เนื้อเพลงไทยเดิมมีเพลงอะไรบ้าง

 1. Thai Classical Song:  Kob Ten (Thao) 

1. ��ŧ����� - �ŧ ���� (��)

��س� ��������ҧ��ҧ�����Ѵ��ͧ�ŧ����� ���� �ŧ���� (��) �������ͧ����բͧ 'ǧ������� ��ا෾��ҹ��' �����ŧ��йѡ��ͧ����ͧ�ŧ����� ���鹹�� ���Ẻ��Ѻ�ŧ�� ����ӴѺ 3 ��� , 2 ��� ��Ъ������

�·�ҹ����Դ��Թ��������ŧ���� ��͹�á ( �ѹ�Ѵ��� 1 ��кѹ�Ѵ��� 2 ) ��ѵ���ŧ�� 3 ��� <��ͨ���������ͧ��������Ƕ֧ 3 ��Ңͧ�����ͧ�ŧ���鹵�����ͧ͢��͹������ ( 2 �ѹ�Ѵ�ش����) >

��ӴѺ�Ѵ价�ҹ����Դ��Թ��������ŧ���� ��͹����ͧ ( �ѹ�Ѵ��� 3 ��кѹ�Ѵ��� 4 )  ��ѵ���ŧ�� 2 ��� <��ͨ���������ͧ��������Ƕ֧ 2 ��Ңͧ�����ͧ�ŧ���鹵�����ͧ͢��͹������ (2 �ѹ�Ѵ�ش����) >

�����ӴѺ�ش���¡�ú���ŧ������ŧ����� ���� ��С����ͧ �ͧ 'ǧ������� ��ا෾��ҹ��' �����ŧ��йѡ��ͧ����ͧ�ŧ����� ���鹹���Ш�ŧ��������ŧ���� ��͹������ ( �ѹ�Ѵ��� 5 ��кѹ�Ѵ��� 6 )  ��ѵ���ŧ�� ������� (��ͨ���������ͧ����������ҵðҹ ���� ��� 1 ���) ���ҧʹءʹҹ

Please press the below button  to play and to learn to sing a Thai Classical Song " Pleng Kob Ten "( Song: Frog Dancing ).

The Thai Instruments of The Thai Traditional Music Band of Bangkok Metropolitan Administration (BMA) and the singer had played and sung for audiences the Thai  Classical Song 'Kob Ten' (Thao, or Pleng Thao)  which was composed in Thai traditional music in length of variations which is called "Pleng Thao" ( Variation 3 , Variation 2 and Variation 1 respectively ) .  

You will enjoy the first part of the Thai Traditional 'Kob Ten' song of the 1st Part  (1st  and second Line of lyric) at the length of sing and play in  Variation 3 Thai song. <will play music and will sing 'Kob Ten' song of the first part (1st  and second Line of lyric) in length of 3 times of the third part (5th and sixth  Line of lyric)>

In the next sequence, you will enjoy the second part of the Thai Traditional 'Kob Ten' song   (third and the fourth Line of lyric) at the length of sing and play Thai Traditional music in Variation 2  <will play music and will sing 'Kob Ten' song of the second part (third and fourth  Line of lyric) in length of 2 times of the third part  (5th and 6th Line of lyric).

The music and chorus 'Pleng Kob Ten' song will end in the last sequence, you will enjoy the third part of the Thai Traditional 'Kob Ten' song   (5th and 6th  Line of lyric) at the length of sing and play Thai Traditional music in Variation 1  <will play music and will sing 'Kob Ten' song of the third part (5th and 6th  Line of lyric) in length of  standard or 1 time of traditional Thai song  ).

 

 Thai Classical Song : Kob Ten (Thao) 
�ŧ�����  ���� (��)

  ****************
3 ���  -ʧ��á����͡�����ѧ���¾��   仢Ͷ֧��鹿���������ä�

 �͹�������������ͧ�ѹ   ��һ�зҹ�͹������ŧ��

 2 ��� - �����������Ң͹����� �Ҵ�����Ӥѭ�����ҷ��

 ���������������������  ��ͧ�ѹ��������ʹ���

 ������� - 仢�������ǹ���˹ѡ˹� �֧�觹������ŧ�����

 �١�Ѻ��������ʨ����� �������������蹡������

 (��¾ԹԨ �������ó ��)

เพลงไทยเดิมเป็นมรดกอันล้ำค่าที่บรรพบุรุษไทยมอบให้ไว้กับชนรุ่นหลัง หากแต่ว่าเพลงเหล่านี้มีคำว่า “ลาว” อาจจะทำให้คนรุ่นใหม่คิดว่าเพลงนี้เป็นเพลงของประเทศลาว ซึ่งจริงๆแล้วไม่ใช่เลย

เพลงเหล่านี้เป็นเพลงไทย แต่อาจจะเป็นเพลงไทยที่มีความเกี่ยวข้องกับภาคเหนือ (เชียงใหม่และเมืองอื่นๆ ในดินแดนล้านนาเดิม)

ในอดีต ชาวล้านนาเรียกตนเองว่า ชาว “ลาว” และชาวไทยอื่นๆ ก็เรียกชาวล้านนาว่าชาว “ลาว” ด้วยเช่นกัน ประเด็นดังกล่าวสามารถอ่านเพิ่มเติมจากบทความของอาจารย์ สุจิตต์ วงษ์เทศ ได้ที่นี่

แต่สำหรับโพสนี้ เรามาดูเรื่องเพลงกันดีกว่าครับ

เนื้อเพลงไทยเดิมมีเพลงอะไรบ้าง
วัดพระธาตุดอยสุเทพ By Photo Dharma from Sadao, Thailand – 033 Godlen Chedi, CC BY 2.0,

1. ลาวดวงเดือน

ลาวดวงเดือน หรือ อีกชื่อหนึ่งว่า ลาวดำเนินเกวียน น่าจะเป็นเพลงไทยเดิมที่คนไทยรู้จักมากที่สุดก็ว่าได้ เพลงนี้นิพนธ์โดยพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหมื่นพิไชยมหินทโรดม หลังจากที่ทรงผิดหวังในความรักกับเจ้าหญิงชมชื่น แห่งเชียงใหม่

เพลงนี้มีความไพเราะอย่างยิ่ง และมีหลายท่อนที่แสดงถึงความสะเทือนอารมณ์ขององค์ผู้นิพนธ์เอง เช่น

เห็นเดือนแรม เริศร้างเวหา
เฝ้าแต่เบิ่งดูฟ้า ละหนอ เห็นมืดมน

ปัจจุบันเพลงลาวดวงเดือน มีให้ฟังหลากหลายรูปแบบด้วยกัน ตั้งแต่แบบออร์เคสตร้า แบบเปียโน แบบไวโอลิน หรือ แบบปี่พาทย์ไทยแท้ๆ แบบเดิม

เวอร์ชั่นที่ผมชื่นชอบที่สุดคือ เวอร์ชั่นนี้ แต่เวอร์ชั่นอื่นๆ ที่มีให้ฟังใน youtube เช่นเดียวกัน

2. ลาวเสี่ยงเทียน (เถา)

ลาวเสี่ยงเทียนเป็นเพลงเก่าแก่ที่มีประวัติสืบเนื่องไปถึงยุครัชกาลที่ 4-5 แต่เราไม่ทราบแน่ชัดว่าใครเป็นผู้แต่งมันขึ้นมา (เชื่อว่าน่าจะเป็นครูเพลงภาคเหนือ) ตัวเพลงเคยเป็นเพลงลูกบทที่เล่นตามเพลงแม่บทมาก่อน แต่ต่อมามีการแต่งเนื้อร้องเข้าไป ตัวเพลงยังใช้สำเนียงลาว (แต่งขึ้นโดยอ้างอิงภาษาถิ่นภาคเหนือของไทย) และมีคำว่า “เสี่ยงเทียน” อยู่ ดังนั้นเพลงนี้จึงได้ชื่อว่า ลาวเสี่ยงเทียน

ในเวลาต่อมาครูศร ศิลปบรรเลง ครูเพลงชั้นเอกของไทยได้ปรับปรุงเพลงดังกล่าวให้เป็นเพลงที่น่าฟังขึ้น ด้วยฝีมือของครูศร ทำให้เพลงดังกล่าวเป็นที่นิยมในวงการดนตรีไทย

เมื่อดนตรีไทยพัฒนาไป เพลงลาวเสี่ยงเทียนถูกนำไปดัดแปลงอีกนับสิบเวอร์ชั่น หนึ่งในเวอร์ชั่นคือ เวอร์ชั่นที่เป็นเพลงใช้ถวายความเคารพต่อพระพุทธที่โรงเรียนให้นักเรียนทั่วไปฟังและร้องนั่นเอง

3. ลาวคำหอม

ลาวคำหอม เป็นอีกหนึ่งเพลงไทยเดิมที่ไพเราะมากและมีความหมายดี ตัวเพลงเป็นเพลงที่กำเนิดมาจากการร้องเล่นสักวา เชื่อกันว่าเพลงนี้แต่งโดยจ่าโคม นักร้องสักวาฝีมือเยี่ยมผู้หนึ่ง เขาแต่งเพลงนี้ขึ้นมาโดยอัตโนมัติระหว่างการเล่นสักวาโดยไม่มีการเตรียมการมาก่อนแต่อย่างใด แสดงให้เห็นถึงความสามารถอันยอดเยี่ยมของเขา

ด้วยความไพเราะทำให้เพลงนี้เป็นที่นิยมมาก แต่ยังเป็นเพลงที่ยังไม่มีดนตรีประกอบแต่อย่างใด

ในเวลาต่อมา พระยาประสานดุริยศัพท์ได้แต่งดนตรีขึ้นประกอบ โดยยังให้คงเนื้อร้องไว้ตามเดิม กลายเป็นเพลงลาวคำหอมในปัจจุบัน ต่อมาเพลงนี้ยังได้ใช้ประกอบละครสี่แผ่นดินอีกด้วย

4. ลาวสมเด็จ

เพลงลาวสมเด็จเป็นเพลงเก่าแก่เพลงหนึ่งที่ใช้สำเนียงลาวในการแต่งและบรรเลง เพลงนี้เป็นเพลงที่ไม่ปรากฏแน่ชัดว่าใครเป็นผู้ประพันธ์ไว้ดั้งเดิม แต่ครูเพลงหลายๆ คนได้ช่วยกันพัฒนาจนกลายเป็นเพลงลาวสมเด็จในปัจจุบัน

เช่นเดียวกับเพลงอื่นๆ เพลงลาวสมเด็จยังเป็นที่นิยมสูงในวงการดนตรีไทยและปี่พาทย์ ปัจจุบันมีการนำไปเล่นโดยใช้เครื่องดนตรีตะวันตกด้วย แต่ตัวเพลงก็ยังไพเราะอยู่เช่นเดิม

5. ลาวเจริญศรี

เพลงลาวเจริญศรีเป็นเพลงที่ต่างจากเพลงอื่นๆ ในรายชื่อนี้ เพลงนี้มีที่มาจากเพลงตับลาวเจริญศรี ซึ่ง “เพลงตับ” คือเพลงหลายๆ เพลงที่บรรเลงติดต่อกันเป็นชุด

เพลงตับลาวเจริญศรี เป็นเพลงที่อ้างอิงมาจากวรรณคดีไทยเรื่อง ลิลิตพระลอ ตอนที่พระเพื่อนและพระแพงบรรยายรูปโฉมของตนเองให้กับพระลอฟัง ตัวเพลงมีเพลงสั้นๆ ประกอบอยู่ในเพลงอยู่ถึง 8 เพลง ที่มาของชื่อ “เจริญศรี” มาจากการที่เวลาเล่นแล้ว คำว่าเจริญศรีขึ้นมาโดดเด่นที่สุด เพลงนี้จึงได้ชื่อเพลงตับลาวเจริญศรีไปโดยปริยาย

ในภายหลังได้มีการนำเพลงภายในเพลงตับลาวเจริญศรี ชื่อเพลงลาวเล่นน้ำ และเพลงลาวเล็กตัดสร้อยมารวมเป็นเพลงเดียวในชื่อ เพลงลาวเจริญศรี นี่คือเพลงลาวเจริญศรีที่เป็นที่นิยมในวงการดนตรีไทยในทุกวันนี้นี่เอง

ถึงแม้จะดูซับซ้อนกว่าเพลงอื่นๆ ตัวเพลงยังคงใช้สำเนียงลาวเช่นเดียวกับเพลงอื่นๆ ในรายชื่อนี้