(เครดิตภาพ National Archives of Australia/หอจดหมายเหตุแห่งชาติของออสเตรเลีย) ครั้งแรกวีดิทัศน์สารคดีประวัติศาสตร์ในหลวง ร.10 ในออสเตรเลีย บันทึกพระราชจริยวัตรขณะทรงศึกษานายร้อยทหารบกดันทรูน เอกอัครราชทูตออสเตรเลียประจำไทยระบุจัดทำสมพระเกียรติ ใช้เวลา 2 ปีรวบรวมวีดิทัศน์-ภาพพระบรมฉายาลักษณ์หายาก เก็บรักษาที่หอจดหมายเหตุออสเตรเลีย พร้อมบทสัมภาษณ์พระสหายร่วมชั้นเรียน ตั้งใจมอบเป็นของขวัญให้คนไทย พร้อมกระชับความสัมพันธ์สองชาติครบ 69 ปี (เครดิตภาพ National Archives of Australia/หอจดหมายเหตุแห่งชาติของออสเตรเลีย)
นายอัลลันกล่าวด้วยว่า ในวีดิทัศน์ที่ค้นพบมีเหตุการณ์งานเลี้ยงถวายการต้อนรับในหลวง ร.9 เมื่อปี 2505 มีพระราชดำรัสตอนหนึ่งว่า "ให้คิดถึงออสเตรเลียไม่ใช่ในฐานะประเทศตะวันออกไกล แต่เป็นประเทศทางเหนือที่ใกล้กัน" สะท้อนพระวิสัยทัศน์ทางการทูตที่ก้าวหน้า ทูตออสเตรเลียประจำไทยกล่าวต่อว่า ตอนทูลเกล้าฯ ให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทอดพระเนตร สารคดีจัดเป็นฉบับภาษาไทย ภายหลังทอดพระเนตร มีพระบรมราชวินิจฉัยว่าอยากให้ทำฉบับภาษาอังกฤษด้วย จึงนำกลับมาทำเป็นฉบับภาษาอังกฤษเพิ่มเติม ตรงนี้อาจด้วยทรงอยากฟังเสียงพระสหายขณะทรงศึกษาและบรรยากาศจริงในวีดิทัศน์ "วีดิทัศน์สารคดีนี้เป็นผลงานสำคัญชิ้นหนึ่งในประวัติศาสตร์ไทย-ออสเตรเลีย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวประทับที่ออสเตรเลียนาน 6 ปีครึ่ง ทรงศึกษาที่ดันทรูนจนสำเร็จการศึกษา จากนั้นทรงประจำการที่กองปฏิบัติการทางอากาศพิเศษในนครเพิร์ท ถือเป็นกองปฏิบัติการทางการทหารชั้นนำของออสเตรเลีย ทรงวางรากฐานที่มั่นคงคงความสัมพันธ์สองประเทศ และพัฒนาแน่นแฟ้น สถานทูตต้องการมอบเป็นของขวัญให้กับชาวไทย รวมถึงให้ทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศได้รับทราบประวัติศาสตร์ในช่วงทรงศึกษาที่ออสเตรเลียอย่างเต็มที่" นายอัลลันกล่าว (เครดิตภาพ National Archives of Australia/หอจดหมายเหตุแห่งชาติของออสเตรเลีย) นายอัลลันกล่าวต่อว่า วีดิทัศน์สารคดีนี้ยังกล่าวถึงความสัมพันธ์ไทย-ออสเตรเลียในประวัติศาสตร์ร่วมสมัย ซึ่งทั้งวีดิทัศน์สารคดีและนิทรรศการพระบรมฉายาลักษณ์เป็นการเน้นย้ำถึงประวัติศาสตร์ที่ออสเตรเลียและไทยมีร่วมกัน ประวัติศาสตร์นี้ช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งของความสัมพันธ์ระหว่างสองชาติในปัจจุบันระดับรัฐต่อรัฐ มีความร่วมมือใกล้ชิดในหลายด้าน ทั้งความมั่นคง กลาโหม การเกษตร การค้ามนุษย์ รวมถึงความร่วมมือลึกซึ้งทางเศรษฐกิจ ไทย-ออสเตรเลียเป็นประเทศคู่ค้า 10 อันดับแรก และเพิ่งยกระดับสู่ความเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ ซึ่งนายสกอตต์ มอร์ริสัน และพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีของทั้งสองประเทศ ได้ลงนามร่วมกันเมื่อเดือน พ.ย.ที่ผ่านมา นอกจากนี้จะพัฒนาความร่วมมือในการฟื้นฟูเศรษฐกิจจากการระบาดโควิด-19 และความร่วมมือพัฒนาวัคซีนโควิดด้วย |