อันตรายจาก เครื่องจักร ppt

การป้องกันอันตรายของเครื่องจักร 

 อันตรายที่เกินขึ้นเนื่องจาการทำงานกับเครื่องจักร มักปรากฎขึ้นในสถานประกอบกิจการต่างๆ อยู่เสมอ จากสถิติการประสบอันตรายจากการทำงานของสำนักงาน
กองทุนเงินทดแทน ปี พ.ศ.2549 พบว่า มีคนงานที่ประสบอุบัติเหตุเนื่องจากการทำงาน โดยถูกเครื่องจักร ชน กระแทก หนีบ หรือดึง เป็นจำนวนถึง 26,955 ราย หรือ คิดเห็น ร้อยละ
13.20 ของจำนวนผู้ที่ประสบอันตรายทั้งหมด 204,257 ราย สาเหตุ ของอันตรายที่เกิดขึ้นมักเกิดจากเครื่องจักรชำรุด เครื่องจักรมีสภาพที่ไม่ปลอดภัย รวมถึงความประมาทของผู้
ทำงานกับเครื่องจักร จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องหาวิธีการป้องกันอันตรายมิให้เกิดขึ้นได้ และการป้องกันที่ได้ผลวิธีหนึ่ง คือ การติดตั้งเซฟการ์ด หรือ ฝาครอบที่เหมาะสมที่เครื่องจักร ณ
จุดที่ก่อให้เกิดอันตรายได้ รวมถึง การแขวนป้ายเตือน ป้ายห้ามเดินเครื่องจักรในระหว่างการซ่อมบำรุง

   
อันตรายจาก เครื่องจักร ppt

      แบ่งได้ 3 ประเภทใหญ่ ๆ คือ

 

        1. เครื่องส่งถ่ายกำลัง ได้แก่ เพลา สายพาน โซ่่ กระเืดื่อง เฟือง ปุลเ่ล่ เกียร์ อันตรายที่เกิดกับคนงานส่วนใหญ่
่ อยู่ในลักษณะของการถูกชน กระแทก หนีบรั้งเข้าไป ทำให้สูญเสียอวัยวะ เช่น มือ แขน เท้า ขา ใบหน้า ศรีษะ ผิวหนัง
เป็นต้น ทำให้คนงานพิการหรือเสียชีวิต

         2. เครื่องจักรซ่อมบำรุง ได้แก่ เครื่องกลึง เครื่องกัด เครื่องไส เครื่องเจาะ เครืิ่องเจียร ลักษณะของอันตรายมัก
อยู่ในรูปของอุบัติเหตุที่เกิดแก่ นิ้วมือ แขน เท้า ใบหน้า ลำตัว ศรีษะ และผิวหนัง และมักเกิดแก่คนงานที่ทำงานกับ
เครื่องจักรนั้นโดยตรง

         3. เครื่องจักรในกระบวนการผลิต ได้แก่ สายพานลำเลียงวัสดุ เครื่องปั้มโลหะ ปั้นจั่นยกเคลื่อนย้ายวัสดุ
เครื่องเป่า ฉีด หรือเครื่องจักรขึ้นรูปโลหะ/อโลหะต่างๆ อันตรายที่เกิดแก่คนงาน เกิดจากวัสดุกระเด็น วัสดุมีคมบาดมือ
เท้า หรือเครื่องจักรหนีบ ฉุดดึงมือ/เสื้อผ้าเข้าไป

     

อันตรายจาก เครื่องจักร ppt
อันตรายจาก เครื่องจักร ppt

 
     ป้องกันไม่ให้คนสัมผัสกับส่วนที่เคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลาของเครื่องจักร เ่ช่น เกียร์ ปุลเล่ สายพาน ใบมีดตัด ฯลฯ

      ป้องกันมิให้คนสัมผัสกับลักษณะงานที่เป็นอันตรายมาก เช่น ป้องกันการกระเด็นของวัตถุ ถูกตา ใบหน้า ป้องกันถูกเลื่อยตัด

      ป้องกันอันตรายที่เกิดจากการชำรุดของเครื่องจักร เนื่องจากเครื่องจักรขาดการบำรุงรักษา ใช้ผิดวัตถุประสงค์ หรือใช้เครื่องจักรเกินกำลัง เป็นเหตุให้เกิดอันตรายต่อผู้ใช้เครื่องจักร

      ป้องกันการเกิดเพลิงไหม้ หรือป้องกันอันตรายจากไฟฟ้า เนื่องจากระบบไฟฟ้าชำรุด หรือ ต่อไว้ไม่ถูกต้อง

      ป้องกันอันตรายเนื่องจากความบกพร่องของตัวผู้ใช้เอง เช่น ง่วง เหนื่อย เมื่อย เมื่อยล้า เจ็บป่วย เป็นต้น

    

อันตรายจาก เครื่องจักร ppt


ได้รับการออกแบบถูกต้องตามมาตรฐาน สามารถประกอบกับเครื่องจักรได้เหมาะสม ส่วนใหญ่
  จะติดตั้งมาพร้อมกับเครื่องจักร

    สามารถป้องกันอันตรายได้มากที่สุด และทั่วบริเวณการทำงานของคนงาน

    เซฟการ์ดที่ติดตั้งจะต้องไม่ก่อให้มีจุดอ่อนเป็นชนวนให้เกิดอันตรายกับคนที่ใช้เครื่องจักรนั้น

    เมื่อติดตั้งเซฟการ์ดจะต้องไม่รบกวน ขัดขวางการทำงานจนทำให้ประสิทธิภาพการทำงาน
  ลดลงหรือเกิดความไม่สะดวกสะบายต่อผู้ใช้เครื่องจักร

    มีความเหมาะสมกับงาน หรือเครื่องจักรนั้นโดยเฉพาะ สะดวกต่อการปรับแต่ง การตรวจสอบ
  การบำรุงรักษา และการซ่อมแซม

    ต้องทนทานต่อการกัดกร่อนของกรด ด่าง

    วัสดุที่ใช้ต้องคงทน แข็งแรง สามารถรับน้ำหนัก แรงกระแทกและแรงกดได้เป็นอย่างดี

   
ตะแกรงลวดถักหรือตาข่าย

    ตาข่ายเหล็กยึด

    แผ่นเหล็กเจาะรูหรือไม่เจาะรู

    แผ่นไม้อัดหรือแผ่นพลาสติก

    แผ่นหรือแท่งพลาสติกไฟเบอร์

 
         ศูนย์ความปลอดภัยในการทำงานพื้นที่ 5
            กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน กระทรวงแรงงาน
 

ในสังคมยุคอุตสาหกรรม ปัจจุบัน ปฏิเสธไม่ได้เลย ที่จะใช้เครื่องจักรและเทคโนโลยีที่ทันสมัยต่างๆ ยิ่งเครื่องจักรอุตสาหกรรม ที่สามารถตอบสนอง ต่อกระบวนการผลิตที่ต้องการผลผลิตคราวละมากๆ ผลิตได้ไวตามที่ลูกค้าต้องการ ด้วยเหตุนี้เครื่องจักรจึงเข้ามามีบทบาทมากสำหรับประเทศอุตสาหกรรม สิ่งที่ตามมาคือ อันตรายและอุบัติเหตุต่างๆ อันมีสาเหตุหลักมาจากเครื่องจักร ซึ่งสาเหตุสำคัญของการเกิดอุบัติเหตุจากเครื่องจักร มีอยู่หลายสาเหตุ ดังนี้

สาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุจากเครื่องจักร ได้แก่

สาเหตุเกิดจากผู้ปฏิบัติงาน
1.1 การแต่งกายไม่รัดกุม บุคคลที่ทำงานกับเครื่องจักรไม่ควรไว้ผมยาว ผูกเนคไท ใส่เสื้อผ้าไม่รัดกุม รวมทั้งกำไล แหวน นาฬิกา เพราะอาจจะทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ขณะทำงาน
1.2 ขาดความตระหนักในการสวมใส่อุปกรณ์ ป้องกันภัยส่วนบุคคล PPE อาาจะมองว่าการทำงานไม่สะดวกมีความรู้สึกเกะกะในขณะใช้เครื่องจักร
1.3  สภาพร่างกายของผู้ปฏิบัติงานไม่พร้อมที่จะทำงาน ทำให้ขาดสมาธิในการทำงาน ซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุได้
1.4  การขาดการฝึกอบรมการใช้งานที่ถูกต้อง การทำงานกับเครื่องจักรต่างๆ ต้องได้รับการฝึกอบรมที่ถูกต้อง เพื่อให้สามารถปฏิบัติงานได้ถูกต้อง

สาเหตุจากสภาพของเครื่องจักรและอุปกรณ์
2.1 เครื่องจักรชำรุด รวมทั้งเครื่องมืออุปกรณ์ประกอบ เช่น น็อตหลวม แท่นเครื่องหลวมคลอนไม่แน่น สายพานใกล้จะขาด เป็นต้น
2.2 เครื่องจักรขาดระบบเซฟตี้การ์ด ทำให้เกิดอุบัติเหตุต่อผู้ปฏิบัติงานได้ การใช้เครื่องจักรที่ไม่มีระบบป้องกันอันตราย

สาเหตุจากสภาพแวดล้อมในการทำงาน
3.1 ความไม่เป็นระเบียบเรียบร้อยในบริเวณปฏิบัติงาน มีวัสดุกีดขวางในระหว่างปฏิบัติงาน 
3.2 สภาพโดยรอบมีแสงสว่างไม่เพียงพอ ในสถานที่ปฏิบัติงาน
3.3 สภาพแวดล้อมที่มีเสียงดัง โดยไม่มีการป้องกัน จะทำให้ความสามารถในการรับฟังไม่ดีพอ เกิดการสื่อสารผิดพลาด ทำให้เกิดอุบัติเหตุได้
3.4 สถานที่ปฏิบัติงานมีเนื้อที่คับแคบ ไม่มีความสะดวกในการปฏิบัติ ก่อให้เกิดอุบัติเหตุได้
3.5 การระบายอากาศและการขจัดกลิ่นควันหรือไอพิษไม่ดีพอ
3.6 สถานที่ปฏิบัติงานไม่มีทางหนีไฟหรือทางฉุกเฉิน ตามที่กฎหมายกำหนด
3.7 ขาดระบบป้องกันอัคคีภัยและอุปกรณ์ดับเพลิงที่ถูกต้อง ตามที่กฎหมายกำหนด
3.8 ขาดการป้องกันระบบไฟฟ้าที่เหมาะสม ถูกต้องตามที่กฎหมายกำหนด

สรุป: การทำงานกับเครื่องจักให้เกิดความปลอดภัยนั้นควรเริ่มจากความตระหนักจากผู้ปฏิบัติงานการตรวจสอบอุปกรณ์ต่างๆและวิธีการทำงานอย่างถูกวิธีทำตามกฎความปลอดภัยที่ทาง จป หัวหน้างาน ได้ออกระเบียบข้อบังคับด้านไว้ปลอดภัยอย่างเคร่งครัด