คนดูน้ำตาซึม! ไวรัล The Voice Kids เยอรมัน เด็กสาววัย 11 ขวบ ร้องเพลงพร้อมทำภาษามือ สื่อความหมายถึงน้องสาวที่พิการ ทำเอากรรมการซึ้ง จนร้องไห้ตาม Show กลายเป็นกระแสไวรัลไปทั่วโลก เมื่อเด็กสาววัย 11 ปีชื่อว่า ‘เฟีย’ (Fia) ได้มาปรากฏตัวร่วมการแข่งขัน The Voice Kids ของประเทศเยอรมัน พร้อมโชว์พลังเสียงและความสามารถด้านการใช้ภาษามือ ก่อนทำคนดูน้ำตาแตก เมื่อเฉลยว่าเธอเรียนรู้ภาษามือเพราะน้องสาวไม่ได้ยินเสียง แถมเพลงที่เลือกใช้ก็ความหมายดีมาก จนหลายคนพากันชื่นชมพร้อมวิเคราะห์ว่า น้องเฟียอาจได้ขึ้นแท่นเป็นซุป’ตาร์ระดับโลกคนต่อไป เมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2023 ช่องยูทูบของ The Voice Kids ได้โพสต์คลิปการออดิชั่นของ ‘เฟีย’ เด็กสาววัย 11 ขวบ ผู้มีเชื้อชาติเยอรมัน-จีน โดยเธอได้มาร้องเพลง Flashlight ของนักร้องสาว Jessie J ด้วยเสียงที่ทรงเสน่ห์ของน้องเฟีย ทำให้กรรมการทั้ง 5 คน ทยอยตัดสินใจกดเลือกเธอให้ผ่านรอบ Blind Audition ตั้งแต่เริ่มร้องได้เพียง 40 วินาทีเท่านั้น โดยที่ไม่มีใครล่วงรู้เลยว่า นอกจากที่พวกเขาจะได้หันมาเจอเด็กสาวเจ้าของเสียงร้องเพลงสุดไพเราะแล้วนั้น พวกเขายังจะได้เห็นเธอใช้ภาษามือสื่อสารถึงผู้พิการอีกด้วย หลังจากหันมาได้เพียงไม่นาน กรรมการทุกคนต่างก็พากันอึ้ง โดยเฉพาะนักร้องสาว Lena ที่ถึงกับหลั่งน้ำตาออกมาอย่างห้ามไม่ได้ โดยเธอได้ชมน้องเฟียว่า “คุณจับใจฉันมากจริง ๆ” ก่อนจะพูดเสริมว่า “คุณเป็นเด็กสาวที่สุดยอดมากเลย” ทางด้านน้องเฟีย เธอได้บอกว่าเหตุที่ทำให้เธอใช้ภาษามือ เพราะเธอมีน้องสาววัย 4 ขวบชื่อ เอมิเลีย (Emilia) ซึ่งน้องของเธอมีความบกพร่องด้านพันธุกรรม ทำให้ไม่ได้ยินและไม่สามารถพูดได้แบบคนทั่วไป น้องเฟียเลยใช้ภาษามือประกอบการร้องเพลง เพื่อให้น้องสาวของเธอเข้าใจในสิ่งที่เธอร้องออกไป ทั้งนี้เฟียได้ตัดสินใจเข้าร่วมทีมของ Lena กรรมการสาวที่ร้องไห้และชื่นชมเธอ พร้อมกันนี้โค้ชหลายคนก็ได้พากันกล่าวชมน้องเฟีย เพราะนี่เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ The Voice Kids ของเยอรมัน ที่มีเด็กสาวนำภาษามือมาใช้ประกอบการร้องเพลง นอกจากนี้แล้วหลายคนยังชื่นชมเพลงที่น้องเฟีย เลือกนำมาร้องอีกด้วย เนื่องจากเพลง Flashlight ของเจสซี่เจ มีความหมายที่ดีมาก อาทิ “ฉันเหมือนคนที่มีทุกสิ่งเพียงแค่เราอยู่ด้วยกัน ฉันมองไปรอบตัวแล้วเห็นความสุขมากมาย เมื่อไหร่ก็ตามที่ฉันอยู่ในความมืด เธอคือแสงที่คอยนำทาง เธอคือคนที่พาฉันออกจากช่วงเวลาที่มืดมิดเหล่านั้น” นักเขียนประจำ Thaiger จบจากคณะการสื่อสารมวลชน มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มีประสบการณ์เขียนงานผ่านเว็บไซต์ด้านความงามและแฟชั่นชื่อดังของไทยมากกว่า 3 ปี ปัจจุบันชื่นชอบการเขียนข่าวบันเทิง ภาพยนตร์ ซีรีส์ k-pop และไลฟ์สไตล์ เพื่อนำมาบอกเล่าผ่านตัวอักษร ด้วยมุมมองใหม่ ๆ ที่น่าสนใจ ชวนให้ติดตาม ช่องทางติดต่อ [email protected] การแข่งขันประกอบด้วย 3 รอบ คือ The Blind Audition, Battle Phase และ Live Show และจากฤดูกาลที่ 2 เป็นต้นมาได้เพิ่มรอบ Knockout เข้ามาอีก ทำให้กลายเป็นทั้งหมด 4 รอบ โดยในการ Blind Audition ผู้เข้าประกวดจะถูกคัดเลือกจากเสียงร้องเพียงอย่างเดียว โดยเหล่าโค้ชจะนั่งหันหลังให้กับผู้เข้าแข่งขันและเมื่อได้ยินเสียงร้องที่ถูกใจ โค้ชจะกดปุ่มเพื่อหมุนเก้าอี้หันหน้ากลับมาหาผู้เข้าแข่งขันเพื่อรับเข้าสู่ทีม ในฤดูกาลที่ 7 ของรายการ ได้มีการเพิ่มกติกาพิเศษคือปุ่ม "บล็อก (Block)" ซึ่งจะให้โค้ชทุกคนมีสิทธิ์กีดกันโค้ชคนอื่นในการนำผู้เข้าแข่งขันเข้าทีมตัวเอง ทำให้รายการมีสีสันมากขึ้น
เมื่อเหล่าโค้ชได้รวบรวมสมาชิกในทีมแล้ว โค้ชจะคอยเป็นผู้ให้คำปรึกษาด้านการขับร้องแก่ผู้เข้าแข่งขันเพื่อเข้าสู่รอบ Battle Phase ซึ่งในรอบนี้โค้ชจะทำการจับลูกทีมมาประชันในการร้องเพลงเดียวกันและโค้ชจะเป็นผู้ตัดสินเข้ารอบ Live Show โดยในรอบ Live Show ผู้เข้าแข่งขันของแต่ละทีมจะประชันกับผู้เข้าแข่งขันจากทีมอื่นๆ ในการแสดงถ่ายทอดสด โดยผู้ชมทางบ้านจะลงคะแนนโหวตเพื่อเลือกผู้เข้าแข่งขันที่ชื่นชอบให้ผ่านเข้ารอบ และโค้ชเองจะเลือกผู้ที่ผ่านเข้ารอบต่อไปเช่นกัน จนรอบสุดท้ายโค้ชแต่ละคนจะเหลือผู้เข้าแข่งขันเพียงคนเดียว และผลตัดสินสุดท้ายจากการโหวตหลังการแสดงถ่ายทอดสดจะเป็นกำหนดว่าใครคือผู้ชนะ ในฤดูกาลที่ 2 ได้เพิ่มรอบ Knockout ซึ่งสืบเนื่องมาจากรอบ Battle Phase ได้มีกติกาเพิ่มให้โค้ชสามารถช่วยลูกทีมจากทีมอื่นที่ต้องตกรอบ ให้สามารถเข้ารอบได้แล้วย้ายมาอยู่ทีมของตนเอง จึงทำให้เกิด Knockout Round ขึ้น ซึ่งจะทำการจับคู่ 2 คนบนเวทีเดียวกันโดยร้องคนละเพลงกันแล้วตัดเชือกคัดออกกัน ณ จุดนั้นเลย ต่างจาก Battle Phase ที่จะสลับกันร้องในเพลงเดียวกัน และในรอบนี้ผู้เข้าแข่งขันจะต้องเป็นคนเลือกเพลงเองซึ่งก็ต่างกับรอบ Battle Phase อีกเช่นกันที่โค้ชจะเลือกเพลงให้ ในฤดูกาลที่ 3 รอบ Knockout เปลี่ยนกติกาจากจับคู่มาสองคนเป็นจับกลุ่มสี่คนบนเวทีเดียวกันร้องคนละเพลงแล้วโค้ชจะเลือกคนที่เข้ารอบสองคนจากกลุ่มเข้ารอบต่อไป ในฤดูกาลที่ 6 รอบ Knockout สลับมาแข่งก่อนหน้ารอบ Battle และมีการแบ่งกลุ่มในการแข่งขันรอบ Final รอบแรก และในฤดูกาลที่ 7 รอบการแสดงสดรอบแรกเป็นการจับคู่ข้ามทีม พิธีกรและโค้ช[แก้]โค้ช ฤดูกาล 1 2 3 4 5 6 7 8 ออล สตาร์ส สหรัถ สังคปรีชา✔อภิสิทธิ์ โอภาสเอี่ยมลิขิต✔เจนนิเฟอร์ คิ้ม✔ ✔อภิวัชร์ เอื้อถาวรสุข✔นำโชค ทะนัดรัมย์✔ธนิดา ธรรมวิมล✔ปองกูล สืบซึ้ง✔พิธีกร ฤดูกาล 1 2 3 4 5 6 7 8 ออล สตาร์ส ทรงสิทธิ์ รุ่งนพคุณศรี✔รินลณี ศรีเพ็ญ✔ ฤดูกาล[แก้]ฤดูกาล เริ่มออกอากาศ รอบชิงชนะเลิศ 19 กันยายน พ.ศ. 2555 15 ธันวาคม พ.ศ. 25552 8 กันยายน พ.ศ. 2556 15 ธันวาคม พ.ศ. 255637 กันยายน พ.ศ. 2557 14 ธันวาคม พ.ศ. 255746 กันยายน พ.ศ. 2558 13 ธันวาคม พ.ศ. 2558511 กันยายน พ.ศ. 2559 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560612 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561719 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561 4 มีนาคม พ.ศ. 2562816 กันยายน พ.ศ. 2562 23 ธันวาคม พ.ศ. 2562ออล สตาร์ส17 กรกฎาคม พ.ศ. 2565 16 ตุลาคม พ.ศ. 2565 ทีมที่ได้อันดับที่ 1 และลูกทีมในรอบการแสดงสด ทีมที่ได้อันดับที่ 2 และลูกทีมในรอบการแสดงสด ทีมที่ได้อันดับที่ 3 และลูกทีมในรอบการแสดงสด ทีมที่ได้อันดับที่ 4 และลูกทีมในรอบการแสดงสด ฤดูกาลก้อง สหรัถ เจนนิเฟอร์ คิ้ม โจอี้ บอย แสตมป์1
ภาพรวมของรายการ[แก้]สัญลักษณ์สี ศิลปินในทีมก้อง ศิลปินในทีมคิ้ม ศิลปินในทีมโจอี้ ศิลปินในทีมแสตมป์ ศิลปินในทีมสิงโต ศิลปินในทีมดา ศิลปินในทีมป๊อป ฤดูกาล ผู้ชนะ รองชนะเลิศอันดับ 1 รองชนะเลิศอันดับ 2 รองชนะเลิศอันดับ 3 โค้ชที่ชนะ ตำแหน่งโค้ช 1 2 3 4 1 ธนนท์ จำเริญ ธชย ประทุมวรรณ ตระการ ศรีแสงจันทร์ สหรัถ สังคปรีชา ก้อง คิ้ม โจอี้ แสตมป์ พิเชษฐ์ บัวขำ 2 รังสรรค์ ปัญญาเรือน วัลย์ลิกา เกศวพิทักษ์ กิตตินันท์ ชินสำราญ แสตมป์ กฤษดา พิทักษ์พัฒนกุล 3 สมศักดิ์ รินนายรักษ์ สุธิตา ชนะชัยสุวรรณ จรูญวิทย์ พัวพันวัฒนะ ปัญจพล ธรรมสอน เจนนิเฟอร์ คิ้ม 4 ทิฏฐินันท์ อ้นปาน อัญชุลีอร บัวแก้ว สมัชญ์ เนียมสอาด พงศ์ธร ปทุมานนท์ โจอี้ บอย สิงโต 5 ศิร์ภูมิ เบญจรัส ณัฐพงศ์ ทองเมือง อานนท์ วัชรีวงศ์ ณ อยุธยา ดา ภัชรพงษ์ บุญชู 6 วชิรวิทย์ จีนเกิด เบนจามิน เจมส์ ดูลลี่ สุภัคชญา รัตนใหม่ สิงโต นำโชค ปทิตตา โสมขันเงิน & ศรัณย์ สุยะราช 7 พงศธร กำบัง อรรัศมิ์ดา โรจนเตชสิริ สยาภา สิงห์ชู โจอี้ บอย คิ้ม ป๊อป จักรกฤษ ขำจิตร์ 8 เอกกมล บุญโพธิ์ทอง สกุณชัย เปลี่ยนรัมย์ ญาณวรรธน์ เจริญอธิพัฒน์ กุลจิรา ทองคำ สหรัถ สังคปรีชา ออล สตาร์ส เอกพันธ์ วรรณสุทธิ์ ธชย ประทุมวรรณ ปรางทิพย์ แถลง วรายุภัสร์ เกศวพิทักษ์ เจนนิเฟอร์ คิ้ม ป๊อบ ก้อง คิ้ม โจอี้ The Voice Hall of Fame[แก้]ปี พ.ศ. ศิลปิน พ.ศ. 2556 อัญชลี จงคดีกิจ ขวัญจิต ศรีประจันต์ พ.ศ. 2557 วง นูโว โมเดิร์นด็อก พ.ศ. 2558 ชาย เมืองสิงห์ ปาล์มมี่ พ.ศ. 2559 บอย โกสิยพงษ์ พงษ์สิทธิ์ คำภีร์ พ.ศ. 2560 สุชาติ แซ่เห้ง (ชาติ สุชาติ) รังสรรค์ ปัญญาเรือน ธชย ประทุมวรรณ เกียรติประวัติ[แก้]
ดูเพิ่ม[แก้]
อ้างอิง[แก้]
เดอะวอยซ์ไทยแลนด์ ฤดูกาล
พิธีกร
โค้ช
ผู้ชนะการแข่งขัน
รองชนะเลิศอันดับ 1
รองชนะเลิศอันดับ 2-3
บุคคลอื่นที่มีชื่อเสียงฤดูกาลที่ 1
ฤดูกาลที่ 2
ฤดูกาลที่ 3
ฤดูกาลที่ 4
ฤดูกาลที่ 5
ฤดูกาลที่ 6
ฤดูกาลที่ 7
บทความที่เกี่ยวข้อง เดอะวอยซ์ • เดอะวอยซ์ คิดส์ ไทยแลนด์ (ซีซั่น 1 · ซีซั่น 2 · ซีซั่น 3 · ซีซั่น 4 · ซีซั่น 5 · ซีซั่น 6) • เดอะวอยซ์ ซีเนียร์ ไทยแลนด์ • เวิร์คพอยท์ เอ็นเทอร์เทนเมนท์ • โต๊ะกลมโทรทัศน์ • ทรู มิวสิค • พีพีทีวี |