ด้วยเหตุนี้ ประเทศสมาชิกอาเซียนจึงร่วมกันจัดตั้งคณะทำงานเพื่อศึกษาแผนแม่บทการเชื่อมโยงระบบไฟฟ้าในอาเซียน (ASEAN Interconnection Master Plan Study : AIMS) ซึ่งประกอบด้วยผู้เชี่ยวชาญจากการไฟฟ้าของแต่ละประเทศ มีหน้าที่ศึกษาและวางแผน การเชื่อมโยงระบบสายส่งกระแสไฟฟ้าในอาเซียน (ASEAN Power Grid) เพื่อจัดสรรกำลังการผลิตกระแสไฟฟ้าให้มีประสิทธิภาพและ รองรับความต้องการใช้ไฟฟ้าที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ความคืบหน้าของโครงการ ASEAN Power Grid ปัจจุบันโครงการ ASEAN Power Grid เป็น 1 ใน 7 แผนปฏิบัติการอาเซียนว่าด้วยความร่วมมือด้านพลังงาน ปี 2559-2568 (ASEAN Plan of Action on Energy Cooperation : APAEC 2016-2025) ซึ่งประกอบด้วยโครงการเชื่อมโยงระบบสายส่งกระแสไฟฟ้าในอาเซียน โครงการเชื่อมโยงท่อส่งก๊าซธรรมชาติ โครงการเทคโนโลยีถ่านหินและพลังงานสะอาด โครงการพลังงานหมุนเวียน โครงการเพิ่มประสิทธิภาพ การใช้พลังงานและการอนุรักษ์พลังงาน โครงการนโยบายและแผนพลังงานของอาเซียน และโครงการพลังงานนิวเคลียร์เพื่อสันติ โดย โครงการ ASEAN Power Grid มีแนวคิดริเริ่มมาจากความต้องการจัดสรรแหล่งพลังงานที่อุดมสมบูรณ์และหลากหลายของอาเซียน ไม่ว่า จะเป็นแหล่งพลังงานจากถ่านหิน ก๊าซธรรมชาติ และน้ำให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ภูมิภาค โดยเฉพาะแหล่งพลังงานน้ำที่มีอยู่มากทาง ตอนเหนือของ สปป.ลาว เมียนมา และเวียดนาม ทั้งสามประเทศนี้จึงมีศักยภาพสูงในการผลิตไฟฟ้าจากพลังน้ำ ทั้งนี้ โครงการ ASEAN Power Grid จะช่วยเสริมสร้างความมั่นคงและยั่งยืนด้านพลังงานผ่านการซื้อขายไฟฟ้าภายในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งเป็นวัตถุประสงค์ตาม วิสัยทัศน์อาเซียนปี 2563 (ASEAN Vision 2020) สำหรับความคืบหน้าของโครงการดังกล่าวมีรายละเอียด ดังนี้
ประโยชน์ของ ASEAN Power Grid ต่อภูมิภาคอาเซียน การพัฒนาความมั่นคงทางพลังงานถือเป็นองค์ประกอบสำคัญในการผลักดันให้อาเซียนมีความสามารถในการแข่งขันสูงขึ้นเมื่อ เทียบกับภูมิภาคอื่นๆ อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันการบริหารจัดการระบบไฟฟ้าของหลายประเทศในอาเซียนยังเผชิญกับความท้าทายในหลายด้าน อาทิ การกำหนดราคาไฟฟ้าให้เหมาะสม การจัดหาแหล่งพลังงานหมุนเวียนใหม่เพื่อลดการพึ่งพาแหล่งพลังงานเดิมอย่างถ่านหินและก๊าซ ธรรมชาติ รวมถึงการลดปริมาณการใช้ไฟฟ้า โดยเฉพาะในอินโดนีเซียและไทย ซึ่งมีการใช้ไฟฟ้าสูงเป็นอันดับต้นๆ ของอาเซียน ข้อมูลจาก การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยระบุว่า ปริมาณการใช้ไฟฟ้าของไทยเพิ่มขึ้นต่อเนื่องจาก 23,900 เมกะวัตต์ในปี 2554 เป็น 27,346 เมกะวัตต์ในปี 2558 นอกจากนี้ ไทยยังมีความเสี่ยงในการจัดหาแหล่งเชื้อเพลิงและแหล่งพลังงานหมุนเวียนแห่งใหม่ เนื่องจากปริมาณ ก๊าซธรรมชาติในอ่าวไทยลดลงมาก โครงการ ASEAN Power Grid จึงมีส่วนสำคัญในการช่วยให้การบริหารจัดการการผลิตไฟฟ้าในอาเซียนเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และช่วยให้มีปริมาณไฟฟ้าเพียงพอต่อความต้องการใช้ที่เพิ่มขึ้นมาก ทั้งนี้ นอกจากวัตถุประสงค์ที่ต้องการให้เกิดการซื้อขายแลกเปลี่ยน พลังงานไฟฟ้าระหว่างประเทศแล้ว โครงการ ASEAN Power Grid ยังส่งผลดีต่อประเทศสมาชิกอาเซียนในหลายด้าน อาทิ การเพิ่มความ สามารถในการซื้อขายไฟฟ้าระหว่างประเทศ การเพิ่มความหลากหลายของแหล่งผลิตไฟฟ้า รวมถึงการลดเงินลงทุนในการก่อสร้างโรงไฟฟ้า แห่งใหม่ในภูมิภาค ซึ่งผลการศึกษา AIMS II ระบุว่าการใช้พลังงานร่วมกันในระยะยาวตามโครงการ ASEAN Power Grid จะทำให้แต่ละ ประเทศสามารถลดกำลังการผลิตไฟฟ้ารวมกันได้ถึง 2,458 เมกะวัตต์ และสามารถลดต้นทุนการผลิตไฟฟ้าเป็นมูลค่า 788 ล้านดอลลาร์สหรัฐ นอกจากนี้ โครงการดังกล่าวยังก่อให้เกิดประโยชน์ต่ออาเซียนในด้านการจัดสรรแหล่งพลังงานในระยะยาว เช่น โครงการ Laos-Thailand- Malaysi-Singapore Power Integration Project (LTMS-PIP) ซึ่งเป็นโครงการเชื่อมโยงระบบไฟฟ้าจาก สปป.ลาว ผ่านสายส่งกระแส ไฟฟ้าของไทยและมาเลเซียไปยังประเทศคู่ค้าปลายทางคือ สิงคโปร์ โดยโครงการดังกล่าวเกิดขึ้นจากข้อตกลงซื้อขายไฟฟ้าระหว่าง สปป.ลาว ซึ่งมีปริมาณการผลิตกระแสไฟฟ้าสูงกว่าปริมาณที่ใช้ในประเทศ ทำให้สามารถจำหน่ายไฟฟ้าไปยังประเทศใกล้เคียงและสิงคโปร์ ซึ่งมีความต้องการใช้ไฟฟ้าในระดับสูง ในส่วนของประเทศไทยนอกจากได้ประโยชน์จากการได้รับจัดสรรพลังงานอย่างมีประสิทธิภาพแล้ว การเป็นประเทศทางผ่านของการเชื่อมโยงระบบสายส่งกระแสไฟฟ้ายังช่วยให้ไทยมีรายได้จากค่าบริการส่งกระแสไฟฟ้า รวมถึงช่วยลดต้นทุน การผลิตไฟฟ้าภายในประเทศด้วยการนำเข้ากระแสไฟฟ้าจากประเทศเพื่อนบ้าน อันจะส่งผลดีต่อผู้ใช้ไฟฟ้าในประเทศให้มีไฟฟ้าใช้ในราคา ที่เหมาะสม ซึ่งปัจจุบันไทยมีความได้เปรียบด้านราคาไฟฟ้าเหนือประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคอยู่แล้ว จึงเป็นการเพิ่มแรงจูงใจให้นักลงทุนต่างชาติ เข้ามาลงทุนในประเทศมากขึ้น การเชื่อมโยงระบบสายส่งกระแสไฟฟ้าในอาเซียนถือเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาความร่วมมือในระดับภูมิภาคเพื่อเพิ่มความแข็งแกร่ง ของเศรษฐกิจอาเซียนจากการจัดสรรการใช้พลังงานร่วมกันให้เกิดประโยชน์สูงสุด อีกทั้งยังเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญที่จะทำให้อาเซียน มีศักยภาพทัดเทียมกับภูมิภาคอื่นๆของโลก