมีความเป็นกรดมากกว่าโซเดียมคาร์บอเนต เบกกิ้งโซดาเบกกิ้งโซดา (Baking Soda) มีชื่อทางเคมีคือ “โซเดียมไบคาร์บอเนต” (Sodium bicarbonate) สารนี้จะสลายตัวได้เมื่อได้รับความร้อน มีค่าเป็นด่าง และมีข้อเสียคือจะมีสารตกค้าง ถ้าใช้มากเกินไปจะทำให้เกิดรสเฝื่อนได้ แต่สามารถแก้ไขได้โดยเติมกรดลงไปในสูตรขนมอาหารลงไปเพื่อทำให้สารตกค้างหมดไปได้ ตัวอย่างเช่น การเติมนมเปรี้ยว หรือโยเกิร์ต เป็นต้น เบกกิ้งโซดารูปแบบนี้เราจะนิยมนำมาใช้กับขนมที่มีโกโก้หรือกาแฟเป็นส่วนผสม เพราะทั้งโกโก้และกาแฟต่างก็มีค่าเป็นด่าง และเบกกิ้งโซดาก็มีค่าเป็นด่าง จึงทำให้เข้ากันได้ดี ผงฟูผงฟู หรือ เบกกิ้งพาวเดอร์ (Baking Powder) คือ สารเคมีแห้งที่ช่วยทำให้ขนมขึ้นฟู โดยมีส่วนประกอบ คือ โซเดียมไบคาร์บอเนต (Sodium bicarbonate) เป็นส่วนประกอบสำคัญ + สารที่มีฤทธิ์เป็นกรด (เช่น ครีมทาร์ทาร์ (Cream of tartar) ซึ่งเป็นผลึกผงสีขาวที่ทำมาจากรดในผลองุ่น), ไดโซเดียมไพโรฟอสเฟต (Disodium pyrophosphate) หรือสารเจือปนในอาหารที่ให้ความเป็นกรด) + แป้งข้าวโพด (Corn starch) ที่ช่วยป้องกันไม่ให้สารทั้งสองสัมผัสกันโดยตรง ทั้งนี้เป็นเพราะโซเดียมไบคาร์บอเนตนั้นมีความเป็นด่างสูง จึงต้องผสมกับสารที่มีฤทธิ์เป็นกรดเพื่อช่วยคงความเป็นกลางไว้ไม่ให้มันทำปฏิกิริยากัน เมื่อใส่ผงฟูในน้ำก็จะทำให้เกิดฟองก๊าซ (เพราะมีกรดที่พร้อมทำปฏิกิริยาอยู่แล้ว) โดยผงฟูจะมีอยู่ด้วยกัน 2 แบบ คือ
ผงฟูนั้นเรามักจะนำมาใช้ในการทำขนมเป็นส่วนใหญ่ เพราะผงฟูจะช่วยทำให้ขนมขึ้นฟูได้ แต่ต้องใช้ในปริมาณพอควร ขนมจำพวกวาฟเฟิล มัฟฟิน และแพนเค้ก โดยทั่วไปแล้วผงฟูประมาณ 1-1 ¼ ช้อนชา สามารถทำให้ขนมขึ้นฟู โดยใช้แป้ง 1 ถ้วยตวง ของเหลว 1 ถ้วยตวง และไข่ไก่ 1 ฟอง แต่อย่างไรก็ตามการเติมผงฟูมากจนเกินไปจะทำให้ดูฟุ่มเฟือยและทำให้ขนมเสียรสชาติได้ ผงฟูกับเบกกิ้งโซดาต่างกันยังไง
สรุป ทั้งเบกกิ้งโซดา (Baking Soda) และผงฟู (Baking Powder) ต่างก็เป็นสารที่ช่วยทำให้ขนมขึ้นฟูได้ แต่โดยมากแล้วจะนำมาใช้ในโอกาศที่แตกต่างกัน โดยผงฟูนั้นสามารถนำมาใช้แทนเบกกิ้งโซดาได้ในบางกรณี* แต่เบกกิ้งโซดาเพียงเดี่ยว ๆ จะไม่สามารถนำมาใช้แทนผงฟูได้เลย เพราะต้องเพิ่มสารที่มีฤทธิ์เป็นกรดและแป้งข้าวโพดเข้าไปด้วย หมายเหตุ : ผงฟูจะมีปริมาณที่จะเกิดปฏิกิริยาน้อยกว่าเบกกิ้งโซดา 4 เท่า พูดง่าย ๆ ก็คือ เบกกิ้งโซดาเพียว ๆ จะมีความเข้มข้นมากกว่าผงฟูประมาณ 4 เท่าครับ ถ้าจะใช้ผงฟูแทนเบกกิ้งโซดาก็กะใช้ในขนาดที่เหมาะสมด้วยครับ ประโยชน์ของเบกกิ้งโซดา
หมายเหตุ : เบกกิ้งโซดา (Baking Soda) กับผงฟู (Baking Powder) แม้ว่าจะมีคุณสมบัติบางอย่างที่คล้ายกัน แต่บางครั้งมันก็เอามาใช้แทนกันไม่ได้นะครับ อันนี้ก็ต้องดูให้ดี ๆ ก่อนครับ เบกกิ้งโซดา ซื้อที่ไหน?ตอบ หาซื้อได้ตาม Supermarket ทั่วไปครับ (เดอะมอลล์, ฟู๊ดแลนด์, แม็คโคร, บิ๊กซี, โลตัส, ท๊อปส์, ร้านขายอุปกรณ์เบเกอรี่) ที่แผนกเบเกอรี่ บริเวณชั้นที่ขายพวกแป้งทำขนม สีผสมอาหาร ถ้าเป็นยี่ห้อ McGarrett ขนาด 300 กรัม ก็ราคาประมาณ 11-16 บาทครับ แต่ล่าสุดที่ผมไปซื้อมาที่ฟู๊ดแลนด์ ยี่ห้อแม็กกาแรต ขนาด 300 กรัม ราคาอยู่ที่ 14.50 บาทครับ (30/08/57) แต่ระวังจะซื้อมาผิดนะครับ ให้เลือกเอาที่เขียนว่า Baking Soda ไม่ใช่ Baking Powder ภาพประกอบ : pantip.com (by แม่หนูคริสตี้) เรียบเรียงข้อมูลโดยเว็บไซต์เมดไทย (Medthai) เมดไทย เมดไทย (Medthai) ให้ข้อมูลที่ถูกต้องและเป็นอิสระเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพ การรักษาโรค การใช้ยา สมุนไพร แม่และเด็ก ฯลฯ เราร่วมมือกับแพทย์และผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านเพื่อให้มั่นใจว่าคุณจะได้รับข้อมูลที่ถูกต้องและดีที่สุด |