สำหรับผู้ป่วยในกลุ่มโรคทางช่องท้องและทวารหนักที่ต้องเข้ารับการผ่าตัด นอกจากต้องดูแลสุขภาพให้แข็งแรง การดูแลด้านโภชนาการก่อนผ่าตัดเป็นสิ่งสำคัญ นอกจากช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกัน ยังช่วยฟื้นฟูร่างกายและบาดแผล อาจช่วยให้ออกจากโรงพยาบาลกลับไปดูแลตัวเองที่บ้านได้เร็วขึ้น Show โภชนบำบัดก่อนผ่าตัดการปรับโภชนาการให้เหมาะสมก่อนการผ่าตัดช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกัน ลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ ส่งเสริมการหายของแผล และอาจช่วยให้ผู้ป่วยออกจากโรงพยาบาลได้เร็วขึ้น โดยผู้ป่วยสามารถเปลี่ยนแปลงการรับประทานอาหารได้ทันทีเมื่อทราบกำหนดการผ่าตัด สารอาหารส่งเสริมการหายของแผล
เลือกอาหารเตรียมพร้อมผ่าตัดอาหารที่ควรรับประทานก่อนผ่าตัดควรเน้นความสมดุล เลือกให้หลากหลายจากกลุ่มอาหาร ดังนี้
เมนูอาหารก่อนผ่าตัดแพทย์จะเป็นผู้กำหนดประเภทอาหารก่อนผ่าตัด ซึ่งขึ้นอยู่กับประเภทของหัตถการ ส่วนใหญ่ผู้ป่วยสามารถรับประทานอาหารเพื่อสุขภาพตามปกติได้จนถึงวันก่อนการผ่าตัด แนะนำให้งดอาหารมื้อหลัก เช่น ข้าวไข่เจียว โจ๊ก และเครื่องดื่มที่ผสมนมหรือมีกากใย อย่างน้อย 6 – 8 ชั่วโมงก่อนดมยาสลบ และงดอาหารเหลว ได้แก่ น้ำเปล่า และเครื่องดื่มใสไม่มีกากใย เช่น กาแฟดำ ซุปใส น้ำแอปเปิล น้ำองุ่น น้ำหวานที่ไม่อัดลมอย่างน้อย 2 ชั่วโมงก่อนดมยาสลบ การดื่มเครื่องดื่มที่มีส่วนประกอบของคาร์โบไฮเดรตสามารถลดอาการหิวกระหายและลดภาวะ Insulin Resistance หลังผ่าตัด ทำให้รักษามวลของกล้ามเนื้อไว้ได้ ทั้งนี้การพิจารณางดอาหารขึ้นกับทีมศัลยแพทย์ วิสัญญีแพทย์ และพยาบาลที่ดูแลผู้ป่วยแต่ละราย เนื่องจากการดมยาสลบอาจทำให้เกิดอาการคลื่นไส้ อาเจียน ซึ่งการทำให้ท้องว่างก่อนการผ่าตัดอาจป้องกันภาวะแทรกซ้อนได้ อาหารหลังผ่าตัดการรับประทานอาหารหลังผ่าตัดเพื่อส่งเสริมให้ฟื้นตัวได้เร็ว ผู้ป่วยจะได้รับอนุญาตให้เริ่มรับประทานอาหารเหลวใสทันทีหลังการผ่าตัด และหากไม่มีอาการผิดปกติ เช่น ปวดท้อง คลื่นไส้ อาเจียน สามารถปรับเปลี่ยนเป็นอาหารปกติได้ใน 1 – 2 มื้อถัดไป ซึ่งอาหารหลังการผ่าตัดควรเป็นอาหารที่ดีต่อสุขภาพ และควรเพิ่มปริมาณโปรตีนในแต่ละวัน ภาวะทุพโภชนาการก่อนผ่าตัดในผู้ป่วยที่มีภาวะทุพโภชนาการตั้งแต่ก่อนผ่าตัดจะได้รับการประเมินด้านโภชนาการ ตรวจหาระดับโปรตีนในเลือด (Albumin) และได้รับคำแนะนำให้ฟื้นฟูภาวะโภชนาการก่อน เช่น เลือกอาหารที่มีพลังงานสูง เพิ่มมื้ออาหารเป็น 5 – 6 มื้อต่อวัน แต่หากรับประทานอาหารทางปากได้ไม่เพียงพอ อาจต้องเสริมอาหารทางการแพทย์ อาหารทางสายยาง หรืออาหารทางหลอดเลือดดำ โดยเฉพาะผู้ป่วยที่มีการผ่าตัดใหญ่ การให้อาหารเสริมที่มี Arginine เป็นส่วนประกอบ (Immunonutrition) สามารถช่วยลดผลแทรกซ้อนจากการผ่าตัดได้ เกณฑ์การคัดกรองภาวะทุพโภชนาการ ได้แก่ ผู้ป่วยที่มีประวัติอย่างน้อยข้อใดข้อหนึ่งดังต่อไปนี้
Ref.
|