พระองค์ทรงเป็นพระมหากษัตริย์องค์ที่ ๒ แห่งราชวงศ์จักรี พระนามเดิมว่า ฉิม เป็นราชโอรสองค์ที่ ๕ ในพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก ประสูติเมื่อวันที่ ๒๖ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๓๑๐ เมื่อทรงพระเยาว์ได้ทรงศึกษาในสำนักพระวันรัต (ทองอยู่) ณ.วัดบางหว้าใหญ่ ปี พ.ศ. ๒๓๒๕ ได้รับสถาปนาเป็นเจ้าฟ้ากรมหลวงวิศรสุนทร ในปี พ.ศ. ๒๓๓๑ ได้ทรงผนวช ณ วัดพระศรีรัตนศาสดารามและประทับที่วัดสมอลาย (ปัจจุบันคือวัดราชาธิอวาส) ๑ พรรษา ต่อมา พ.ศ. ๒๓๔๙ ได้ทรงดำรงตำแหน่งกรมพระราชวังบวรสถานมงคล
เสด็จขึ้นครองราชย์ต่อจากพระราชบิดาในปี พ.ศ. ๒๓๕๒ มีเหสีทรงพระนามว่า กรมสมเด็จพระศรีสุริเยนทรามาตย์
บทละครเรื่องอิเหนานับว่าเป็นประโยชน์ต่อวงการดนตรีไทยอย่างยิ่ง เพราะนักร้องและนักดนตรีไทยได้คัดเลือกเอาบทต่าง ๆ ในบทละครรำเรื่องนี้ไปใช้ในบทขับร้องเพลงกล่อมนารี เขมรฝีแก้วทางสักว่า เขมรราชบุรี แขกมอญ แขกอาหวัง ครุ่นคิด ต้นบรเทศ ถอนสมอ ทยอยเขมร เทพไสยาสน์ เทพรัญจวน ธรณีร้องไห้ นางครวญ บังใบ บุหลัน แปดบท ลมพัดชายเขา ล่องลม สาวน้อยเล่นน้ำ สี่บทและหกบท เป็นต้น ซึ่งแต่ละเพลงมีเนื้อร้องที่ไพเราะ เหมาะสมอย่างยิ่ง เช่น บทร้องเพลงธรณีร้องไห้เถา
บทร้องเพลงใบบังเถา
พระองค์ทรงโปรดดนตรีไทยมากโดยเฉพาะอย่างยิ่งซอสามสายเป็นเครื่องดนตรีที่พระองค์โปรดปรานมาก ถึงกับพระราชทาน "ตราภูมิคุ้มห้าม" แก่เจ้าของสวนที่มีกะลามะพร้าวชนิดที่ใช้กระโหลกซอสามสายได้ เพื่อมิต้องเสียภาษีอากร ซอสามสายที่เป็นคู่พระหัตถ์นั้นทรงพระราชทานนามว่า "ซอสายฟ้าฟาด" เมื่อว่างจากพระราชกิจพระองค์มักจะทรงโปรดซอสามสายอยู่เสมอ ถ้าไม่รวมวงก็จะทรงเดี่ยวด้วยพระองค์เอง มีเรื่องเล่ากันว่า "คืนหนึ่งหลังจากที่ได้ทรงซอสามสายอยู่จนดึกแล้วเสด็จเข้าที่บรรทม ก็ทรงสุบินว่า พระองค์เสด็จพระราชดำเนินไปในสถานที่แห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นสถานที่สวยงามมาก และได้ทอดพระเนตรเห็นดวงจันทร์ลอยเข้ามาใกล้พระองค์ สาดแสงสว่างไสวไปทั่วบริเวณ ทันใดนั้นก็พลันได้ทรงสดับเสียงดนตรีทิพย์อันไพเราะเสนาะกรรณเป็นอย่างยิ่ง จึงเสด็จประทับทอดพระเนตรทิวทัศน์อันงดงาม และทรงสดับเสียงดนตรีอันไพเราะอยู่ด้วยความเพลิดเพลินเจริญพระราชหฤทัย ครั้งแล้วดวงจันทร์ก็เริ่มถอยห่างออกไปในท้องฟ้า พร้อมกับเสียงดนตรีทิพย์ค่อย ๆ ห่างจนเสียงหายไป ก็ทรงตื่นพระบรรทม เพื่อพระองค์ทรงตื่นจากพระบรรทมแล้ว เสียงดนตรีในทรงสุบินก็ยังกังวานอยู่ในพระโสต จึงโปรดให้ตามพนักงานดนตรีเข้ามาต่อเพลงไว้ แล้วพระราชทานนามว่า ."เพลงบุหลันลอยเลื่อน" หรือ "บุหลันเลื่อนลอยฟ้า" หรือบางทีเรียกว่า "เพลงสรรเสริญพระจันทร์" มีนักดนตรีจำสืบมาจนบัดนี้ แต่เป็นรู้จักกันดีในชื่อว่า "เพลงทรงพระสุบิน" และเคยใช้เป็นเพลงสรรเสริญพระบารมีในสมัยหนึ่ง ต่อมามีผู้แต่งเพลงสรรเสริญพระบารมีเป็นทำนองอย่างอื่นหรือเป็นทำนองฝรั่งขึ้น จึงเรียกเพลงทรงพระสุบินที่ใช้เป็นเพลงสรรเสริญพระบารมีนั้นว่า "เพลงสรรเสริญพระบารมีไทย" ทำนองเพลงพระสุบินนี้เคยใช้เป็นทำนองในบทละครเรื่องอิเหนาประกอบบทร้องว่า
พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย ทรงครองราชสมบัติเป็นเวลาทั้งสิ้น ๑๕ ปี สวรรคต เมื่อวันที่ ๒๑ กรกฏาคม๒๓๖๗มีพระชนมายุ ๕๖พรรษากับ ๕ เดือน พระบาทสมเด็จพระบรมราชพงษเชษฐมเหศวรสุนทร พระพุทธเลิศหล้านภาลัย (พระราชสมภพ ๒๔ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๓๑๐- สวรรคต ๒๑ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๓๖๗ ครองราชย์ ๗ กันยายนพ.ศ. ๒๓๕๒ - ๒๑ กรกฎาคมพ.ศ. ๒๓๖๗) พระมหากษัตริย์ไทยพระองค์ที่ ๒ ในราชวงศ์จักรี มีพระนามเดิมว่า ฉิม (สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้ากรมหลวงอิศรสุนทร) พระราชสมภพเมื่อวันพุธ ขึ้น ๗ ค่ำ เดือน ๔ ปีกุน เวลาเช้า ๕ ยาม ซึ่งตรงกับวันที่ ๒๔ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๓๑๐ เป็นพระราชโอรสพระองค์ที่ ๔ ในพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช เสวยราชสมบัติเมื่อปีมะเส็ง ปีพ.ศ. ๒๓๕๒ - ๒๓๖๗ ขณะมีพระชนมายุได้ ๔๒ พรรษา เมื่อสิ้นรัชกาลสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยแล้วเจ้าอนุวงศ์หมดความเกรงกลัว เริ่มแข็งเมืองและเป็นกบฎขึ้นในรัชกาลพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว พระบาทสมเด้จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย เสด็จสวรรคต เมื่อวันพุธ เดือน ๘ แรม ๑๑ คํ่า ปีวอก ตรงกับวันที่ ๒๑ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๓๖๗ ขณะนั้นทรงพระชนมายุ ๕๘ พรรษา ทรงเสวยราชย์สมบัติ ๑๖ ปี ทรงมีพระราชโอรสและพระราชธิดารวมทั้งสิ้น ๗๓ พระองค์ พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยมีพระนามเต็มเมื่อขึ้นครองราชย์ว่า พระบาทสมเด็จพระบรมราชาธิราชรามาธิบดี ศรีสินทรบรมมหาจักรพรรดิราชาธิบดินทร์ ธรณินทราธิราช รัตนากาศภาสกรวงศ์ องค์ปรมาธิเบศ ตรีภูวเนตรวรนายก ดิลกรัตนราชชาติอาชาวศรัย สมุทัยดโรมนต์ สากลจักรวาฬาธิเบนทร สุริเยนทราธิบดินทร์ หริหรินทรา ธาดาธิบดี ศรีวิบูลยคุณอกนิษฐ ฤทธิราเมศวรมหันต บรมธรรมิกราชาธิราชเดโชชัย พรหมเทพาดิเทพนฤบดินทร์ ภูมิทรปรมาธิเบศ โลกเชษฐวิสุทธิ รัตนมกุฎประกาศ คตามหาพุทธางกูรบรมบพิตร พระพุทธเจ้าอยู่หัว ซึ่งเหมือนกับพระปรมาภิไธยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกทุกตัวอักษร เนื่องจากในเวลานั้น ยังไม่มีธรรมเนียม ที่จะต้องมีพระปรมาภิไธยแตกต่างกันในแต่ละพระองค์ ต่อมาพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวโปรดให้ออกพระนามรัชกาลที่ ๒ ว่าพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้าสุลาลัย ตามนามของพระพุทธรูปที่ทรงโปรดให้สร้างอุทิศถวาย และพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวโปรดให้เฉลิมพระปรมาภิไธยใหม่เป็น พระบาทสมเด็จพระบรมราชพงษเชษฐ มเหศวรสุนทร ไตรเสวตรคชาดิศรมหาสวามินทร์ สยารัษฎินทรวโรดม บรมจักรพรรดิราช พิลาศธาดาราชาธิราช บรมนารถบพิตร พระพุทธเลิศหล้านภาไลย ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดให้เฉลิมพระนามใหม่เป็นพระบาทสมเด็จพระรามาธิดีศรีสินทรมหาอิศรสุนทร พระพุทธเลิศหล้านภาลัยเมื่อถึงวันที่ ๗ กันยายน พ.ศ. ๒๓๕๒ พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชเสด็จสวรรคตด้วยพระโรคชรา ขณะมีพระชนมายุได้ ๗๓ พรรษา นับเวลาในการเสด็จครองราชย์ได้นานถึง ๒๗ ปี สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้ากรมหลวงอิศรสุนทร กรมพระราชวังบวรสถานมงคล จึงได้เสด็จขึ้นทรงราชย์สืบพระราชสันตติวงศ์เป็นพระมหากษัตริย์องค์ที่ ๒ แห่งราชวงศ์จักรี การพระราชพิธีบรมราชาภิเษกในรัชกาลที่ ๒ ได้ย้ายมาทำพิธีที่หมู่พระที่นั่งจักรพรรดิพิมาน เนื่องจากพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาทซึ่งสร้างขึ้นแทนพระที่นั่งอมรินทราภิเษกมหาปราสาท อันเป็นสถานที่ทำพิธีปราบดาภิเษกของพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกนั้น ใช้เป็นสถานที่ประดิษฐานพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกอยู่ ในรัชกาลต่อ ๆ มาจึงใช้หมู่พระที่นั่งจักรพรรดิพิมานเป็นสถานที่จัดการพระราชพิธีบรมราชาภิเษก และใช้พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาทเป็นสถานที่ตั้งพระบรมศพ หลังจากเสร็จพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พระองค์จึงเสด็จเลียบพระนครโดยกระบวนพยุหยาตราตามโบราณราชประเพณี ๑. บทละครในเรื่องรามเกียรติ์ https://th.wikipedia.org/wiki/พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย
|