 Download
แผนภาษาอังกฤษป.5หน่วยที่4 แผนภาษาอังกฤษป.5หน่วย4 Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!Create your own flipbook
Present Simple Tense Present แปลว่า ปัจจุบัน ดังนั้น Present Simple Tense จึงเปน็ ประโยคที่มี โครงสร้างแบบง่าย ๆ เพ่อื ใช้พดู ถงึ เหตุการณใ์ นปจั จบุ นั นน่ั เอง หลกั การใช้ 1. ใช้เพ่ือพูดถึงความเป็นจริงในชีวิตประจาวัน หรือความเป็นจริงตามธรรมชาติ ถึงแมว้ ่าเหตุการณ์นัน้ จะเปน็ อดีตหรืออนาคตก็ตาม เชน่ When the earth moves around itself, it makes Day and Night. (เมอ่ื โลกหมุนรอบตวั เอง มนั ทาใหเ้ กิดกลางวันกลางคืน) Durian is the king of fruit. (ทเุ รียนเปน็ ราชาผลไม้) 2. ใช้เพ่ือพดู ถงึ เหตุการณ์ นสิ ัย หรือการกระทาทเี่ กดิ ข้ึนซา้ ๆ บอ่ ย ๆ เปน็ ประจา ทุกวัน เชน่ I walk to school every day. (ฉันเดนิ ไปโรงเรียนทกุ วัน) Nuda always help other people so everyone loves her. (นุดาช่วยเหลือคนอืน่ เป็นประจา ดังน้ันทกุ คนจึงรักเธอ) 3. ใช้เพ่อื ให้คาแนะนาหรือการบอกทศิ ทาง เชน่ Turn off the television before going to bed. (ปดิ โทรทศั นก์ อ่ นเข้านอน) You go straight for 300 meters, then the destination is on your left. (คุณเดินตรงไป 300 เมตรและจดุ หมายปลายทางจะอยูท่ างซ้ายมือของคณุ ) รปู ประโยคของ Present Simple Tense Present Simple Tense คือประโยคท่ีบอกเล่าเรอื่ งราวตา่ ง ๆ โดยรูปประโยค ของ Present Simple Tense มดี งั น้ี 1. ประโยคบอกเลา่ 2. ประโยคปฏิเสธ 3. ประโยคคาถาม 1. ประโยคบอกเลา่ โครงสรา้ ง: Subject + Verb 1(s,es) + Object + (คาบอกเวลา) “Verb ช่องท่ี 1 นน้ั จะมกี ารเตมิ s หรือ es เมอ่ื ประธานเป็นเอกพจน์ (He, She, It) แต่ถ้าหากประธานเป็นพหพู จน์ (I, You, We, They) ใหค้ งรปู กรยิ าตามเดมิ ” ยกตัวอยา่ งเชน่ He plays guitar very well. (เขาเลน่ กีตารเ์ ก่งมาก) **ประโยคนปี้ ระธานคอื He เป็นเอกพจน์ กรยิ าคอื play จงึ ต้องเตมิ s They enjoy playing the football. (พวกเขาสนุกกบั การเล่นฟุตบอล) **ประโยคนีป้ ระธานคือ They เป็นพหพู จน์ กริยาคือ enjoy จงึ ไม่ต้องเตมิ s หรือ es ความรเู้ พิม่ เติม หลกั การเตมิ s,es นั้นง่ายนิดเดยี ว มดี ังน้ี 1. เติม s หลังคากริยาปกตทิ ่ัวๆ ไป เช่น Ex. She drinks milk tea every Monday. 2. เตมิ es หลังคากริยาทลี่ งท้ายด้วย s, sh, ch, x, z และ o เชน่ Ex. He teaches English subject. 3. คากรยิ าทล่ี งทา้ ยดว้ ย y มี 2 ประการ ดังน้ี - หนา้ y เปน็ สระ (a, e, i, o, u) ใหเ้ ติม s ได้เลย เช่น Ex. She plays tennis. - หนา้ y เป็นพยญั ชนะ ใหเ้ ปลีย่ น y เปน็ i แลว้ เตมิ es เช่น Ex. He studies English 2. ประโยคปฏิเสธ แบบท่ี 1 Subject + Verb to be + not + Object/สว่ นขยาย + (คาบอกเวลา) ใช้เมอื่ ในประโยคน้นั มี V. to be (is, am, are) ปรากฏอยู่ เชน่ ประโยคบอกเล่า: I am your servant. ประโยคปฏิเสธ: I am not your servant. ***เมื่อเหน็ V. to be ในประโยคให้เติม not ไว้หลัง V. to be ได้ทันทีก็จะ กลายเป็นประโยคปฏเิ สธ แบบที่ 2 Subject + Verb to do + not + Verb.1 + Object + (คาบอกเวลา) ใช้เมื่อประโยคนั้นไม่มี V. to be จึงต้องนา V. to do ได้แก่ do กับ does เข้ามา ช่วยแล้วจึงค่อยตามหลังด้วย not เพ่ือบอกความปฏิเสธ ส่วนคากริยาให้คงรูปช่องท่ี 1 เหมอื นเดมิ โดยไมต่ ้องเติม s,es เช่น ประโยคบอกเลา่ : He watches television at home. ประโยคปฏเิ สธ: He does not watch television at home. ประโยคน้ีไม่มี V. to be อยู่ในประโยค จึงนา V. to do นั่นก็คือ does มาเป็น กริยาชว่ ยและตามด้วย not เพอ่ื บอกรูปปฏิเสธ สว่ นคากริยาเม่ืออยู่ในรูปปฏิเสธแล้วใหต้ ัด s,es ทงิ้ คงเหลอื คากรยิ าช่องท่ี 1 รูปเดิม ความรู้เพิม่ เติม หลักการใช้ do และ does ประธาน He, She, It, Cat, ชื่อคนคนเดยี ว สัตว์ตวั เดียว และส่ิงของ ใช้ Does เอกพจน์ อันเดยี วทก่ี ลา่ วถึง ประธาน I, You, We, They, Cats ชื่อคนหลายคน สัตวห์ ลายตวั ใช้ Do พหุพจน์ สง่ิ ของหลายอยา่ งท่ีถกู กล่าวถึง ตวั อย่างเชน่ He does not love you. เขาไม่รักคุณ She does not play football. เธอไม่เลน่ ฟุตบอล We do not go to school every day. พวกเราไมไ่ ปโรงเรียนทกุ วัน Cats do not sleep on the roof. แมวท้ังหลายไม่นอนบนหลังคา การย่อรปู การย่อรูปจะอย่ใู นรูปแบบประโยคปฏิเสธเท่านน้ั do not = don’t does not = doesn’t ตัวอยา่ งเชน่ It doesn’t rain every day. ฝนไม่ตกทกุ วัน A cat doesn’t eat rice. แมวไมก่ นิ ข้าว They don’t read newspapers. พวกเขาไมอ่ ่านหนงั สอื พิมพ์ You don’t drink coffee in the morning. คณุ ไมด่ ม่ื กาแฟในตอนเชา้ 2. ประโยคคาถาม แบบท่ี 1 Verb to be + Subject + Object/ส่วนขยาย + (คาบอกเวลา)? ใชเ้ มอื่ ในประโยคน้นั มี V. to be (is, am, are) ปรากฏอยู่ เช่น ประโยคบอกเล่า: She is my sister. ประโยคคาถาม: Is she your sister? เมื่อเหน็ V. to be ในประโยค ให้นา V. to be ขึ้นต้นประโยคนาหน้าประธานได้ เลย เพียงเท่าน้ีกจ็ ะกลายเปน็ ประโยคคาถาม ข้อสังเกตคืออย่าลมื เปล่ียนคาสรรพนามด้วย จาก my เปน็ your แบบท่ี 2 Verb to do + Subject + Verb.1 + Object + (คาบอกเวลา)? ใชเ้ มอ่ื ประโยคนั้นไมม่ ี V. to be จึงตอ้ งนา V. to do ได้แก่ do และ does เขา้ มา ช่วย โดยขึน้ ตน้ ประโยคนาหนา้ ประธาน ซึง่ do และ does มวี ธิ ีการใช้ที่แตกต่างกนั ดงั น้ี Does he, she, it, a cat กริยาช่องที่ 1 Do I, you, we, they, cats กรยิ าชอ่ งท่ี 1 ตวั อยา่ งเชน่ ประโยคบอกเลา่ : I love a cat. ประโยคคาถาม: Do I love a cat? ประโยคบอกเล่า: He comes from China. ประโยคคาถาม: Does he come from China? การถามในรปู ปฏิเสธแบ่งออกอีก 2 ประเดน็ คือ รูปแบบเตม็ และรูปแบบย่อ รปู แบบเตม็ รูปแบบย่อ Does she not like football? Doesn’t he come from China? Does a cat not eat fish? Doesn’t it rain in July? Do we not eat salad every day? Don’t you go to school by car? Do cats not sleep at night? Don’t they sell fruit? Do ใชน้ าหนา้ ประธานที่เป็นพหพู จน์ สว่ น Does ใชน้ าหน้าประธานทเี่ ปน็ เอกพจน์ และเมอื่ เปลย่ี นมาเปน็ รปู ประโยคคาถามกริยาท่เี ตมิ s จะถกู ตดั ออก คากรยิ ากจ็ ะคงรูป เปน็ กรยิ าช่องท่ี 1 เหมอื นเดิม โดยไมต่ ้องเติม s, es เช่น That cat eats fish. ---> Does that cat eat fish? คาบอกเวลาใน Present Simple Tense ในประโยค Present Simple Tense มักจะมีคาบอกเวลาซ่ึงเป็น Adverbs of Frequency ปรากฏอยู่ในประโยคเพือ่ บอกความถ่ขี องเหตกุ ารณ์หรือการกระทานนั้ ๆ Adverb of frequency จะแบ่งไดเ้ ป็น 2 กลุม่ โดยกลุ่มแรกก็คือกลมุ่ ที่ไม่ช้ีชัด (adverb of indefinite frequency) ซงึ่ ก็คือกลุ่มคาที่ไม่ได้ระบชุ ัดเจนว่าถ่ีขนาดไหน แต่ จะบอกความถ่แี ค่ครา่ วๆเทา่ น้ัน 1. กลมุ่ ทไี่ ม่ช้ชี ดั (adverb of indefinite frequency) ตวั อย่าง adverb of frequency ท่ีใช้บอ่ ยในกลมุ่ น้ีเรียงตามความถจ่ี ากมากไป น้อยกอ็ ย่างเชน่ % Adverbs of frequency ความหมาย 100% always เสมอ 90% usually ปกติ 80% normally / generally โดยทว่ั ไป 70 % often / frequently บอ่ ย ๆ 50% sometimes บางครั้ง 30% occasionally บางโอกาส 10% seldom นาน ๆ ครั้ง 5% hardly ever / rarely แทบจะไม่เคย/แทบจะไม่ 0% never ไม่เคย ตาแหน่งของ Adverb of Indefinite Frequency จะแทรกตวั อยตู่ ามกลุ่มกรยิ า ดงั น้ี 1. คาบอกความถี่อยู่หน้ากริยาหลกั (ยกเวน้ กรยิ าหลกั คอื Verb to be) Subject + Adverb of Indefinite Frequency + Main verb - I always get up early. - Pete seldom helps his mother in the kitchen. - What do you usually eat for breakfast? 2. Verb to be เปน็ กริยาหลักจะวางคาบอกความถีไ่ วห้ ลัง Verb to be Subject + Verb to be + Adverb of Indefinite Frequency - I am never late for work. - She is always happy. 3. ถ้าในประโยคมีกรยิ าชว่ ย (have, will, must, might, could, would, can, etc.) คาบอกความถี่จะอยูร่ ะหวา่ งกรยิ าช่วยกบั กรยิ าหลัก Subject + Auxiliary verb + Adverb of Indefinite Frequency + main verb - She has often gone on vacation in summer. - Teachers can sometimes give students too much homework. 2. กลุ่มท่รี ะบคุ วามถี่แบบชชี้ ดั (adverb of definite frequency) โดยจะเปน็ ตวั ท่ีระบชุ ัดเจนเลยวา่ ถข่ี นาดไหน อยา่ งเชน่ Hourly ทุกชัว่ โมง Every day ทุกวนั ทุกวัน Daily ทุกสัปดาห์ Every week ทุกสปั ดาห์ ทกุ เดอื น Weekly ทกุ เดือน Every month ทุกปี ทกุ ปี Monthly ทุกปี Every year วันละคร้งั สปั ดาหล์ ะ 2 ครงั้ Yearly เดือนละ 3 คร้งั Annually Once a day Twice a week Three times a month ตาแหนง่ ของ Adverb of Definite Frequency จะอยตู่ ้นประโยคหรอื ท้าย ประโยคเทา่ น้ัน และถา้ อย่ตู ้นประโยคจะตอ้ งตามด้วยเคร่ืองหมาย comma (,) Every year, we celebrate Christmas. We celebrate Christmas every year. Twice a year, he comes here. He comes here twice a year. ทงั้ น้ี adverb of frequency ในกล่มุ นี้หลายๆคาสามารถทาหน้าท่ีเปน็ adjective (คาที่ใช้ขยายคานาม) ได้ด้วย อย่างเช่นในคาว่า weekly meeting ตัว weekly นี้ทา หนา้ ท่ีเปน็ adjective ขยายคาว่า meeting ซึ่งจะแปลว่า “การประชุมประจาสปั ดาห์” Exercise 1 Direction: Add s/es to the verbs given Example: play= …………plays………… 1. drive = ………………………………………… 2. drink = ………………………………………… 3. catch= ………………………………………… 4. wash = ……………………………………… 5. study = ……………………………………… 6. watch = ……………………………………… 7. read = ………………………………………… 8. eat = …………………………………………… Exercise 2 Direction: Fill in the blanks with the present simple tense of the verbs into the correct form. Example: The mother (kiss)……kisses……..her son good bye every morning. 1. We (read)………………..the newspaper in class every day. 2. He (come)………………to school by bus. 3. I (eat)……………………..lunch in the cafeteria every day. 4. Mr. Smith (work)………………..at office. 5. Some girls (use)…………………too much make – up. 6. Susan (go)……………………there twice a week. 7. Gale (play)………………the piano very well. 8. Joy (study)……………………in the same class as I Exercise 3 Direction: Put the adverb of frequency in the correct position. Example: She wakes up in the morning. (always) She always wakes up in the morning. 1. Suda washes her own clothes. (always) ……………………………………………………………………………………………………………… 2. I go to concerts. (never) ……………………………………………………………………………………………………………… 3. He gets up late. (usually) ……………………………………………………………………………………………………………… 4. The baby cries in the evening. (often) ……………………………………………………………………………………………………………… 5. We play tennis on Saturday. (always) ……………………………………………………………………………………………………………… 6. He prepares his homework carefully. (usually) ……………………………………………………………………………………………………………… 7. I am try to arrive everywhere on time. (sometimes) ……………………………………………………………………………………………………………… 8. She goes to bed at ten p.m. (seldom) ……………………………………………………………………………………………………………… Exercise 4 Direction: Rewrite these sentences into negative form and question form. Example: My grandfather goes to the church every Sunday. Negative: My grandfather doesn’t go the church every Sunday. Question: Does my grandfather go the church every Sunday? 1. The boy cleans his house every day. Negative: ……………………………………………………………………………………………………… Question: …………………………………………………………………………………………………… 2. They eat lunch in the canteen every day. Negative: …………………………………………………………………………………………………… Question: …………………………………………………………………………………………………… 3. He goes school by walk. Negative: …………………………………………………………………………………………………… Question: …………………………………………………………………………………………………… 4. She is a kind teacher. Negative: ……………………………………………………………………………………………………… Question: …………………………………………………………………………………………………… |
Your school ต องเต ม do หร อ does
กระทู้ที่เกี่ยวข้อง
ลิขสิทธิ์ © 2024 th.frojeostern Inc.
