ในช่วงนี้ โทนเนอร์สองตัวนี้มาแรงทั้งคู่ หลายๆคนต่างก็สรรหากันมาลองใช้ บ้างก็พอใจ บ้างก็รู้สึกเสียดายเงิน แต่เพื่อให้เกิดผลคุ้มค่าที่สุด เราเลยจับสองตัวนี้มาเปรียบเทียบให้เห็นกันไปเลยค่า PIXI Glow tonic & The Ordinary glycolic acid มีส่วนผสมหลักคือ Glycolic acid แต่ต่างกันที่ % (ความเข้มข้น) PIXI Glow tonic มี 5% l The ordinary มี 7% Glycolic acid มีฤทธิ์เป็นกรดจึงช่วยกระตุ้นให้ผลัดลอกผิวชั้นบนๆ ให้หลุดออกไป มันเลยดีกับคนที่อยากกระชับรูขุมขน ลดเลือนฝ้ากระและผิวหมองคล้ำ รวมถึงรักษาสิและรอยสิวด้วย แต่หลายคนคงสงสัยต่อไปว่า แต่คุณทั้งสองนี้เป็นกรดนะ ไม่ทำให้ผิวหนังระคายเคืองเหรอ?!! แล้วสองตัวนี้ % ก็ต่างกัน The ordinary glycolic acid ซึ่งมี % มากกว่าจะระคายเคืองมากกว่าไหม? เราเลยใช้กระดาษ pH ให้รู้แล้วรู้รอด ก็พบว่า The ordinary glycolic acid มี pH ประมาณ 4 ส่วน PIXI Glow tonic มี pH ประมาณ 5 ถึงแม้ว่า % glycolic acid ที่ผสมจะไม่เท่ากัน แต่เจ้าโทนเนอร์สองตัวนี้มี pH ใกล้เคียงกันและใกล้เคียงกับค่าการแตกตัว (ยิ่งpHใกล้เคียงกับค่าการแตกตัวยิ่งดีค่ะ) ซึ่งหมายความว่า โอกาสทำให้เกิดการระคายเคืองน้อยมากๆค่ะ
นอกจาก Glycolic Acid แล้ว ส่วนผสมอื่นๆ ของ PIXI Glow tonic & The ordinary glycolic acid ก็คล้ายกัน ใส่สารสกัดจากธรรมชาติ และ กรดอะมิโนเหมือนกัน ซึ่งกรดอะมิโนเหล่านี้ เป็นวัตถุดิบ ในการสร้างเกราะป้องกันผิวด้านบน แต่เ PIXI มีส่วนผสมของ PIXI Natural Fragrant Oil ด้วย แม้จะในปริมาณน้อยมากๆ อาจไม่พอให้เกิดการอุดตัน แต่ก็นะ ...แจ้งเพื่อทราบ (เพราะผิวคนเราไม่เหมือนกันจริงๆ) โทนเนอร์ Pixi ตัวนี้ เรียกได้ว่าเป็นตัวที่เช็ดสิ่งสกปรกตกค้างได้ดี มีกลิ่นหอมชื่นใจ ผิวไม่แห้งกร้านเพราะว่ามีส่วนผสมของน้ำมัน ซึมไวประมาณนึง ทิ้งไว้สักประเดี๋ยวก็ลงบำรุงต่อได้เลยค่ะ ส่วน The ordinary ใส่กรดอะมิโนหลากหลายกว่า และสารให้ความชุ่มชื้นอื่นๆ เราแนะนำพิเศษสำหรับคนผิวมัน หรือผิวผสมเพราะมันคงไม่ทำให้หน้าที่มันอยู่แล้วมันเพิ่ม แต่ก็ให้ความชุ่มชื้นได้ดี สำหรับคนผิวแห้งก็เช่นกัน ก็สามารถใช้ได้ทั้งสองตัวนั่นแหละ The Ordinary มาในขวด plastic ใสพร้อมฝาเปิดแบบบิดที่สามารถเปลี่ยนเป็นหัวแบบหยอดที่คุณเค้าแถมมาให้ โทนเนอร์มีกลิ่นอ่อนๆ (อ่อนกว่า Pixi) พอทาไปบนหน้าอาจจะแสบถ้าไปโดนแผลเปิดเข้า ตัวโทนเนอร์อาจจะใช้เวลาซึมลงไปบนผิวเล็กน้อย เพราะฉะนั้น ไม่แนะนำให้ใช้เยอะ สี่หยดก็เพียงพอแล้วค่ะ ทาง The Ordinary เคลมว่า ใน ส่วนผสม product ได้ใส่ ถั่วแทสมาเนียนเพื่อช่วยลดการระคายเหลังใช้กรด (มีวิจัยรองรับด้วยนะ) แต่ด้วย % ของ Glycolic Acid ที่สูงกว่าก็ทำให้เสี่ยงต่อการระคายเคืองมากกว่าอยู่ดี (ถึงแม้จะใส่อะไรมาช่วยบำรุงในส่วนผสมก็ตาม) ปล. สีของถั่วตัวนี้แตกต่างกันไปตามฤดูกาล ทำให้สีในสูตรบางครั้งจะเป็นสีชมพูอ่อนๆหรือสีเหลืองอ่อนๆค่ะ ปล.2 ในสูตรทั้งสองมี HEXYL NICOTINATE ซึ่งจะทำให้ หลอดเลือดที่อยู่ใกล้กับผิวหนังเพิ่มขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางและเพิ่มการไหลเวียนเลือด
เครื่องนี้คือเครื่องวัดสภาพผิวหนัง จาก CosBeauty (ญี่ปุ่น) หัวเครื่องจะเป็นกล้องจุลทรรศน์และมีแสง UV สามารถมองเห็นทะลุลงไปถึงชั้นผิวหนังชั้นแท้ (Dermis) ได้ สามารถวัดความชุ่มชื้น ไขมันบนหน้า รวมไปถึงเห็นสิวหัวดำที่ยังไม่ขึ่้นมาอีกด้วย เพื่อการวัดความชุ่มชื้นเราจะนำเอาเครื่อง Cos Beauty มาวัดกันไปเลย จะได้ไม่ต้องคิดไปเองว่าสรุปผิวเราชุ่มชื้นหรือไม่ให้ Cos Beauty เค้าส่องเลย
ผลลัพธ์การวัดด้วยเครื่อง CosBeauty หลังใช้ PIXI glow tonic ผลลัพธ์การวัดด้วยเครื่อง CosBeauty หลังใช้ The ordinary glycolic acid การทดลองนี้ทำบนคนผิวหน้าผสม โดยแบ่งหน้าออกเป็นสองส่วน (ซ้าย / ขวา ) ChoiceChecker วัดความชุ่มชื้นทั้งสองด้านอยู่ที่ 38 (ขาดน้ำ และ มีไขมันบนหน้า) ChoiceChecker ให้ผู้กล้าของเราทา The Ordinary Glycolic Acid ด้านซ้าย และ Pixi Glow Tonic ด้านขวา รอ 5 นาทีและเอาเครื่อง Cos Beauty มาวัดความชุ่มชื้นอีกรอบ ผล: Pixi Glow Tonic ทำให้ผิวชุ่มชื้นกว่า The Ordinary อย่างเห็นได้ชัด |