ท่านผู้หญิงแผ้ว สนิทวงศ์เสนี (สกุลเดิม สุทธิบูรณ์; 25 ธันวาคม พ.ศ. 2446 – 24 กันยายน พ.ศ. 2543) เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านนาฏศิลป์ไทย ทั้งยังเป็นผู้คิดค้นท่ารำใหม่โดยยึดระเบียบแบบแผนตามประเพณีโบราณ และมีความสามารถในการประพันธ์บทโขนละคร เคยเป็นหม่อมในสมเด็จพระอนุชาธิราช เจ้าฟ้าอัษฎางค์เดชาวุธ กรมหลวงนครราชสีมา ถือเป็นหญิงสามัญชนที่ไม่ใช่ลูกหลานขุนนางคนแรกที่ได้เป็นสะใภ้หลวง หลังสามีทิวงคตจึงสมรสใหม่กับหม่อมสนิทวงศ์เสนี (หม่อมราชวงศ์ตัน สนิทวงศ์) Show
⚠️ Disclaimer: Content from Wikipedia ไทย language website. Text is available under the Creative Commons Attribution-Share Alike License; additional terms may apply.Last modified: December 13 2022 21:49:19
นามเดิม ชื่อ แผ้ว นามสกุลเดิม คือ สุทธิบูรณ์เกิด เมื่อวันที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2466 ตรงกับวันศุกร์ เดือนยี่ ขึ้น 7 ค่ำ ปีเถาะการศึกษาพ.ศ. 2454 เมื่ออายุได้ 8 ปี ได้เข้าถวายตัวในสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอเจ้าฟ้าอัษฎางค์ เดชาวุธ กรมหลวงนครราชสีมา โดยในชั้นต้นได้เข้าฝึกหัดนาฏศิลป์ต่อครูบาอาจารย์ผู้ทรงคุณวุฒิอยู่ในราชสำนักขณะนั้น ได้ออกแสดงเป็นตัวเอก ในการแสดงถวายทอดพระเนตรหน้าพระที่นั่ง ในพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวหลายครั้งพื้นความรู้วิชาสามัญจบการศึกษาตามหลักสูตรของโรงเรียนในวังสวนกุหลาบ ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวการสมรสต่อมาได้เป็นหม่อมในสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าอัษฏางค์เดชาวุธ กรมหลวงนครราชสีมาด้านความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับสังคมในต่างประเทศได้เคยติดตามร่วมไปกับพลตรี หม่อมสนิทวงศ์เสนี (ม.ร.ว.ตัน สนิทวงศ์) เมื่อครั้งไปรับราชการเป็นทูตทหาร ณ ประเทศฝรั่งเศส อังกฤษ อิตาลี และโปรตุเกสความรู้ทางนาฏศิลป์ได้รับการฝึกหัดอบรมจากครูนาฏศิลป์ในราชสำนัก เช่น เจ้าจอมมารดาวาด (ท้าววรจันทร์) ในรัชกาลที่ 4 เจ้าจอมมารดาเขียน (ร.4) เจ้าจอมมารดาทับทิม (ร.5) หม่อมแย้ม (อิเหนา) ในสมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาศรีสุริวงศ์ หม่อมอึ้ง ในสมเด็จพระบัณฑูรฯ จนมีความชำนาญและแสดงเป็นตัวเอกในการแสดงถวายทอดพระเนตรหน้าพระที่นั่งหลายเรื่อง เช่น เป็นตัวอิเหนา และนางดรสา ในเรื่องอิเหนา เป็นตัวทศกัณฐ์และพระพิราพในเรื่องรามเกียรติ์ เป็นตัวนางเมขลาฯลฯการรับราชการเข้ารับราชการเป็นลูกจ้างชั่วคราว ในตำแหน่งผู้เชี่ยวชาญนาฏศิลป์ไทย กองการสังคีต กรมศิลปากร กระทรวงศึกษาธิการ เป็นอาจารย์ที่ปรึกษาฝ่ายวิชานาฏศิลป์ของสถาบันการศึกษา องค์การ และเอกชนอื่นๆผลงานผลงานเกี่ยวกับการแสดงศิลปะนาฏกรรม เช่น ท่ารำของตัวพระ นาง ยักษ์ ลิง และตัวประกอบ การแสดงโขน ละครชาตรี ละครนอก ละครใน ละครพันทาง และระบำฟ้อนต่างๆ เป็นผู้คัดเลือกการแสดง จัดทำบทและเป็นผู้ฝึกสอน ฝึกซ้อม อำนวยการแสดงถวายทอดพระเนตรหน้าพระที่นั่ง ในวโรกาสต้อนรับพระราชอาคันตุกะ อาคันตุกร และงานของรัฐบาล หน่วยงานองค์กรต่างๆ จัดต้อนรับเป็นเกียรติแก่แขกผู้มาเยือนประเทศไทย เป็นผู้คัดเลือกตัวละครให้เหมาะสมตามบทบาทในการแสดงต่างๆ เป็นผู้คัดเลือกการแสดงวางตัวศิลปินผู้แสดงต่างประเทศเพื่อเชื่อมสัมพันธไมตรี และเผยแพร่ศิลปวัฒนธรรมไทยเป็นผู้ฝึกสอนและอำนวยการฝึกซ้อมในการแสดงโขน ละคร การละเล่นพื้นเมิง ระบำรำฟ้อนต่างๆ ที่กรมศิลปากรจัดแสดงแก่ประชาชน ณ โรงละครแห่งชาติ สังคีตศาลา ในต่างจังหวัดและทางสถานีโทรทัศน์ต่างๆ ตลอดทั้งร่วมในงานของหน่วยราชการ องค์กร สถาบันการศึกษา และเอกชน เป็นวิทยากรบรรยายและตอบข้อซักถามในการอบรมวิชานาฏศิลป์และวรรณกรรม และเป็นที่ปรึกษาในการสร้างนาฏกรรมต่างๆ ที่จัดขึ้นด้วยในด้านบทวรรณกรรมสำหรับใช้แสดง ได้ค้นคิดปรับปรุง เสริมแต่งให้เหมาะสมกับยุคสมัย ดำเนินไปโดยถูกต้องตามระเบียบแบบแผนอันมีมาแต่ดั้งเดิม เช่น บทละครเรื่องอิเหนา ตอนเข้าเฝ้าท้าวดาหา ตอนลมหอบ ตอนอุณากรรมชนไก่ ตอนบุษบาชมศาล ตอนศึกกระหมังกุหมิง ตอนประสันตาต่อนัก เรื่องสังข์ทอง ตอนเลียบเมือง ตอนเลือกคู่หาปลา ตอนตีคลี ตอนนางมณฑาลงกระท่อม เรื่องขุนช้างขุนแผน ตอนพลายเพชรพลายบัวออกศึก ตอนพระไวยแตกทัพ เรื่องไกรทอง ตอนที่ 1 ตะเภาแก้ว ตะเภาทอง และบริวารไปเล่นน้ำ ตอนที่ 2 ตามนางวิมาลากลับไปถ้ำ เรื่องพระอภัยมณี ตอนพบนางละเวง ตอนนางละเวงพบดินถนัน ตอนหนีนางผีเสื้อสมุทร เรื่องไชยเชษฐ์ ตอนนางสุวิญชาถูกขัน ตอนที่ 1 และตอนที่ 2 เรื่องมโนราห์ บางตอนเกี่ยวกับพรานบุญ เรื่องรถเสนบาง เรื่องแก้วหน้าม้า ตอนถวายลูก เรื่องสังข์ศิลป์ชัย ตอนท้าวเสนากุฏเข้าเมือง เรื่องเงาะป่า เรื่องคาวี ตอนได้นางใจกลองศึก เรื่องสุวรรณหงส์ ตอนเสี่ยงว่าว-ชมถ้ำ บทโขน ตอน ปราบกากนาสูร ตอนไมยราพสะกดทัพ ตอนศึกบรรลัยกัลป์ ตอนปล่อยม้าอุปการนอกจากนี้ ยังได้คิดประดิษฐ์กระบวนท่ารำขึ้นใหม่ไว้อีกมาก เช่น กระบวนท่าร่ายรำในการแสดงโขนเรื่องรามเกียรติ์ พระราชนิพนธ์ในรัชกาลที่ 1-2 กระบวนท่าร่ายรำในการแสดงนาฏกรรมของกรมศิลปากร และกระบวนท่าร่ายรำชุดต่าง ๆที่กรมศิลปากรจัดแสดงได้รับพระราชทานเหรียญดุษฏีมาลา เข็มศิลปวิทยา เมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2514ท่านผู้หญิงแผ้ว สนิทวงศ์เสนี ถึงแก่กรรมเมื่อ 24 กันยายน พ.ศ. 2543 อายุ 98 ปีท่านผู้หญิงแผ้ว สนิทวงศ์เสนี ได้ประดิษฐ์ผลงานชิ้นใด *การแสดงนาฏศิลป์ไทย "ลาวกระทบไม้" ซึ่งลีลาท่ารำส่วนหนึ่ง เป็นการคิดประดิษฐ์ของท่านผู้หญิงแผ้ว สนิทวงศ์เสนี ผลงานดีเด่น/ผลงานที่สร้างชื่อเสียง ได้แก่การคิดประดิษฐ์ท่ารำสุโขทัย ท่ารำที่ปรับปรุงมาจากการแสดงละครตอนหนึ่ง ในเรื่องอิเหนา
ผลงานท่านผู้หญิงแผ้ว สนิทวงศ์เสนี มีอะไรบ้างรำลาวดวงเดือน ระบำสุขโขทัย รำซัดชาตรี โขนเรื่องรามเกียรติ์ชุดปราบกากนาสูร ล้วนเป็นผลงานการแสดงเด่นๆ ที่สับเปลี่ยนขึ้นเวที ย้อนรำลึกถึง หม่อมอาจารย์ผู้เชี่ยวชาญตัวละครทุกบทบาท ดัดแปลงท่ารำพื้นฐานที่เนิบช้าให้กะทัดรัดงดงามแปลกตา ท่านผู้หญิงแผ้ว สนิทวงศ์เสนี เป็นบุคคลสำคัญที่เป็นแรงหลักถ่ายทอดความรู้และพัฒนานาฏศิลป์ไทยมา ...
ท่านผู้หญิงแพ้ว สนิทวงศ์เสนี มีความสำคัญต่อการแสดงนาฏศิลป์ไทยอย่างไรท่านผู้หญิงแผ้ว สนิทวงศ์เสนี (สกุลเดิม สุทธิบูรณ์; 25 ธันวาคม พ.ศ. 2446 – 24 กันยายน พ.ศ. 2543) เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านนาฏศิลป์ไทย ทั้งยังเป็นผู้คิดค้นท่ารำใหม่โดยยึดระเบียบแบบแผนตามประเพณีโบราณ และมีความสามารถในการประพันธ์บทโขนละคร เคยเป็นหม่อมในสมเด็จพระอนุชาธิราช เจ้าฟ้าอัษฎางค์เดชาวุธ กรมหลวงนครราชสีมา ถือเป็นหญิง ...
ท่านผู้หญิงแผ้ว สนิทวงศ์เสนี ประดิษฐ์ท่ารำอะไรบ้างในการแสดงนาฏศิลป์ครั้งนี้ คณะผู้จัดงานได้คัดเลือกผลงานที่โดดเด่นของท่านผู้หญิงแผ้ว สนิทวงศ์เสนี มาจัดแสดงได้แก่ ระบำสุโขทัย รำฉุยฉายเฮนา นางพญาคำปินขอฝน ออกฟ้อนจันทราพาฝัน รำมโนราห์บูชายัญ ออกรำซัดชาตรี รำลาวดวงเดือน ละครนอกเรื่อง “คาวี” ตอนชุบตัวท้าวสันนุราชถึงคันธมาลีขึ้นหึง และโขนเรื่อง “รามเกียรติ์” ตอนปราบกากนาสูร ...
|