สวัสดีคร้าบบบบ....กลับมาพบกับน้องโฟกัสอีกครั้งพร้อมกับข้อมูลดีๆสำหรับนักเดินทาง หลายๆท่านอาจเคยได้ยินข่าวมากมายเกี่ยวกับทัวร์ในปัจจุบันนี้ ไม่ว่าจะเป็นซื้อทัวร์แล้วถูกลอยแพบ้าง ถูกหลอกให้โอนเงินแล้วปิดบริษัทหนีบ้าง วันนี้น้องโฟกัสข้อแนะนำและข้อควรระวังในการเลือกซื้อทัวร์ มาฝากทุกท่านกันครับ Show 1. ตรวจสอบ เลขที่ใบจดทะเบียนอนุญาตประกอบธุรกิจนำเที่่ยว โดยใบอนุญาตประกอบธุรกิจนำเที่ยวนั้น จะมีด้วยกันทั้งหมด 4 ประเภท คือ - ใบอนุญาตประกอบนำเที่ยวเฉพาะพื้นที่ สำหรับการประกอบธุรกิจนำเที่ยวในจังหวัดที่จดทะเบียนและจังหวัดที่มีพื้นที่ติดต่อกับจังหวัดนั้นๆ โดยเลขทะเบียนจะขึ้นต้นด้วย 13/xxxxx - ใบอนุญาตนำเที่ยวในประเทศ (Domestic) สำหรับการประกอบธุรกิจนำเที่ยวภายในประเทศไทย และสำหรับชาวไทยเท่านั้น โดยเลขทะเบียนจะขึ้นต้นด้วย 12/xxxxx - ใบอนุญาตนำเที่ยวจากต่างประเทศ (Inbound) สำหรับการประกอบธุรกิจนำเที่ยวโดยการนำนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย โดยเลขทะเบียนจะขึ้นต้นด้วย 14/xxxxx - ใบอนุญาตนำเที่ยวต่างประเทศ (Outbound) สำหรับการประกอบธุรกิจนำเที่ยวได้ทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งสามารถให้บริการได้ทั้งนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติ โดยเลขทะเบียนจะขึ้นต้นด้วย 11/xxxxx ใบอนุญาตนี้จะมีอายุแค่ 2 ปีเท่านั้นนับตั้งแต่วันจดทะเบียน ซึ่งทางบริษัททัวร์ทุกบริษัทจะต้องทำการต่อใบอนุญาตกับกรมการท่องเที่ยว โดยทุกท่านสามารถนำเลขใบอนุญาตประกอบธุรกิจนำเที่ยวของบริษัททัวร์นั้นๆ มาตรวจสอบได้ที่เว็บไซต์ สำนักงานทะเบียนธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ >> http://103.80.100.92:8087/mobiletourguide/info/license/tour ซึ่งก็จะมีข้อมูลต่างๆ เช่น สถานะการจดทะเบียน ว่าเป็นปกติ หรือ ยกเลิกใบอนุญาต, ที่อยู่ เบอร์โทรติดต่อ E-mail และ website รวมไปถึงยังมีประวัติการจดทะเบียน เรื่องร้องเรียน และรายชื่อคณะกรรมการบริษัท อีกด้วย 2.ตรวจสอบและอ่านรายละเอียดโปรแกรมทัวร์ ให้ละเอียดทุกบรรทัด เนื่องด้วย โปรแกรมท่องเที่ยวในทุกวันนี้ ท่องเที่ยวประเทศเดียวกัน แต่มักจะมีราคาที่แตกต่างกัน ซึ่งน้องโฟกัสก็อยากแนะนำว่า ให้ทุกท่านทำความเข้าใจกับโปรแกรมทัวร์นั้นๆก่อนตัดสินใจซื้อ ว่าแต่ละโปรแกรม ทำไมราคาถึงถูกและแพง มีจุดแตกต่างกันตรงไหน เช่น ไปเที่ยวกี่วัน ไปไหนบ้าง มีอิสระปล่อยเที่ยวเองหรือไม่ มีอาหารกี่มื้อ นอนโรงแรมระดับกี่ดาว ราคานี้รวมอะไรบ้าง ไม่รวมอะไรบ้าง รวมค่าวีซ่าหรือไม่ ค่าทิปจ่ายเท่าไหร่ เป็นต้น ซึ่งสิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นสิ่งที่เราควรทำความเข้าใจก่อนการตัดสินใจซื้อทุกครั้ง เพื่อประโยชน์แก่ตัวของท่านเองนะครับ 3.บัญชีธนาคารที่ทางบริษัททัวร์ ให้ทำการโอนจ่ายนั้น เราควรทำการตรวจสอบให้แน่ใจก่อนว่า ชื่อบัญชีที่เราจะโอนให้นั้น ควรเป็นชื่อบัญชี บริษัททัวร์นั้นๆ หรือ หากเป็นชื่อบุคคล ก็ควรเป็นชื่อของคณะกรรมการผู้มีอำนาจเท่านั้น ถึงจะปลอดภัย และเมื่อโอนแล้ว เราควรเก็บสลิปหลักฐานไว้ด้วยทุกครั้งนะครับ 4.เมื่อทำการจองและโอนเงินค่าทัวร์แล้ว ควรขอเอกสารยืนยันการจอง ที่ระบุรายละเอียด ชื่อ-นามสกุล ชื่อโปรแกรมที่ทำการจอง พร้อมตรวจสอบความถูกต้องของรายละเอียดเหล่านั้น เห็นหรือไม่ครับว่า วิธีการในการตรวจสอบนั้น ไม่ได้ยากอย่างที่คิด อาจเป็นเพราะเทคโนโลยีที่ก้าวหน้าไปมาก ทำให้เราสามารถตรวจสอบได้ง่ายดายผ่านระบบอินเตอร์เน็ต เพียงแค่คลิ๊กนิ้วก็สามารถตรวจสอบได้แล้ว อย่างไรก็ดีเราไม่ควรมองข้างรายละเอียดเล็กๆน้อยๆของโปรแกรมทัวร์ที่เราสนใจ สอบถามจากผู้ขายให้ชัดเจนก่อนการตัดสินใจ เพื่อที่ถึงเวลาเที่ยว เราจะได้เที่ยวได้อย่างสบายใจ ไม่ต้องมานั่งเที่ยวไป กังวลใจไปนะครับ ก่อนอธิบายรายละเอียดและขั้นตอนการขอใบอนุญาตประกอบธุรกิจนําเที่ยว ขอเล่าถึงที่มาที่ไป ทำไมถึงต้องมีใบอนุญาตนำเที่ยว ประเทศไทยถือเป็นจุดมุ่งหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวทั่วโลก เนื่องจากประเทศไทยมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจเป็นจำนวนมาก กระจายอยู่ทั่วประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สวยงาม น่าสนใจ และดึงดูด นอกจากนี้ประเทศไทยยังมีสถานที่ท่องเที่ยวทางด้านประวัติศาสตร์ได้แก่ วัดวา อาราม เมืองเก่า พิพิธภัณฑ์ และอุทยานต่างๆ รวมถึงมาตราการส่งเสริมเพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวจากรัฐบาล ในการกระตุ้นให้นักท่องเที่ยวต่างชาติมาท่องเที่ยวในประเทศไทยเพิ่มมากขึ้น โดยประเทศไทยติดอันดับ 1 ใน 5 ที่สร้างรายได้จากการท่องเที่ยวมากที่สุด ซึ่งรายได้จากการท่องเที่ยวมีมูลค่ามหาศาล และเติบโตมากขึ้นทุกปี ดังนั้นจึงมีผู้ประกอบการเป็นจำนวนมากมีความสนใจที่จะประกอบธุรกิจทางด้านนำเที่ยว ซึ่งการประกอบกิจการทางด้านนำเที่ยวนั้น กฎหมายกำหนดไว้ว่า ผู้ประกอบการต้องได้รับใบอนุญาตประกอบธุรกิจนำเที่ยวจากกรมการท่องเที่ยวเสียก่อน เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้รับความคุ้มครองจากการซื้อรายการนำเที่ยวกับผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยว ซึ่งถ้าผู้ประกอบกิจการธุรกิจนำเที่ยวใด ฝ่าฝืนประกอบธุรกิจโดยไม่มีใบอนุญาตจะต้องได้รับโทษตามกฎหมาย ทั้งนี้การประกอบธุรกิจนำเที่ยวโดยไม่มีใบอนุญาต มีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี และ/หรือ ปรับไม่เกิน 500,000 บาท การประกอบธุรกิจที่ถือว่าเป็นการประกอบธุรกิจนำเที่ยวตามพระราชบัญญัติธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ พ.ศ. 2551 คือการประกอบธุรกิจเกี่ยวกับการนำนักท่องเที่ยวเดินทางไปท่องเที่ยวหรือเดินทางไปเพื่อวัตถุประสงค์อื่น โดยจัดให้มีบริการหรือการอำนวยความสะดวกอย่างใดอย่างหนึ่งหรือหลายอย่าง ได้แก่ สถานที่พัก อาหาร มัคคุเทศก์ หรือบริการอย่างอื่นใดตามที่กำหนดในกฎกระทรวง ซึ่งทั้งนี้ ปัจจุบัน ยังไม่มีกฎกระทรวงเฉพาะสำหรับเรื่องนี้ การยื่นขอใบอนุญาตประกอบธุรกิจนำเที่ยว ผู้ประกอบการสามารถยื่นขอใบอนุญาตประกอบธุรกิจนำเที่ยวในนามบุคคลธรรม หรือนิติบุคคลก็ได้ คุณสมบัติในการขอใบอนุญาตประกอบธุรกิจนำเที่ยวการขอใบอนุญาตประกอบธุรกิจนำเที่ยวกรณีบุคคลธรรมดา
การขอใบอนุญาตประกอบธุรกิจนำเที่ยวกรณีนิติบุคคล
ในการขอใบอนุญาตประกอบธุรกิจนำเที่ยว ผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยวต้องจัดให้มีการประกันภัยสำหรับอุบัติเหตุ ให้แก่นักท่องเที่ยว มัคคุเทศน์ และผู้นำเที่ยวในระหว่างเดินทางท่องเที่ยว โดยมีจำนวนเงินเอาประกันภัยกรณีเสียชีวิต สูญเสียอวัยวะหรือทุพพลภาพไม่ต่ำกว่าหนึ่งล้านบาทต่อคน และกรณีบาดเจ็บไม่ต่ำกว่าห้าแสนบาทต่อคน และต้องมีอายุกรมธรรม์ไม่น้อยกว่าหนึ่งปี นับแต่วันยื่นคำขอรับใบอนุญาตประกอบธุรกิจนำเที่ยว ประเภทการวางเงินประกันธุรกิจนำเที่ยวโดยกฎกระทรวง ออก ณ วันที่ 1 พฤษภาคม 2563 ได้มีการเปลี่ยนแปลงข้อกำหนดจำนวนเงินหลักประกันการประกอบธุรกิจนำเที่ยวไว้ดังนี้ผู้ประกอบการนำเที่ยว ต้องมีการจดทะเบียนและวางเงินประกันกับสำนักทะเบียนธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ โดยแยกเป็น 4 ประเภทดังนี้
ข้อปฏิบัติสำหรับผู้ได้รับใบอนุญาตประกอบธุรกิจนำเที่ยว
การเริ่มต้นประกอบธุรกิจนำเที่ยว
ถ้าท่านสนใจในการประกอบธุรกิจนำเที่ยว และต้องการขอใบอนุญาตนำเที่ยว ไม่ว่าจะเป็นบุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคล ติดต่อเรา กรีนโปร เคเอสพี คอนซัลติ้ง เรามีผู้ชำนาญในการขอใบอนุญาตประกอบธุรกิจนำเที่ยว ช่วยเหลือคุณในการขอใบอนุญาตให้เป็นไปอย่างถูกต้องตามกฏหมาย ใบอนุญาตนําเที่ยว มีกี่ประเภท กี่ชนิดข้อ ๑ ใบอนุญาตประกอบธุรกิจนําเที่ยว แบ่งเป็นสี่ประเภท ดังต่อไปนี้ (๑) ประเภทเฉพาะพื้นที่ สําหรับการประกอบธุรกิจนําเที่ยวในจังหวัดหนึ่งจังหวัดใดและจังหวัด ที่มีเขตพื้นที่ติดต่อกับจังหวัดนั้น (๒) ประเภทในประเทศ สําหรับการประกอบธุรกิจนําเที่ยวภายในราชอาณาจักร (๓) ประเภทนําเที่ยวจากต่างประเทศ สําหรับการประกอบธุรกิจนํา ...
ธุรกิจนําเที่ยวมีกี่ประเภทอะไรบ้าง1. ความหมายธุรกิจนําเที่ยว ธุรกิจนําเที่ยว (Tour Business) หมายถึง การประกอบธุรกิจเกี่ยวกับการจัด หรือการให้บริการ หรือการอำนวยความสะดวกเกี่ยวกับการเดินทาง สถานที่พัก อาหาร ทัศนาจรและ/หรือมัคคุเทศก์ให้แก่นักท่องเที่ยว โดยธุรกิจนำเที่ยว ประกอบด้วยธุรกิจ 2 ลักษณะ คือ 1) ธุรกิจผลิตรายการนำเที่ยว และ 2) ธุรกิจตัวแทน
บัตรไกด์มีกี่ประเภทFacebook. มัคคุเทศก์เฉพาะ (ต่างประเทศ - เฉพาะพื้นที่) บัตรสีชมพู. มัคคุเทศก์เฉพาะ (ไทย - เฉพาะพื้นที่) บัตรสีฟ้า. มัคคุเทศก์เฉพาะ (เดินป่า) บัตรสีเขียว. มัคคุเทศก์เฉพาะ (ศิลปวัฒนธรรม) บัตรสีแดง. มัคคุเทศก์เฉพาะ (ทางทะเล) บัตรสีส้ม. มัคคุเทศก์เฉพาะ (ทะเลชายฝั่ง) บัตรสีเหลือง. ธุรกิจนําเที่ยวมีความสําคัญอย่างไร1.ประหยัดเวลาในการติดต่อที่พักแรม พาหนะในการเดินทางตลอดจนบัตรชมการแสดงต่าง ๆ โดยบริษัทนำเที่ยวช่วยอำนวยความสะดวกเป็นตัวแทนจัดการให้ 2.ได้รับบริการที่ดีเหมาะสมกับราคาเพราะบริษัทนำเที่ยวติดต่อคุ้นเคยกับผู้ประกอบการด้าน ต่าง ๆ ทำให้สามารถเลือกบริการที่มีคุณภาพให้แก่ลูกค้าได้ดีกว่าที่ลูกค้าจะติดต่อด้วยตนเอง
|