จากการดำเนินการชิ้นงานสิ่งประดิษฐ์ เรื่องพัดลมพกพา พบว่า พัดลมจะทำงานได้เมื่อกระแสไฟฟ้าเข้าสู่ระบบ กระแสไฟฟ้าจึงไหลเข้าสู่ตัวมอเตอร์ ทำให้แกนมอเตอร์หมุน ใบพัดจะหมุนตามจึงเกิดเป็นลม 5.1 สรุปผล 5.1.1 ผลการศึกษาพบว่า หลักการทำงานของพัดลม คือ
พัดลมจะทำงานได้เมื่อกระแสไฟฟ้าเข้าสู่ระบบ และเมื่อกดปุ่มเลือกให้ลมแรงหรือเร็วตามที่ผู้ใช้ต้องการ กระแสไฟฟ้าจึงไหลเข้าสู่ตัวมอเตอร์ ทำให้แกนมอเตอร์หมุน ใบพัดที่ติดอยู่กับแกนก็จะหมุนตามไปด้วยจึงเกิดเป็นลมพัดออกมา 5.1.2พัดลมที่ได้มาตรฐาน ต้องมีคุณสมบัติ ดังนี้ มีระบบการป้องกันไฟฟ้า มีการป้องกันการสัมผัสโดยตรงกับส่วนที่มีกระแสไฟฟ้า พัดลมไม่ไหม้เสียหายจากอุณหภูมิที่เพิ่มขึ้น เพราะจะไม่สูงเกินค่าที่กำหนดไว้ กระแสไฟฟ้ารั่วได้ไม่เกิน 0.5 มิลลิแอมแปร์ ทำให้ไม่มีอันตรายแก่ผู้ใช้
5.2อภิปรายผล 5.2.1 พัดลมจะทำงานได้เมื่อกระแสไฟฟ้าเข้าสู่ระบบ และเมื่อกดปุ่มเลือกให้ลมแรงหรือเร็วตามที่ผู้ใช้ต้องการ กระแสไฟฟ้าจึงไหลเข้าสู่ตัวมอเตอร์ ทำให้แกนมอเตอร์หมุน ใบพัดที่ติดอยู่กับแกนก็จะหมุนตามไปด้วยจึงเกิดเป็นลมพัดออกมา 5.2.2 จากผลการศึกษา พัดลมที่มีระบบการป้องกันไฟฟ้า มีการป้องกันการสัมผัสโดยตรงกับส่วนที่มีกระแสไฟฟ้า
พัดลมไม่ไหม้เสียหายจากอุณหภูมิที่เพิ่มขึ้น กระแสไฟฟ้ารั่วได้ไม่เกิน 0.5 มิลลิแอมแปร์ เป็นพัดลมที่ได้มาตรฐาน 5.2.3 ข้อดีของพัดลมพกพา คือ ความสะดวกสบาย พกพาได้ง่าย 5.3 ข้อเสนอแนะ 5.3.1ควรประดิษฐ์ตะแกรงพัดลมที่มีรูปทรงอื่นๆ นอกจากทรงแบบเดิม เพื่อเพิ่มความหลากหลาย ของรูปแบบพัดลม รายงานโครงงานวิทยาศาสตร์ เรื่อง พัดลมตั้งโต๊ะจากไม้ไอติมคณะผู้จัดทำ๑.ภาคินทร์ วงค์แปลก ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๒๒.Frasat Ahmad สีงโต ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๒๓.กรินทร์ เบ้าดินดำ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๒๔.สรวิทย์ สกสด ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๒๕.กมล เบ้าดินดำ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๒๖.อาทิรักษ์ ปัญจเชาว์วัฒน์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๒ครูที่ปรึกษา ครูศรันยา วงษ์ปินรายงานฉบับนี้เป็นส่วนหนึ่งของรายิชาวิทยาศาสตร์ รหัสวิชา ว ๒๒๑๐๑ภาคเรียนที่ ๒ ปีการศึกษา ๒๕๖๑โรงเรียนมนต์จรัสสิงห์อนุสรณ์--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ชื่อโครงงานพัดลมตั้งโต๊ะจากไม้ไอติม คณะผู้จัดทำ๑.ภาคินทร์ วงค์แปลก ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๒๒.Frasat Ahmad สีงโต ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๒๓.กรินทร์ เบ้าดินดำ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๒๔.สรวิทย์ สกสด ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๒๕.กมล เบ้าดินดำ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๒๖.อาทิรักษ์ ปัญจเชาว์วัฒน์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๒อาจารย์ที่ปรึกษา อาจารย์ศรันยา วงษ์ปินชื่อโรงเรียนมนต์จรัสสิงห์อนุสรณ์ภาคเรียนที่ ๒ ปีการศึกษา ๒๕๖๑บทคัดย่อ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- กิตติกรรมประกาศโครงงานการประดิษฐ์พัดลมจากไม้ไอติม ได้รับความช่วยเหลลือเป็นอย่างดีจากอาจารย์ศรันยา วงษ์ปินที่ให้คำปรึกษา แนะนำตลอดการดำเนินงาน ในการให้ความรู้ในการสร้างสรรค์ผลงาน คณะผู้จัดทำ ขอขอบพระคุณผู้มีอุปการคุณท่านที่ให้ความช่วยเหลือในเรื่องต่าง ๆ ที่ทำให้โครงงานการ ประดิษฐ์พัดลมจากไม้ไอติมประสบผลสำเร็จเป็นอย่างดี ภาคินทร์ วงค์แปลก Frasat Ahmad สีงโต กรินทร์ เบ้าดินดำ สรวิทย์ สกสด กมล เบ้าดินดำ อาทิรักษ์ ปัญจเชาว์วัฒน์ --------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- สารบัญเรื่อง หน้า บทคัดย่อ กกิตติกรรมประกาศ ขสารบัญ คบทที่ ๑ บทนำ ๑๑.๑ ที่มาและความสำคัญ ๒๑.๒ วัตถุประสงค์ของโครงงาน ๒๑.๓ สมมติฐาน ๒๑.๔ ตัวแปรที่เกี่ยวข้อง ๒๑.๕ ขอบเขตการศึกษาค้นคว้า ๒๑.๖ ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ ๒บทที่ ๒ เอกสารที่เกี่ยวข้อง ๓บทที่ ๓ วัสดุอุปกรณ์และวิธีดำเนินการศึกษา ๔--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- บที่๑บทนำที่มาและความสำคัญของโครงงานทำพัดลมตั้งโต๊ะจากไม้ไอติมเป็นภูปัญญาจากเยาวชน คิดค้นขึ้นมา คือ นำไม้ไอติมมาทำเป็นพัดลมตั้งโต๊ะจากไม้ไอติม ซึง เป็นการนำของกลับมา(Recycle) และ หาวัสดุได้ง่ายในท้องถิ่น เพราะไม้ไอติมที่กินเสร็จแล้วเป็นวัสดุที่เหลื่อใช้ จึงได้จัดทำโครงงานทำพัดลมตั้งโต๊ะจากไม้ไอติมวัตถุประสงค์๑.เพื่อนำสิ่งของที่ใช้แล้วนำกลับมาใช้ใหม่๒.เพื่อเป็นการอนุรักษ์สิ่งแวดลอม สมมติฐานของการศึกษาไม้ไอติมสามรถนำมาทำเป็นพัดลมตั้งโต๊ะจากไม้ไอติม ตัวแปรที่เกี่ยวข้องตัวแปรต้น ไม้ไอติมที่เหลื่อใช้ตัวแปรตามพัดลมตั้งโต๊ะจากไม้ไอติม ขอบเขตการศึกษาค้นคว้า๑.โรงเรียนมนต์จรัสสิงห์อนุสรณ์ และ ที่บ้าน๒.ระยะเวลาในการทำโครงงานวันที่ ๒๑-๓๐ พฤศจิกายน ๒๕๖๑ --------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- บที่๒เอกสารที่เกี่ยวข้องประวัติไม้ไอติม เล่ากันว่า"ไอติม"มีต้นกำเนิดมาจากดินแดนในต่างประเทศ
ทั้งนี้ได้แพร่กระจายเข้ามาในประเทศไทยเมื่อสมัยรัชกาลที่ 5 ในสมัยนั้นส่วนใหญ่จะใช้รับประทานกันแต่ภายในวังเป็นส่วนใหญ่ เนื่องจากไอศกรีมเป็นอาหารหวานที่ทันสมัยหรืออาจจะเรียกได้ว่าเป็นนวัตกรรมให้มาก็ว่าได้ ใครได้ลองรับประทานไอศกรีมในสมัยนั้นก็ถือว่า เป็นคนที่ก้าวล้ำนำสมัยไปโดยปริยาย จุดเริ่มต้นของไอศกรีมในระดับสากล นายโทมัส อาร์ควินนี่ เล่าว่า การรับประทานไอศกรีมน่าจะเริ่มต้นกันมาตั้งแต่สมัยจักรพรรดิเนโรห์ แห่งอนาจักรโรมันที่ได้พระราชทานเลี้ยงไอศกรีมแก่เหล่าทหารหาญที่อยู่ในกองทัพของพระองค์ แต่ในขณะนั้นไอศกรีมเกิดจากเป็นการนำหิมะมาผสมเข้ากับน้ำผึ้งและผลไม้ ต่อมาเรียกไอศกรีมประเภทนี้ว่า เชอร์เบ็ท(Sherbet)นั่นเอง แต่ตำนานนี้ก็หาได้เป็นแค่ตำนานเดียวที่เล่าสืบต่อกันมาถึงต้นกำเนิดของไอศกรีมไม่ หากแต่บางกระแสก็ระบุว่าบรรพชนของคนจีนค้นพบไอศกรีมเป็นครั้งแรก เมื่อประมาณ 4,000 ปีที่ผ่านมา ซึ่งลักษณะของไอศกรีมในประเทศจีนทำมาจากข้าวบดผสมกับนมสดที่เย็นจนเป็นนำแข็ง และได้มีการสอนให้ทำไอศกรีมให้กับคนอินเดียและชาวเปอร์เชียอีกด้วย การก่อกำเนิดไอศกรีมตาม ตำนานประเทศจีนระบุว่า เป็นเรื่องของความบังเอิญแท้ๆ ทั้งนี้เป็นที่ทราบกันดีว่าประเทศจีนในสมัยนั้นเพิ่งจะมีการรู้จักรีดนมจากสัตว์เลี้ยงที่อยู่ในฟาร์ม เมื่อรีดออกมาจำนวนมากก็บริโภคไม่หมด ประกอบกับน้ำนมเป็นสินค้าที่มีราคาแพงมากๆ คนชั้นสูงเห็นท่าไม่ดีจึงเกิดแนวคิดนำน้ำนมไปหมกซ่อนไว้ในหิมะนัยว่าเพื่อ ต้องการที่จะถนอมน้ำนมเอาไว้รับประทานได้นานๆเกิดขึ้นด้วยความบังเอิญแท้ๆ จนกระทั่งน้ำนมที่นำไปหมกไว้ในหิมะกลายเป็นนมแช่แข็งขึ้นมาในบัดดล จากนั้นก็มีการพัฒนารูปแบบจากนมแช่แข็งที่แสนจะสุดธรรมดาให้กลายเป็นน้ำผลไม้แช่แข็ง ในส่วนของราชวงศ์โมกุลได้นำเอานมต้มมาผสมกับถั่วพิสตาซิโอจนเกิดเป็นของหวานแช่แข็งเรียกกันว่า Kulfi ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นแบบแผนของไอศกรีมในยุคโบราณ จนปลายศตวรรษที่ 13 มาร์โคโปโล เดินทางไปจีน และชื่นชอบ จึงนำสูตรกลับไป อิตาลีขณะเดินทางมีการเติมนมลงไป กลายเป็นสูตร ของเขาโดยเฉพาะ และแพร่หลายไปในอิตาลี ฝรั่งเศสและข้ามไปอังกฤษ คนอิตาลีถือว่าตนเองเป็นต้นตำรับไอศกรีมแบบที่นำมาปั่นให้เย็นจนแข็ง เรียกว่าเจลาติ (Gelati)ประเทศอิตาลีและมีการพัฒนาไปมากจนทำให้อิตาลีได้ชื่อว่าเป็นแหล่งไอศกรีมเลิศรสเลยทีเดียว ขณะเดียวกันคนอิตาลีมักจะทึกทักเอาว่าบรรพชนของตนเป็นคนค้นพบไอศกรีมเป็นครั้งแรกเสมอมา แถบยุโรปประมาณ ค.ศ.1670 ฟรานเอสโก ได้นำไอศกรีมไปจำหน่ายภายในร้านกาแฟของเขาเพื่อให้บริการลูกค้าของเขาปรากฏว่าได้รับความสนใจกันอย่างกว้างขวางมากทีเดียวไอศกรีมได้รับการพัฒนากระบวนการผลิตขึ้น เรื่อยๆ จนกระทั่ง ค.ศ.1846 นางแนนซี่ จอห์นสัน ก็สามารถสร้างเครื่องผลิตไอศกรีมขึ้นมาได้เป็นครั้งแรก และนับเป็นจุดที่ทำให้ไอศกรีม เผยแพร่เข้าไปทั่วโลกก็ว่าได้ เส้นทางการแพร่หลายของเจ้าไอติม ที่น่าสนใจก็คือเมื่อประมาณศตวรรษที่ 14 ไอศกรีมได้แพร่หลายเข้าไปในประเทศเทศอิตาลีและฝรั่งเศส ซึ่งในประวัติศาสตร์ ของไอศกรีมช่วงนี้ระบุว่า ในงานฉลองอภิเษกสมรสระหว่างแคเธอรีน เดอ เมดิซี แห่งเวนิชกับกษัตริย์เฮนรี่ที่ 2 ของฝรั่งเศสได้มีการนำ ของหวานกึ่งแช่แข็งมาเสริฟแขกเหรือที่มาร่วมงาน สำหรับรูปร่างหน้าตาเหมือนกับไอศกรีมไม่มีผิดเพี้ยน และนี้ก็เป็นอีกจุดหนึ่งทำให้ ไอศกรีมกลายเป็นของหวานของคนค่อนโลกไปโดยปริยาย เล่ากันว่าในช่วงแรกๆที่มีไอศกรีมต้องผ่านการผลิตที่ค่อนข้างจะยุ่งยากเนื่องจากต้องใช้เวลาและต้องลงแรงตามสมควร เมื่อได้ผลิตผลจากการลงแรงที่เป็นไอศกรีมเย็นเฉียบแล้ว ก็ต้องเกณฑ์คนมาช่วยกันรับประทานให้หมดมิเช่นนั้นแล้วไอศกรีมก็จะละลายกลายเป็นน้ำไปในเวลาอันรวดเร็ว กลายเป็นการลงทุนที่สูญเปล่าในที่สุด การแพร่หลายของไอศกรีมจากฝรั่งเศสเข้าไปอเมริกา ในช่วงต้นศตวรรษที่ 17 จนไอศกรีมกลายเป็นของหวานที่ผู้คนชื่นชอบกันมากในช่วงนี้ ตำนานไอศกรีมในสหรัฐอเมริกาโดยเฉพาะ "ไอศกรีมซันเดย์" ได้ถือกำเนิดขึ้นท่ามกลางความอึมครึมเนื่องจากยังไม่มีข้อสรุปที่แน่ชัดว่าเกิดขึ้นในรัฐไหนกัน แน่ แต่ที่แน่ๆในราวๆปี พ.ศ. 2435 ไอศกรีมซันเดย์ได้ถือกำเนิดขึ้นท่ามกลางความตื่นเต้นของอเมริกันชนสมัยนั้นอย่างถ้วน ความรู้เกี่ยวกับไอศกรีมชนิดต่างๆ ไอศกรีม เป็นของหวานแช่แข็ง มีส่วนประกอบสำคัญ คือ นม ไขมัน น้ำตาล ผสมกับเครื่องปรุงรสอื่นๆไอศกรีมมีหลายชนิดสามารถแบ่งตามชนิดต่างๆ ได้ดังนี้ 1. ไอศกรีม ( lce Cream ) มีส่วนผสมของนม น้ำตาล ไขมันและเครื่องปรุงรส อื่นๆเช่นช็อกโกแลตวานิลลากาแฟหรือผลไม้เช่นสตรอเบอร์รี่ข้าวโพดเผือกเป็น ส่วนประกอบไอศกรีมพรีเมี่ยม มีส่วนผสมของไขมันมากที่สุด ในประเภทของ ไอศกรีมทุกชนิด การบริโภคไอศกรีมทั่วโลกคิดเป็น 70%ของบริมาณของหวาน แช่แข็งทั้งหมด 2. ไอศกรีมหวานเย็นผสมนม ( Milk lce or lce Milk) มีปริมาณไขมันน้อยกว่า ไอศกรีมมีส่วนผสมของนม น้ำตาลและเครื่องปรุงรสอื่นๆสามารถผลิต ไอศกรีม ชนิดนี้ใด้ทั้งแบบเนื้อนุ่มและแบบเนื้อแข็ง 3. เชอร์เบท (Sherbet) ไม่มีไขมัน มีส่วนผสมสำคัญคือน้ำผลไม้และน้ำตาล มีนมเป็นส่วนประกอบเพียงเล็กนัอยรสชาติออกเปรี้ยวและหวาน เนื้อไอศกรีม เชอร์เบทเหนียว เนียนละเอียด สีสวยสดใส 4. ซอร์เบท์ (Sorbet) ไม่มีไขมัน มีส่วนผสมสำคัญ คือ ผลไม้(น้ำผลไมัหรือชิ้น เนื้อผลไม้บด) และน้ำตาล ซอร์เบท์มีปริมาณน้ำตาลมากที่สุดเนื้อไอศกรีมมี ลักษณะเป็นเกล็ดละเอียด นุ่มได้รสชาติผลไม้เข้มข้น 5. ไอศกรีมหวานเย็น (Water Ice) ไอศกรีมหวานเย็น มีส่วนผสมหลัก คือ น้ำตาล น้ำเครื่องปรุงรสและกลิ่น ไม่มีส่วนผสมของไขมันมีปริมาณน้ำมากที่สุด สีและรส เป็นส่วนผสมสำคัญเพื่อให้ผลิตภัณฑ์มีสีสัน และรสชาติที่ต้องการส่วนใหญ่มี ลักษณะ เป็นแท่ง --------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- บที่๓อุปกรณ์1. กรรไกร small 2. ตะกั่ว 40WATT 3. กาวร้อน 220 Voltage 4. สายไฟ 50 meter 5. มอเตอร์ 5V 6. แบตเตอรี่ 6 x 1.5v = 9 voltage 7. สวิท simple 8. ใบพัท 5.5 cm 9. ไม้ไอติม 4.5 cm 1 x 100 วีธีจัดทำโครงงาน1. การวางแผน 2. แบ่งงาน วิธีดำเนินการศึกษา
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- บที่๔ผลการศึกษาและอภิปรายการศึกษาจากที่ได้ลงมือปฎิบัติกิจกรรมตามโครางงานไม้ไอติมสารพัดประโยชน์มีการร่วมกันสืบค้นและสอบถามข้อมูลตามหมู่บ้านต่างๆจากผู้ปกครองของนักเรียน ผู้ปกครองให้ความร่วมมือในการทำการโครางงานได้ดี -------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- บที่๕สรุปผลการศึกษาสรุปผลการศึกษาจากการทำโครงงานการประดิษฐ์ พัดลมตั้งโต๊ะจากไม้ไอติม สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ที่วางไว้คื่อ เพื่อต้องการนำสิ่งของที่ใช้แล้วนำมากลับมาใช้ไหม่ สามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้และทราบถีงวิธีการทำ และ ผู้จัดมีความเข้าใจวสามานำไปประดิษฐ์ ประโยชน์ที่ได้จากโครงงานจากการศึกษาสามารถศึกษาวิธีการทำอย่างถูกต้อง เนื่องจากข้อมูลในหนังสือและ Internet และการสอบถามเพื่อนๆในกลุ่มที่รู้วิธีการทำ พัดลมตั้งโต๊ะจากไม้ไอติม และนำมาประดิษฐ์ใช้ในชิวิตประจำวัน ข้อเสนอแนะในการทำการประดิษฐ์สิ่งของควรเลือกประดิษฐ์อะไรง่าย ไม่ควรเลือกประดิษฐ์สิ่งของที่วัสดุอุปกรณ์หายาก เพราะอาจทำให้เราทำงานได้ล่าช้าลงมาก ควรเลือกสมาชิกที่อยู้ในห้องเรียนเพราะจะได้ทำการปรึกษาการทำโครงงานได้ง่ายขึ้น. --------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- เอกสารอ้างอิงเอกสารที่เกี่ยวข้องWebsitehttp://alisaponsri.blogspot.com/2014/02/blog-post_7958.htmlวิดีโอ ข้อง พัดลมตั้งโต๊ะจากไม้ไอติม QR
Code https://drive.google.com/file/d/1HuQdfuQOgezBi28clTnIJK3lYGBxxtpC/view?usp=sharing -------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ภาคผนวก-------------------------------------------------------------------------------------------- |