สวัสดีค่ะ เดือนหน้า 18-19 ก.พ. น้องๆ ม.6 มีนัดสอบ O-NET อีก 5 วิชา คือ ภาษาไทย สังคมศึกษา ภาษาอังกฤษ คณิตศาสตร์
และวิทยาศาสตร์ พร้อมกันแค่ไหนแล้วเอ่ย แต่ก่อนจะไปสอบ พี่มิ้นท์ มีเรื่องสำคัญมาฝาก ไปดูกันว่าการสอบ O-NET สำคัญกับชีวิตน้องๆ ม.6 ขนาดไหน คุ้มค่ากับการเดาหรือมั่วในห้องสอบมั้ย แต่เตือนเลยว่า ทำให้เต็มที่ดีกว่า อย่ามั่วเลยนะ^^ 1. O-NET สอบได้ครั้งเดียวในชีวิต ก็คือ ตอนอยู่ ม.6 เท่านั้น คิดจะซิ่ว จะสอบใหม่ ไม่มีทางจ้า ใช้คะแนนเดิมวนไป ทำไม่ดีคะแนนนี้ก็ติดตัวไปเรื่อยๆ
2. สายว่าที่หมอทั้งหลาย ต้องผ่านเกณฑ์คะแนนรวม O-NET 60% หลายคนได้คะแนนวิชาเฉพาะแพทย์กับวิชาสามัญดีมาก ผ่านได้สบายๆ แต่มาตกม้าตายเพราะ O-NET ไม่ถึง 60% ซึ่งตรงนี้ กสพท ค่อนข้างเอาจริง ไม่อนุโลมนะคะ ดังนั้น ว่าที่คุณหมอ คุณเภสัช ทั้งหลาย จะเกร็งกับการสอบ O-NET มาก ยังไงก็ตาม พี่มิ้นท์ว่าระดับน้องๆ ที่ผ่านเกณฑ์วิชาสามัญและวิชาเฉพาะแพทย์มาแล้ว ถ้าตั้งใจสอบเต็มที่ เกณฑ์ O-NET 60% ก็ทำอะไรเราไม่ได้หรอก จริงมั้ย? 3. คะแนน O-NET
เป็นเกณฑ์คัดเลือกในรอบแอดมิชชั่นถึง 30% ถ้านึกภาพไม่ออกว่าเยอะแค่ไหน ก็ลองคิดเป็นคะแนนเอาว่า คะแนนแอดมิชชั่นเต็ม 30,000 แบ่งเป็นคะแนน O-NET 9,000 คะแนนแล้ว ถ้าหารย่อยลงไปอีก 5 วิชา ก็เท่ากับวิชาละ 1,800 คะแนนเลยทีเดียว ซึ่งการแอดมิชชั่นเข้าเรียนต่อในมหาวิทยาลัย วัดกันที่คะแนนรวมล้วนๆ บางคนคะแนน GAT PAT ไม่ดี ก็ได้คะแนน O-NET นี่แหละที่มาลากขึ้นฝั่งได้ 4. ในแอดมิชชั่นกลาง มีเกณฑ์ขั้นต่ำ O-NET คล้ายกับเกณฑ์ขั้นต่ำ GAT
PAT ในรับตรง ถึงจะไม่ได้กำหนดทุกมหาวิทยาลัย แต่ถ้าโชคร้ายเป็นคณะที่เราอยากเข้า แต่ขั้นต่ำไม่ถึงก็สมัครไม่ได้นะ ยกตัวอย่างเช่น คณะศิลปศาสตร์ สาขาภาษาอังกฤษ ม.ธรรมศาสตร์ กำหนดขั้นต่ำ วิชาภาษาอังกฤษ = 75 คะแนน, คณะเภสัชศาสตร์ จุฬาฯ กำหนดขั้นต่ำ วิชา 01 - 05 (ทุกวิชา) วิชาละ 30 คะแนน เห็นเกณฑ์แล้ว พอจะมีไฟสอบกันบ้างหรือยังคะ 5. คะแนน O-NET วัดมาตรฐานของโรงเรียนได้ด้วยนะ นอกจากน้องๆ
จะเอาคะแนนนี้ไปยื่นแอดมิชชั่นแล้ว สิ่งที่ต้องรู้อีกอย่างคือ คะแนนของน้องๆ ทุกคนจะเป็นตัววัดมาตรฐานการเรียนการสอนของโรงเรียนค่ะ ถ้าน้องๆ สังเกตก็คงเห็นว่า โรงเรียนค่อนข้างให้ความสำคัญกับ O-NET หาคนมาติวให้สม่ำเสมอ ดังนั้นพูดได้เต็มปากว่า โรงเรียนค่อนข้างคาดหวังกับผลสอบของน้องๆ นะ ทำให้เต็มที่! 6. O-NET เป็นน้ำหนักที่มาถ่วงเกรด (GPAX) ด้วย แม้ว่าในการแอดมิชชั่น น้องๆ จะยื่น GPAX ที่ไม่ถ่วง O-NET ก็ตาม แต่เกรดจบในใบผลการเรียนจะมีน้ำหนัก
O-NET มาถ่วงด้วย GPAX จบจึงลดลงกว่าปกติ แต่จะลดลงเล็กน้อยหรือเยอะก็ขึ้นอยู่กับผล O-NET ของตัวเอง น้องๆ จึงต้องตั้งใจเรียนทั้งในโรงเรียนและการสอบ O-NET ค่ะ ถึงจะได้เกรดจบสวยๆ 7. รับตรงหลังแอดมิชชั่นหลายแห่ง ก็ขอใช้ O-NET ด้วย หากยังไม่อยากทิ้งโอกาสหลังแอดมิชชั่น พี่มิ้นท์แนะนำให้น้องๆ ตั้งใจทำ O-NET ให้เต็มที่ที่สุด เพราะหลังแอดมิชชั่น จะมีรับตรงเปิดรับสมัครอีกจำนวนหนึ่ง ที่ใช้ O-NET เป็นเกณฑ์รับสมัครด้วย เช่น เอเชียศึกษา ม.ศิลปากร, พยาบาลทหารอากาศ
เป็นต้น เห็นแบบนี้แล้ว พี่มิ้นท์ก็หวังว่า 18-19 ก.พ.ที่จะถึงนี้ น้องๆ จะทำข้อสอบ O-NET ให้เต็มที่ สมกับที่เตรียมความพร้อมมาหลายเดือนนะคะ สู้ๆ! พี่มิ้นท์ - Columnist พี่สาวใจเย็น ผู้เกิดมาในแอดมิชชั่นยุคแรก แต่เข้าใจ TCAS มากกว่า การสอบ O-NET คืออะไรO-NET (Ordinary National Educational Test) เป็นการทดสอบในระดับชาติ O-NET ป.6 จัดสอบวันไหนO-NET ป.6 สอบวิชาอะไรบ้าง
O-NET คณิตศาสตร์ สอบเรื่องอะไรบ้างวิชาคณิตศาสตร์มีเรื่องที่ออกสอบทั้งหมด 12 เรื่อง สรุปให้เข้าใจง่ายตามสไตล์พี่โอชิน ได้แก่
รูปแบบข้อสอบ ปรนัย 4 ตัวเลือก จำนวน 16 ข้อ อัตนัย (ตอบเป็นตัวเลข) จำนวน 4 ข้อ อ่านรายละเอียดเต็ม ๆ จาก สทศ. ได้ที่นี่ .. คลิก.. O-NET วิทยาศาสตร์ สอบเรื่องอะไรบ้างวิชาวิทยาศาสตร์มีเรื่องที่ออกสอบทั้งหมด 8 เรื่อง สรุปให้เข้าใจง่ายตามสไตล์พี่แอม ได้แก่
รูปแบบข้อสอบ ปรนัย 4 ตัวเลือก จำนวน 26 ข้อ ปรนัยเลือกตอบเชิงซ้อน จำนวน 2 ข้อ อ่านรายละเอียดเต็ม ๆ จาก สทศ. ได้ที่นี่ ..คลิก.. O-NET ภาษาไทย สอบเรื่องอะไรบ้างวิชาภาษาไทยมีเรื่องที่ออกสอบทั้งหมด 8 เรื่อง สรุปให้เข้าใจง่ายตามสไตล์พี่ปุณ ได้แก่
รูปแบบข้อสอบ ปรนัย 4 ตัวเลือก จำนวน 32 ข้อ อัตนัย เขียนตอบ จำนวน 2 ข้อ อ่านรายละเอียดเต็ม ๆ จาก สทศ. ได้ที่นี่ ..คลิก.. O-NET ภาษาอังกฤษ สอบเรื่องอะไรบ้างวิชาภาษาอังกฤษมีเรื่องที่ออกสอบทั้งหมด 5 เรื่อง สรุปให้เข้าใจง่ายตามสไตล์พี่หนึ่ง ได้แก่
รูปแบบข้อสอบ ปรนัย 4 ตัวเลือก จำนวน 40 ข้อ อ่านรายละเอียดเต็ม ๆ จาก สทศ. ได้ที่นี่ .. คลิก.. ทำไมต้องตั้งใจสอบ O-NET ป.61. ท้าทายความสามารถของตัวเอง การสอบ O-NET เป็นการวัดความรู้ขั้นพื้นฐานของตัวเอง ยิ่งทำคะแนนได้มากยิ่งแปลว่าเรามีความรู้ขั้นพื้นฐานพร้อมที่จะต่อยอดไปเรียนต่อในชั้นมัธยม 2. ช่วยยกระดับคุณภาพของโรงเรียน ข้อสอบ O-NET เป็นข้อสอบชุดเดียวกันทั้งประเทศ จึงเป็นภาพสะท้อนคุณภาพการเรียนการสอนของโรงเรียน หากนักเรียนสอบได้คะแนนสูงโรงเรียนก็ได้รับผลการประเมินดีเช่นกัน เป็นการตอบแทนพระคุณของโรงเรียนและคุณครูที่มอบความรู้ให้กับเรา 3. ใช้ในการสอบแข่งขันเข้าเรียนต่อในชั้นม.1 โรงเรียนที่อยู่ในสังกัด สพฐ. เช่นสวนกุหลาบ สามเสน บดินทรเดชา สตรีวิทย์ จะใช้คะแนน O-NET ถึง 30% ในการพิจารณาคัดเลือกนักเรียนเข้าศึกษาต่อในชั้น ม.1 ห้องเรียนปกติ ข้อสอบ O-NET หากฝึกทำย้อนหลังไปหลายๆปี ก็จะเริ่มเห็นแนวทางการออกข้อสอบ จึงเป็นสนามสอบที่เรียกได้ว่าสามารถทำคะแนนได้ดี (ถึงขั้นได้เต็ม) หากเตรียมความพร้อมมาอย่างเต็มที่ ไม่เหมือนกับข้อสอบที่แต่ละโรงเรียนออก เพราะไม่สามารถคาดเดาอะไรได้เลย คอร์สตะลุยโจทย์ O-NET ของ Best Brain มาจากการติดตามข้อสอบ O-NET ย้อนหลังไป 7 ปีของทีมคุณครูที่มีประสบการณ์การติวเด็กประถมเข้า ม.1 ทำให้คุณครูเห็นแนวทางการออกข้อสอบ และนำมาวิเคราะห์ จัดหมวดหมู่คำถาม เพื่อทำให้เด็กๆเห็นว่าเรื่องไหนออกสอบบ่อยต้องเน้นย้ำ เรื่องไหนต้องมีเทคนิคการคิดหรือเทคนิคการเลือกคำตอบอย่างไรให้ได้คะแนน หากน้องๆได้เรียนคอร์สนี้เรียกได้ว่าน้องๆจะได้รู้เขารู้เรา รบร้อยครั้งก็ชนะร้อยครั้ง ดูรายละเอียดคอร์สเรียนได้ที่..นี่..
|