2. พังงา ชาวตา งชาต)ิ ระบุได ชาวตา งชาต)ิ ชาวตา งชาต)ิ นักเรียนวาดภาพแสดงกระบวนการเกิดสึนามิ ตกแตงให 3. กระบ่ี สวยงาม แลววิเคราะหโอกาสในการเกิดสึนามิของประเทศไทย 4. ระนอง 262 17 1,111 608 จากน้ันนาํ เสนอผลงานท่ีหนาชน้ั เรียน 5. ตรงั 3,504 722 5,597 1,655 6. สตูล 560 161 1,376 544 159 - 246 รวม 112 9 5- 15 1 6- 8,457 - 4,496 900 2,817 T ท่มี า : กรมปองกันและบรรเทาสาธารณภยั กระทรวงมหาดไทย, 2549 182 นาํ สอน สรปุ ประเมนิ 8) การจดั การภยั พบิ ัติสนึ าม ิ มีดังนี ้ ขนั้ สอน 8.1) ม1.า กตารกรตาริด ตท้ัง่สี รา� ะคบญั บ เมตือีดนังนภ้ี ัย1ล่วงหน้าด้วยการวางทุ่นลอยในพ้ืนท่ีเส่ียงภัย ขน้ั ที่ 4 การวิเคราะหและแปลผลขอมลู เชน่ ในมหาสมทุ รอนิ เดยี หรอื ในชายฝง่ั อนั ดามนั ของประเทศไทย เพอื่ ตรวจจบั การเกดิ แผน่ ดนิ ไหว ใต้ท้องทะเล และเม่ือพบการสั่นสะเทือนใต้ท้องทะเลเกินกว่า 5 - 7 ตามมาตราริกเตอร์ข้ึนไป 14. ครูสุมตัวแทนนักเรียนจํานวน 4-6 คน เพื่อ ศนู ยเ์ ตือนภัยจะแจง้ ใหป้ ระชาชนทราบ นาํ เสนอการระวงั ภยั จากสนึ ามทิ หี่ นา ชนั้ เรยี น 2. ต้องมีการซ้อมรับภัยจากสึนามิในพื้นท่ีเส่ียงภัย รวมทั้งติดตั้งป้ายบอก โดยแบง หนา ทน่ี าํ เสนอการระวงั ภยั ของผทู อ่ี ยู เสน้ ทางอพยพหนีภยั ไปยังจดุ ปลอดภยั ท่ีอยู่ใกลท้ ่สี ดุ เพอื่ รับมอื กับสนึ ามิท่อี าจเกิดข้นึ เมอื่ ใดก็ได้ บริเวณชายฝง และการระวังภัยของผูที่อยใู น 3. ต้องมีการเผยแพร่ข้อมูลแผ่นดินไหวและสึนามิ และระบบเตือนภัยจาก เรือกลางทะเล ทั้งในชวงกอนเกิดภัย ขณะ สึนามิให้ประชาชนได้รับทราบผา่ นสือ่ ต่าง ๆ เกดิ ภยั และหลงั เกดิ ภยั ในรปู แบบตา งๆ เชน 8.2) วิธปี อ้ งกัน ทา� ได ้ ดังน้ี การแสดงบทบาทสมมติ ตารางนาํ เสนอขอ มลู 1. ศึกษาความรู้เร่ืองภัยพิบัติจากแผ่นดินไหวและสึนามิ สัญญาณเตือนภัย หรือรูปแบบอื่นๆ ตามความสามารถและ สนึ ามิ รวมถึงตดิ ตามข่าวสารอย่างใกล้ชิด ความสนใจของนักเรียน พรอมท้ังวิเคราะห และเสนอแนะขอ คิดเห็นเพมิ่ เตมิ เพ่ือใหเ กดิ ความเขาใจทีถ่ กู ตองตรงกัน 2. ฝึกซ้อมรบั ภัยสึนาม ิ วางแผนการอพยพผูค้ น เตรยี มทพี่ ักอาศัยชั่วคราว 3. หลกี เลย่ี งการกอ่ สรา้ งใกลช้ ายฝง่ั ทะเลในเขตทมี่ คี วามเสยี่ งภยั จากสนึ ามสิ งู 8.3) การปฏบิ ัติตน ท�าได้ ดงั น้ี 1. ต ิดตามขา่ วสารจากทางราชการอย่างใกลช้ ดิ 1. หากอยทู่ ช่ี ายหาดและรสู้ กึ แผน่ ดนิ สนั่ สะเทอื น 2. เมอื่ รสู้ กึ วา่ เกดิ แผน่ ดนิ ไหวอยา่ งรนุ แรง หรอื เหน็ หรือเห็นน้�าทะเลลดลงผิดปกติ ให้ย้ายไปยัง พ้นื ที่สงู ทนั ท ี โดยไม่ตอ้ งรอประกาศเตอื นภยั น้�าทะเลลดลงผิดปกต ิ ให้รบี ยา้ ยไปยังที่สูงทนั ที 3. เตรยี มสงิ่ ของจา� เปน็ ตา่ ง ๆ ใหพ้ รอ้ ม เชน่ นา�้ ดม่ื 2. ห ากไดย้ นิ ประกาศเตอื นภยั สนึ าม ิ ใหอ้ พยพไป ยังที่สงู ทนี่ ้า� ท่วมไมถ่ งึ อาหารแห้ง ไฟฉาย รองเท้า ยารักษาโรค 3. ห ากอยบู่ นเรอื ในทะเล ระหวา่ งเกดิ สนึ ามใิ หล้ อย เรอื อยกู่ ลางทะเล หรอื นา� เรอื ออกสทู่ ะเลลกึ ก่อนเกดิ ภัย ขณะเกิดภัย หลงั เกิดภยั 1. ตดิ ตามข่าวสารจากทางราชการ และอพยพกลบั เมื่อได้รบั แจง้ จากเจา้ หนา้ ท่ีวา่ ปลอดภยั 2. พยายามอยหู่ า่ งจากอาคารสิ่งก่อสร้างที่เสียหาย เพราะอาจพังถล่มลงมาได้อกี 3. กลับเข้าบ้านอย่างระมัดระวัง โดยระวังเพดานพังลงมา ไม่เปิดเครื่องใช้ไฟฟ้าจนกว่า ทางการจะแจ้ง และตรวจดทู ่อนา�้ ว่ายังใชก้ ารได้ปกตหิ รอื ไม่ 4. ซ่อมแซมและทา� ความสะอาดอาคารบา้ นเรือน รวมถงึ ชว่ ยเหลือผู้ประสบภัยในพ้นื ที่ 175 ขอสอบเนน การคิด นักเรียนควรรู ขอใดเปนสิ่งที่ควรกระทําเปนอันดับแรกเม่ือไดยินสัญญาณ 1 ระบบเตือนภัย สําหรับเฝาสังเกตการณ ตรวจวัดการเปล่ียนแปลงของ เตอื นภยั สนึ ามิ เปลือกโลกที่จะสงผลใหเกิดสึนามิ คํานวณผลการเกิดและความรุนแรงในการ กอความเสียหาย ทิศทางของคลื่น การเคลื่อนตัวของคล่ืน การประเมินคา 1. ไปดแู ลเพอ่ื นบา นใกลเ คยี ง ความเส่ียง และระยะเวลาท่ีจะเกิดภัยพิบัติ โดยจัดตั้งสถานีตรวจวัดขึ้นตาม 2. ตะโกนรอ งขอความชว ยเหลอื ภูมิภาคตางๆ ท่ัวโลก แลวสงผลการวิเคราะหเตือนไปยังประเทศท่ีจะไดรับ 3. วงิ่ ลงไปทช่ี ายหาดเพอื่ ดนู าํ้ ทะเล ผลกระทบ แตระบบเตือนภัยสึนามิที่ใชกันอยูในปจจุบันจะมีเฉพาะทางฝง 4. เปด โทรทศั นด ปู ระกาศจากทางราชการ มหาสมทุ รแปซฟิ ก ซงึ่ เกดิ แผน ดนิ ไหวและสนึ ามบิ อ ยครงั้ โดยประเทศทอ่ี ยบู รเิ วณ 5. รบี เคลอื่ นยา ยไปยงั ทส่ี งู พรอ มสมั ภาระจาํ เปน มหาสมุทรแปซิฟกไดรวมกันจัดต้ังระบบเตือนภัยสึนามิข้ึน โดยมีสหรัฐอเมริกา เปนแกนนําในการริเร่ิมจัดต้ังระบบ พรอมดวยการสนับสนุนดานเงินทุน (วิเคราะหคาํ ตอบ ตอบขอ 5. เม่ือไดยินสญั ญาณเตือนภยั ใหร บี และเทคโนโลยีจากประเทศญ่ีปุน ศูนยเตือนภัยสึนามิระดับนานาชาติท่ีสําคัญ อพยพออกจากบา นไปยังพ้ืนที่สูงท่นี ้ําทว มไมถ งึ ทนั ท)ี คอื ศนู ยเ ตือนภยั จากคล่ืนสึนามิในภูมภิ าคแปซิฟก (PTWC) ในรัฐฮาวาย T183 นาํ สอน สรปุ ประเมนิ ขนั้ สอน 1.4 แผ่นดินถล่ม (landslide) 1) ค�าจ�ากัดความ แผ่นดินถล่มเป็นภัยท่ีเกิดจากการเคล่ือนท่ีของมวลดินและ ขนั้ ท่ี 4 การวเิ คราะหแ ละแปลผลขอมูล เศษหิน ด้วยแรงโน้มถ่วงของโลกโดยมีน�้าหรือแรงส่ันสะเทือนเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดการเคลื่อนท ่ี 15. ครูสนทนากับนักเรียนถึงความหมายของ ตามบรเิ วณพน้ื ทลี่ าดชนั ของภเู ขา อาจเกดิ ขนึ้ อยา่ งชา้ ๆ หรอื อยา่ งฉบั พลนั กอ่ ใหเ้ กดิ ความเสยี หาย แผนดินถลมที่นักเรียนไดศึกษามา จากน้ัน ตอ่ ชีวิตและทรพั ยส์ ิน สุมนักเรียนเพื่ออภิปรายถึงกระบวนการเกิด แผนดินถลม เสนอแนะขอคิดเห็น และ 2) กระบวนการเกิดแผน่ ดนิ ถลม่ มีดงั นี้ วิเคราะหส รปุ รว มกนั • มีการส่ันสะเทือนในพ้ืนท่ี เช่น แผ่นดินไหว ท�าให้เศษหิน ดิน ร่วงหล่นลงมา 16. ครูสุมนักเรียนใหตอบคําถามเกี่ยวกับปจจัย ตามแรงโนม้ ถ่วงของโลก หรือมีฝนตกหนกั ตอ่ เนอื่ งในพนื้ ทล่ี าดชนั บนภเู ขา หรือเทอื กเขา ท่ที ําใหเ กดิ ภัยแผน ดนิ ถลม เชน • พื้นทล่ี าดชนั ไมส่ ามารถรับนา�้ หนักได้ท�าให้เกิดดนิ ถล่มลงมา การเคลอ่ื นทข่ี อง • ปจ จยั ทางธรรมชาตทิ ท่ี าํ ใหเ กดิ แผน ดนิ ถลม มวลดนิ หิน มีทง้ั• คใวนามพเื้นร็วทป่ีเทานือกกลเาขงาแหลินะคปวูนาทมี่มเรีโว็ พมรางกใ ตโด้ดยินม ีนอ�้าาเจปเน็กติดวัแขผับ่นเคดลินื่อถนล่มหรือหลุมยุบ1 ไดแกอ ะไรบา ง ขนาดใหญ่ได้ (แนวตอบ เชน การเกิดแผนดินไหวรุนแรง การเกิดแผน่ ดินถลม่ ที่สงผลใหดินบริเวณที่ลาดเชิงเขาเกิดการ เคลื่อนตัวลงมาตามแรงโนมถวงของโลก 1 ช้ันดินบริเวณภูเขาหรือหน้าผา การเกิดฝนตกหนัก ทําใหดินอุมน้ําไวมาก จนไมสามารถเกาะตัวอยูได จึงเลื่อนไหล เคลื่อนลงตามแรงดึงดูดของโลก ลงมาตามความลาดชัน และปจจัยอ่ืนๆ ผนวกกับการมีฝนตกหนักเป็น เชน การปะทุของภูเขาไฟ การเกิดสึนามิ เวลานานในพน้ื ทล่ี าดชนั มากกวา่ การละลายของหมิ ะ หรอื การมหี มิ ะตกหนกั 30 � ก า ร เ ป ล่ี ย น แ ป ล ง ข อ ง ร ะ ดั บ นํ้ า ใ ต ดิ น การกัดเซาะชายฝงของแมนํ้าและพื้นที่ 2 เ กิดน�้าสะสมบนพ้ืนที่ลาดชัน บรเิ วณไหลทวปี ) ท�าใหม้ วลดนิ หนิ ไม่สามารถรบั น�้าหนักได้จึงทรุดตัวและไหลลง มาตามท่ีลาดชนั 3 มวลดิน หิน เคลือ่ นที่ลงมาทบั สงิ่ ก่อสร้างบรเิ วณเชิงเขา การเกิดแผ่นดินถล่มแบบเลื่อนไถล (slump) ท่ีเมือง ลา คอนชิตา (La Conchita) รัฐแคลิฟอร์เนยี สหรัฐอเมรกิ า เมอ่ื พ.ศ. 2548 ท่มี าภาพ : www.usgs.gov/media/images/landslide-la-conchita-california/ 176 นักเรียนควรรู ขอสอบเนน การคดิ 1 หลุมยุบ หลุมหรือแองบนแผนดินที่ปากหลุมเกือบกลมและมีเสนผาน พืน้ ที่บรเิ วณใดทีเ่ สีย่ งตอ การเกดิ แผนดินถลม ศูนยกลางราว 20 เมตร ถึงกวา 200 เมตร เกิดจากน้ําละลายเอาหินเกลือ หนิ ยปิ ซมั หรอื หนิ ปนู ทอี่ ยขู า งใตอ อกไป ทาํ ใหพ นื้ ดนิ ตอนบนยบุ ลงเปน หลมุ ใหญ (แนวตอบ บรเิ วณทมี่ กั จะเกดิ แผน ดนิ ถลม ไดแ ก บรเิ วณทใ่ี กลก บั หากการละลายสารดงั กลา วเปน ไปอยา งกวา งขวาง หลมุ ยบุ นจ้ี ะลกึ ลงๆ จนทะลุ แนวรอยเล่ือนท่ีมีพลังและมีการยกตัวของแผนดินขึ้นเปนภูเขาสูง ถงึ ทางนํ้าขางลา งเกิดเปน ปลองขนึ้ ได บริเวณท่ีทางน้ํากัดเซาะเปนโตรกเขาลึกและชัน บริเวณท่ีมีแนว รอยแตกและรอยแยกหนาแนนบนลาดเขา บริเวณท่ีมีการผุพัง สื่อ Digital ของหินและทําใหเ กดิ ชัน้ ดินหนาบนลาดเขา) ศึกษาคนควาขอมูลเกี่ยวกับดินถลม ไดท่ี http://www.dmr.go.th/ download/Landslide/what_landslide1.htm สาํ นกั ธรณวี ทิ ยาสงิ่ แวดลอ มและ ธรณีพิบตั ิภยั กรมทรพั ยากรธรณี T184 นาํ สอน สรปุ ประเมนิ 3) ประเภทของแผน่ ดนิ ถลม่ ตามความเรว็ ในการเคลอ่ื นทแ่ี ละในสภาพทมี่ นี า�้ หรอื ขน้ั สอน ไม่มีน้า� ท่ีส�าคญั เชน่ ขนั้ ท่ี 4 การวเิ คราะหแ ละแปลผลขอมลู ประเภทของแผน่ ดินถล่ม ลักษณะ • การประกอบกิจกรรมของมนุษยเปนปจจัย ทีท่ าํ ใหเ กดิ แผน ดินถลม ไดอยางไร เป็นแผ่นดินถล่มบนพื้นท่ีที่มีความลาดชันมาก น้�าหนักของหินหรือแรงสั่น (แนวตอบ เชน การขุดดินบริเวณเชิงเขา สะเทอื นทา� ให้หินร่วงหลน่ ลงมา เพ่ือทําถนน เพื่อการอยูอาศัย หรือเพื่อ การเกษตร นอกจากนี้ การสูบน้ําบาดาล หนิ พัง (rock fall) ขึ้นมาใชในปริมาณมากจนเกินไป การ ดูดทรายจากใตดินหรือแมน้ําขึ้นมาใช เป็นการเคล่ือนท่ีของมวลหินหรือเศษดินเศษหินลงมาตามความลาดชัน ประโยชน รวมไปถึงการบดอัดดิน เพ่ือใช โดยเคลื่อนที่หรือทรุดตัวหมุนเป็นบล็อกตามระนาบโค้งเว้า มักเกิดบริเวณ ประโยชนในการกอสราง ก็อาจกอใหเกิด หน้าผาหรอื ไหล่เขา การเปล่ียนแปลงโครงสรางทางธรณีวิทยา ของพน้ื ทโ่ี ดยรอบจนนาํ ไปสกู ารเกดิ แผน ดนิ การเลอื่ นไถล (slump) ถลมไดเชน เดียวกัน) เปน็ การเลอื่ นไถลของดนิ อยา่ งชา้ ๆ ลงไปตามลาดเขาในเขตอากาศหนาว เกดิ เนอ่ื งจากนา�้ แขง็ และหมิ ะทล่ี ะลายในฤดรู อ้ นไหลซมึ ลงไปในดนิ ชนั้ บน ทา� ใหด้ นิ ช้ันแฉะ ในขณะที่ดินช้ันล่างยังคงมีอุณหภูมิที่จุดเยือกแข็งอยู่ ดินช้ันบน การไหลของดนิ (solifluction) เจปึง็นคก่อายร ๆเค ไลห่อื ลนเทล่ือีแ่ นบลบงเลไป่ือนไถลอย่างช้า ๆ ลงมาตามลาดเขาของดนิ หรือหินผ1 ุ เน่ืองจากแรงดงึ ดูดของโลกและมีนา�้ ในดนิ ระดับปานกลาง ดินไหล (earth flow) เปน็ การไหลของมวลตะกอนขนาดเล็ก มีปริมาณน�า้ มากจนเป็นดินโคลนเหลว โคลนไหล (mudflow) ไหลลงไปตามร่องธารและท่ีลาดเชิงเขาอย่างรวดเร็ว มีพลังงานที่จะท�าลาย สิง่ กีดขวางตามทางที่ผ่านไป 4) สาเหตุการเกิดแผน่ ดนิ ถลม่ มที ง้ั สาเหตุจากธรรมชาตแิ ละจากมนุษย ์ ดังน้ี 4.1) สาเหตุจากธรรมชาติ เช่น การเกิดแผน่ ดนิ ไหวที่รุนแรง ส่งผลให้แผน่ ดิน บรเิ วณลาดเขาทมี่ คี วามชนั เกดิ การเคลอื่ นทลี่ งมาตามแรงดงึ ดดู ของโลก การมฝี นตกหนกั ตอ่ เนอื่ ง น�้าฝนจะซึมไปสะสมอยู่ในดิน เม่ือดินไม่สามารถอุ้มน�้าไว้ได้จะลื่นไถลลงตามความลาดชัน และ มักมตี น้ ไม้ เศษหนิ เล่ือนไหลตามไปด้วย นอกจากน ้ี ยงั เกดิ จากปจั จยั อน่ื ๆ เชน่ ภเู ขาไฟปะท ุ หมิ ะถลม่ นา�้ แขง็ ใตด้ นิ ละลาย 4.2) สาเหตจุ ากมนษุ ย ์ เชน่ การเพาะปลูก การปลูกส่งิ กอ่ สร้างบนพ้นื ทลี่ าดชนั การตัดไมท้ �าลายปา่ เพ่ือทา� ไร่ ท�าสวน การตัดถนนตามไหลเ่ ขา 177 ขอสอบเนน การคดิ นักเรียนควรรู ปจ จยั ใดทเี่ ปน สาเหตทุ าํ ใหเ กดิ แผน ดนิ ถลม 1 หินผุ เปนวัตถุดิบชนิดหนึ่งท่ีพบไดในแหลงที่มีหินภูเขาไฟ หินแกรนิต เฟลดสปาร หรือในแหลง ดนิ ขาว การเกดิ หินผมุ ี 3 ลกั ษณะ ไดแก (แนวตอบ ปจ จยั ทางธรรมชาตทิ สี่ าํ คญั ไดแ ก การเกดิ ฝนตกหนกั เปนเวลานานบนที่ลาดเชิงเขาหรือภูเขาสูง การกัดเซาะของดิน 1. เกิดจากหินตนกําเนิดที่เปนหินหนืดท่ีแทรกดันตัวผานหินทองท่ี จากกระแสนํ้าในแมน้ํา คลื่นซัดฝง การผุพังของมวลดินและหิน (Country Rock หรือ Wall Rock) ขน้ึ สผู ิวโลก แลว เกดิ การเปลี่ยนแปลงภายใน ทําใหความหนาแนนของมวลดินลดลง การเกิดภัยธรรมชาติ ดวยตนเองจนกลายเปน หินผุ รุนแรง เชน แผนดินไหว อุทกภัย และปจจัยจากการกระทํา ของมนุษย เชน การตัดไมทําลายปา ทําใหไมมีรากไมยึดเกาะ 2. เกิดจากหินหนืดท่ีถูกดันตัวและเปล่ียนแปลงโครงสราง โดยการพัดพา หนา ดนิ การกอ สรา งหรอื การทาํ การเกษตรบรเิ วณเชงิ เขาทลี่ าดชนั ) ของนํ้ารอน จนกลายเปนหินตน กาํ เนิดทีเ่ ปน หนิ ผุ (หนิ ทองทีม่ กั เปนหนิ ภูเขาไฟ หรือหนิ ข้ีเถา ภูเขาไฟ) การเกดิ ประเภทนี้ หนิ ทอ งทีแ่ ละหนิ ตน กาํ เนิดจะเปน หนิ ประเภทเดยี วกัน และมกั จะจับตัวกันเปน พ้ืนที่กวาง 3. เกิดจากหินภูเขาไฟท่ีมีสวนประกอบเปนชนิดบะซอลตไปจนถึงชนิด ไรโอไลต T185 นาํ สอน สรปุ ประเมนิ ขน้ั สอน 5) การกระจายการเกดิ แผ่นดินถล่มของโลก ขัน้ ท่ี 4 การวิเคราะหแ ละแปลผลขอมลู แผนท่แี สดงการเกดิ แผ่นดินถลม่ ของโลก 17. ครูต้ังประเด็นเกี่ยวกับสถานการณการเกิด 80 Nํ 160 Wํ 120 Wํ 80 Wํ 40 Wํ 0 ํ 40 Eํ 80 Eํ 120 Eํ 160 Eํ 80 Nํ แผนดินถลมใหนักเรียนรวมกันวิเคราะหและ อภิปรายสรุปรว มกนั เชน 60 Nํ 60 Nํ • แผนดินถลม : ภัยของประชาคมโลกและ ประชาชนไทย 40 Nํ 40 Nํ • แนวทางปอ งกนั ภยั แผน ดนิ ถลม จากกจิ กรรม ของมนษุ ย 20 Nํ 20 Nํ • การพฒั นาทย่ี ง่ั ยนื กบั การปอ งกนั และแกไ ข ปญหาภยั แผนดนิ ถลม 0ํ 0ํ 18. ครูใหนักเรียนศึกษาแผนที่แสดงการเกิด 20 Sํ 20 Sํ แผนดินถลมของโลก จากหนังสือเรียน ภูมศิ าสตร ม.4-6 ประกอบการวเิ คราะหแ ละ 40 Sํ 40 Sํ อภิปรายขอมลู N 60 Sํ พ้นื ทเี่ สย่ี งภัยแผน ดนิ ถลม 60 Sํ 1 : 250,000,000 80 Sํ ไมเ สี่ยง เสีย่ งมาก ไมม ขี อมูล 80 Sํ 0 2,000 4,000 กม. 160 Wํ 120 Wํ 80 Wํ 40 Wํ 0 ํ 40 Eํ 80 Eํ 120 Eํ 160 Eํ ท่ีมา : https://earthobservatory.nasa.gov จากแผนท ี่ พน้ื ทเี่ กดิ แผน่ ดนิ ถลม่ มกั เปน็ บรเิ วณทล่ี าดเชงิ เขา หรอื พนื้ ทรี่ าบดา้ นหนา้ ภเู ขาทม่ี กี ารพังทลายของดินสูง หรือพน้ื ท่ตี ้นน�้าทมี่ กี ารทา� ลายป่ามาก หรอื เกิดบริเวณหน้าผาท่ี เป็นหินชนดิ ผพุ งั งา่ ย โดยหินนนั้ รองรบั ช้นั ดนิ ทีม่ ีความลาดเทสูงและน้า� ซมึ ผา่ นไดส้ ะดวก เม่อื เกิด พายฝุ นตกหนัก ทา� ใหเ้ กดิ น�้าปา่ ไหลหลาก และเกิดแผ่นดนิ ถล่มไดง้ ่าย บริเวณที่เกดิ แผน่ ดินถล่ม บอ่ ย เช่น ชุมเขายูนนานและชุมเขาปามรี ์ในทวีปเอเชยี เทอื กเขาแอลปในทวีปยุโรป เทอื กเขา ร็อกกที างตะวันตกของทวีปอเมรกิ าเหนือ เทอื กเขาแอนดีสในทวีปอเมรกิ าใต้ สา� หรบั ประเทศไทย แผน่ ดนิ ถลม่ มสี าเหตสุ า� คญั มาจากการมฝี นตกหนกั และมฝี นตก ภต่อาคเนเหือ่ งนหือ1ลแาลยะวภันา คถใ้าต2ม้มปี ีโรอิมกาาณสเฝกนิดภแาผย่นในด ิน2ถ4ล -่ม 4ไ8ด ้มชา่ัวกโม เงน ื่อมงาจกากกวมา่ ีส 3ภ0า0พ พมื้นลิ ลทิเ่ีเมปต็นรภ ูเโขดายสเฉูงแพลาะะ เนนิ เขาเปน็ จ�านวนมาก 6) ภัยต่าง ๆ ทเี่ กดิ จากแผน่ ดินถลม่ รุนแรง มดี งั น้ี 1. ทา� ให้บ้านเรือนพังทลายเสยี หาย เนื่องจากถกู ดินไหลเลื่อนถล่มทบั 2. ทา� ใหผ้ ู้คนและสัตว์เลย้ี งบาดเจบ็ ล้มตายและสูญหาย 3. ท�าใหพ้ นื้ ท่ีเกษตรและพืชผลทางการเกษตรเสยี หาย 4. เสน้ ทางคมนาคมตา่ ง ๆ ถูกท�าลาย ซ่ึงตอ้ งใช้เงนิ จ�านวนมากในการซ่อมแซม ใหด้ ดี งั เดมิ นอกจากน ี้ เสน้ ทางคมนาคมทช่ี า� รดุ อาจถกู ปดิ ทา� ใหก้ ารสญั จรไปมาไดร้ บั ความยากลา� บาก 178 นักเรียนควรรู กจิ กรรม สรา งเสริม 1 ภาคเหนือ รวมถึงภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีโอกาสเกิดแผนดินถลม นักเรียนจัดทําตารางหรือผังกราฟกที่แสดงรายละเอียด ในชวงเดือนกรกฎาคม-สิงหาคม เน่ืองจากไดรับอิทธิพลจากพายุหมุนเขตรอน เกี่ยวกับภัยแผนดินถลมในดานปจจัย สาเหตุ สถานการณ ทําใหเกดิ ฝนตกหนกั การเกิด ผลกระทบของภัย รวมถึงการระวังภัย แลวตกแตงให 2 ภาคใต มีโอกาสเกิดดินถลมในชวงเดือนพฤศจิกายน-ธันวาคม เน่ืองจาก สวยงาม สง ครผู สู อน เปนชวงฤดูมรสมุ ตะวนั ออกเฉียงเหนือ กจิ กรรม ทาทาย T186 นักเรียนจัดทําตารางหรือผังกราฟกท่ีแสดงรายละเอียด เกี่ยวกับภัยแผนดินถลมและตัวอยางสถานการณการเกิดภัยแผน ดินถลมในประเทศไทยหรือในภูมิภาคอื่นของโลก โดยศึกษา คนควาขอมูลเพิ่มเติมจากแหลงการเรียนรูท่ีครูเสนอแนะ แลว ตกแตงใหส วยงาม สง ครผู สู อน นาํ สอน สรปุ ประเมนิ 7) เหตกุ ารณแ์ ผ่นดนิ ถล่มท่รี นุ แรง ครั้งส�าคญั เช่น ขนั้ สอน เหตุการณ์ แผ่นดินถลม่ ในพนื้ ท่ภี าคใตข้ องปรสะาเทเหศตไทุ :ยบรพเิ ว.ศณ.ค2ว5าม5ก4ดอากาศสงู1กา� ลงั คอ่ นขา้ ง ขนั้ ท่ี 4 การวเิ คราะหและแปลผลขอ มลู แรงจากประเทศจนี แผป่ กคลมุ ประเทศไทยตอนบน ส่งผลให้ลมตะวันออกที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและ 19. ครูใหนักเรียนแตละกลุมนําขอมูลการสืบคน ภาคใต้มีก�าลังแรง ท�าให้เกิดฝนตกหนักในหลาย ของตนเองมาเชื่อมโยงกับประเด็นวิเคราะห พ้ืนท่ีต่อเน่ืองกันตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีจนถึง ในใบงานท่ี 5.1 เรื่อง ธรณีพิบัติภัย ตาม จงั หวัดพทั ลงุ ระหว่างวันท่ ี 23 - 31 มนี าคม พ.ศ. ประเด็น ดังน้ี 2554 • ชื่อธรณพี ิบัติภัยทเี่ ลอื กศึกษา • ลักษณะทางกายภาพท่ีสงผลใหเกิดธรณี ผลกระทบ : ทา� ใหเ้ กดิ นา้� ปา่ ไหลหลากและดนิ โคลน พิบัติภยั ถล่มทบั บ้านเรือนของประชาชน ในบรเิ วณภาคใต้ • ผลกระทบสาํ คญั จากธรณีพบิ ตั ภิ ยั เหตกุ ารณแ์ ผน่ ดนิ ถลม่ ในพนื้ ทภี่ าคใตข้ องประเทศไทย ของประเทศไทย มีผู้เสียชีวิต 64 คน ประชาชน • แนวทางการระวงั ภัยจากธรณพี บิ ตั ิภัย เมอื่ เดอื นมนี าคม พ.ศ. 2554 เดือดร้อนกว่า 6 แสนครัวเรือน จ�านวน 2 ล้าน 20. ครูนําแผนที่โลกในรูปแบบโปสเตอรมาให กว่าคน ภาคเศรษฐกิจได้รับความเสียหายอย่างหนัก คิดเป็นมูลค่าประมาณ 2.1 - 2.6 หมื่นล้านบาท นกั เรยี นแตล ะกลมุ รว มกนั อภปิ รายและแสดง โดยภาคการคา้ การขนสง่ และบรกิ ารไดร้ บั ผลกระทบมากทส่ี ดุ คดิ เปน็ มลู คา่ กวา่ 4,000 - 5,000 ลา้ นบาท ความคิดเห็นเช่ือมโยงภัยพิบัติธรรมชาติทาง ธรณภี าคทไี่ ดท าํ การศกึ ษา และใหแ ตล ะกลมุ เหตกุ ารณ์ แผน่ ดนิ ถล่มในประเทศจีน พ.ศ. 2560 ระบุตําแหนงพื้นท่ีเกิดภัยพิบัติ รวมถึงพื้นท่ี ทม่ี คี วามเส่ียงที่จะเกดิ ภยั พบิ ัติ แลว เชื่อมโยง สาเหตุ : เกดิ จากฝนตกหนกั ตดิ ตอ่ กนั หลายวนั จงึ พื้นที่ตางๆ ตามลักษณะทางกายภาพของ ทา� ใหเ้ กดิ เหตแุ ผน่ ดนิ ถลม่ ครง้ั ใหญท่ หี่ มบู่ า้ นซนิ โม พ้นื ที่ โดยครแู นะนาํ เพมิ่ เติม (Xinmo) ในเขตเหมาเซยี น (Maoxian) ซง่ึ ตงั้ อยู่ใน เขตเทือกเขาสูงทางตอนเหนือของมณฑลซ่ือชวน เมื่อวันที่ 24 มถิ ุนายน พ.ศ. 2560 เหตกุ ารณแ์ ผน่ ดนิ ถลม่ ทหี่ มบู่ า้ นซนิ โม มณฑลซอื่ ชวน ผลกระทบ : ท�าให้ดินและหินถล่มลงมาทับบ้าน ประเทศจนี เม่ือ พ.ศ. 2560 เรือนประชาชนอย่างน้อย 46 หลังคาเรือน มี ผเู้ สยี ชีวิต 15 คน และสญู หายประมาณ 120 คน นอกจากนี้ ดินถล่มยังได้กีดขวางเส้นทางน�้าของ แม่น้�าในพื้นที่เป็นระยะทางราว 2 กิโลเมตร และ ตดั ขาดถนนสายหลกั เขา้ สตู่ วั หมบู่ า้ นทมี่ คี วามยาว ประมาณ 1.6 กิโลเมตร 179 กิจกรรม Geo-Literacy นักเรียนควรรู นักเรียนจับคูกันสํารวจและรวบรวมขอมูลเกี่ยวกับภัยพิบัติ 1 ความกดอากาศสูง หมายถึง บริเวณที่มีคาความกดอากาศสูงกวาบริเวณ ทางธรรมชาติที่สําคัญในทองถ่ินของตน โดยใชกระบวนการทาง โดยรอบ ในแผนท่ีอุตุนิยมจะใชอักษร “H” สีน้ําเงินเปนสัญลักษณ ในทาง ภมู ศิ าสตร ดังนี้ ตรงกันขาม ความกดอากาศต่ํา หมายถึง บริเวณซึ่งมีปริมาณอากาศอยูนอย 1. การตงั้ คาํ ถามเชิงภูมศิ าสตร ซึ่งจะทําใหน้ําหนักของอากาศนอยลงตามไปดวยเชนกัน ทําใหอากาศเบาและ 2. การรวบรวมขอมลู ลอยตวั สงู ขน้ึ ในแผนที่อตุ ุนิยมจะใชอักษร “L” สแี ดงเปน สญั ลกั ษณ 3. การจัดการขอมลู 4. การวิเคราะหขอ มูล 5. การสรุปเพื่อตอบคําถาม จากนั้นสรุปความรูเพื่อรวมกันวางแผนเพ่ือจัดการภัยพิบัติ ดงั กลาว แลว จัดทาํ เปนแผน พบั เพื่อเผยแพรในชุมชน T187 นาํ สอน สรปุ ประเมนิ ขนั้ สอน 8) การจัดการภยั พบิ ัตแิ ผ่นดินถล่ม มีดังน้ี ขั้นที่ 5 การสรุปเพือ่ ตอบคาํ ถาม 8.1) มาตรการ ท่สี �าคญั มีดงั นี้ 1. จัดท�าระบบเตือนภัยแผ่นดินถล่ม ซึ่งหน่วยงานที่เก่ียวข้องได้ติดต้ังไว้ 1. ครูใหนักเรียนแตละกลุมสรุปขอมูลท่ีไดจาก ในพน้ื ท่เี ส่ยี งภัย และออกประกาศเตอื นทางสื่อต่าง ๆ เพ่อื ให้ประชาชนในพืน้ ที่เฝ้าระวังและเตรยี ม การศึกษา จากนั้นสงตัวแทนนําเสนอขอมูล ตวั อพยพ ประกอบแผนที่ท่ีไดจัดทํา พรอมทั้งอภิปราย 2. มอี าสาสมคั รหมบู่ า้ น หากในพนื้ ทเ่ี สยี่ งภยั เกดิ ภยั พบิ ตั ขิ น้ึ ใหส้ ง่ สญั ญาณ แสดงความคดิ เหน็ รวมกนั เตอื นสง่ ตอ่ เป็นระยะ พร้อมทั้งจัดเวรยามเฝา้ ระวังภัย 3. ดูแลไม่ให้มีการถางป่าในบริเวณต้นน�้า เสริมสร้างความแข็งแรงบริเวณ 2. ครูใหสมาชิกในแตละกลุมชวยกันสรุปสาระ ไหลเ่ ขาและลาดเขาท่อี าจเกดิ แผน่ ดนิ ถล่มหรือโคลนไหลได้ สําคัญเพื่อตอบคาํ ถามเชิงภมู ิศาสตร 8.2) วธิ ปี ้องกัน ทา� ได้ ดงั น้ี 1. ปลูกพืชคลุมดินหรือหญ้าแฝกบริเวณที่ลาดเชิงเขา เพื่อให้ช่วยยึดเกาะ 3. ครใู หน กั เรยี นทาํ แบบฝก สมรรถนะฯ ภมู ศิ าสตร หน้าดนิ ไม่ให้เล่ือนหรือไหลลงมา ม.4-6 เก่ียวกับเรื่อง ภัยพิบัติธรรมชาติทาง 2. ไม่ตัดไม้ท�าลายป่า และปลูกต้นไม้บริเวณป่าต้นน้�าเพ่ือชะลอความแรง ธรณภี าค ของน�า้ 3. ซกั ซอ้ มอพยพหนีภยั ในพน้ื ทเ่ี ส่ียง ขนั้ สรปุ 8.3) การปฏบิ ตั ติ น ท�าได้ ดงั น้ี ครูและนักเรียนรวมกันสรุปความรู ตลอดจน 1. สา� รวจพน้ื ทท่ี อี่ ยอู่ าศยั และหมน่ั สงั เกตสญั ญาณ 1. อพยพไปตามเส้นทางที่ปลอดภัย โดยข้ึน การใชเ ครอื่ งมอื ทางภมู ศิ าสตร และเครอื่ งมอื ดา น เตอื นภยั ทางธรรมชาต ิ เชน่ ระดบั นา�้ ในแมน่ า้� ทสี่ งู หรอื ไปยงั สถานทป่ี ลอดภยั ทอี่ ยหู่ า่ งไกล เทคโนโลยใี นการสบื คน เกยี่ วกบั ภยั พบิ ตั ธิ รรมชาติ ลา� หว้ ยเพมิ่ ขน้ึ รวดเรว็ ผดิ ปกต ิ หรอื สขี องนา�้ จากพน้ื ทปี่ ระสบภยั อยา่ งนอ้ ย 2 - 5 กโิ ลเมตร ทางธรณีภาค หรือใช PPT สรุปสาระสําคัญของ ขนุ่ มากกว่าปกติ เปล่ยี นเป็นสดี นิ ภเู ขา เนื้อหา 2. อ ยู่ให้หา่ งจากลา� น�า้ ใหม้ ากทส่ี ดุ 2. จ ัดเวรยามเฝ้าระวังภัย และติดตามข่าว 3. กรณพี ลดั ตกนา�้ ใหห้ าตน้ ไม ้ใหญย่ ดึ เกาะและ ขน้ั ประเมนิ พยากรณอ์ ากาศอย่างใกล้ชดิ ปนี หนีนา�้ 1. ครูประเมินผลโดยสังเกตจากการตอบคําถาม การรวมกันทํางาน และการนําเสนอผลงาน หนา ชัน้ เรยี น 2. ครตู รวจสอบผลจากการทาํ ใบงาน และแบบฝก สมรรถนะฯ ภูมิศาสตร ม.4-6 กอ่ นเกดิ ภยั ขณะเกิดภัย หลังเกิดภัย 1. หา้ มเข้าใกล้และกลับเข้าไปในบา้ นเรือนที่ได้รบั ความเสียหายจากดนิ ถลม่ 2. จดั ทา� ทางเบย่ี งของดนิ และนา้� เพอ่ื ไม่ใหไ้ หลลงมาสมทบกบั มวลดนิ ซง่ึ จะเสยี่ งตอ่ การเกดิ ดินถลม่ ลงมาซา้� ได้ 180 แนวทางการวัดและประเมินผล กิจกรรม เสริมสรางคณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค ครูสามารถวดั และประเมินความเขา ใจเนอื้ หา เร่อื ง ภยั พิบัตธิ รรมชาตทิ าง นกั เรยี นรว มมอื กนั สาํ รวจธรณพี บิ ตั ภิ ยั ทเ่ี กดิ ขน้ึ ในประเทศไทย ธรณภี าค ไดจ ากการใชเ ครอ่ื งมอื ทางภมู ศิ าสตรใ นการสบื คน และนาํ เสนอผลงาน เชน แผน ดนิ ไหว สนึ ามิ แผน ดนิ ถลม แลว นาํ มาวเิ คราะหผ ลกระทบ หนาชัน้ เรียน โดยศกึ ษาเกณฑก ารวัดและประเมินผลจากแบบประเมนิ การนํา หรือความเสียหายที่เกิดขึ้น จากนั้นรวมกันเสนอแนวทางการ เสนอผลงานทแ่ี นบมาทา ยแผนการจดั การเรยี นรทู ่ี 5 เรอ่ื ง ภยั พบิ ตั ทิ างธรรมชาติ ปฏบิ ตั ติ น การปอ งกนั และระวงั ภยั แลว รว มมอื กนั เขยี นเปน โปสเตอร เผยแพรในบริเวณตางๆ ตามความเหมาะสม พรอมเชิญชวน แบบประเมนิ การนาเสนอผลงาน ใหท ุกคนมีสวนรวมในการปอ งกนั และระวังภยั คาชแี้ จง : ให้ผู้สอนประเมนิ ผลการนาเสนอผลงานของนักเรยี นตามรายการ แลว้ ขดี ลงในช่องที่ ตรงกบั ระดบั คะแนน ลาดบั ที่ รายการประเมิน ระดบั คะแนน 1 32 1 ความถกู ตอ้ งของเนอ้ื หา 2 การลาดบั ขั้นตอนของเร่ือง 3 วธิ ีการนาเสนอผลงานอย่างสรา้ งสรรค์ 4 การใช้เทคโนโลยใี นการนาเสนอ 5 การมีสว่ นร่วมของสมาชิกในกลุ่ม รวม ลงช่อื ...................................................ผปู้ ระเมิน ............/................./................ เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ให้ 3 คะแนน ผลงานหรอื พฤตกิ รรมสอดคล้องกับรายการประเมนิ สมบูรณช์ ดั เจน ให้ 2 คะแนน ให้ 1 คะแนน ผลงานหรือพฤติกรรมสอดคล้องกับรายการประเมินเปน็ ส่วนใหญ่ ผลงานหรอื พฤติกรรมสอดคล้องกบั รายการประเมนิ บางส่วน เกณฑก์ ารตัดสินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ 12 - 15 ดี 8 - 11 พอใช้ T188 ตา่ กว่า 8 ปรบั ปรงุ นาํ นํา สอน สรปุ ประเมนิ 2 ภ2.ยั1 พพิบายตั ุฝธิ นรฟรา มคชะานตองทิ 1า(tงhuบnรdรeยrsาtoกrาmศ) ภาค ขนั้ นาํ (Geographic Inquiry Process) พายุฝนฟาคะนองเปนปรากฏการณท่ีเกิดจากการกอตัวของเมฆขนาดใหญในแนวดิ่ง 1. ครแู จง ใหน กั เรยี นทราบถงึ ชอื่ เรอ่ื ง จดุ ประสงค เน่ืองจากการยกตัวของอากาศที่มีความรอนมากใหสูงขึ้นจนเขาสูช้ันอากาศท่ีมีความเย็น จนมี และผลการเรยี นรู การกลน่ั ตัวเปน หยดนํา้ และน้ําแข็ง เกดิ สภาพอากาศทแ่ี ปรปรวน เชน ลมกระโชก ฟาแลบ ฟาผา ฝนตกหนัก อาจมีลูกเห็บตก 2. ครูใหนักเรียนฟงคลิปเสียงที่เกี่ยวของกับพายุ ฝนฟาคะนอง เชน เสียงลมกระโชก เสียง 1) สาเหตุและกระบวนการเกดิ พายฝุ นฟา คะนอง มีดังนี้ ฟารอง เสียงฟาผา เสียงฝนตกหนัก แลวให นกั เรยี นรว มกนั แสดงความคดิ เหน็ วา เปน เสยี ง • อากาศรอ นชื้นปกคลมุ พ้นื ผวิ ชนิดใด • เกิดกระแสอากาศรอนช้ืนใกลพ้ืนผิวพัดขึ้นสูหยอมความแปรปรวนภายใน เมฆกอ นที่กอตัวอยูดานบน 3. ครูสุมนักเรียนใหอธิบายในประเด็น “การเกิด • เกดิ กระบวนการลดอณุ หภมู ติ ามความสงู อยา งรวดเรว็ และเกดิ การกลนั่ ตวั เปน พายุฝน” ตามความรคู วามเขา ใจเบื้องตน ของ หยดน้ํา พรอมทั้งปลดปลอยความรอนแฝงออกมา พัฒนาเปนเมฆกอนท่ีใหญข้ึน และเกิดเปน นกั เรียน เมฆพายฝุ นฟาคะนอง 4. ครูใหนักเรียนดูภาพกระบวนการเกิดพายุ กระบวนการเกดิ พายุฝนฟาคะนองแบงออกเปน 3 ขน้ั ตอน ดังน้ี ฝนฟาคะนอง จากหนังสือเรียน ภูมิศาสตร ม.4-6 แลว รว มกนั อภิปรายแสดงความคิดเห็น เพ่ิมเติมถึงสาเหตุและผลกระทบท่ีเกิดข้ึนจาก ภาพดังกลา ว การเกิดพายุฝนฟา คะนอง กกรระะแแสสออาากกาาศศรเยอ็นน ความสงู (กม.) 12 ระดบั สมดุล 9 6 อณุ หภมู ิ 0 Cํ 3 1.5 0 5-10 นาที 5-7 นาที ขัน้ เติบโตเต็มท่ี ข้นั สลายตวั 3-5 นาที ขั้นกอตัว 181 ขอสอบเนน การคิด นักเรียนควรรู เพราะเหตใุ ดเม่ือเกิดพายฝุ นฟาคะนอง เราจึงเห็นฟา แลบกอ น 1 พายุฝนฟาคะนอง เปนพายุท่ีเกิดข้ึนเฉพาะถิ่น การเกิดพายุน้ีมีความ ไดยนิ เสยี งฟารองเสมอ เกีย่ วขอ งกับการเกิดเมฆคิวมโู ลนมิ บสั อยูมาก เพราะเวลาเกิดเมฆควิ มูโลนมิ บัส อากาศจะลอยตัวข้ึนขางบนอยางเร็วและแรง พายุฝนฟาคะนองไมใชพายุหมุน (แนวตอบ เพราะแสงมีความเร็วมากกวาเสียง แสงมีอัตราเร็ว เพราะการพัดของลมเวลาเกดิ พายฝุ นฟา คะนองไมม ีการหมนุ ตัวของอากาศ ก30ิโล0,เ0ม0ต0รตกอิโลวินเมาตทรี ตเรอาวจินึงาเทหี็นสฟวานแเลสบียหงรมือีอปัตรระากเรา็วยปไรฟะไมดาทณันท13ี และไดยินเสยี งฟา รอ งทหี ลัง) T189 นาํ นํา สอน สรปุ ประเมนิ ขน้ั นาํ เมื่ออากาศร้อนช1้ื.น1ล) อขย้ันตกัวอ่ แตลวั ะ ล(cดuอmุณuหluภs ูมstิลaงgกe่)อ ตเปัว็นเปข็น้นั ตเมอฆนขคอิวงมกูลรัสะ1แ คสวอาามการศ้อไนหแลฝขง้ึนจ าเกกดิ กขาึน้ร กลั่นตัวของไอน�้าท�าให้การลอยตัวของกระแสอากาศภายในก้อนเมฆเร็วมากข้ึน จนเมฆคิวมูลัส 5. ครูใหนักเรียนดูภาพหรือคลิปวิดีโอที่เกี่ยวของ มีขนาดใหญข่ ึน้ 1.2) ขน้ั เตบิ โตเตม็ ท ่ี(mature stage) ภายในเมฆพายหุ รอื เมฆควิ มูโลนมิ บสั 2จะเกดิ กับภัยพิบัติธรรมชาติทางบรรยากาศภาคใน ความแปรปรวนจากกระแสอากาศพดั ขนึ้ ลงอยา่ งรวดเรว็ และรนุ แรง ทา� ใหเ้ กดิ การกลน่ั ตวั การคาย ประเทศไทยและประเทศตางๆ เชน ความรอ้ นแฝงและเกดิ การชนปะทะรวมตวั กนั ของหยดนา�้ หยดนา้� แขง็ และเสยี ดสกี นั เกดิ เปน็ เมด็ ฝน • พายฝุ นฟา คะนองในประเทศญ่ปี นุ ลกู เหบ็ พาย ุ ลม และประจไุ ฟฟา้ เกดิ กระแสลมเยน็ พดั ลงจากฐานเมฆ ทา� ใหเ้ กดิ ลมกระโชกแรง • พายุโซนรอนฟงวองพัดเขาถลมเกาะลูซอน ฝนตกหนกั หรอื ลกู เหบ็ ตก ใชเ้ วลา 15 - 30 นาที ทางตอนเหนอื ของประเทศฟลิปปนส • พายเุ ฮอรร เิ คนแคทรนี าพดั ถลม สหรฐั อเมรกิ า 1.3) ขั้นสลายตัว (dissipating stage) เป็นระยะท่ีไม่มีกระแสอากาศเคล่ือนที่ ข้ึนลง ปรมิ าณฝนตกลดลงและสลายตวั 6. ครูตั้งคําถามกระตุนความคิดโดยใช Geo Question จากหนังสอื เรียน ภูมศิ าสตร ม.4-6 2) การกระจายการเกดิ พายุฝนฟ้าคะนองของโลก แลวใหนักเรียนรวมกันตอบคําถาม โดยครู แนะนาํ เพ่ิมเติม แผนท่ีแสดงการกระจายของพายฝุ นฟ้าคะนองในโลก (แนวตอบ พายุฝนฟา คะนองเกิดขึน้ จากสาเหตุ หลายปจ จยั สว นมากประกอบดว ยมวลอากาศ 80 Nํ 160 Wํ 120 Wํ 80 Wํ 40 Wํ 0 ํ 40 Eํ 80 Eํ 120 Eํ 160 Eํ 80 Nํ (cells) หลายมวล คือ มีทั้งมวลอากาศท่ี ลอยตัวข้ึน (updraft) และมวลอากาศที่จม 60 Nํ 60 Nํ ตัวลง (downdraft) มวลอากาศแตละมวลมี ลกั ษณะการเกดิ แตล ะขนั้ แตกตา งกนั ดว ย การ 40 Nํ 40 Nํ เกิดพายุฝนฟาคะนองปกติจะพบในเขตรอน สาํ หรบั ประเทศไทยมกั จะเกดิ ขน้ึ ระหวา งเดอื น 20 Nํ 20 Nํ เมษายน-พฤษภาคม) 0ํ 0ํ 20 Sํ 20 Sํ 40 Sํ 40 Sํ N 60 Sํ จำนวนวนั ทป่ี ระสบพายฝุ นฟา คะนองตอ ป 60 Sํ 1 : 250,000,000 80 Sํ 0 2 4 10 25 40 60 80 100 140 200 80 Sํ 0 2,000 4,000 กม. 160 Wํ 120 Wํ 80 Wํ 40 Wํ 0 ํ 40 Eํ 80 Eํ 120 Eํ 160 Eํ GQeuoestion ทมี่ า : www.mapsontheweb.zoom-maps.com พายฝุ นฟา้ คะนองเกิดข้นึ ไดอ้ ย่างไร และพายทุ ่ีรุนแรงมกั เกดิ ในชว่ งฤดูใดของประเทศไทย 182 นักเรียนควรรู กจิ กรรม สรา งเสริม 1 เมฆควิ มลู สั มลี กั ษณะเปน กอ นหนา สขี าวคลา ยปยุ ฝา ยหรอื สาํ ลี ซง่ึ ลกั ษณะ นักเรียนสืบคนขอมูลและศึกษาเกี่ยวกับปจจัยท่ีทําใหเกิด เมฆน้ีบอกถงึ สภาวะอากาศแจม ใส อากาศแหง และมีแดดจัด กอ ตัวในแนวต้งั พายุฝนฟาคะนอง และการเกิดพายุฝนฟาคะนองในแตละข้ัน เกิดจากอากาศไมมเี สถยี รภาพ ฐานเมฆเปนสีเทาเน่อื งจากมีความหนามาก จากนน้ั สรุปองคความรแู ละนําเสนอหนา ช้ันเรียน 2 เมฆคิวมูโลนิมบัส เมฆกอตัวในแนวตั้งพัฒนามาจากเมฆคิวมูลัส มีขนาด ใหญมาก ทําใหเกิดพายุฝนฟาคะนอง หากกระแสลมช้ันบนพัดแรงจะทําให ยอดเมฆรปู กะหล่ํากลายเปนเมฆรปู ทง่ั ตเี หลก็ T190 นาํ สอน สรปุ ประเมนิ โดยปกติทั่วโลกมีการเกิดพายุฝนฟ้าคะนองทุกวัน แต่ค่าเฉลี่ยจ�านวนวันท่ีเกิดจะ ขน้ั สอน แตกต่างกันไปในแตป่ ี โดยจะเกิดขึน้ เกือบทกุ วนั ในบริเวณใกล้เสน้ ศูนยส์ ตู ร ที่มีพายุฝนฟา้ คะนอง ประมาณปลี ะ 140 - 200 วนั ซึ่งเป็นพื้นท่ีมีอากาศร้อนมากในช่วงเวลาบ่ายของฤดรู ้อน ส่วนเขต ขัน้ ท่ี 1 การต้งั คําถามเชงิ ภมู ิศาสตร ท่ีมีอากาศหนาวเย็น หรือไม่มีความแตกต่างระหว่างอุณหภูมิอากาศ จะเกิดพายุฝนฟ้าคะนอง นอ้ ยมาก 1. ครใู หน กั เรยี นดภู าพ หรอื คลปิ วดิ โี อทเี่ กย่ี วขอ ง ส�าหรับประเทศไทย ในช่วงฤดูร้อนนับจากกลางเดือนกุมภาพันธ์ไปจนถึงช่วงต้น กับพายุฝนฟาคะนองท่ีทําใหเกิดลมกระโชก ฤดูฝน มักมีพายุฤดูร้อนเกิดข้ึนอันเน่ืองมาจากลมตะวันออกเฉียงใต้พัดพาความช้ืนจากทะเล รนุ แรง ฟา แลบ ฟา รอ ง ฟา ผา หรอื มลี กู เหบ็ ตก ในขณะท่ีภาคกลาง ภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือปกคลุมด้วยอากาศร้อน ความกด ประกอบการศกึ ษา Geo Tip เก่ียวกบั พายุฝน อากาศต�่า เกิดเป็นเมฆคิวมูลัสและคิวมูโลนิมบัส และเกิดพายุฝนฟ้าคะนอง มีลมกระโชกแรง ฟา คะนองและการระวังฟา ผา จากการคํานวณ เกดิ ฝนตกหนกั บางพน้ื ท ่ี และอาจมีลกู เห็บตก ระยะหา ง จากหนังสอื เรียน ภมู ิศาสตร ม.4-6 เพิม่ เติม GTeipo 2. ครตู ้งั คาํ ถามถามนักเรยี น เชน ในรอบหนงึ่ ปที วั่ โลกจะมพี ายฝุ นฟา้ คะนองประมาณ 16 ลา้ นครงั้ โดยเฉพาะในเขตรอ้ นพบไดม้ ากกวา่ • หากเกดิ พายฝุ นฟา คะนองเราควรมแี นวทาง ในเขตละติจูดสูง ในเมืองร้อนที่มีอากาศชื้นจะมีจ�านวนวันท่ีมีพายุฝนฟ้าคะนองแบบอากาศร้อนเกิดขึ้น ในการปอ งกนั ผลกระทบตอ อาคารบา นเรอื น ไดม้ ากถงึ 80 - 160 วนั ตอ่ ป ี เมอื งทป่ี ระสบกบั พายฝุ นฟา้ คะนองมากทสี่ ดุ คอื เมอื งบยุ เตน็ ซอรค์ (Buitenzorg) อยางไร ในจงั หวัดชวาตะวนั ตก ประเทศอินโดนเี ซีย (แนวตอบ เชน ตรวจตราและซอมแซม บานประตู หนาตางที่ชํารุด ใหอ ยใู นสภาพ สภาพอากาศจากพายุฝนฟ้าคะนอง หากมีความรุนแรงมากสามารถ ที่ม่ันคงแข็งแรง ซึ่งถือเปนแนวทางในการ สร้างความเสยี หายท้งั ตอ่ ชวี ิตและทรัพย์สนิ ไดเ้ ป็นจา� นวนมาก ปองกันผลกระทบจากวาตภัยท่ีเหมาะสม เพราะในขณะประสบภัยเราอาจไมสามารถ เตรียมการปองกันบานเรือนใหมั่นคง แข็งแรงไดท นั เวลา) 183 ขอ สอบเนน การคดิ เกร็ดแนะครู พายุฤดูรอนในประเทศไทยมีลักษณะการเกิดอยางไร ครูอธิบายเพ่ิมเติมเก่ียวกับชนิดของพายุฝนฟาคะนองวาสามารถแบงตาม ภาวะการเกิดไดห ลายชนิด เชน พายฝุ นฟา คะนองทเี่ กดิ จากอากาศเปน ตัวการ (แนวตอบ พายุฤดูรอนในประเทศไทยมักเกิดในเดือนมีนาคม- มักจะเกิดขึ้นตอนบาย เพราะเปนชวงที่อุณหภูมิใกลผิวดินรอนข้ึนสูงสุด พายุ เมษายน ในชวงเวลาท่ีมีอากาศรอนอบอาวติดตอกันเปนเวลา ฝนฟาคะนองภูเขา เปนพายุที่ถูกอากาศพัดไปปะทะภูเขาที่ขวางกั้นทิศทางลม นาน แลวมีกระแสอากาศเย็นจากประเทศจีนพัดลงมาปะทะ และพายุฝนฟาคะนองจากแนวปะทะ เกิดจากกลุมอากาศรอนถูกพัดพาไป ทําใหเกิดฝนฟาคะนอง และอาจมีลูกเห็บตกได พายุฤดูรอนมัก ปกคลมุ บริเวณอากาศเยน็ เกิดในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ สวนภาคกลาง และภาคตะวันออกมีการเกิดนอย ภาคใตอาจเกิดขึ้นไดเชนกัน แตไ มบอยครัง้ ) T191 |