การประเมินสมรรถนะสำคัญของผู้เรียนสมรรถนะสำคัญของผู้เรียน (Competencies of learners) หมายถึง คุณลักษณะเชิง พฤติกรรมที่เป็นผลมาจากความรู้ ทักษะ ความสามารถ และคุณลักษณะอื่น ๆ ที่ทำให้นักเรียนสามารถ เรียนรู้หรือปฏิบัติงานหรือสร้างผลงานได้โดดเด่นกว่าเพื่อนร่วมงานอื่น ๆ ในชั้นเรียน สมรรถนะสำคัญของ ผู้เรียนมี 5 ประการ ดังนี้ Show
โรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ศูนย์วิจัยและพัฒนาการศึกษา กำหนดให้มี การประเมินสมรรถนะสำคัญของผู้เรียนจากกลุ่มสาระการเรียนรู้ 8 กลุ่มสาระ (กลุ่มสาระการเรียนรู้พื้นฐาน และสาระการเรียนรู้เพิ่มเติม ยกเว้นวิชาเลือกเสรี) โดยกำหนดการให้ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 – มัธยมศึกษาปีที่ 6 ประเมินทั้ง 5 สมรรถนะตามความเหมาะสมและสอดคล้องกับธรรมชาติวิชา โดยประเมินอย่างต่อเนื่องแล้ว รายงานผลเป็นรายปีทั้งระดับประถมศึกษาและระดับมัธยมศึกษา สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน (Competencies of learners) หมายถึง คุณลักษณะที่เด็กทุกคนมีและใช้ได้อย่างเหมาะสม เพื่อผลักดันให้ผลการปฏิบัติงานบรรลุตาม เป้าหมาย ซึ่งคุณลักษณะเหล่านี้ได้แก่ ความรู้ ทักษะ บุคลิกภาพ แรงจูงใจทางสังคมลักษณะ นิสัยส่วนตัว ตลอดจนรูปแบบความคิดและวิธีการคิด ความรู้สึกและการกระทำ ซึ่งการพัฒนาผู้เรียนตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 มุ่งเน้นพัฒนาผู้เรียนให้เป็นคนดี มีปัญญา มีความสุข มีศักยภาพในการศึกษาต่อ และประกอบอาชีพ ซึ่งจะช่วยให้ผู้เรียนเกิดสมรรถนะสำคัญ 5 ประการ ได้แก่ ความสามารถในการสื่อสาร ความสามารถในการคิด ความสามารถในการแก้ปัญหา ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต และความสามารถในการใช้เทคโนโลยี สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน มีความสำคัญอย่างไร?ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ได้กำหนดให้สมรรถนะสำคัญ 5 ประการของผู้เรียน เป็นเป้าหมายในการพัฒนาผู้เรียนให้เป็นคนดี มีปัญญา มีคุณภาพชีวิตที่ดี และมีขีดความสามารถในการแข่งขันในเวทีระดับโลก ดังนี้
สมรรถนะสำคัญของผู้เรียนมีประโยชน์ต่อเด็กอย่างไร?เด็กไม่ใช่ผู้ใหญ่ตัวเล็กๆ แต่เด็กคือเด็กที่มีความรู้สึก ความคิดเห็นของตนเอง ซึ่งจะถูกหรือผิดขึ้นอยู่กับผู้ใหญ่ที่จะช่วยนำพาเข้าสู่เส้นทางที่ถูกที่ควร มีโอกาสและเข้าถึงโอกาสที่จะได้รับความรักและการปกป้องดูแล เด็กจึงจะเจริญเติบโต เป็นเด็กแข็งแรง เก่ง ดี มีสุขอย่างสมดุล เพราะการดำเนินชีวิตของเด็กหมายถึง เรื่องของชีวิตที่เป็นอยู่ทั้งหมด ซึ่งอยู่ในระบบความสัมพันธ์ของสิ่งทั้งหลายในธรรมชาติหรือโลก ในระบบความสัมพันธ์นี้ สิ่งทั้งหลายเป็นเหตุปัจจัยส่งผลกระทบต่อกัน เมื่อระบบสัมพันธ์นี้ดำเนินไป ถ้าองค์ประกอบบางอย่างมีพฤติกรรมหรือความเป็นไปที่ไม่ดี ก็จะเกิดผลเสียต่อระบบทั้งหมด เพราะในโลกหรือธรรมชาติที่เป็นระบบความสัมพันธ์ ซึ่งทุกอย่างเป็นหน่วยย่อยสัมพันธ์กันนี้ มนุษย์เป็นองค์ประกอบพิเศษ ที่สามารถฝึกฝน เรียนรู้ และพัฒนาได้ ถ้ามนุษย์ได้พัฒนาตนเองให้มีคุณสมบัติที่ดีแล้ว ก็จะประเสริฐ เป็นปัจจัยที่ดีในระบบองค์รวม ซึ่งจะช่วยพัฒนาความสัมพันธ์ในระบบให้ดีขึ้น การพัฒนาสมรรถนะของเด็กซึ่งเป็นองค์รวมอยู่ในตัว และการทำงานของชีวิต คือ การดำเนินชีวิต ก็เป็นองค์รวม การพัฒนาสมรรถนะโดยใช้ ภาวนา 4 จะเกิดประโยชน์ต่อเด็ก ดังนี้
ที่ว่าเป็นองค์รวม นั่นคือ ในขณะที่เรามีความสัมพันธ์กับสิ่งต่างๆ ทั้งหลาย ไม่ว่าจะสัมพันธ์ด้วยกาย วาจา หรือด้วยอินทรีย์ ตา หู จมูก ลิ้น ก็ตาม จิตใจของเราก็มีความสัมพันธ์ด้วย เรามีความรู้สึกอย่างใดอย่างหนึ่งต่อสิ่งที่เรากำลังเกี่ยวข้องอยู่ และในด้านปัญญาเราก็มีความรู้ เข้าใจ ความคิด แนวคิด ความเชื่อ หรือค่านิยมต่อสิ่งนั้นอย่างใดอย่างหนึ่งด้วย ทุกด้านทำงานไปด้วยกัน มีอิทธิพลต่อกัน แม้ว่าเราจะไม่รู้ตัว ดังนั้น การจะพัฒนาผู้เรียนให้เป็นทั้งคนดี มีปัญญา มีคุณภาพชีวิตที่ดี และมีขีดความสามารถในการแข่งขันในเวทีระดับโลก จึงต้องพัฒนาให้เด็กมีความสามารถในการสื่อสาร รับ-ส่งสาร ใช้ภาษาถ่ายทอด ตลอดจนการเลือกใช้วิธีการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพ มีความสามารถในการคิด สามารถคิดวิเคราะห์ คิดสังเคราะห์ คิดสร้างสรรค์ คิดอย่างมีวิจารณญาณ และคิดเป็นระบบ เพื่อสร้างองค์ความรู้ หรือเพื่อตัดสินใจได้อย่างเหมาะสม มีความสามารถในการแก้ปัญหา บนพื้นฐานของหลักเหตุผล คุณธรรม และข้อมูลสารสนเทศ มีความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต โดยนำกระบวนการต่างๆ ไปใช้ในชีวิตประจำวัน สามารถเรียนรู้ด้วยตนเอง เรียนรู้อย่างต่อเนื่อง ทำงานและอยู่ร่วมกันในสังคมได้อย่างเหมาะสม สามารถปรับตัวให้ทันกับการเปลี่ยนแปลง และรู้จักหลีกเลี่ยงพฤติกรรมไม่พึงประสงค์ที่ส่งผลกระทบต่อตนเองและผู้อื่น นอกจากนี้ยังมีความสามารถในการใช้เทคโนโลยี เพื่อพัฒนาตนเองและสังคม ในด้านการเรียนรู้ การสื่อสาร การทำงาน การแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ ถูกต้อง เหมาะสม และมีคุณธรรม ครูจัดกิจกรรมส่งเสริมสมรรถนะสำคัญให้ลูกอย่างไร?ความเจริญก้าวหน้าของโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในทางเทคโนโลยีในปัจจุบัน ครูจำเป็นต้องเตรียมเด็กให้รับมือกับสภาพแวดล้อมและความเจริญของยุคสมัย ด้วยการให้เด็กมีคุณสมบัติพร้อมที่จะอยู่ในสภาพแวดล้อมและมีชีวิตในสังคมนี้อย่างดีที่สุด โดยการสอน อบรม แนะนำ ปลูกฝังเด็ก ดังนี้
เป้าหมายที่แท้จริงก็คือ เราต้องการให้เด็กเกิดมี ปัจจัยภายใน คือ คุณสมบัติในตัวเขาเอง ที่จะมีความสุขในการเรียน ครู ผู้เป็น ปัจจัยภายนอก ที่ดี จึงต้องหาทางจัดการต่างๆ เพื่อเป็นตัวกลางในการเหนี่ยวนำให้เด็กพัฒนาคุณสมบัติที่เป็นปัจจัยภายในของเขาเองขึ้นมา โดยทำบทเรียนและกิจกรรมให้สนุกสนานที่จะปลุกเร้าความสนใจในการเรียน ซึ่งถ้าเด็กมีความสนใจในเนื้อหาสิ่งที่เรียนแล้ว ก็จะเริ่มมีความสุขในการเรียนสิ่งนั้น แล้วความสุขก็จะพัฒนาไปกับความก้าวหน้าในการเรียนที่เด็กได้เกิดความรู้ เข้าใจ และมีความอยากเรียนรู้เพิ่มขึ้น ความสุขที่เกิดจากปัจจัยภายในของเด็กเอง ก็จะบรรลุเป้าหมาย แต่ถ้าเด็กติดอยู่แค่การจัดตั้ง ต้องรอให้ปัจจัยภายนอกมาจัดให้เด็กได้เรียนอย่างสนุกเรื่อยไป หรือเกิดเป้าหมายพลิกผันไป กลายเป็นว่าเด็กติดอยู่ที่ความสุขที่ครูจัดให้นั้น เด็กจะกลายเป็นผู้พึ่งพา ต้องขึ้นกับปัจจัยภายนอกที่ครูจัดตั้ง เด็กต้องรอ และครูต้องจัดตั้งกันเรื่อยไป ซึ่งในโลกแห่งความเป็นจริงนั้น ไม่มีใครมาคอยจัดตั้งให้ เด็กจะอยู่กับความสุข ความทุกข์ที่จะมีจะเป็นตามธรรมดา เด็กจะต้องเผชิญกับสิ่งทั้งหลาย โดยเอาปัจจัยภายใน คือ ปัญญาของตนมาใช้ปฏิบัติจัดการกับปัญหาต่างๆ รวมทั้งสามารถที่จะมีจะสร้างความสุขในตัวเอง ถ้าครูไม่สามารถใช้ความสุขจัดตั้งปลุกเร้าให้เด็กเกิดปัจจัยภายในที่จะมีความสุขด้วยตนเอง แต่กลับทำให้เด็กมีความสุขที่ขึ้นกับการจัดตั้งแล้ว เด็กจะกลายเป็นนักพึ่งพาและจะยิ่งอ่อนแอลง ต่อไป เมื่อไม่มีใครจัดตั้งความสุขให้ เด็กก็จะทุกข์หนัก ทุกข์ง่าย และสุขยากขึ้นเรื่อยๆ การศึกษาแบบมีเด็กเป็นศูนย์กลาง จึงเป็นเป้าหมายสำคัญ ที่ครูจะจัดสรรโอกาสให้เด็กสามารถสร้างสรรค์ด้วยตัวเด็กเอง ให้เด็กจะมีความสุขจากการทำและพัฒนาชีวิตด้านต่างๆ ให้สูงขึ้นไป ดังนั้น ทางบ้านควรประสานกับทางโรงเรียน ดังนี้
พ่อแม่ ผู้ปกครองจะส่งเสริมสมรรถนะสำคัญของลูกอย่างไร?การศึกษาเริ่มต้นในครอบครัว เพราะพ่อแม่เป็นครูคนแรกของลูก พ่อแม่ควรปลูกฝังให้ลูกรู้จักใช้อินทรีย์เพื่อการเรียนรู้ จนเกิดเป็นนิสัย คือ ดูเป็น ฟังเป็น ไม่ติดอยู่แค่ความรู้สึก ชอบ-ไม่ชอบ อยาก-ไม่อยาก หรือแค่ลุ่มหลง เพลิดเพลิน เอาแต่สนุกสนาน มัวเมา แต่สามารถได้ความรู้ ได้ความคิด ได้คติ ได้ประโยชน์ สิ่งที่พ่อแม่ควรปลูกฝังให้ลูก มีดังนี้
เกร็ดความรู้เพื่อครูการส่งเสริมสมรรถนะของผู้เรียน ซึ่งเป็นคุณลักษณะเชิงพฤติกรรมที่เป็นผลมาจากความรู้ ทักษะ ความสามารถ และคุณลักษณะอื่นๆ ที่ทำให้เด็กสามารถเรียนรู้ หรือปฏิบัติงาน หรือสร้างผลงานได้โดดเด่นกว่าเพื่อนร่วมงานอื่นๆ ในชั้นเรียนครูควรส่งเสริมด้านต่างๆ ดังนี้ สมรรถนะสําคัญ 5 ประการมีอะไรบ้างสมรรถนะพื้นฐาน5ประการ. 1. ความสามารถในการสื่อสาร. 2. ความสามารถในการคิด. 3. ความสามารถในการแก้ปัญหา. 4. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต. 5. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี. สมรรถนะ มีอะไรบ้างสมรรถนะหลัก มี๕ ด้าน ได้แก่ ๑. การมุ่งผลสัมฤทธิ์ ๒. การยึดมั่นในความถูกต้องและจริยธรรม ๓. ความเข้าใจในองค์กรและระบบงาน ๔. การบริการเป็นเลิศ ๕. การทางานเป็นทีม
สมรรถนะ (Competency) หมายถึงอะไรCompetency หมายถึง กลุ่มของทักษะ ความรู้ ความสามารถ รวมทัง พฤติกรรม คุณลักษณะและทัศนคติทีบุค ลากรจําเป็นต ้องมีเพือ ปฏิบัติงานอย่า งมีประสิทธิภาพ ประสิทธิผล และเพื อให้บรรลุผลสําเร็จ ตรงตามวัต ถุประสงค์และเป้าหมายขององค์กร
สมรรถนะมีความจำเป็นอย่างไรความสำคัญของสมรรถนะ
เป็นเครื่องมือในการพัฒนาความสามารถของบุคลากรในองค์กรอย่างมีระบบต่อเนื่องและสอดคล้องกับวิสัยทัศน์ พันธะกิจ เป้าประสงค์ วัฒนธรรมองค์กร และยุทธศาสตร์ขององค์กร เป็นมาตรฐานการแสดงพฤติกรรมที่ดีในการทำงานของบุคลากร ซึ่งสามารถนำไปใช้ในการวัดและประเมินผลการปฏิบัติงานของบุคลากรได้อย่างชัดเจนและมีประสิทธิภาพ
|