Do you like a dog ต องเต ม a ไหม

จากการที่ได้เปิดสอนภาษาอังกฤษเด็กนักเรียนมาหลายๆชั้นเรียน ทำให้รู้ว่า ยังมีอีกหลายเรื่องที่เด็กๆเขาพยายามแล้วนะ แต่ก็จำสลับสับสนทุกที โดยเฉพาะเรื่องของไวยากรณ์หรือ แกรมม่า แต่ถ้าใครคลิกกับมันแล้วหล่ะก็ รับรองติดลมบนกันทุกคน ได้รางวัล top 10 กลับมาฝากครูดิวกันอย่างเพลิดเพลิน♥

วันนี้จึงอยากรวบรวมหัวข้อที่ต้องเรียนในระดับ ป.1-3 ที่มักใชักันผิดบ่อยๆมาให้ดูกันก่อนค่ะ แล้วเราลองมาแก้ปัญหาร่วมกันว่ามันต้องทำยังไง บางทีถ้าพ่อแม่ได้อ่านอยู่ก็สามารถนำไปสอนลูกเพิ่มเติมได้ ยิ่งช่วงนี้ใกล้สอบแล้วด้วย รับรองมีออกสอบไวยากรณ์จากข้อเหล่านี้แน่นอน 100 % ค่ะ ส่วนใครที่ต้องการปูพื้นฐานภาษาอังกฤษตั้งแต่ต้นใหม่แล้วหล่ะก็ นี่แหละค่ะ!!! คือโอกาสและจังหวะที่ดีที่สุดของคุณแล้ว เพราะหลังจากทำแบบทดสอบนี้แล้ว ครูดิวจะมาติวเข้มให้ฟรี ทีละหัวข้อกันไปเลย

แต่ก่อนอื่น อย่าว่าแต่ลูกเราเลยที่ไม่เข้าใจ ถ้าตัวเราผู้เป็นพ่อแม่ เป็นพี่ หรือโตกว่าระดับ ป.3 แล้ว แต่ก็ยังไม่เข้าใจไวยากรณ์เช่นกัน ก็คงต้องหันมาดู มาปรับปรุงตัวเองไปพร้อมๆกัน เพื่อลูก เพื่อตัวเอง เพื่องาน เพื่อตำแหน่งหน้าที่ที่ก้าวหน้าขึ้น เพราะภาษาอังกฤษใครว่าไม่สำคัญ ต่อให้คุณเก่งวิทย์ คณิต แต่เวลาเข้าทำงานจริง คุณพูดหรือสื่อสารอังกฤษ พิมพ์จดหมาย อีเมล์ผิดถูกไวยากรณ์งูๆปลาๆ คุณก็จะเงิบ เลื่อนขั้นหรือโดดเด่นเหมือนคนที่เก่งภาษาไม่ได้สักที

งั้นเราลองมาทดสอบตัวเองดูกันนะคะ ถ้าตอบได้เกินครึ่งก็ถือว่าพอไปไหว แต่ถ้าน้อยกว่าครึ่งก็ต้องพยายามกันต่อไป ห้ามท้อนะคะ

Pre-test: จงเลือกคำตอบในวงเล็บที่ถูก

  1. He (drink/ drinks) milk every day.
  2. I ate three (mango/ mangoes).
  3. They (don’t/ doesn’t) like those shoes.
  4. We (is/ are) playing on the playground.
  5. Can she (swims/ swim)?
  6. Does she (like/ likes) pizza?
  7. What (is/ are) it?
  8. (This is/ These are ) my pen.
  9. (That is/ Those are) blue shoes.
  10. (I, my) am watching TV.
  11. This is (her/ she) bag.
  12. He sits (between/ next to) Tom.
  13. We are (going/ go) to Japan next week.
  14. He (have/ has) ten fish.
  15. Is she your sister? —> (Yes, she is. / She’s my sister)
  16. Where (was/ were) you this morning?
  17. I (have/ had) a big piano when I was young.
  18. Are they (sleep/ sleeping)?
  19. A chair (was/ were) in the bedroom yesterday.
  20. She (is/ was) here now.

เป็นไงบ้างคะ คิดว่ามั่นใจกี่เปอร์เซนต์ นี่คือปัญหาของเด็กๆ ป.1-3 ที่มักจะตอบกันผิดเป็นประจำ ทำกันไม่ได้ แต่ไม่ต้องกังวล ทุกปัญหามีคำตอบ มีหลักการทางด้านภาษาของมันอยู่แล้ว งั้นเรามาดูเฉลยกันก่อนดีกว่าว่าเราทำไปได้กี่คะแนน

เฉลย:

1.He (drink/ drinks) milk every day. —> ถ้าประธานเป็น He, she, it คน 1 คน คำกริยาต้องเติม s, es ด้วย (กฏของPresent simple tense)

2.I ate three (mango/ mangoes). —> กินมะม่วงตั้ง 3 ลูก ก็ต้องทำให้เป็นพหูพจน์ด้วย การเติม s, es ที่คำนามที่มีมากกว่า 1 ส่วนคำนามตัวไหนที่ต้องเติม es หล่ะคะครูดิว ??? ก็ต้องเป็นคำที่ลงท้ายด้วย s, ss, sh, ch, x, o, z ถึงจะเติม es ได้นะคะนักเรียน

3.They (don’t/ doesn’t) like those shoes. —> ตระกูล I, you, we, they, 2up ใช้ don’t ส่วนตระกูล He, she, it, 1 คน/อย่าง ใช้ doesn’t

4.We (is/ are) playing on the playground. —> I + am / He, she, it, 1 + is / You, we, they, 2up + are

5.Can she (swims/ swim)? —> จำไว้นะคะ Can + V1 เท่านั้น คำกริยาช่อง 1 ไม่มีการเติม s, es เด็ดขาดไม่ว่าประธานจะเป็นใคร เพราะอะไรหรือคะ ก็เพราะ can เป็นกริยาช่วย ก็มาช่วยให้ไม่ต้องไปสนใจประธานว่าเป็นใครหน่ะสิคะ เพราะฉะนั้นกริยาคือกริยาช่อง 1 ล้วนๆ พอ

6.Does she (like/ likes) pizza? —> เหตุผลเช่นเดียวกับข้อ 5 เลยค่ะ Do, does ก็ถือว่าเป็นกริยาช่วย เพราะฉะนั้นกริยาจึงไม่เติม s เช่นกันไม่ว่าประธานจะเป็นใคร

7.What (is/ are) it? —> เหมือนข้อ 4 จ้า

8.(This is/ These are ) my pen. —> This is “นี่คือ” ของที่อยู่ใกล้ 1 อย่าง ส่วน These are .”พวกนี้คือ” ของที่อยู่ใกล้แต่มีมากกว่า 1 อย่าง แต่ที่เห็นๆ เขาบอกว่า pen ดังนั้นจึงพูดถึงปากกาแค่ด้ามเดียวนะคะ

9.(That is/ Those are) blue shoes. —> That is “นั่นคือ” ของที่อยู่ไกล 1 อย่าง ส่วน Those are .”พวกนั้นคือ” ของที่อยู่ไกลแต่มีมากกว่า 1 อย่าง ส่วนคำว่า shoes ถึงแม้จะหมายถึงรองเท้า 1 คู่ แต่ก็มี 2 ข้างถือว่าเป็นพหูพจน์จึงต้องใช้ Those are

10.(I, my) am watching TV. —> เหมือนข้อ 4 อีกแล้ว

เป็นไงคะ ผ่านมาครึ่งทางแล้ว ทำถูกหรือเข้าใจเหตุผลการใช้บ้างหรือเปล่า

11.This is (her/ she) bag. —> คำแสดงความเป็นเจ้าของ ก็ต้องอยู่หน้าสิ่งของสิคะ ซึ่งคำแสดงความเป็นเจ้าของในภาษาอังกฤษก็จะมี my, your, his, her, its, their, our

12.He sits (between/ next to) Tom. —> between แปลว่าอยู่ระหว่างแสดงว่าต้องมีคน 2 คนขึ้นไป เช่น I sit between Tom and Tim. ฉันนั่งระหว่างทอมและทิม ส่วน next to ก็คือนั่งข้างๆ ซึ่งข้างๆมีแค่คนเดียวก็พอ

13.We are (going/ go) to Japan next week. —> is, am, are + Ving โจทย์ให้ are มา ดังนั้นจะกลายเป็นอย่างอื่นไปไม่ได้นอกจากคำกริยาที่ต้องเติม ing ข้างหลังเท่านั้นเอง

14.He (have/ has) ten fish. —> ตระกูล I, you, we, they, 2up ใช้ have ส่วนตระกูล He, she, it, 1 คน/อย่าง ใช้ has

15.Is she your sister? —> (Yes, she is. / She’s my sister) —> ถ้าคำถามขึ้นต้นด้วย is, am, are คำตอบก็ต้องเป็น yes หรือ No เท่านั้นแหละ เพราะเขาถามว่า “ใช่หรือไม่” คำตอบก็ต้องตอบว่า “ใช่” หรือ “ไม่ใช่”

16.Where (was/ were) you this morning? —> ข้อนี้คือต้องระวังคำบอกเวลา this morning แปลว่าเมื่อเช้านี้ ถามว่า เมื่อเช้านี้เกิดขึ้นหรือยัง??? ก็เกิดแล้วสิคะ ผ่านมาแล้ว ดังนั้นต้องใช้ was (อดีตอขง is, am) ส่วน Were (จะเป็นอดีตของ are)

17.I (have/ had) a big piano when I was young. –> คำตอบเหมือนข้อ 14 หลักการเดียวกัน

18.Are they (sleep/ sleeping)? —> หลักการเดียวกับข้อ 13 เลยค่ะ

19.A chair (was/ were) in the bedroom yesterday. —>หลักการเดียวกับข้อ 16 ของ 1 อย่างใช้ is ฉันใด ก็ต้องใช้ was ฉันนั้นถ้าบ่งบอกถึงความเป็นอดีต

20.She (is/ was) here now. —> ย้อนกลับไปดูข้อ 4 ได้เลยค่า

เป็นอย่างไรคะ ประเมินตัวเองแล้วรอดหรือเปล่า หรือจะเอาไปสอบถามเด็กๆ ลูกๆ น้องๆเราดูก็ได้นะคะ เผื่อเขาจะเก่งกว่าเรา …อิอิ

ครูดิว อีคิว ไอคิว ทาวน์

ID line: dew0871177710

………………………………………………………………………………………………………………….

ประวัติครูดิวคร่าวๆ

มัธยม —รร.สาธิตอยุธยา

มหาวิทยาลัย —เชียงใหม่ เอกอังกฤษ โทญี่ปุ่น

จบปุ๊ป —แอร์สายการบินญี่ปุ่น (เจแปน แอร์ไลน์) ทั้งเที่ยว ทั้งช้อป ทั้งได้เรียนรุ้วัฒนธรรมหลายๆประเทศมาอย่างโชกโชน แต่สุดท้ายก็รักประเทศไทยอยู่ดี

ประสบการณ์ -ทำงานโรงงานญี่ปุ่น ทั้งสอนภาษา ฝึกอบรม ฝ่ายขาย เรียนรู้ฝ่ายผลิต ทีม ISO สรุปเขาให้ทำอะไรก็ทำ ชอบเรียนรู้สิ่งใหม่ๆค่ะ เพราะคนที่ได้คือเรา

– สอนภาษาญี่ปุ่น และอังกฤษในนิคมอุตสาหกรรม

– รับแปลงานอิสระ ทั้งไทย อังกฤษ ญี่ปุ่น

ปัจจุบัน – เจ้าของโรงเรียนกวดวิชาอีคิว ไอคิว ทาวน์ ที่เด็กๆคว้ารางวัล top 10 ภาษาอังกฤษมาฝากครูดิวกันทุกปี