ทำไมต้องใช้ iTunes ด้วยวะ ? Show คือคำถามที่เพื่อนติดหนวดของผมคนหนึ่ง และหลายๆ คนก็คงอยากรู้ว่า iTunes Store, App Store, iBookstore คืออะไร ใช้งานร่วมกับ iPhone, iPad, iPod อย่างไร? ผมตอบโกหนวดเพื่อนผมสั้นๆ ง่ายๆ แบบกวนๆ ว่า “ใครบังคับให้มึงใช้วะ?” โกหนวดบอกให้ผมตอบดีๆ กว่านั้นหน่อย.. ก็ได้..จัดให้ “เพราะ iTunes คือโปรแกรมของ Apple ให้มึงใช้ซื้อเพลง โหลดแอพจาก iTunes Store และเอาเพลง หนังเอ๊กซ์และรูปโป๊จากคอมพิวเตอร์ของมึงใส่ไปใน iPod, iPhone, และ iPad” มันยังไม่ยอมเข้าใจ “งงว่ะ อธิบายอีกหน่อยดิวะ” “อ่ะ…มึงดูรูปซะ เผื่อจะดีขึ้น” ความสัมพันธ์ระหว่าง iTunes, iTunes Store, Apps และอุปกรณ์ต่างๆ ผมบอกมันว่า “ถ้ามึงเข้าใจแล้ว..ก็โอเค ไม่ต้องฟังต่อให้เสียเวลา แต่ถ้าอยากรู้มากกว่านี้…เล่ายาวเลยนะมึง จะฟังป่าว?” มันตอบว่า “กูขี้เกียจ ไม่มีเวลาด้วย” ผมเลยบอกมันว่า “เฮ๊ย..ฟังเหอะ มีประโยชน์จริงๆ นะ เดี๋ยวกูไปเขียนบน facebook แล้วว่างๆ มึงค่อยเข้าไปอ่านก็ได้” มันตอบตกลงว่า “ก็ได้ แต่มึงต้องเลี้ยงข้าวกูด้วยนะ” อะไรของมันวะเนี่ย…งง เป็นอันว่าต้องมาเขียนให้มันอ่าน แล้วเลี้ยงข้าวมันอีกด้วย ไอ้โกหนวด…มึงอ่านเลยนะ กำเนิด iTunesเมื่อปี 2001 iTunes คือโปรแกรมที่ Apple พัฒนาขึ้นมาเพื่อให้ใช้งานร่วมกับ iPod (ดูประวัติของ iPod ได้ที่นี่ ) โดยมีความสามารถเพียง 4-5 อย่างให้มึงใช้คือ :
อ้อ..อธิบายเพิ่มเติมว่าการ Sync มันมี 2 แบบคือ…
แล้วอยู่ๆ มี iTunes Store ขึ้นมาได้ยังไง?ในยุคปี 2001 เพลงยังคงมาในรูปของ CD เป็นหลัก การจะเอาเพลงจากแผ่น CD ไปลงในคอมพิวเตอร์และ iPod เป็นเรื่องไม่ง่ายเลยถึงแม้ iTunes จะช่วยแปลงไฟล์ให้ก็ตาม แล้วถ้าเกิดชอบแค่เพลงเดียวใน CD แผ่นนั้น…ทำไมจะเสียเงินซื้อทั้งแผ่นด้วย? เพื่อเตอบโจทย์ลูกค้า Apple จึงได้เปิด iTunes Store ปี 2003 เพื่อให้ลูกค้าซื้อไฟล์เพลงได้ทั้งแบบเป็นเพลงๆ ในอัตราขายที่เพลงละ 99 เซ็นต์หรือประมาณ 30 บาทแล้วนำไปลงบน iPod ได้เลยโดยไม่ต้องแปลงไฟล์อีก (ถ้าซื้อทั้งอัลบั้มจะมีหลายราคาแต่โดยปกติราคาอัลบั้มละ $9.99) ต่อมาในปี 2005 Apple เริ่มจำหน่าย iPod Video ซึ่งเป็น iPod ที่สามารถเล่นไฟล์วีดีโอได้ iTunes Store ก็จึงเริ่มขายภาพยนต์ด้วย วิธีการซื้อหนังและเพลงจาก iTunes Store สามารถทำได้โดยผ่านโปรแกรม iTunes บนเครื่องคอมพิวเตอร์นั่นแหละ ลูกค้าจะต้องมี Apple ID พร้อมหมายเลขบัตรเครดิตในการชำระเงิน (ดูวิธีสมัคร Apple ID ได้ที่นี่) สิ่งที่เราจะได้มาในการซื้อเพลงคือไฟล์เพลงในรูปแบบ m4a ซึ่งก็เปรียบเสมือนไฟล์ mp3 ที่ Apple พัฒนามันขึ้นมาเองเพื่อให้มีคุณภาพเสียงที่ดีกว่าเมื่อใช้ bitrate เท่ากัน นอกจากอุปกรณ์ยี่ห้อ Apple แล้วเครื่องคอมพิวเตอร์ที่มีโปรแกรมฟังเพลงทุกชนิด (รวมทั้ง iTunes) สามารถเล่นไฟล์ m4a ได้ ส่วนเครื่องเล่นเพลงแบบพกพา Smartphone เครื่องเสียงทั้งบ้านและรถยนต์ เครื่องเล่น CD/DVD และเครื่องอ่านไฟล์ดิจิตัลที่อายุไม่เกิน 10 ปี ส่วนใหญ่เล่นไฟล์ m4a ได้ ในปัจจุบันไฟล์เพลงที่ซื้อมาจาก iTunes Store มีคุณภาพเสียงหรือ bitrate ที่ 256 Kbps ซึ่งนับได้ว่าค่อนข้างสูงในระดับที่เทียบเคียงกับแผ่น CD เลยทีเดียว และยังมี Metadata เช่นภาพหน้าปกอัลบั้ม ชืออัลบั้ม ชื่อศิลปิน ชื่อผู้แต่ง ประเภทของเพลง และข้อมูลอื่นๆ ที่เรียกกันว่า Metadata อีกด้วย (ดังตัวอย่างในภาพ) Metadata ของไฟล์เพลงที่ซื้อจาก iTunes Store App Store, iBookstore, iCloud โอว…จะอะไรกันนักหนา?จากที่เล่ามาข้างต้น .. กาลเวลาผ่านไป.. …กรุณาย้อนกลับไปดูภาพแรกอีกครั้งหนึ่ง… โกหนวด ถ้ามึงสังเกตุดู มึงจะเห็นว่า… ถ้าเป็น iDevice มึงจะต้องใช้ App ที่มาพร้อมกับเครื่องถึงสามตัวคือ App Store, iTunes, และ iBook แต่ถ้าเป็น iPod ที่ไม่สามารถเชื่อมต่อกับ Internet ด้วยตัวเองได้อย่างเช่น iPod Classic, iPod Nano, iPod Shuffle ยังไงก็ต้องใช้ iTunes ผ่านเครื่องคอมพิวเตอร์ ดังนั้นต้องใช้ iTunes เมื่อ…มาถึงตรงนี้ หลายๆ คนก็จะบอกว่า “ก็ใช้ iDevice อยู่ไม่เห็นต้องใช้โปรแกรม iTunes บนเครื่องคอมเลย” เป็นคำตอบที่ถูกต้อง…..เก่งมากครับ โปรแกรม iTunes ถูกพัฒนามาเรื่อยๆ เพื่อให้มีความสามารถมากขึ้น รวมถึงเพื่อตอบสนองความต้องการใหม่ๆ ของลูกค้าด้วย Apple จึงได้สร้าง iCloud ขึ้นมาเมื่อปี 2011 สำหรับให้ลูกค้าที่มี iDevice ใช้เป็นพื้นที่เก็บข้อมูลต่างๆ แทนเครื่องคอมพิวเตอร์และทำการ Sync ผ่านทาง Wireless ไปยังเครื่องอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็น iPhone, iPad, iPod (รวมทั้งเครื่อง Mac ด้วย) ที่ใช้ Apple ID เดียวกันได้อีกด้วย iCloud การกำเนิดของ iCloud ทำให้การใช้ iTunes บนคอมพิวเตอร์ดูเหมือนจะไม่จำเป็นอีกต่อไป สำหรับคนที่มีข้อมูลเยอะๆ ก็ต้องจ่ายค่าพื้นที่สำหรับ iCloud เป็นรายปี และที่สำคัญก็คือเพลงส่วนใหญ่ของเราไม่ได้ซื้อมาจาก iTunes Store แต่มันอยู่บนเครื่องคอมพิวเตอร์ และเมื่อใดก็ตามที่…
วิธีเดียวที่ทำได้คือ Sync ผ่านโปรแกรม iTune สรุปว่า..ต้องใช้โปรแกรม iTunes เมื่อ… และเมื่อ iDevice มีปัญหาและต้องทำการล้างเครื่องเพื่อลงทุกอย่างใหม่ จะต้อง Restore ด้วยโปรแกรม iTunes เท่านั้น …จบละ… แต่โกหนวด…มึงเชื่อไหมว่า… @การซื้อเพลงครั้งที่ 25,000,000,000 บน iTunes Store เกิดขึ้นเมื่อปี 2013 @ยอดรวมการดาวน์โหลด App จาก App Store ถึงเดือนมิถุนายนปี 2014 คือ 75,000,000,000 ครั้ง อ้อ…ช่วงนี้กูคงยังไม่ว่างไปเลี้ยงข้าวมึงนะ *หมายเหตุ ตอนนี้อาจจะมีนักพัฒนาทำ App ขึ้นมาแทน iTunes แต่เชื่อว่าคงทำงานได้ไม่สมบูรณ์โดยเฉพาะเวลาที่ Apple เริ่มจำหน่าย iPhone, iPad ตัวใหม่ หรือ เวลาที่มีการอัพเดท iOS เวอร์ชั่นใหม่ๆ Itune เอาไว้ทําอะไรด้วย iTunes คุณสามารถทำสิ่งต่างๆ ต่อไปนี้ได้: จัดระเบียบหรือเล่นเพลงและวิดีโอ เล่นหรือดาวน์โหลดเพลงได้ไม่จำกัดจำนวนด้วย Apple Music (เมื่อสมัครรับแบบชำระเงิน) ค้นหาเพลง ภาพยนตร์ รายการทีวี หนังสือเสียง พ็อดคาสท์ฟรี และอื่นๆ ใน iTunes Store.
iTunes แปลว่าอะไร แปลว่าiTunes เป็นแอปพลิเคชันที่ทำงานบน Mac OS X และ Windows หน้าที่หลักของแอปฯ นี้คือ จัดการเพลง, จำหน่ายเพลง ภาพยนต์ แอปฯ ฯลฯ และจัดการซิงก์ข้อมูลอุปกรณ์อย่าง iPhone, iPad หรือ iPpd touch แล้วสงสัยกันไหมว่า “iTunes อ่านออกเสียงยังไงและความหมายคืออะไร?” วันนี้มีคำตอบ iTunes ออกเสียงประมาณว่า อาย ทูนซฺ
ใช้itune ยังไงเชื่อมต่ออุปกรณ์กับคอมพิวเตอร์ของคุณ คุณสามารถเชื่อมต่ออุปกรณ์ของคุณได้โดยใช้สาย USB หรือ USB-C หรือการเชื่อมต่อ Wi-Fi ในการเปิดใช้การเชื่อมข้อมูลผ่าน Wi-Fi ให้ดูที่ เชื่อมข้อมูลเนื้อหา iTunes บน PC กับอุปกรณ์บน Wi-Fi. ในแอป iTunes บน PC ของคุณ ให้คลิกปุ่มอุปกรณ์บริเวณด้านซ้ายบนสุดของหน้าต่าง iTunes. คลิก เนื้อหาสรุป
เชื่อมต่อ iPhone กับ itune ยังไงเชื่อมต่ออุปกรณ์เข้ากับคอมพิวเตอร์โดยใช้สาย USB จากนั้นเปิด iTunes แล้วเลือกอุปกรณ์ของคุณ ดูสิ่งที่ควรทำหากอุปกรณ์ไม่ปรากฏในคอมพิวเตอร์ คลิกสรุปตรงด้านซ้ายของหน้าต่าง iTunes. เลือก "ซิงค์กับ [อุปกรณ์] นี้ผ่าน Wi-Fi" คลิก “ใช้”
|