การออกกําลังกายแบบใช้ออกซิเจน ภาษาอังกฤษ เรียกว่าอะไร

สำหรับผู้ที่เพิ่งจะหันมาสนใจศึกษาข้อมูลการออกกำลังกายอย่างจริงจัง คงต้องพบเจอกับคำว่าการออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอ(cardio) และก็คงสงสัยว่าความหมายของคำนี้แปลว่าอย่างไร เรามาดูข้อมูลด้วยกันดีกว่า

การออกกําลังกายแบบใช้ออกซิเจน ภาษาอังกฤษ เรียกว่าอะไร

การออกกำลังกายแบบ คาร์ดิโอ(cardio) ก็คือการออกกำลังกายแบบแอโรบิกนั่นเอง ซึ่งโดยความหมายของคำว่า คาร์ดิโอ หมายถึงหัวใจ ที่ใช้คำนี้เพราะ การออกกำลังกายรูปแบบนี้ จะเป็นการออกกำลังกายที่ไม่เน้นการใช้พลังจากมัดกล้ามเนื้อในระดับรุนแรง แต่มุ่งเน้นไปที่การขยับเขยื้อนร่างกายซึ่งมีผลต่ออัตราการเต้นของหัวใจที่เร็วขึ้น ซึ่งเมื่อออกกำลังกายแบบนี้จนถึงระดับคาร์ดิโอ การเต้นของหัวใจจะเพิ่มขึ้น 60% -85% เมื่อเทียบกับอัตราการเต้นของหัวใจสูงสุด

ตัวอย่างประเภทของการออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอ เช่น เต้นแอโรบิก , วิ่ง , ปั่นจักรยาน , ว่ายน้ำ เป็นต้น

ความจริงแล้วการออกกำลังกายแบบแอโรบิกมีรูปแบบมากมาย รวมไปถึงการเล่นกีฬาต่าง ๆ ด้วย โดยข้อสังเกตว่าเป็นการออกกำลังกายชนิดแอโรบิกหรือไม่นั้น ใช้ดูจากลักษณะการดำเนินกิจกรรมและสภาพร่างกาย ซึ่งมีดังนี้

– เป็นการออกกำลังที่ใช้พลังระดับเบาหรือปานกลางแบบต่อเนื่อง เช่น การวิ่งออกระยะไกล , แต่ถ้าเป็นการวิ่งระยะสั้น เช่น วิ่ง 100 เมตร แล้วหยุด จะไม่ถือว่าเป็นการออกกำลังชนิดคาร์ดิโอ เพราะใช้กำลังเต็มที่ในคราวเดียวโดยไม่มีความต่อเนื่องของระยะเวลาที่นานพอ

– เป็นการออกกำลังที่ทำให้อัตราการเต้นของหัวใจเร็วขึ้น

– ร่้างกายจะต้องใช้ออกซิเจนเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เมื่อออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอ สังเกตจากการหายใจที่จะถี่ขึ้น

ประโยชน์ของการออกกำลังกายแบบ คาร์ดิโอ(cardio)

ต่อไปนี้ คือ ประโยชน์จากการออกกำลังการแบบคาร์ดิโออย่างสม่ำเสมอ

– ระบบอวัยวะที่เกี่ยวข้องกับการหายใจรวมถึงปอด แข็งแรงขึ้น

– กล้ามเนื้อหัวใจแข็งแรงและขยายใหญ่ขึ้น ส่งผลให้การสูบฉีดเลือดของหัวใจดีขึ้น อัตราการเต้นของหัวใจช้าลง

– การไหลเวียนของเลือดในร่างกายดีขึ้น ความดันโลหิตลดลง

– จำนวนเซลล์เม็ดเลือดแดงในร่างกายเพิ่มขึ้น ทำให้อ๊อกซิเจนถูกส่งไปยังส่วนต่าง ๆ ของร่ายกายได้ดีอย่างทั่วถึง

– สุขภาพจิตดีขึ้น ลดความเครียด โรคซึมเศร้า

– ลดอัตราการเกิดโรคต่าง ๆ เช่น หัวใจ , เบาหวาน

– เพิ่มการจัดเก็บโมเลกุลพลังงาน เช่น ไขมัน , คาร์โบไฮเดรต ในกล้ามเนื้อทำให้ทนทานขึ้น

– ปรับปรุงประสิทธิภาพของกล้ามเนื้อในการดึงไขมันมาใช้ในการออกกำลังกาย

– เพิ่มความเร็วในการเมตาบอลิซึม ซึ่งก็คือการสังเคราะห์พลังงานจากอาหารไปเก็บไว้และนำไปใช้

– เพิ่มความเร็วในการคืนสภาพกล้ามเนื้อจากการออกกำลังกายแบบรุนแรง

ทั้งหมดข้างต้น คือ ประโยชน์ของการออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอ ซึ่งหากคุณกำลังจะลดน้ำหนักอยู่ละก็ จำเป็นอย่างยิ่งต้องออกกำลังกายแบบนี้ เพื่อให้ร่างกายดึงเอาไขมันไปใช้

แม้ว่าประโยชน์ของการออกกำลังกายจะมีมากมาย แต่ก็ต้องขอฝากทุกท่านไว้ ให้ออกกำลังกายให้พอเหมาะและเลือกชนิดการออกกำลังกายที่เหมาะสมกับตนเอง เพื่อลดการบาดเจ็บ และสร้างประโยชน์ให้กับร่างกายอย่างเต็มที่

    Low-Intensity การออกกำลังกายที่ช่วยให้ร่างกายนำออกซิเจนเข้ามาช่วยร่างกายเผาผลาญไขมัน การออกกำลังกายแบบนี้ คือ การวิ่ง ปั่นจักรยาน การเดินเร็ว รวมถึงการเดินป่า ทั้งหมดนี้คือการออกกำลังกายแบบไม่ต้องรุนแรงมาก แต่ยาวนานหน่อย ไปช้า ๆ แต่ให้เวลากับตัวเองเพื่อเอาไขมันออกจากร่างกาย ก็เดิน วิ่ง ปั่น กันให้นานขึ้นหน่อย

          �·�������� ����͡���ѧ���Ẻ��������й����� 150 �ҷյ���ѻ���� ���� �ѹ�л���ҳ 20-30 �ҷ� �������͡����������͡���ѧ��¡������͡�����������Ѻ�آ�Ҿ�����Ҿ��ҧ��¢ͧ���кؤ������Ŵ��������§��͡�úҴ�� �����੾��㹪�ǧ˹����͹���ҧ��� ��ͧ���ѧ�繾���� �����ͧ�ͧ��âҴ��� ��Ф�����͹����Դ����Ҩ���觼����յ���آ�Ҿ�����Ф�Ѻ ���������������͡���ѧ���仾�����ѹ��¤�Ѻ

ทุกคนน่าจะรู้จักการออกกำลังกายแบบ "แอโรบิค" แต่บางคนอาจไม่คุ้นหูกับการออกกำลังกายแบบ "แอนแอโรบิค" มันคืออะไร แล้วการออกกำลังกายแบบแอโรบิค กับ แอนแอโรบิค ส่งผลอย่างไรต่อร่างกายบ้าง แบบไหนเหมาะสมกับเรา หรือดีต่อร่างกายเรามากกว่ากัน เรามีคำตอบมาฝาก

แอโรบิค คืออะไร?

การออกกำลังกายแบบแอโรบิค (Aerobic) คือ การออกกำลังกายที่ร่างกายมีการใช้ออกซิเจน โดยเน้นความสำคัญไปที่การหายใจเข้าออก เพื่อให้หัวใจและหลอดเลือดเกิดการสูบฉีด สามารถส่งต่อออกซิเจนไปใช้เป็นพลังงานตลอดการออกกำลังกาย

กิจกรรมแบบแอโรบิค เช่น

  • ว่ายน้ำ
  • วิ่ง
  • ปั่นจักรยาน
  • กระโดดเชือก
  • เดิน

การออกกำลังกายแบบแอโรบิค มีส่วนช่วยให้สุขภาพดี เช่น

  • ช่วยป้องกันโรคหัวใจ เพราะการออกกำลังกายแบบแอโรบิค จะกระตุ้นการทำงานของหัวใจ ปอด หลอดเลือดให้แข็งแรง จึงช่วยลดความเสี่ยงที่จะเป็นโรคหัวใจได้
  • ช่วยลดน้ำหนัก การออกกำลังกายแบบแอโรบิค จะช่วยในการเผาผลาญแคลอรี่ ซึ่งเป็นปัญหาสำหรับผู้ที่มีน้ำหนักตัวเกินมาตรฐาน
  • ช่วยเพิ่มสมดุลของระดับน้ำตาลในเลือด อินซูลิน (Insulin) ทำหน้าที่สำคัญในการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด เมื่อออกกำลังกายแบบแอโรบิค ร่างกายจะสามารถผลิตอินซูลินได้ไวขึ้น แต่ร่างกายจะใช้อินซูลินน้อยลง ส่วนกล้ามเนื้อจะใช้ กลูโคส (Glucose) จากเลือดมาเป็นพลังงาน จึงมีส่วนช่วยควบคุมไม่ให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงจนเกินไป
  • ช่วยป้องกันความเสี่ยงของโรคเบาหวาน
  • ลดเสี่ยงโรคความดันโลหิตสูง
  • ป้องกันโรคหลอดเลือดสมอง การออกกำลังกายแบบแอโรบิคมีส่วนช่วยทำให้ระบบหัวใจและหลอดเลือดแข็งแรง จึงมีส่วนช่วยลดโอกาสในการเป็นโรคหลอดเลือดสมอง
  • ช่วยเรื่องของการเคลื่อนไหว การออกกำลังกายแบบแอโรบิคเป็นประจำ จะช่วยให้สามารถเคลื่อนที่ได้อย่างอิสระและมั่นคง ไม่ลื่นหกล้มหรือเกิดการบาดเจ็บได้ง่าย

แอนแอโรบิค คืออะไร?

การออกกำลังกายแบบแอนแอโรบิค (Anaerobic) คือ การออกกำลังกายที่ร่างกายไม่ใช้ออกซิเจน เนื่องจากเป็นรูปแบบของการออกกำลังกายที่ค่อนข้างจะหนักหน่วง รวดเร็ว และต้องใช้ความแข็งแรง จนแทบไม่มีเวลาหายใจ หัวใจและหลอดเลือดไม่สามารถสูบฉีดออกซิเจนไปยังกล้ามเนื้อได้เพียงพอต่อความต้องการ

กล่าวคือในขณะที่ออกกำลังกายก็จะไม่รู้สึกเลยว่าเหนื่อย จะรู้สึกหอบและเหนื่อยเป็นบางช่วงเท่านั้น และเป็นเพียงช่วงเวลาสั้นๆ กิจกรรมแบบแอนแอโรบิค เช่น

  • กระโดด
  • วิ่งเร็ว
  • ออกกำลังกายแบบเวทเทรนนิ่ง

การออกกำลังกายแบบแอนแอโรบิค มีส่วนช่วยให้สุขภาพดี เช่น

  • เสริมความทนทานของร่างกาย การออกกำลังกายแบบแอนแอโรบิคนั้นแทบจะไม่ใช้พลังงานที่มาจากออกซิเจนเลย ร่างกายจึงแทบจะไม่รู้สึกเหนื่อยหรือหอบ ดังนั้น หากสามารถผ่านการออกกำลังกายแบบแอนแอโรบิคได้ การออกกำลังกายแบบอื่นๆ ก็จะง่ายมากขึ้น
  • ช่วยให้กล้ามเนื้อแข็งแรง เพราะในระหว่างการออกกำลังกายแบบแอนแอโรบิค ร่างกายแทบไม่ได้ใช้ออกซิเจนเป็นพลังงานเลย แต่ใช้พลังงานสะสมในกล้ามเนื้อแทน ด้วยกระบวนการนี้จึงเป็นการช่วยเพิ่มมวลของกล้ามเนื้อให้มากขึ้นและเสริมความแข็งแรงของกล้ามเนื้อตามไปด้วย
  • ช่วยให้กระดูกแข็งแรง เพราะการออกกำลังกายประเภทนี้แทบจะไม่ต้องใช้ออกซิเจนเลย จึงมีส่วนช่วยเพิ่มความหนาแน่นของมวลกระดูก ช่วยให้กระดูกแข็งแรง และลดความเสี่ยงของการเป็นโรคกระดูกพรุน
  • ช่วยลดไขมัน การออกกำลังกายที่ต้องใช้แรงและความเร็วสูงเช่นนี้ สามารถช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการเผาผลาญไขมันและแคลอรี่ได้เป็นอย่างดี

ออกกำลังกายแบบแอโรบิค กับ แอนแอโรบิค อย่างไหนช่วยลดน้ำหนักได้ดีกว่ากัน

แน่นอนว่าการออกกำลังกาย จะในรูปแบบใดก็ตามล้วนแล้วแต่มีจุดประสงค์ช่วยให้ร่างกายแข็งแรงด้วยกันทั้งสิ้น ทั้งการออกกำลังกายแบบแอโรคบิคและการออกกำลังกายแบบแอนแอโรบิค แม้แต่การหวังผลเรื่องของการช่วยลดน้ำหนัก การออกกำลังกายทั้งสองชนิดก็ล้วนแล้วแต่มีส่วนช่วยเผาผลาญไขมันและแคลอรี่ทั้งสิ้น

หากจะถามว่าอย่างใดดีกว่ากันนั้น ก็ต้องยกให้การออกกำลังกายแบบแอนแอโรบิค หรือ การออกกำลังกายแบบฮิต (High-Intensity Intermittent Exercise หรือ HIIT) เนื่องจากเป็นการออกกำลังกายที่ใช้ทั้งแรงและความเร็วมากกว่า จึงช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อและกระดูกให้แข็งแรง สามารถเผาผลาญไขมันได้มากกว่าการออกกำลังกายแบบแอโรบิค

อย่างไรก็ตาม แม้การออกกำลังกายแบบแอนแอโรบิคจะให้ประสิทธิภาพในการลดไขมัน และช่วยลดน้ำหนักได้ดีกว่า แต่ผู้ออกกำลังกายควรจะเลือกการออกกำลังกายให้เหมาะสมกับสภาพปัจจัยของตนเอง เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการบาดเจ็บที่รุนแรงขณะออกกำลังกาย โดยอาจเริ่มจากการออกกำลังกายแบบแอโรบิคก่อน เมื่อร่างกายเริ่มคุ้นชินแล้วจึงขยับไปเป็นการออกกำลังกายแนวแอนแอโรบิค

การออกกำลังกายแบบใช้ออกซิเจน ภาษาอังกฤษ เรียกว่าอะไร

การออกกำลังกายแบบแอโรบิค หรือ Aerobic Exercise หมายถึง การออกกำลังกายแบบที่ต้องใช้อากาศหรือออกซิเจน หรือก็คือต้องหายใจในขณะที่กำลังออกกำลังกายเพื่อนำเอาออกซิเจนไปเป็นตัวช่วยในการเผาผลาญคาร์โบไฮเดรต ไขมัน และโปรตีน การออกกำลังกายแบบแอโรบิคร่างกายจะปรับตัวอย่างไร

การออกกำลังกายแบบไม่ใช้ออกซิเจน ภาษาอังกฤษ เรียกว่าอะไร

การออกกำลังกายไม่ใช้ออกซิเจน (อังกฤษ: anaerobic exercise) เป็นการออกกำลังกายที่หนักพอให้เกิดแลกเตต นักกีฬาใช้การออกกำลังกายดังกล่าวในกีฬาที่ไม่ใช้ความทนทาน (non-endurance sport) เพื่อส่งเสริมความแข็งแรง ความเร็วและพละกำลัง และนักเพาะกายใช้เพื่อสร้างมวลกล้ามเนื้อ ระบบพลังงานกล้ามเนื้อที่ฝึกโดยใช้การออกกำลังกายไม่ใช้ ...

การออกกําลังกายแบบแอโรบิก มีอะไรบ้าง

การออกกำลังกายแบบแอโรบิคได้แก่ การวิ่งระยะไกล ว่ายน้ำ ปั่นจักรยาน การเดินเร็ว ปีนเขา การเต้น การกระโดดเชือก และอื่นๆ ที่ต้องใช้ระยะเวลานานในการออกกำลังกายและทำให้ต้องหายใจเข้าเยอะล้วนเป็นการออกกำลังกายแบบแอโรบิค

การออกกําลังกายที่ไม่ใช้ออกซิเจนมีอะไรบ้าง

การออกกำลังกายแบบ แอนแอโรบิค (Anaerobic exercise) คืออะไร.
การยกน้ำหนัก.
การกระโดดเชือก.
การวิ่ง.
การออกกำลังกายแบบความเข้มข้นสูง (HIIT).
ออกกำลังการด้วยการปั่นจักรยาน.