ประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 คุ้มครองอะไรบ้าง

ประกันรถยนต์ชั้น 1 คุ้มครองอะไรบ้าง

คุณสามารถเคลมได้ในกรณีที่เกิดการชนกับบุคคลอื่นเป็นเหตุให้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต รวมถึงอุบัติเหตุและความเสียหายต่อทรัพย์สินของบุคคลภายนอก เช่น การชนรั้วบ้านของผู้อื่น ประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 จะเป็นผู้รับผิดชอบความเสียหายทั้งหมดให้คุณตามที่ระบุไว้ในกรมธรรม์

ประกันรถยนต์ชั้น 1 แตกต่างกับประกันรถยนต์ชั้น 2+ อย่างไร

ประกันชั้น 2+นั้นถูกกว่าประกันชั้น 1 แต่ชั้น 2+ จะครอบคลุมความเสียหายของรถคุณน้อยกว่าอีกอย่างที่แตกต่างกันคือประกันชั้น 2+ จะไม่ให้คุณเคลมค่าเสียหายจากเหตุที่ไม่มีคู่กรณี ตัวอย่างเช่น ถ้าคุณถอยชนกำแพง คุณจะต้องจ่ายค่าซ่อมรถเองทั้งหมด นอกจากนี้ประกันชั้น 2+ ก็ไม่มีบริการช่วยเหลือเหตุฉุกเฉินบนท้องถนน 24 ชั่วโมงเหมือนประกันชั้น 1

ซ่อมอู่กับซ่อมศูนย์ (ซ่อมห้าง) แตกต่างกันอย่างไร

การนำรถเข้าซ่อมกับอู่ในเครือ

บริษัทประกันที่เป็นพันธมิตรของเราทั้งหมดล้วนมีอู่ซ่อมรถยนต์ในเครือข่ายที่ให้คุณส่งรถเข้าซ่อมได้ ทุกบริษัทล้วนเป็นบริษัทชั้นนำในประเทศไทย คุณจึงวางใจได้ว่าคุณจะได้รับบริการเป็นอย่างดีทุกๆ ครั้ง ไม่มีค่าเบี้ยประกันเพิ่มเติมหากคุณเลือกซ่อมกับอู่ในเครือข่าย เพราะเป็นไปตามข้อกำหนดมาตรฐานในกรมธรรม์

นอกจากนี้ บริษัทประกันบางเจ้าก็ให้ข้อเสนอเพิ่มเติมแบบยืดหยุ่นเพื่อให้คุณเลือกศูนย์ซ่อมของตัวแทนจำหน่ายได้เช่นกัน

การนำรถเข้าซ่อมกับศูนย์บริการรถยนต์ (ซ่อมห้าง)

เพิ่มเงินอีกนิดหน่อยคุณก็สามารถเลือกซ่อมกับศูนย์บริการรถยนต์ได้ ข้อดีของการซ่อมศูนย์คือได้ช่างที่คุ้นเคยกับยี่ห้อและรุ่นรถยนต์ของคุณเป็นดูแล

ค่ารักษาพยาบาลอะไรบ้างที่ประกันรถยนต์ครอบคลุม

หากเกิดจากอุบัติเหตุรถชน กรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์คุ้มครองค่ารักษาพยาบาลหลายอย่าง เช่น ค่าใช้จ่ายทั่วไป ได้แก่ ค่าบริการรถพยาบาล การเข้าตรวจรักษาและนอนโรงพยาบาล การไปพบแพทย์ การผ่าตัดและการเอ็กซเรย์ ค่าบริการโดยพยาบาลวิชาชีพ ค่าขาเทียม ค่าทันตกรรมที่เกิดจากอุบัติเหตุทางรถยนต์นี้ รวมถึงการบาดเจ็บต่างๆ ที่เกิดขึ้นหากคุณกำลังเดินหรือขี่จักรยานแล้วถูกรถชน

การประกันตัวผู้ขับขี่คืออะไร

การประกันตัวผู้ขับขี่คือค่าใช้จ่ายที่ประกันครอบคลุมค่าใช้จ่ายทางกฎหมายและคดีต่างๆ จากอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นกับผู้ขับ ทำให้ผู้ขับขี่สบายใจได้มากขึ้นหากเกิดเหตุร้ายแรงที่ต้องดำเนินคดีอาญา ซึ่งค่าใช้จ่ายทางกฎหมายค่อนข้างสูง ค่าประกันตัวผู้ขับขี่จะรับผิดชอบค่าใช้จ่ายทางกฎหมายในส่วนนี้

คือส่วนลดเบี้ยประกันรถยนต์หากคุณไม่มีอุบัติเหตุที่ต้องเคลมเลย บริษัทประกันจะมอบส่วนลดให้ในฐานะที่คุณขับขี่อย่างปลอดภัย ส่วนลดขึ้นอยู่กับจำนวนปีที่คุณขับรถและประวัติการเคลมของคุณ ยิ่งคุณขับรถมานานโดยไม่เคลม ก็จะยิ่งได้ส่วนลดมากจากราคาเต็มของเบี้ยประกัน แต่ละปีที่ไม่มีการเคลม ส่วนลดประวัติดีของคุณจะค่อยๆ เพิ่มขึ้น ไปจนถึงอัตราสูงสุด 50% เมื่อครบห้าปี ส่วนลดที่แต่ละบริษัทให้นั้นแตกต่างกันไป แต่อย่างไรก็สามารถช่วยคุณประหยัดค่าเบี้ยประกันได้หลายร้อยบาท

อะไรบ้างที่มีผลต่อราคากรมธรรม์

มีหลายปัจจัยที่ส่งผลต่อค่าเบี้ยประกันกรมธรรม์รถยนต์ของคุณ อย่างแรกเลยคือจำนวนที่คุณเคลมภายในช่วงสามปีที่ผ่านมา ต่อมาคือส่วนลดประวัติดีและประสบการณ์การขับขี่ของคุณ บริษัทประกันก็จะพิจารณาด้วยเช่นกันว่าคุณขับขี่ปลอดภัยแค่ไหน อายุ เพศ ยี่ห้อรถที่คุณขับ และอาชีพก็มีส่วนในการพิจารณาด้วยเช่นกัน นอกจากนี้ก็ยังดูว่าคุณขับรถไปทำงานเป็นประจำหรือไม่ หรือมักขับในช่วงที่ไม่ใช่ชั่วโมงเร่งด่วน หากขับรถไปทำงานทุกวันค่าเบี้ยประกันก็อาจสูงกว่า แต่หากส่วนใหญ่ไม่ได้ขับในช่วงชั่วโมงเร่งด่วนก็อาจได้รับส่วนลดค่าเบี้ยมากกว่า

คนที่เพิ่งเริ่มขับรถต้องจ่ายค่าประกันรถยนต์มากกว่าคนที่ขับมานานแล้วหรือเปล่า

ใช่ค่ะ เราทำประกันก็เพื่อหากเกิดอุบัติเหตุขึ้น จะได้เคลมได้ตามกรมธรรม์ ยิ่งเกิดอุบัติเหตุมากค่าเบี้ยประกันก็ยิ่งแพง บริษัทประกันสามารถขึ้นค่าเบี้ยทั้งหมด หรือจะขึ้นเฉพาะเบี้ยของคนขับที่มีความเสี่ยงสูงก็ได้ ส่วนใหญ่แล้วบริษัทฯ จะขึ้นเบี้ยประกันเฉพาะบุคคลมากกว่า น่าเสียดายที่ผู้ขับขี่ใหม่ ประสบการณ์น้อยส่วนใหญ่จะตกอยู่ในหมวดหมู่นี้ เพราะเป็นไปได้อย่างยิ่งว่าผู้ขับขี่กลุ่มนี้น่าจะเคลมประกันมากกว่าผู้ขับขี่กลุ่มอื่น และจำนวนเงินที่เคลมบางครั้งอาจจะมูลค่าสูง

การเคลมประกันถูกปฏิเสธได้อย่างไรบ้าง

เหตุมาตรฐานที่บริษัทประกันปฏิเสธการเคลมมีอยู่หลายอย่าง เช่น ผู้เอาประกันไม่มีใบขับขี่ หรืออุบัติเหตุที่เกิดจากความประมาทของผู้ขับขี่ หากคุณเป็นผู้ทำให้เกิดอุบัติเหตุเพราะดื่มสุรา จะเคลมประกันไม่ได้ นอกจากนี้บริษัทประกันบางแห่งยังอาจปฏิเสธการเคลมหากคนขับไม่มีใบขับขี่ หรือใช้รถอย่างไม่ปลอดภัย ซึ่งรวมถึงการมีผู้โดยสารเกินจำนวน นำรถมาใช้ส่วนตัวนอกเหนือจากการส่งสินค้า หรือติดตั้งแก๊ส NGV หรือ LPG โดยไม่แจ้งให้บริษัทประกันทราบ และประกันยังไม่คุ้มครองหากคุณออกจากที่เกิดเหตุทันทีหลังเกิดอุบัติเหตุ

ยี่ห้อรถยนต์และรุ่นมีผลต่อเบี้ยประกันหรือไม่

มีค่ะ ยี่ห้อรถยนต์และรุ่นมีผลต่อเบี้ยประกัน เพราะประเภทรถที่คุณขับบ่งบอกถึงสไตล์ในการขับรถของคุณ เช่น ถ้าคุณขับรถหรู โดยทั่วไปค่าเบี้ยประกันก็จะแพงกว่ารถครอบครัว นั่นเพราะว่ารถสปอร์ตมีความเร็วสูง ทำให้คนขับเสี่ยงต่ออุบัติเหตุมากกว่า ยิ่งถ้าหากรถยนต์รุ่นที่คุณขับเกิดอุบัติเหตุเยอะ หรือมีการเคลมเยอะ ค่าเบี้ยประกันก็จะยิ่งสูง ค่าซ่อมรถยนต์รุ่นของคุณก็เป็นปัจจัยหนึ่งที่นำมาคิดค่าเบี้ยประกัน

จ่ายค่าเบี้ยประกันแบบรายเดือนหรือรายปีดีกว่า

โดยทั่วไปการจ่ายค่าเบี้ยแบบรายปีเป็นทางเลือกที่ถูกที่สุด บริษัทประกันส่วนใหญ่จะให้ส่วนลดถ้าคุณจ่ายเต็ม เพราะสำหรับบริษัทประกันแล้วการจ่ายรายเดือนจะทำให้บริษัทมีค่าใช้จ่ายมากกว่าจากงานเอกสารเพราะต้องต่อกรมธรรม์ให้ลูกค้าทุกเดือน อย่างไรก็ดี หากคุณไม่สามารถจ่ายเงินก้อนได้ บริษัทประกันส่วนใหญ่ก็มีแผนแบ่งชำระค่าเบี้ยประกันรายเดือนให้

ประกันรถยนต์ หรือประกันรถ หรือประกันยานพาหนะช่วยคุ้มครองเจ้าของพาหนะหากต้องจ่ายค่ารักษาพยาบาลหรือต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายใดๆ ที่เกิดจากความเสียหายในอุบัติเหตุรถชน นอกจากอุบัติเหตุรถชน บริษัทประกันภัยยังคุ้มครองกรณีรถหาย ความเสียหายจากภัยธรรมชาติ หรือการชนกับสิ่งอื่นๆ ที่ไม่ใช่ยานพาหนะ ประเภทของประกันภัยรถยนต์โดยทั่วไป ได้แก่ ประกันชั้น 1 ซึ่งเป็นประเภทที่มอบความคุ้มครองสูงสุด ส่วนประกันชั้น 3 จะมอบความคุ้มครองเฉพาะขั้นพื้นฐานจึงเป็นแบบที่ถูกที่สุด