สัมภาระที่นำขึ้นเครื่องของการบินไทยได้ สามารถแบ่งง่าย ๆ ได้เป็น 2 ประเภท คือ สัมภาระฝาก(โหลด)ใต้เครื่อง และ สัมภาระถือขึ้นเครื่อง ซึ่งสัมภาระในส่วนที่โหลดลงใต้เครื่อง จะมีปัจจัยที่เป็นตัวกำหนดปริมาณน้ำหนักสูงสุดสำหรับแต่ละท่าน อยู่ที่ประเภทของชั้นโดยสารที่เดินทาง และ การถือครองสมาชิกรอยัลออร์คิดพลัส(Royal Orchid Plus, ROP) Show สัมภาระฝากใต้เครื่อง (Checked Baggage)สัมภาระที่ไม่มีค่าใช้จ่าย (Free baggage)ทางการบินไทยมีเกณฑ์กำหนดขีดจำกัดนำหนักของสัมภาระที่ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม โดยขึ้นอยู่กับเงื่อนไขและข้อจำกัดของการบินไทย สำหรับเกณฑ์น้ำหนักสัมภาระของชั้นโดยสารแต่ละประเภท ที่ใช้สำหรับการเดินทางระหว่างประเทศ มีดังนี้..
หมายเหตุ: ตารางนี้ใช้สำหรับการเดินทางระหว่างประเทศในกลุ่ม TC3 และ ระหว่างกลุ่ม TC2, TC3 "การบินไทย ประกาศเพิ่มน้ำหนักสัมภาระทุกที่นั่ง 10 กก. เมื่อเดือนกันยายน 2014" สิทธิประโยชน์เพิ่มน้ำหนักสัมภาระจากรอยัลออร์คิดพลัสสถานภาพในแต่ละระดับของบัตรสมาชิกรอยัลออร์คิดพลัส จะมีสิทธิประโยชน์ที่แตกต่างกันเมื่อเดินทางกับการบินไทย และสายการบินพันธมิตร สตาร์อัลไลแอนซ์ สำหรับสิทธิการเพิ่มพิกัดน้ำหนักกระเป๋ามีรายละเอียดดังนี้..
หมายเหตุ: สิทธิ์การเพิ่มพิกัดน้ำหนักสำหรับผู้ถือบัตรเงินอาจมีการยกเว้น กรณีในเส้นทางบินที่มีการพิจารณาน้ำหนักกระเป๋าเป็นจำนวนชิ้น และสิทธิประโยชน์นี้อาจไม่สามารถใช้ได้ในทุกเส้นทางบินของการบินไทย ส่วนผู้ถือบัตรทองและบัตรแพลทินัมจะได้รับสิทธิ์ในการเพิ่มกระเป๋า 1 ชิ้น ทดแทนการเพิ่มน้ำหนัก สัมภาระส่วนเกิน (Excess baggage)นอกเหนือไปจากขีดจำกัดของน้ำหนักสัมภาระที่ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย ตามข้อมูลข้างต้นแล้ว หากมีสัมภาระส่วนที่เกินมาจะต้องมีการถูกชั่ง และเก็บค่าบริการก่อนที่ผู้โดยสารจะขึ้นเครื่อง ตามเกณฑ์ที่กำหนดของสายการบิน ซึ่งขึ้นอยู่กับระยะทางของเที่ยวบินในแต่ละโซน เช่น จากประเทศไทย (โซน 1) ไปยัง ประเทศออสเตรเลีย SYD, BNE, MEL (โซน 4) คิดราคาที่กิโลกรัมละ 30 USD เป็นต้น พร้อมทั้งพิจารณาถึงประเภทของสัมภาระส่วนเกิน ว่าเข้าเงื่อนไขสัมภาระพิเศษ*หรือไม่ (รายละเอียด..) ดังนั้นควรหากไม่มั่นใจเรื่องน้ำหนักสัมภาระของท่านว่าจะเกินหรือไม่ ควรชั่งก่อนเดินทาง ซึ่งถ้าเกินกว่าขีดจำกัดที่กำหนด สามารถซื้อน้ำหนักกระเป๋าเพิ่มได้ (รายละเอียดท้ายบทความ) สัมภาระถือขึ้นเครื่อง (Carry-on Baggage)นอกจากสัมภาระที่ฝากใต้เครื่องโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายแล้ว ผู้โดยสารของการบินไทยแต่ละท่าน ยังสามารถถือสัมภาระขึ้นเครื่องได้อีก 1 ชิ้น โดยมีข้อกำหนดดังนี้..
ขนาดดังกล่าวนี้วัดระยะรวมทั้งล้อ มือจับ และกระเป๋าด้านข้างแล้ว ทั้งนี้ผู้โดยสารจะต้องวางกระเป๋าสัมภาระดังกล่าวไว้บนตู้เก็บเหนือศีรษะ หรือ ใต้เบาะของตนเอง และผู้โดยสารยังสามารถนำสิ่งของต่อไปนี้ขึ้นเครื่องได้อีก โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ได้แก่..
โดยสัมภาระถือขึ้นเครื่องทั้งหมดนี้ ต้องปฎิบัติตามกฎข้อจำกัดปริมาณของเหลว เจล สเปรย์ ที่มีภาชนะความจุแต่ละชิ้นไม่เกิน 100 มิลลิลิตร (วัดจากภาชนะ ไม่คำนึงของเหลวที่อยู่ข้างใน) และรวมกันไม่เกิน 1 ลิตร (1,000 มิลลิลิตร) พร้อมทั้งบรรจุลงในถุงพลาสติกใสซึ่งเปิด-ปิดผนึกได้ มีข้อยกเว้นสำหรับ นม อาหารสำหรับเด็กทารก และยาที่มีเอกสารกำกับ *รายละเอียดเพิ่มเติมดูที่เว็บไซต์ของการบินไทย คำแนะนำจากผู้เขียนควรระมัดระวังเรื่องน้ำหนักสัมภาระเกิน แม้บางครั้งเจ้าหน้าที่อาจจะผ่อนผันให้บ้าง แต่ก็เป็นดุลยพินิจของทางเจ้าหน้าที่ โดยมีสิทธิที่จะเรียกเก็บค่าบริการเพิ่ม หรือ ปฏิเสธในการรับสัมภาระ อีกเรื่องคือ.. ถึงแม้ผู้โดยสารจะได้สิทธิน้ำหนักสัมภาระปริมาณมาก แต่น้ำหนักสูงสุดต่อกระเป๋า 1 ใบ ต้องไม่เกิน 32 กิโลกรัม ซึ่งเป็นข้อกำหนดสากลของสายการบินนานาชาติ อันเนื่องมาจากการปกป้องสวัสดิภาพของพนักงานที่ยกกระเป๋า หมายเหตุ: บทความนี้ให้ข้อมูลเจาะจงเฉพาะเที่ยวบินเดินทางระหว่างประเทศไทยและออสเตรเลีย(ซิดนีย์ เมลเบิร์น บริสเบน)เป็นหลัก หากท่านเดินทางไปยังประเทศอื่น หรือ ใช้สายการบินเดินทางมากกว่าหนึ่งสายการบิน ควรตรวจสอบข้อมูลจากทางการบินไทยอีกครั้ง และบทความนี้เป็นข้อมูล ณ วันที่ผู้เขียนได้ทำการค้นคว้าและเผยแพร่ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ในอนาคต ทั้งนี้ผู้อ่านควรหาข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อประกอบการพิจารณาอีกครั้ง ,ขอบคุณครับ พิเศษ.. การบินไทยเปิดให้บริการซื้อนำหนักกระเป๋าเพิ่มเมื่อกลางปี 2014 ที่ผ่านมา ทางเว็บไซต์ของการบินไทยได้เปิดช่องทางใหม่สำหรับผู้ที่ต้องการซื้อนำหนักสัมภาระเพิ่ม โดยต้องซื้อล่วงหน้าอย่างน้อย 24 ชั่วโมงก่อนเดินทาง และสามารถซื้อสูงสุดได้ไม่เกิน 30 กิโลกรัมต่อ 1 ท่าน (รายละเอียด..) ข้อมูลอ้างอิงและรูปประกอบ: |