ข้อมูลนี้เป็นอัตราค่าไฟฟ้าอัปเดตล่าสุด สำหรับบ้านเรือนที่อยู่อาศัยหรือบริเวณที่เกี่ยวข้องโดยต่อผ่านเครื่องวัดไฟฟ้าเครื่องเดียว ค่าไฟจะถูกเก็บโดยการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) ส่วนการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟผ.) จะมีหน้าที่จำหน่ายไฟฟ้า ซึ่งอัตราค่าไฟฟ้าจะขึ้นอยู่กับประเภทของการใช้งานด้วย ข้อมูลด้านล่าง เป็นอัตราสำหรับบ้านเรือนที่อยู่อาศัย สำหรับบ้านอยู่อาศัยที่ขอติดตั้งมิเตอร์แบบคิดค่าไฟตามช่วงเวลาของการใช้งาน ที่มา : www.mea.or.th การไฟฟ้านครหลวง การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค
ค่าไฟหน่วยละกี่บาท พลังงานไฟฟ้า
อัตราค่าไฟฟ้า มนุษย์สายไอทีผู้รักสุขภาพ ชอบทดลอง คนคว้า หาความรู้ พร้อมกับแบ่งปันความรู้ที่ได้มาให้กับผู้อ่าน เราอยากให้ทุกคนใช้ชีวิตได้ง่ายขึ้นด้วยความรู้บนโลกอินเตอร์เน็ตที่ค้นหาได้ง่าย ระบบไฟฟ้าที่ใช้กันทั่วไปตามบ้าน หลอดไฟเเละอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าโดยทั่วไปในบ้านเราใช้ ไฟฟ้ากระเเสสลับระบบ 1 เฟส (1-phase) 2 สาย เเรงดัน 220 โวลต์ ความถี่ 50 เฮิรตช์โดยสาย ไฟ 2 สายที่ใช้กันตามบ้านนี้ สายหนึ่งจะมีกระเเสไฟฟ้าไหลอยู่หรือเรียกว่าสายเคอร์เรนต์ (current line) ส่วนอีกสายหนึ่งจะเป็นสายที่เดินเฉยๆ ไม่มีกระเเสไฟฟ้าไหลอยู่หรือเรียกว่าสายนิวทรัล (ne- utral line) ดังจะเห็นได้จากปลั๊กไฟตามบ้านที่เห็นมีช่องเสียบอยู่ 2 ช่องนั้นถ้าเอาไขควงสำหรับ ตรวจกระเเสไฟฟ้าลองวัดดูจะเห็นได้ว่าช่องหนึ่งจะมีไฟเเดงปรากฏ เเสดงว่าไม่มีกระเเสไฟฟ้าไหล ผ่าน เเต่เมื่อเวลาใช้งานกับหลอดไฟหรืออุปกรณ์ไฟฟ้าจำเป็นต้องใช้ร่วมกันทั้ง 2 สายเพื่อให้กระเเส ไฟฟ้าครบวงจรส่วนบางเเห่งที่เห็นปลั๊กไฟมี 3 ช่องนั้นยังเป็นระบบไฟฟ้าเเบบ 1 เฟสเหมือนกันเเต่ ช่องที่เพิ่มขึ้นมานั้นเป็นช่องที่ต่อกับสายดิน (ground) เพื่อให้กระเเสไฟฟ้าไหลลงดินเวลาเกิดไฟรั่ว เป็นการเพิ่มความปลอดภัยเเละปลั๊กของอุปกรณ์ไฟฟ้าที่จะใช้กับระบบสายดินนี้จะเป็นปลั๊กเเบบ 3 ขา ซึ่งในต่างประเทศถือเป็นระบบมาตรฐานที่ใช้กันทั่วไป ระบบไฟฟ้า 3 เฟสเป็นระบบไฟฟ้ากระเเสสลับ 3 เฟส (3-phase) 4 สายเเรงดัน 380 โวลต์ ความถี่ 50 เฮิรซ์ โดยที่ 3 สายจะเป็นสายที่มีกระเเสไฟฟ้าไหลผ่าน โดยทั่วไประบบไฟฟ้า 3 เฟส เป็นระบบที่ไฟฟ้าที่ใช้กับเครื่องจักรต่างๆ ในโรงงานอุตสาหกรรมเป็นส่วนใหญ่ เพราะเครื่องจักรเหล่า นี้มักมีขนาดใหญ่จึงต้องการเเรงดันไฟฟ้าสูง ไฟฟ้าระบบนี้ไม่สามารถนำมาใช้กับระบบเเสงสว่างหรือ อุปกรณ์ไฟฟ้าตามบ้านได้โดยตรง มาถึงตรงนี้หลายคนคงจะสงสัยว่าเมื่อระบบไฟฟ้า 3 เฟสไม่ สามารถนำมาใช้กับอุปกรณ์ไฟฟ้าต่างๆ ตามบ้านได้โดยตรงเเล้วจะเอามาเเนะนำกันเพื่ออะไร ข้อสงสัย นี้สามารถอธิบายได้โดยไม่ยาก กล่าวคือ การนำระบบไฟฟ้า 3 เฟสเข้ามาใช้ในบ้านนั้นมิได้เป็นการใช้ ไฟฟ้าทั้ง 3 เฟสกับอุปกรณ์ไฟฟ้าเเต่ละชิ้นโดยตรง เเต่เป็นการนำไฟฟ้า 3 เฟสนั้นมาเเบ่งเเยกให้เป็น ระบบไฟฟ้า 1 เฟส 3 ชุด เเล้วกระจายไปตามจุดต่างๆ ที่มีการใช้ไฟฟ้า การกระจายจุดของการใช้งาน เช่นนี้ทำให้ไฟฟ้าเเต่ละเฟสไม่ถูกใช้งานมาก ถือเป็นการเฉลี่ยการใช้ไฟฟ้าทำให้ประหยัดค่าไฟฟ้า เพราะการคิดอัตราค่าใช้ไฟฟ้าซึ่งมีหน่วยเป็นกิโลวัตต์ ชั่วโมงจะคิดเป็นอัตราก้าวหน้า กล่าวคือยิ่งมี การใช้ไฟฟ้ามากก็จะยิ่งเสียค่าไฟฟ้าในอัตราที่สูงขึ้น ฉะนั้นการกระจายการใช้ไฟฟ้าออกเป็น 3 ส่วน จากระบบไฟฟ้าที่นำเข้า 3 เฟสดังกล่าวจึงทำให้การใช้ไฟฟ้าในเเต่ละส่วนหรือเเต่ละเฟสน้อยลง จึงไม่ ต้องเสียค่าไฟฟ้าในอัตราที่สูง การนำระบบไฟฟ้า 3 เฟสมาใช้นั้นจะเสียค่าใช้จ่ายในตอนต้นค่อนข้างสูง เช่น ค่าติดตั้งค่า ประกันการใช้ไฟฟ้า เเต่สามารถประหยัดค่าใช้ไฟฟ้าได้ในระยะยาว ฉะนั้นบ้านหรืออาคารที่ติดตั้ง ระบบไฟฟ้าดังกล่าวจึงควรเป็นบ้านหรืออาคารที่ค่อนข้างใหญ่ มีการใช้ไฟฟ้าหลายจุดเเละเป็น ปริมาณมากจึงจะคุ้ม ถ้าเป็นบ้านหรืออาคารที่มีขนาดเล็กเเละมีปริมาณการใช้ไฟฟ้าไม่มากควรติด ตั้งระบบไฟฟ้าเฟสเดียวก็เพียงพอ อย่างไรก็ตามการเลือกว่าใช้ไฟฟ้าระบบไหนเเละใช้มิเตอร์ไฟ ฟ้าขนาดเท่าใดนั้นจำเป็นจะต้องปรึกษาผู้มีความรู้ทางด้านนี้โดยตรง ซึ่งอาจจะเป็นวิศวกรไฟฟ้า ผู้รับเหมา หรือช่างไฟฟ้า โดยที่เจ้าของบ้านเองก็ต้องวางเเผนเกี่ยวกับปริมาณไฟฟ้าที่ต้องใช้เอา ไว้ว่าต้องการใช้ไฟฟ้ามากน้อยเเค่ไหน โดยอาจจะกะปริมาณจากจำนวนดวงไฟรวมทั้งประเภท เเละจำนวนของอุปกรณ์ไฟฟ้าต่างๆ ที่คาดว่าต้องการจะใช้เพื่อจะได้เลือกระบบไฟฟ้าเเละขนาด ของมิเตอร์ไฟฟ้าที่จะติดตั้งได้อย่างถูกต้องเหมาะสม โดยปกติขนาดของมิเตอร์ไฟฟ้าที่จะขอติดตั้งได้จะมีขนาด 5(15), 15(45), 30(100) เเละ 50(150) เเอมเเปร์ ซึ่งเป็นระบบไฟฟ้าเฟสเดียวตัวเลขที่อยู่ด้านซ้ายนอกวงเล็บหมายถึง กระเเสไฟฟ้าปกติสำหรับการใช้งานของระบบไฟฟ้าขนาดนั้นๆ ส่วนตัวเลขด้านขวาที่อยู่ภายในวง เล็บ หมายถึงกระเเสไฟฟ้าสูงสุดที่ระบบไฟฟ้าสามารถทนได้ เช่น มอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 15(45) เเอมเเปร์ หมายความว่าขนาดของระบบไฟฟ้าที่ติดตั้งไว้สามารถรับการใช้งานของอุปกรณ์ไฟฟ้า ต่างๆ โดยรวม 15 เเอมเเปร์อย่างปลอดภัยภายใต้สภาวะการใช้งานตามปกติ เเต่จะสามารถทน กระเเสไฟฟ้าสูงสุดได้ถึง 45 เเอมเเปร์ในบางครั้งบางคราวเป็นระยะเวลาสั้นๆ เช่น ในขณะที่เปิด เครื่องปรับอากาศใหม่ๆ เครื่องปรับอากาศจะกินกระเเสไฟฟ้ามากกว่าปกติถึงเเม้ว่ากระเเสไฟฟ้าที่ ใช้โดยรวมในช่วงเวลานั้นอาจจะสูงเกินกว่าระดับปกติ เเต่ถ้าเป็นเพียงระยะสั้นๆ ก็จะไม่ก่อให้เกิด ปัญหาต่อระบบไฟฟ้าหรือการใช้ไฟฟ้าเเต่ประการใด โดยปกติถ้าเป็นบ้านขนาดเล็กที่มีการติดตั้ง ดวงไฟเเละปลั๊กไฟเพียงไม่กี่จุดอาจใช้มิเตอร์ไฟฟ้าขนาด 15(15) เเอมเเปร์ก็เพียงพอถ้ามีเครื่อง ปรับอากาศ 1-2 เครื่องก็อาจใช้มิเตอร์ไฟฟ้าขนาด 15 (45) เเอมเเปร์ เเต่ถ้าเป็นบ้านที่มีการใช้ ไฟฟ้ามาก เช่น มีการติดตั้งเครื่องปรับอากาศหลายเครื่องก็อาจจะต้องใช้มิเตอร์ไฟฟ้าขนาด 50 (150) เเอมเเปร์ หรือบ้านที่มีปริมาณการใช้ไฟฟ้ามากขึ้นไปอีกก็ควรจะพิจารณาขอติดตั้งระบบไฟ ฟ้า 3 เฟสซึ่งระบบดังกล่าวจะทำให้ได้ไฟฟ้าที่มีขนาด 3 เท่าของไฟฟ้าระบบเฟสเดียวตามขนาดตัว เลขเเอมเเปร์ข้างต้นเป็นจำนวน 3 ชุดนั่นเอง เช่น ถ้าติดตั้งระบบไฟฟ้า 3 เฟส 4 สาย 30(100) เเอมเเปร์ 380 โวลต์ 1 ชุดก็เทียบเท่ากับติดตั้งระบบไฟฟ้า 1 เฟส 2 สาย 30(100) เเอมเเปร์ 220โวลต์ 3 ชุดนั่นเอง การติดตั้งระบบไฟฟ้า 3 เฟสนั้นมีข้อสังเกตเเละข้อควรระวังบางประกล่าวคือ เนื่องจาก ระบบไฟฟ้า 3 เฟสที่นำมาใช้จะถูกเเยกให้กลายเป็นระบบไฟฟ้าเฟสเดียว 3 ชุดเพื่อนำมาใช้ งานกับอุปกรณ์ไฟฟ้าตามจุดต่างๆ ถ้าไฟฟ้าเเต่ละสายที่เเยกไปใช้งานตามจุดต่างๆ นั้นมีปริ- มาณการใช้งาน (load) ที่สมดุลกันหรือใกล้เคียงก็ย่อมจะเป็นการประหยัดค่าไฟฟ้าได้ดีเเต่ ถ้าปริมาณการใช้งานในเเต่ละสายไม่สมดุลกันหรือเเตกต่างกันมาก สายที่มีปริมาณการใช้งาน สูงก็จะเสียค่าไฟฟ้ามาก เนื่องจากต้องเสียค่าไฟฟ้าในอัตราที่สูงขึ้นโดยคิดในอัตราก้าวหน้า ตามปริมาณการใช้ไฟฟ้าทำให้ค่าไฟฟ้าโดยส่วนรวมพลอยสูงขึ้นไปด้วยอย่างเช่น การที่สายไฟ สายหนึ่งถูกนำไปใช้กับเครื่องปรับอากาศหรือเครื่องทำน้ำร้อนหลายๆเครื่อง ในขณะที่อีกสอง สายถูกนำไปใช้กับดวงไฟเเละปลั๊กไฟเพียงไม่กี่จุดเช่นนี้เเล้วสายที่มีปริมาณการใช้งานสูงก็จะ ทำให้ต้องเสียค่าไฟฟ้าในอัตราที่สูงเเละยังอาจก่อให้เกิดปัญหาของการใช้ไฟฟ้าดังกล่าวเพื่อให้ ปริมาณการใช้ไฟฟ้าในเเต่ละสายเฉลี่ยใกล้เคียงกันหรือสมดุลกันจะช่วยให้เกิดประสิทธิภาพใน การใช้งานป้องกันไม่ให้สายไฟบางสายต้องรับภาระในการใช้งานมากเกินไปทำให้เกิดความปลอด ภัยในการใช้งานเเละช่วยให้สามารถประหยัดค่าไฟฟ้าอย่างได้ผลดีอีกด้วย อีกประเด็นหนึ่งที่สำคัญเเละควรต้องระวังอย่างยิ่งก็คือ การเเยกระบบไฟฟ้า 3 เฟสออก เป็น 3 ชุด เพื่อนำไปใช้งานตามจุดต่างๆนั้นสายไฟเเต่ละคู่ที่เดินไว้สำหรับการใช้งานตามจุด ต่างๆนั้นต้องเป็นระบบไฟฟ้าเฟสเดียวเท่านั้น นั่นคือสายไฟเเต่ละคู่ที่เดินเเยกออกมาจะต้องมี สายไฟเพียงเส้นเดียวเท่านั้นที่มีกระเเสไฟฟ้าไหลอยู่ส่วนอีกเส้นหนึ่งจะต้องไม่มีกระเเสไฟฟ้า เป็นอย่างนี้คู่กันเสมอเเละจะต้องไม่เดินสายที่มีกระเเสไฟฟ้าไหลอยู่ทั้ง 2 เส้นคู่กันเป็นอันขาด เพราะจะทำให้เเรงดันไฟฟ้า ณ จุดนั้นกลายเป็น 380 โวลต์ ซึ่งจะมีผลทำให้ดวงไฟเเละอุปกรณ์ ไฟฟ้าต่างๆ ที่ใช้งาน ณ จุดนั้นเกิดการชำรุดเสียหายเเละยังอาจก่อให้เกิดอันตรายต่อผู้ใช้อีก ด้วยฉะนั้นหลังจากการเดินสายไฟภายในบ้านควรมีการทดลองสายไฟที่เดินไว้ตามจุดใช้งานทุก จุดอย่างถี่ถ้วนว่าเป็นระบบไฟฟ้าเฟสเดียวเพื่อป้องกันปัญหาเเละอันตรายที่อาจเกิดขึ้นได้ ค่าไฟ 3 เฟสหน่วยละเท่าไร- 15 หน่วยแรก (หน่วยที่ 1-15) หน่วยละ 2.3488 บาท - 10 หน่วยถัดไป (หน่วยที่ 16-25) หน่วยละ 2.9882 บาท - 10 หน่วยถัดไป (หน่วยที่ 26-35) หน่วยละ 3.2405 บาท - 65 หน่วยถัดไป (หน่วยที่ 36-100) หน่วยละ 3.6237 บาท
ค่าไฟ 3 เฟส คิดยังไงจากสูตรคำนวณ การคิดค่าไฟฟ้า ระบบ 1 เฟส : KW = { แรงดัน(220V) x กระแส(A) x Power Factor } / 1,000. ระบบ 3 เฟส : KW = { Sqrt(3) x แรงดัน(380V) x กระแส(A) x Power Factor } / 1,000.
อัตราค่าไฟฟ้าส่วนภูมิภาค 2565 หน่วยละกี่บาทส่งผลให้ค่าเอฟทีรวมในงวดเดือนก.ย.-ธ.ค.2565 จะอยู่ที่ 93.43 สตางค์ต่อหน่วย ซึ่งบวกกับค่าไฟฟ้าฐานประมาณ 3.79 บาทต่อหน่วย จะทำให้ค่าไฟฟ้าโดยรวมที่ประชาชนต้องจ่ายอยู่ที่ 4.72 บาทต่อหน่วยดังกล่าว ค่าไฟขึ้นเดือนไหน หน่วยละกี่บาท ผู้ใช้ต้องจ่ายเพิ่มถึง 5 บาทหรือไม่
ค่าไฟฟ้าหน่วยละกี่บาทสำหรับค่าไฟฟ้าในอัตราปกติแบบก้าวหน้า หากการใช้ไฟฟ้าในบ้านอยู่อาศัยเกินกว่า 150 หน่วยต่อเดือน จะมีอัตราค่าไฟฟ้าในแต่ละขั้น ดังนี้ - 150 หน่วยแรก (หน่วยที่ 1-150) หน่วยละ 3.2484 บาท - 250 หน่วยถัดไป (หน่วยที่ 151-400) หน่วยละ 4.2218 บาท
|