รองเท้า adidas ของแท้ผลิตที่ไหน

มาเช็คกันค่ะว่า ร้าน sport shoes by ky นอกจากรีวิวลูกค้าที่ดีมากแล้ว เรามีวิธีเช็คของปลอม ของแท้ สำหรับรุ่น สแตน สมิท แบบละเอียดกันค่ะ มาเริ่มต้นกันเลยค่ะ

• วงสี่เหลี่ยมสีแดงนะค่ะ ซึ่งตรงนี้จะสังเกตุได้ว่าหัวจะต้องมน และ โปร่ง ขึ้นมานะค่ะ ซึ่งมันจะมีสองรุ่นคือรุ่นผู้ชาย และ ผู้หญิงนะค่ะ ซึ่งทั้งสองแบบจะเหมือนกันค่ะ โปร่งและเรียบ เหมือนกัน ดังนั้น ถ้ารุ่น ผู้ชาย แต่ สาวๆใส่ ต้องลดไซส์นะค่ะ อันนี้คืออีกหนึ่งวิธีของแท้นะค่ะ แต่ถ้ารุ่นผู้หญิง แต่ผู้หญิงใส่ก็จะต้อง เอาไซส์ปกติเลยค่ะ

• วงกลมสี่เหลี่ยมสีเขียวนะค่ะ ตรงนี้ตรา adidas จะต้องนูนและเข้ารูปพอดีนะค่ะ และ ตรงวงสี่เหลี่ยมสีแดงนั้นตรงด้ายจะต้องมีการเย็บออกมาของด้ายให้เห็นนะค่ะ

• สำหรับใต้พื้นนะคะ จะเป็นข้อสังเกตุที่ง่ายมาก ซึ่งตรงวงกลมเล็กๆเป็นปุ่มๆนั้นจะต้องหนาขึ้นมา และสลับ ไม่เท่ากันนะค่ะ ตรงนี้ของปลอมจะทำให้เหมือนของแท้ นั้น ยากมากค่ะ และ ตรา adidas ใต้พื้นจะต้องนูนนะค่ะ

• อีกส่วนของ stan ที่สามารถเช็คได้ก็คือ ลิ้นรองเท้านะค่ะ หลายคนเลยแหละค่ะ ถามว่า Made in China มันแท้มั้ย แล้วมี ผลิตที่อินเดียมั้ย ต้องบอกว่ารุ่นเก่าๆอย่างปี 2015-2017 ผลิตอินเดียค่ะ แต่ มาหลังๆจะมีที่จีนหมดแล้ว เพราะเค้าย้ายฐานการผลิตค่ะ แต่ยังมีบางรุ่นที่ยังผลิตที่อินเดียเช่น แนว Vintage นะค่ะ

• ในส่วนของส้นนะค่ะ ตรา smith stan จะต้องสีขาว และมีคำว่าตัว r อยู่มุมขวานะค่ะ และ ด้าย 3 แถวจะต้องเย็บเรียงกันเป็นระเบียบและ มีความกระชับ แน่น ค่ะ

วิธีเช็คของแท้ Adidas Superstar รุ่นพี่ใหญ่แห่ง Adidas !

เว็บนี้ทำอันดับบน Google ( Seo ) By [email protected]

2 ต.ค. 2018

Adidas vs Nike ใครใหญ่กว่ากัน / โดย ลงทุนแมน

2 แบรนด์ยักษ์ใหญ่แห่งวงการกีฬา
ทุกคนอยากรู้ว่าใครใหญ่กว่ากัน
แต่ก่อนที่จะเล่าถึงความใหญ่
รู้หรือไม่ว่า โลโก้ของทั้ง Adidas และ Nike นั้นได้มาอย่างไม่ตั้งใจ..

Adidas ต้องเพิ่มแถบบนโลโก้อีก 1 ขีดจาก 2 เป็น 3 เพราะทะเลาะกับพี่ชายที่ภายหลังตัดสินใจแยกกันไปทำแบรนด์ของใครของมัน

ส่วนโลโก้ของ Nike มาจากนักเรียน สาขาการออกแบบจาก Portland State University ซึ่ง CEO ของ Nike คุณ Phil Knight ตอนแรกกล่าวว่า “ผมไม่ชอบมันเลย แต่ผมเชื่อว่ามันจะไปได้สวย”

มากไปกว่านั้นคือ ค่าจ้างการออกแบบของ Nike ในครั้งนั้นคือ 35 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 1,150 บาท..

แต่เรื่องราวของ ทั้งแถบ 3 ขีดของ Adidas และ โลโก้ของ Nike กลับกลายเป็นโลโก้ระดับโลกที่ทุกคนรู้จักตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน

แล้วเรื่องราวของ 2 แบรนด์นี้น่าสนใจอย่างไรบ้าง?

2 แบรนด์นี้อายุห่างกัน 15 ปี..

Adidas แบรนด์เยอรมัน ถูกก่อตั้งขึ้นมาก่อนจากความขัดแย้งระหว่างพี่น้องตระกูลช่างทำรองเท้า Dassler

ความขัดแย้งส่งผลให้คุณ Rudolf “Rudi” Dassler พี่ชายแยกตัวออกไปทำแบรนด์ Puma และ Adolf “Adi” Dassler กลายมาเป็นผู้ก่อตั้ง Adidas ในปี 1949

ด้าน Nike แบรนด์สัญชาติอเมริกันถือกำเนิดในปี 1964..

คุณ Phil Knight และคุณ Bill Bowerman จากบริษัท Blue Ribbon Sports มีความคิดที่อยากทำรองเท้ากีฬาที่มีประสิทธิภาพมากกว่าที่เป็นอยู่ จึงร่วมมือกันสร้าง Nike ขึ้นมา

แม้ว่าจะเกิดห่างกันกว่า 15 ปี แต่จุดมุ่งหมายของทั้งสองแบรนด์คือการทำรองเท้ากีฬาคุณภาพดี

อาณาจักร Nike และ Adidas มีอะไรบ้าง?

Nike เป็นเจ้าของ Converse, Hurley และ Jordan Brand ในขณะที่ทางด้าน Adidas เป็นเจ้าของ Reebok

แล้วยอดขาย และ กำไร ของ 2 แบรนด์นี้เป็นอย่างไร?

ปี 2015
Adidas รายได้ 644,735 ล้านบาท กำไร 22,890 ล้านบาท
Nike รายได้ 1,002,456 ล้านบาท กำไร 108,108 ล้านบาท

ปี 2016
Adidas รายได้ 705,775 ล้านบาท กำไร 38,150 ล้านบาท
Nike รายได้ 1,061,424 ล้านบาท กำไร 124,488 ล้านบาท

ปี 2017
Adidas รายได้ 808,780 ล้านบาท กำไร 41,965 ล้านบาท
Nike รายได้ 1,126,944 ล้านบาท กำไร 137,592 ล้านบาท

จากตัวเลขผลประกอบการย้อนหลัง 3 ปี แสดงให้เห็นว่ารายได้ และ กำไรของทั้ง 2 บริษัทมีแนวโน้มที่ดี และมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง

อย่างไรก็ตามหากเรามองอัตราส่วนกำไรสุทธิ ณ ปี 2017 สามารถเทียบเป็นสัดส่วนได้ดังนี้..

รายได้ของ Adidas ทุกๆ 100 บาท เป็นกำไร 5.19 บาท
ในขณะที่รายได้ของ Nike ทุกๆ 100 บาท เป็นกำไรสูงถึง 12.21 บาท

แปลว่า Nike สามารถบริหารค่าใช้จ่ายได้ดีกว่าเมื่อเทียบกับ Adidas..

ถ้าถามว่าสินค้าประเภทไหนเป็นยอดขายหลักของแต่ละแบรนด์?

คำตอบคือทั้ง Adidas และ Nike มีสัดส่วนยอดขายตามประเภทสินค้าใกล้เคียงกัน

รายได้ของ Nike มาจาก รองเท้า 66% เสื้อผ้า 30% และอุปกรณ์กีฬา 4%
ในขณะที่รายได้ของ Adidas มาจาก รองเท้า 59% เสื้อผ้า 36% และอุปกรณ์กีฬา 5%

Adidas ก่อตั้งในเยอรมนี Nike ก่อตั้งในสหรัฐอเมริกา
แล้วประเทศไหนเป็นฐานการผลิตสินค้าให้ 2 แบรนด์นี้บ้าง?

Nike มี 529 โรงงานใน 41 ประเทศ แบ่งออกเป็น
74% ในทวีปเอเชีย
19% ในทวีปอเมริกา
6% ในทวีปยุโรป
1% ในทวีปแอฟริกา

ที่น่าสนใจคือสินค้าประเภทรองเท้าของ Nike จะไม่ผลิตในสหรัฐอเมริกา แต่จะผลิตขึ้นที่ประเทศจีนและเวียดนาม

ในขณะที่ Adidas มี 800 โรงงานใน 55 ประเทศ แบ่งออกเป็น
79% ในทวีปเอเชีย
11% ในทวีปอเมริกา
9% ในทวีปยุโรป
1% ในทวีปแอฟริกา

สินค้าประเภทรองเท้าของ Adidas ถูกผลิตขึ้นที่เวียดนาม 44% อินโดนีเซีย 25% และจีน 19% โดยจีนจะเป็นแหล่งการผลิตเสื้อผ้าและอุปกรณ์กีฬาของ Adidas

ที่น่าสนใจคือ ประเทศเวียดนาม เพื่อนบ้านของเราเป็นฐานการผลิตหลักของทั้ง Nike และ Adidas

แล้วในมุมมองธุรกิจของทั้ง 2 แบรนด์มีแนวโน้มเป็นอย่างไร?

แม้ว่า Adidas จะก่อตั้งขึ้นก่อนแต่ก็ต้องพบกับอุปสรรคและปัญหาทางการเงินหลายกรณีระหว่างการส่งต่อธุรกิจจากรุ่นสู่รุ่น

เรื่องนี้อาจทำให้ Nike เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ New York Stock Exchange ได้ก่อนในปี 1980 และอีก 15 ปีต่อมา Adidas ก็ได้จดทะเบียนใน Frankfurt Stock Exchange

ปีที่ผ่านมา หุ้น Adidas (ADDYY) มีมูลค่าเพิ่มขึ้นกว่า 27% โดยมาจากปรากฏการณ์ Adidas NMD และ Yeezy ที่เป็นสินค้ายอดฮิตประจำปี 2017

อย่างไรก็ตามในปีนี้ หุ้น Nike (NKE) ได้ทำจุดสูงสุดใหม่เป็นประวัติการณ์ ท่ามกลางกระแสข่าวร้ายของพรีเซนเตอร์แบรนด์อย่าง คุณ Colin Kaepernick

และในปีนี้ ตลาดค้าปลีกเครื่องนุ่งห่มในสหรัฐอเมริกายังกลับเติบโตขึ้นอีกครั้ง อ้างอิงจาก Dow Jones U.S. Apparel Retailers Index ที่สูงขึ้น 20.4% ตั้งแต่ต้นปี
..

สิ่งเหล่านี้ส่งผลให้ ปัจจุบัน Nike มีมูลค่าบริษัท 4.48 ล้านล้านบาท ในขณะที่ Adidas มีมูลค่าบริษัท 1.68 ล้านล้านบาท

แม้ว่า Nike จะมีมูลค่ามากกว่า Adidas เกือบ 3 เท่าแต่ทั้งสองก็ยังแข่งขันทางด้านนวัตกรรม สปอนเซอร์นักกีฬา ทีมกีฬา และมีสินค้าใหม่ๆ เป็นประจำทุกปีให้เราได้ติดตาม

แน่นอนว่าเราจะได้เห็นการแข่งขันของ 2 แบรนด์นี้ไปอีกนานหลายปีเพราะ