โครงงานคณิตศาสตร์
โพสเมื่อ : 24 ก.พ. 2564,08:41 อ่าน 7123 ครั้ง โครงงานคณติ ศาสตร์ โครงงานคณิตฯ กับเศรษฐกจิ พอเพยี ง โดย ช้ันประถมศึกษาปที ่ี 6 ครทู ่ีปรกึ ษา 1. นายอนศุ กั ด์ิ วงศม์ สู า โรงเรยี นบ้านทา่ เรือ สานกั งานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศกึ ษาภเู ก็ต เนอื่ งในงานศิลปหัตถกรรมนักเรียน คร้งั ท่ี 68 ประจาปกี ารศึกษา 2561 กิตตกิ รรมประกาศ ผู้จัดทำขอขอบพระคุณผู้อำนวยกำรโรงเรยี น ท่ีสนับสนุนด้ำนงบประมำณและกำรประสำนงำน คณะผู้จดั ทำ บทคัดย่อ โครงงานคณิตศาสตร์ท่ีบูรณาการความรู้ในคณิตศาสตร์มาประยุกต์ใช้ และบูรณาการหลัก จากผลการประเมินคณุ ภาพของสื่อ โดยใช้แบบสอบถามความคิดเห็นของครพู บวา่ มีคณุ ภาพ จากผลการศึกษาความพึงพอใจในการนาสอ่ื การเรียนรไู้ ปใช้กบั นกั เรียน โดยการตอบแบบสอบ สารบัญ หนา้ สารบัญภาพ ภาพท่ี 1 ปฏทิ ินตั้งโตะ๊ หนา้ สารบัญตาราง หนา้ บทท่ี 1 1. ที่มาและความสาคญั ละมากมาย ขยะหลายชนิดยากต่อการกาจัดและทาลาย เม่ือนามาทาลายโดยการเผายังเป็นพิษต่อ ส่งเสริมนิสัยรักการอ่าน ณ ลานหน้าห้องสมุดให้กับน้องๆ ตอนพักกลางวัน ได้แก่ เกมการ 2. วัตถุประสงค์ 3. สมมุตฐิ าน ระดับมาก 4.1 ตัวแปรทีเ่ กี่ยวขอ้ ง นกั เรียน 5. งบประมาณและเหล่งท่มี าของปงบประมาณ การผลติ สื่อคณิตฯ คิดสนกุ การทาแผงโครงงานจากการบรจิ าคและสนับสนนุ ของผู้ปกครองและชมุ ชน โครงงาน จากงบประมาณของโรงเรียนประมาณ 300 บาท 6. ประโยชน์ท่คี าดว่าจะได้รบั จากการทาโครงงาน บทท่ี 2 โครงงานคณิตศาสตร์กบั เศรษฐกิจพอเพียง เรอ่ื ง “ เปลยี่ นขยะไรค้ ่า มาเป็นส่อื คณติ ฯคิดสนุก ” 1. หลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาขนั้ พื้นฐาน พุทธศักราช 2551 1. หลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพ้นื ฐาน
พุทธศักราช 2551 ศกั ยภาพในการศึกษาต่อและประกอบอาชีพจึงกาหนดเปน็ จุดหมายเพ่ือใหเ้ กดิ กบั ผ้เู รียน เม่อื จบการศึกษา 1มีคณุ ธรรม จรยิ ธรรม และค่านยิ มที่พงึ ประสงคเ์ หน็ คณุ คา่ ของตนเองมวี นิ ัยและปฏิบตั ิตนตาม . 2. มคี วามรู้ ความสามารถในการสื่อสาร การคดิ
การแกป้ ญั หา การใชเ้ ทคโนโลยี และมที ักษะ 3.มีสขุ ภาพกายและสขุ ภาพจิตที่ดี มีสุขนิสัย และรกั การออกกาลงั กาย 1. ความสามารถในการสือ่ สาร เป็นความสามารถในการรบั และสง่ สาร มีวฒั นธรรมใน ขจัดและลดปญั หาความขดั แยง้ ต่างๆการเลือกรบั หรือไม่รบั
ขอ้ มลู ขา่ วสารด้วยหลักเหตุผลและความ 2. ความสามารถในการคิด เป็นความสามารถในการคิดวเิ คราะห์ การคดิ สังเคราะห์ การ 3. ความสามารถในการแกป้ ญั หา เปน็ ความสามารถในการแกป้ ญั หาและอปุ สรรคต่าง 4. ความสามารถในการใชท้ ักษะชีวิต เปน็ ความสามารถในการนากระบวนการตา่ ง ๆ ไป 5. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี เป็นความสามารถในการเลือก และใชเ้ ทคโนโลยี 1.3 คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ สรุปได้ว่า หลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาขัน้
พืน้ ฐาน มีจุดหมายเพื่อพัฒนานักเรียนเรียนใหเ้ ป็นคน 2.1
ความสาคัญของคณิตศาสตร์ 2.2 สาระการเรียนรคู้ ณิตศาสตร์ จานวนและการดาเนินการ: ความคดิ รวบยอดและความรสู้ กึ เชิงจานวน ระบบจานวน การวดั : ความยาว
ระยะทาง น้าหนกั พ้ืนที่ ปรมิ าตรและความจุ เงินและเวลา หนว่ ยวัด เรขาคณติ : รูปเรขาคณิตและสมบตั ิของรปู เรขาคณติ หน่ึงมติ ิ สองมติ ิ และสามมิติ การนึก
พีชคณติ : แบบรูป (pattern) ความสัมพนั ธ์ ฟงั กช์ นั เซตและการดาเนินการของเซต การวิเคราะหข์ ้อมูลและความนา่ จะเปน็ : การกาหนดประเดน็ การเขยี นขอ้ คาถาม การ ทักษะและกระบวนการทางคณติ ศาสตร:์ การแก้ปัญหาด้วยวธิ กี ารทหี่ ลากหลายการให้ 2.3 คณุ ภาพผ้เู รยี น เทคโนโลยใี นการแกป้ ัญหาในสถานการณต์ ่างๆ ได้อย่างเหมาะสมให้เหตผุ ลประกอบการตดั สนิ ใจและสรปุ ผล 2.4 สาระและมาตรฐานการเรียนรู้ จานวนในชวี ิตจริง ความสมั พันธร์ ะหว่างการดาเนนิ การต่าง ๆ และสามารถใชก้ ารดาเนินการในการแก้ปญั หา สาระที่ 2 การวดั ที่ตอ้ งการวดั สาระท่ี 3 เรขาคณิต (spatial reasoning) และใชแ้ บบจาลองทางเรขาคณติ )geometric model) ในการแก้ปญั หา ฟงั กช์ ัน (mathematical model) อน่ื ๆ
แทนสถานการณ์ต่าง ๆ ตลอดจนแปลความหมาย และนาไปใช้แก้ปัญหา คาดการณไ์ ดอ้ ยา่ งสมเหตุสมผล ตดั สินใจและแกป้ ญั หา การส่ือความหมายทางคณิตศาสตรแ์ ละการนาเสนอ การเชอ่ื มโยงความรูต้ ่าง ๆ ทางคณิตศาสตร์และ สรุปไดว้ ่า กลมุ่ สาระการเรยี นร้คู ณติ ศาสตร์ มจี ุดมุ่งหมายใหน้ กั เรียนสามารถนาความรู้ 3. หลกั ปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพียง การดารงอยแู่ ละปฏิบตั ิตนของประชาชนในทุกระดับต้ังแตร่ ะดับครอบครวั ระดับชมุ ชน จนถึงระดับรฐั สานึกในคุณธรรม ความซือ่ สัตยส์ จุ ริตและให้ความรอบรู้ที่เหมาะสมดาเนนิ ชวี ิตด้วยความอดทน ความ 3.1 หลกั แนวคิดของเศรษฐกิจพอเพียง ความพอประมาณ หมายถงึ ความพอดีท่ไี ม่นอ้ ยเกนิ ไปและไมม่ ากเกนิ ไปโดยไมเ่ บยี ด ความมีเหตุผล หมายถงึ การตัดสนิ ใจเกย่ี วกบั ระดับของความพอเพยี งน้นั จะต้อง การมีภมู คิ ุ้มกนั ทีด่ ใี นตวั หมายถึง
การเตรยี มตัวใหพ้ รอ้ มรับผลกระทบและการ เง่อื นไข การตดั สนิ ใจและการดาเนนิ กจิ กรรมตา่ ง ๆ ให้อยู่ในระดบั พอเพยี งน้ันต้องอาศัยทัง้ เงอื่ นไขความรู้ ประกอบด้วย ความรอบรู้เก่ียวกบั วิชาการตา่ ง ๆ ที่เกีย่ วข้องอยา่ งรอบ เงอ่ื นไขคณุ ธรรม ท่จี ะต้องเสริมสร้างประกอบดว้ ย มีความตระหนกั ในคุณธรรม มีความ ซือ่ สัตยส์ ุจริตและมคี วามอดทน มคี วามเพยี ร ใช้สตปิ ญั ญาในการดาเนินชีวิต ใช้ คือการพัฒนาที่สมดุลและย่งั ยนื พรอ้ มรับตอ่ การเปลีย่ นแปลงในทกุ ด้านทัง้ ด้านเศรษฐกิจ สังคม 3.3 หลกั การพ่งึ ตนเองตามหลกั ปรชัญาเศรษฐกจิ
พอเพียง โดยรวมมีจิตใจเอื้ออาทร ประณปี ระนอมเห็นประโยชนส์ ว่ นรวมเป็นท่ตี ัง้ แข็งแรงเป็นอสิ ระ เพ่ิมมูลค่าโดยใหย้ ดึ อยบู่ นหลกั การความย่ังยืน และไม่ดจี ึงตอ้ งแยกแยะบนพน้ื ฐานของภูมปิ ญั ญาชาวบ้านและเลอื กใชเ้ ฉพาะที่สอดคลอ้ งกับความต้องการ 5. ดา้ นเศรษฐกิจ แต่เดิมนกั พฒั นามักมุ่งทีก่ ารเพมิ่ รายได้ และไม่มกี ารมงุ่ ทก่ี ารลด สรุปได้วา่ เศรษฐกิจพอเพียงในระดบั บคุ คล คือ ความสามารถในการดารงชวี ติ ได้อย่างไม่ 4. การวเิ คราะหห์ ลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาบูรณาการในการเรียนรู้ ดงั กล่าว รวมท้งั การศกึ ษาสภาพปญั หาในโรงเรยี นและชมุ ชน ทางคณะผู้จดั ทาได้นาแนวทางมาดาเนินงาน หลกั ความพอประมาณ หมายถงึ การดาเนินงานโครงงานคณิตศาสตร์กับเศรษฐกจิ พอเพียง โรงเรียนและเพ่อื นๆ
ในโรงเรียน มคี วามพอดีทีไ่ ม่น้อยเกดิ ไปและไมม่ ากเกินไป โดยไม่เบียดเบียนตนเอง 1. กิจกรรมการผลติ สอื่ คณิตฯคิดสนกุ มคี วามเหมาะสมกบั วยั และศักยภาพของตนเอง 2. รจู้ ักคดิ วางแผนการปฏบิ ตั ิงาน ได้อยา่ งเป็นระบบและถกู ต้องตามหลกั ปรชั ญา 3. รู้จักการทางานที่ประหยัดเวลาและค่าใชง้ านท่ีมคี วามปลอดภยั เปน็ ส่อื คณิคคิดสนุก ” ทาใหท้ างคณะผู้จดั ทาไดด้ าเนินชวี ติ
ตามหลกั เศรษฐกิจพอเพียง มีความเป็นอยู่ บทที่ 3 ขั้นตอนการดาเนนิ งาน คณติ ฯ คดิ สนกุ ” มีรายละเอียดข้ันตอนการดาเนินงาน ดงั นี้ ส้ินเปลืองพลังงานในการทาลาย
และก่อปัญหาภาวะโลกร้อน โดยการสารวจปัญหาท่ีเกิดข้ึนกับตัวเอง 2. ศกึ ษาความรู้ทางคณิตศาสตร์ และแนวพระราชดาริของพระบาทสมเด็จพระเจา้ อย่หู ัว ได้แก่ 3. วางแผนการนาขยะมาใชป้ ระโยชน์โดยทาเป็นสื่อการเรียนรู้สอื่ คณติ ฯ คดิ สนุก โดยทาเป็น 4. นาโครงร่างของโครงงานเสนอต่อครูที่ปรึกษาเพ่ือปรบั ปรงุ แกไ้ ข เครอื่ งมือการดาเนนิ งาน สนกุ ” มีเคร่อื งมอื ท่ใี ชใ้ นการดาเนนิ งาน
ไดแ้ ก่ ภาพท่ี 1 ปฏิทินตัง้ โตะ๊ 1.4.1
การทาลกู บาศกท์ ี่ใชแ้ ทนวนั ท่ี 9 และ 6 ด้วยตัวเลขเดยี วกัน โดยใชก้ ารกลบั หัวเพอื่ ใหเ้ หลือจานวนเลข 6 ตัว เทา่ กับจานวนหน้าของ ลกู บาศก์ลูกที่ 1 จะตอ้ งมีเลข 0 , 1 , 2 , 5 , 6 , 7 ตารางที่ 1 แสดงการใชล้ กู บาศกแ์ สดงวนั ที่ ตัง้ แต่วันท่ี 1 ถึงวันที่ 31 วนั ท่ี หลักสิบ หลักหน่วย หมายเหตุ 1.4.2 การทาแท่งทรงสีเ่ หล่ียมที่ใช้แทนเดอื น ใชแ้ ท่งสี่เหลีย่ ม 3 แทง่ สาหรบั แท่งทรงสี่เหล่ียมแท่งที่ 1 ใช้เขยี นแทนเดือน มกราคม
ถึง เมษายน 2. ลูกเตา๋ สองสหาย ภาพที่ 2 ลกู เต๋าสองสหาย 2.1 จดุ ประสงค์ เพอ่ื ฝกึ ทักษะการบวก การลบ การคูณ และการหาร 2.5 การนาไปใช้ โดยให้นกั เรยี นทอดลกู เต๋าทั้ง 2 ลกู ขน้ึ แต้มอะไรให้นาจานวนทั้งสอง ถ้าลกู เต๋าลกู ที่หน่ึงขนึ้ หน้า 2
ลูกเต๋าลกู ที่สองข้นึ หนา้ 3 อาจจะนาสองจานวน ถา้ ลูกเต๋าลกู ท่ีหนง่ึ ขึ้นหน้า 5 ลกู เตา๋ ลกู ทส่ี องขน้ึ หน้า 4 อาจจะนาสองจานวน ถ้าลูกเต๋าลูกที่หนึง่ ขึ้นหน้า 4 ลูกเตา๋ ลูกทสี่ องขึ้นหนา้ 2 อาจจะนาสองจานวน ถ้าลกู เต๋าลกู ท่ีหนง่ึ ขึ้นหน้า 6 ลูกเตา๋ ลกู ทส่ี องขึ้นหนา้ 3 อาจจะนาสองจานวน
2.6 ประโยชน์ในการใช้ ใชเ้ ปน็ แบบฝึกสาหรบั กการคิดเลขบวก ลบ คูณ หาร สาหรับ 3. เกมจก๊ิ ซอว์ ภาพท่ี 3 เกมจกิ๊ ซอว์ 3.1 จุดประสงค์ เพ่อื ฝึกการคิด ฝกึ ฝนทกั ษะดา้ นการสังเกต การฝกึ สมาธิ 3.4.1 วาดภาพหรอื หาภาพจากอนิ เตอรเ์ น็ตสาหรับทาเป็นจกิ ซอว์ 3.4.2 นาภาพที่ไดไ้ ปวางทับลงบนกระดาษแข็งตามขนาดทีต่ อ้ งการ แล้วใชด้ นิ 3.4.3 วัดจากขอบของกระดาษแข็งประมาณ 5 เซนติเมตร เพอื่ ทาเปน็ ขอบ 3.4.4
นารปู ภาพท่ไี ด้ไปทากาวและติดลงบนกระดาษแข็งหรือฟิวเจอรบ์ อรด์ อกี 3.4.5 ใช้มดี คตั เตอร์ตัดรปู ภาพให้เปน็ รูปเรขาสองมิติ เช่น รูปส่ีเหลีย่ ม รูป 3.4.6 นารูปท่ตี ัดไดม้ าเคลอื บดว้ ยพลาสติกใส เพอ่ื ความสวยงามและคงทน 4. ตารางหมากฮอส ภาพท่ี 4 ตารางหมากฮอส 4.1 จดุ ประสงค์ เพ่ือฝกึ ทกั ษะการคดิ แกป้ ัญหาและเพ่อื ความบันเทิง 4.3 สาระการเรยี นรู้คณิตศาสตรท์ ่นี ามาใช้ ได้แก่รูปสีเ่ หลี่ยมจตั ุรัส การวัด เส้นทะแยง 4.4 วธิ ีการทา โดยตัดกระดาษสาหรับวางพน้ื เปน้ รปู สเี่ หล่ียมจตั รุ สั และนากระดาษแขง็ 4.5 การนาไปใช้โดยให้นักเรยี นฝึกคิด เลน่ กัน 2 คนหรือเลน่ เปน็ กล่มุ เพอ่ื ช่วยคิด
โดย 4.6 ประโยชนใ์ ชเ้ ปน็ แบบฝกึ คิดแก้ปญั หา สาหรับนกั เรียนตง้ั แตช่ ั้นประถมศกึ ษาปที ี่ 1-6 5. เกมบันไดงู ภาพท่ี 5 เกมบนั ไดงู ทาบัตรโจทยสาหรบั คดิ คานวณ แทนการทอดลกู เตา๋ เช่น 2+5=? 6-4=? 9+3=? 8×1= ? ชว่ ยการคดิ อาจใช5้ล.ูก5เกตาา๋ รน2าลไปูกใชก้โด็ไดย้ใหแ้นลว้ักกเราียหนนฝดกึ ใหหดัห้ าผเลลน่ บควรกง้ั =ลผะ?ลล2บ
คผนลคหูณรือเหลร=่นอื ก?ผันลเหปาน็ รกขลอุ่มงเลพกู ื่อเต๋า ความบนั เทิง 2.1 รายการประเมิน คุณภาพของสอ่ื คณติ ฯ คิดสนกุ มรี ายการประเมนิ ไดแ้ ก่ 2.2 ระดบั ความคดิ เห็น ทาเครอื่ งหมาย ในช่องระดบั ความคิดเห็น 5 ระดบั ไดแ้ ก่ 2.3
ผู้ตอบแบบประเมิน 2.4 เมอ่ื รวบรวมแบบประเมินไดค้ รบ 10 ชุด แลว้ นาความคดิ เหน็ มาสรปุ ในแบบบนั ทกึ 3. แบบประเมินความพึงพอใจในการใชส้ อื่ คณิตฯ คดิ สนกุ ประเมนิ ความพงึ พอใจในการใช้สอื่ คณิตฯ คดิ สนกุ มีรายการประเมิน ได้แก่ 3.2 ระดบั ความคดิ เหน็ ทาเครือ่ งหมาย ในช่องระดับความคดิ เหน็ 5 ระดับ ได้แก่ 3.3 ผูต้ อบแบบประเมิน 3.4 เมอื่ รวบรวมแบบประเมินได้ครบ 30 ชุด แลว้ นาความคดิ เห็นมาสรุปในแบบบันทึกความ บทที่ 4 ผลการดาเนนิ งาน ตามวัตถปุ ระสงค์ ขอ้ ท่ี 1 วัตถปุ ระสงค์ข้อท่ี 1 ไดแ้ ก่ เพ่ือผลติ ส่อื การเรยี นรคู้ ณติ ศาสตร์ จากเศษวสั ดทุ ่ไี มใ่ ช้แลว้ ได้ผลงาน นักเรยี นสือ่ คณิตฯ คิดสนกุ เปน็ ไปตามวตั ถุประสงค์เปน็ สือ่ สาหรับเรียนรู้และบนั เทงิ 5 รายการ ดังน้ี 1. ปฏิทนิ ต้งั โต๊ะ 2. ลูกเต๋าสองสหาย 3. เกมจ๊ิกซอว์ 4. ตารางหมากฮอส 5. เกมบันไดงู ผลการพฒั นาสอ่ื คณิตฯ คดิ สนกุ สมมุติฐานข้อท่ี 1 สอื่ การเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ จากเศษวัสดุท่ไี มใ่ ช้แลว้ มคี ุณภาพในระดบั มาก การหาคณุ ภาพครง้ั ท่ี 1 เมื่อผู้จัดทาได้ทาสื่อคณิตฯ คิดสนุก แล้วนาไปหาคุณภาพ โดยนาไปใหค้ ุณครชู ว่ ยกนั ตรวจ ผลงานประเมนิ พบขอ้ บกพรอ่ ง ได้แก่ สีสันไมส่ วยงาม รูปทรงไม่แขง็ แรง จึงนามาปรับปรงุ การหาคุณภาพครั้งท่ี 2 นาไปใหค้ ุณครปู ระมนิ ผลงานเป็นครง้ั ท่ี 2 โดยใช้แบบสอบถาม สรปุ ผลการประเมินตามตาราง ไดด้ ังน้ี ตาราง 2 แสงผลการประเมนิ คุณภาพส่ือคณติ ฯ คิดสนุก ท่ี รายการ ระดับความคดิ เหน็ 1 สอดคลอ้ งกบั สาระการเรยี นรู้คณิตศาสตร์ 80 20 - - - 2 สอดคล้องกบั หลักเศรษฐกิจพอเพียง 60 40 - - - 3 สอดคล้องกบั วัตถุประสงคข์ องโครงงาน 70 30 - - - 4 ความแข็งแรงของส่อื คณติ ฯ คดิ สนุก 50 50 - - - 5 ความสวยงามของส่อื คณิตฯ คิดสนุก 70 30 - - - 6 ความนา่ สนใจของสือ่ คณิตฯ คดิ สนกุ 30 70 - - - 7 มปี ระโยชนใ์ นด้านการส่งเสริมการคดิ 80 20 - - - 8 ประโยชนใ์ นการนาไปใช้ในการเรียนรู้ 90 10 - - - รวม 530 270 - - - เฉลย่ี รอ้ ยละ 66.25 33.75 - - - เฉลย่ี รวม 100 - - - จากตารางท่ี 1 สรุปไดว้ ่า สื่อคณิตฯ คดิ สนกุ มีคุณภาพในระดบั มากถึงมากท่ีสุดทกุ รายการ
นับว่าสอดคลอ้ งกบั สมมุตฐิ านข้อที่ 1 ไดแ้ ก่ สอื่ การเรียนรคู้ ณติ ศาสตรจ์ ากเศษวสั ดุทีไ่ ม่ใช้แลว้ ผลการดาเนินงานตามวัตถปุ ระสงค์ข้อที่ 2 กราฟท่ึ 1 แสดงคา่ เฉลี่ยความพึงพอใจต่อการใช้ส่อื การเรียนรู้คณติ ฯ คดิ สนุก จานวนนักเรียน 30 คน กราฟแสดงคา่ เฉล่ียความพงึ พอใจต่อการใช้สื่อการเรยี นรคู้ ณติ ฯ คิดสนกุ ร้อยละ 120 0 ปฏทิ ินต้ังโตะ๊ ชุดข้อมลู 1 91.33 สือ่ การเรียนร้คู ณติ ฯ คดิ สนกุ จากกราฟที่ 1 สรปุ ไดว้ า่ สือ่ คณิตฯ คดิ สนุก มีคุณภาพในระดบั มากถงึ มากทีส่ ุดทกุ รายการ พบวา่ ส่ือการเรียนรูช้ ้ินที่ 1 ปฏิทินตงั้ โต๊ะ มีระดบั ความพงึ พอใจคดิ เป็นรอ้ ยละ 91.33 สือ่ การเรยี นรู้ ตารางท่ี 3 แสดงผลรวมต่อความพงึ พอใจต่อการใชส้ ือ่ การเรยี นรู้ คณิตฯ คดิ สนุกทงั้ 5 ชนิ้ ช้ินท่ี สอ่ื การเรยี นรู้ ค่าเฉลีย่ ความพงึ พอใจของ 1 ปฏิทนิ ตัง้ โต๊ะ 91.33 2 ลกู เต๋าสองสหาย 86 3 เกมจ๊ิกซอว์ 100 4 ตารางหมากฮอส 92.33 5 เกมบนั ไดงู 93.73 รวม 463.39 เฉล่ีย 92.68 จากตารางท่ี 3 ผลการประเมนิ ส่อื คณติ ฯ คิดสนกุ พบวา่ สอ่ื คณติ ฯ คิดสนกุ มรี ะดบั ความพึง พอใจอยู่ในระดับมากถงึ มากท่ีสุดทกุ รายการ โดยที่สือ่ การเรียนรูช้ น้ิ ท่ี 3 เกมจกิ๊ ซอว์ มีระดับความพงึ พอใจมากทสี่ ุด รองลงมาคอื สอื่ การเรยี นรู้ชิ้นที่ 5 เกมบนั ไดงู รองลงมาคือ ตารางหมากฮอส ปฏิทนิ ตงั้ โต๊ะและลกู เตา๋ สองสหาย ตามลาดับ นับวา่ สอดคล้องกับสมมุตฐิ านขอ้ ท่ี 2 คือ ความพึงพอใจในการนา สื่อการเรยี นร้คู ณติ ศาสตรไ์ ปใชก้ ับนกั เรียนในโรงเรียนมีคุณภาพในระดับมากคิดเปน็ ร้อยละ 92.68 บทท่ี 5 ขอ้ เสนอแนะ เพ่อื ฝึกการคดิ วทิ ยาศาสตร์ ภาษาไทย ให้นกั เรียนฝึกการคดิ การอ่าน และการเขียน เอกสารอ้างอิง กรมวิชาการ,กระทรวงศกึ ษาธกิ าร. แนวการจดั การเรยี นรเู้ กษตรแบบเศรษฐกิจพอเพียง.
กรงุ เทพฯ : กรงุ เทพฯ : ชมุ นมุ สหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย. (2553) |