บาร์ (BAR) คำนี้เกิดขึ้นที่ทวีปอเมริกาเหนือ มีความหมายถึง คอก (Cage) , รั้ว (Fence) หรือฝากั้น (Cross) ใช้สำหรับผสมหรือจัดเตรียมเครื่องดื่มต่างๆ แต่จริงๆ แล้ว ในธุรกิจเครื่องดื่ม จะมีความหมายถึง สถานที่ที่จำหน่ายเครื่องดื่ม ที่มีทั้งแอลกอฮอล์ (Hard Drinks) และไม่มีแอลกอฮอล์ (Soft Drinks) รูปแบบบาร์เหล้า Bar แบ่งออกเป็น 4 ประเภท คือ America Bar : เป็นบาร์เคาน์เตอร์ ที่มีที่นั่งดื่มอยู่หน้าบาร์ และมีเคาน์เตอร์ด้านหลังบาร์มีที่วางโชว์เหล้า แก้ว และอุปกรณ์ต่างๆ (ภาพจากโรงเรียนสอนผสมเครื่องดื่มค็อกเทลในประเทศอังกฤษ และร้านขายค็อกเทลในสิงคโปร์ , ฮ่องกง) การจัดระบบโครงสร้างภายในบาร์
(Bar Structure) สิ่งที่ต้องคำนึงถึงมีหลายประการ เช่น เคาเตอร์ บาร์ (Counter Ber) เป็นพื้นที่ในการให้บริการลูกค้า สำหรับวางเครื่องดื่ม และอาหารว่าง ขนมคบเขี้ยว (Snack) หน้าบาร์น่าจะมีเก้าอี้ทรงสูง หมุนได้ (Stool Bar) วางไว้เพื่อให้ลูกค้านั่งหน้าบาร์ได้ด้วย พื้นที่ที่ใช้ผสมเครื่องดื่ม (Station Rail) เป็นพื้นที่สำหรับการผสมเครื่องดื่ม สามารถให้ลูกค้ามองเห็นเราได้ในขณะที่กำลังผสมเครื่องดื่มอยู่ เพราะลูกค้าบางท่านเขาทราบสูตรเหล้า ก็จะพยายามดูว่าเราใช้ตัวเหล้า และวิธีการผสมถูกต้องหรือไม่ ชั้นสำหรับวางโชว์เหล้าหลัก (Speed Rack) จะเป็นชั้นวาง หรือช่องวางของก็ได้ ส่วนใหญ่คือพื้นด้านหลังบาร์ มีไว้สำหรับวางเหล้าหลักที่ใช้งานเป็นประจำ (House Brandes) เพื่อสะดวกในการหยิบใช้ และเพื่อโชว์ให้ลูกค้าเห็นด้วย ว่าเราใช้เหล้าได้ตามมาตรฐานไหม หรือเราใช้เหล้ายี่ห้ออะไร เพราะบาร์แต่ละแห่งนั้นจะมีการเลือกใช้เหล้าหลัก ต่างยี่ห้อกัน เช่น Gin ยี่ห้อ Gordon , Tanquiley , Bombey , Gibbey เป็นต้น Vodka ยี่ห้อ Sminoff , Absolut , Sky เป็นต้น Rum ยี่ห้อ Barcardi , Havana Club , Capton Morgan เป็นต้น Scotch Whisky ยี่ห้อ Jonhnies Red Label , J&B , White Horse , 100 Piper , Sprey , Ballentines’ Finest เป็นต้น การเลือกใช้ยี่ห้อต่างๆ ก็จะมีผลต่อ การควบคุมต้นทุนในบาร์ด้วย ทางระบายน้ำ (Drain Board) จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องเตรียมไว้สำหรับการวางภาชนะต่างๆ มิฉะนั้นอาจจะมีน้ำไหลตลอดเวลา น่าจะทำที่รองไว้สำหรับการคว่ำแก้ว หรือภาชนะอื่นๆ ด้วยหลังจากที่ล้างเสร็จแล้ว เพื่อน้ำที่ตกค้างจะได้ไหลลงสู่ท่อน้ำทิ้งได้ จะได้ไม่ชื้นเฉอแฉะ อ่างล้างมือและอุปกรณ์ต่าง (Wash Sink) อ่างน้ำสำหรับล้างอุปกรณ์ แก้ว น่าจะมีน้ำอุ่นด้วย เพื่ออนามัย และความสะอาด อาจจะแบ่งเป็น 2 ช่องยิ่งดี ไว้สำหรับล้างน้ำแรกและน้ำสุดท้าย และควรวางไว้ด้านซ้ายของผู้ผสมจะดีกว่า ที่วางแก้ว (Glass Place) มีไว้สำหรับวางแก้วที่แห้งสนิท และพร้อมจะใช้งานได้ทุกเมื่อ ควรจะมีทั้งแบบวางคว่ำไว้ในถาดคว่ำที่วางข้างล่าง และแบบที่เป็นรางสำหรับห้อยแขวน ที่วางขวดน้ำเชื่อมและอุปกรณ์ต่างๆ (Cocktail Unit) ไว้สำหรับวางอุปกรณ์ต่างๆ ที่จำเป็นในการผสมเครื่องดื่ม เช่น เช็คเกอร์ , จิกเกอร์ที่ตวงเหล้า , ที่คนเหล้า , ที่คีบน้ำแข็ง , ถังใส่น้ำแข็ง , ที่รองแก้ว , มีด , เขียง เป็นต้น หรือสำหรับวางเครื่องดื่มอื่นๆ ที่ใช้เป็นประจำ เช่น น้ำเชื่อม , น้ำผลไม้ , ขวดเกลือ-น้ำตาลทราย , พริกไทย , เครื่องเทศ เป็นต้น ควรจัดวางให้เป็นระเบียบ เพื่อหยิบใช้งานได้สะดวก ตู้แช่เย็น หรือถังน้ำแข็ง มีไว้สำหรับแช่ของต่างๆ หรือใส่น้ำแข็งเพื่อใช้งาน ควรวางไว้ด้านขวาของผู้ผสมมากกว่า สำหรับการจัดเตรียมเหล้า และอุปกรณ์ที่ใช้ในแต่ละวัน (Stocking a Homebar) 1.ต้องคำนึงถึงยอดขายในแต่ละวัน ว่าต้องใช้สิ่งใดบ้าง มากน้อยแค่ไหน จำเป็นต้องเบิกของจากสโตร์ไหม ควรจัดเตรียมไว้ให้ใช้งานได้พอเพียงในแต่ละวัน หรือสัก 2 – 3 วัน แล้วแต่สะดวก 2.ต้องจัดเตรียมไว้ให้ลงตัวกับรายการเครื่องดื่ม (Drink List) ที่มีไว้บริการลูกค้าด้วย ว่ามีกี่รายการ และควรจะต้องจัดเตรียมให้ครบทุกรายการด้วย 3.ต้องคำนึงถึงช่วงที่จัดทำโปรโมชั่นด้วย และต้องเตรียมของไว้ให้มากหน่อย เพื่อให้เพียงพอกับความต้องการ 4.ต้องคำนึงถึงช่วงเทศกาล วันหยุดต่างๆ เพราะลูกค้าอาจจะมาใช้บริการมากกว่าปกติด้วย |