เกี่ยวกับร้านฟาสซิโนจำหน่ายสินค้าประเภทอุปกรณ์ผู้ป่วย เครื่องมือแพทย์ เวชภัณฑ์ และอาหารเสริมทุกชนิด จากแหล่งคุณภาพต่างๆ เพราะการมีสุขภาพที่ดีเป็นสิ่งสำคัญ สำหรับทุกช่วงวัย Show
02-1116999
เวลาทำการ เกี่ยวกับร้านฟาสซิโนจำหน่ายสินค้าประเภทอุปกรณ์ผู้ป่วย เครื่องมือแพทย์ เวชภัณฑ์ และอาหารเสริมทุกชนิด จากแหล่งคุณภาพต่างๆ เพราะการมีสุขภาพที่ดีเป็นสิ่งสำคัญ สำหรับทุกช่วงวัย 02-1116999
เวลาทำการ ขายยาออนไลน์ เนื่องจากปัจจุบันมีความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีมากขึ้น ทำให้ประชาชนสามารถเข้าถึงแหล่งข้อมูลออนไลน์ได้ง่าย สื่อออนไลน์จึงถูกนำมาใช้ประโยชน์กับธุรกิจหลายประเภท เพราะว่า ใช้งบประมาณน้อย ไม่สิ้นเปลือง และสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ดี รวมถึงในธุรกิจด้านยาและผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ เช่น การโฆษณาและขายยาออนไลน์ เป็นต้น ในอีกทางหนึ่งก็มาพร้อมกับการนำสื่อออนไลน์มาใช้ในทางที่ผิด ผู้บริโภคจึงต้องมีความระมัดระวัง การซื้อยาออนไลน์ ผ่านอินเทอร์เน็ตมีความเสี่ยง อาจทำให้ได้รับผลิตภัณฑ์ที่ไม่มีคุณภาพมาตรฐาน โดยผลิตภัณฑ์ยา อาหาร เครื่องสำอาง มักเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีปัญหา และได้รับข้อร้องเรียน เช่น ใช้แล้วไม่เห็นผล เสียเงินโดยไม่คุ้มค่า ได้รับอันตรายจากสินค้า โฆษณาหลอกลวง เป็นต้น ที่สำคัญคือ การขายยาออนไลน์ผ่านทางอินเทอร์เน็ตถือว่าผิดกฎหมาย ตามพระราชบัญญัติยา พ.ศ. 2510 มีข้อกำหนดชัดเจนเรื่องสถานที่ขายยาว่า ต้องไม่ขายนอกสถานที่ที่กำหนดไว้ในใบอนุญาต ตามมาตราที่ 19 เพราะยาไม่ใช่สินค้าทั่วไป การซื้อจึงต้องได้รับคำแนะนำที่ถูกต้องจากผู้ปฏิบัติวิชาชีพโดยตรง การขายในอินเทอร์เน็ตจึงเป็นการขายนอกสถานที่ที่อนุญาต ยกเว้นยาสามัญประจำบ้าน ที่ไม่ต้องขออนุญาตขายซึ่งสามารถขายได้ในร้านทั่วไป การขายยาผ่านทางอินเทอร์เน็ตผิดกฎหมาย ตามพระราชบัญญัติยา พ.ศ. 2510 มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท และอาจจะมีความผิดฐานโฆษณาด้วย เครื่องสำอางหรืออาหารเสริมยังไม่มีกฎหมายห้ามขายผ่านอินเทอร์เน็ต แต่ผู้บริโภค ต้องใช้ความระวังในการเลือกซื้อ เพราะมักพบกรณีการโฆษณาอวดอ้างเกินจริง การแสดงฉลาก ไม่ถูกต้อง การเติมสารปลอมปน ผู้บริโภคต้องร่วมมือกันไม่สนับสนุนผู้กระทำผิดกฎหมาย ต้องช่วยกันในการแจ้งเบาะแสได้ที่ สายด่วน อย. 1556 และไม่สนับสนุนการขายผลิตภัณฑ์สุขภาพออนไลน์ที่ผิดกฎหมายเหล่านี้เพื่อความปลอดภัยของผู้บริโภค พระราชบัญญัติยา พ.ศ.2510 และฉบับแก้ไขเพิ่มเติม “ยา” คำจำกัดความตามพระราชบัญญัติยา พ.ศ. 2510 มาตรา 4 ในพระราชบัญญัตินี้ “ยา” หมายความว่า (1) วัตถุที่รับรองไว้ในตำรายาที่รัฐมนตรีประกาศ (2) วัตถุที่มุ่งหมายสำหรับใช้ในการวินิจฉัย บำบัด บรรเทา รักษา หรือป้องกันโรค หรือความเจ็บป่วยของมนุษย์หรือสัตว์ (3) วัตถุที่เป็นเภสัชเคมีภัณฑ์ หรือเภสัชเคมีภัณฑ์กึ่งสำเร็จรูป หรือ (4) วัตถุที่มุ่งหมายให้เกิดผลแก่สุขภาพ โครงสร้าง หรือการกระทำหน้าที่ใด ๆ ของร่างกายของมนุษย์หรือสัตว์ “ขาย” หมายความว่า ขายปลีก ขายส่ง จำหน่าย จ่าย แจก แลกเปลี่ยนเพื่อประโยชน์ในทางการค้า และให้หมายความรวมถึงการมีไว้เพื่อขายด้วย หน้าที่ของผู้รับอนุญาตเกี่ยวกับยาแผนปัจจุบัน มาตรา 19 ห้ามมิให้ผู้รับอนุญาต (1) ผลิตหรือขายยาแผนปัจจุบันนอกสถานที่ที่กำหนดไว้ในใบอนุญาต เว้นแต่เป็นการขายส่ง (2) ผลิตหรือขายยาแผนปัจจุบันไม่ตรงตามประเภทของใบอนุญาต (3) ขายยาแผนปัจจุบันที่เป็นยาอันตรายหรือยาควบคุมพิเศษให้แก่ผู้ได้รับอนุญาต
ถึงแม้ว่าตอนนี้เราจะอยู่ในยุคที่จำเป็นจะต้องกักตัวอยู่ภายในบ้านและออกจากบ้านเฉพาะในยามที่จำเป็น เพื่อป้องกันตัวเองไม่ให้ติดเชื้อโรคโควิด 19 (ซึ่งเป็นสิ่งที่ดีและควรจะทำอยู่แล้ว) แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าการอยู่บ้านตลอด 24 ชั่วโมง จะทำให้ร่างกายของเราแข็งแรงหรือมีสุขภาพที่ดีอยู่ตลอด เพราะอย่าลืมว่าอาการปวดหัว, อาการไข้, อาการปวดเมื่อยตามร่างกาย สามารถเกิดขึ้นได้อยู่ตลอดเวลา เนื่องจากโรคประจำตัวและสภาพแวดล้อมเป็นปัจจัยสำคัญอย่างหนึ่งที่ทำให้ร่างกายของเราเจ็บป่วยขึ้นมาได้ รวมไปถึงอุบัติเหตุเล็ก ๆ น้อย ๆ อย่างเช่น การหกล้มหรือโดนมีดบาดก็เป็นอะไรที่เกิดขึ้นได้ตลอดเช่นเดียวกัน เมื่อเกิดอาการไม่พึงประสงค์หรือมีบาดแผลตามร่างกาย สิ่งที่เราควรจะทำเป็นอันดับแรกเลยคือการหายาเพื่อมารักษาหรือบรรเทาอาการในเบื้องต้น ซึ่งยาที่ว่านี้เราจะเรียกว่า ‘ยาสามัญประจำบ้าน’ ที่ทุกบ้านควรจะมีเก็บไว้ภายในตู้ยา เพราะเมื่อเกิดเหตุการณ์ที่กล่าวไปข้างต้น เราจะได้สามารถหยิบมาใช้ได้ในทันที ทำให้เรารีบแก้ไขอาการป่วยต่าง ๆ ได้ทันถ่วงที ถ้าหากทิ้งไว้นานเข้า ปัญหาที่คุณมองว่าเล็กอาจกลับกลายเป็นปัญหาใหญ่ที่เกิดขึ้นได้ อย่างเช่น แผลติดเชื้อ หรือ อาการไข้ที่ไม่ยอมลดลงจนเกิดอาการช็อกได้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเมื่อพูดถึงยาสามัญประจำบ้านแล้ว ก็ต้องบอกว่ามันมีหลายประเภทและหลายหมวดหมู่มาก จนหลายคนไม่รู้ว่าอะไรที่ควรมีติดบ้านไว้บ้าง ดังนั้นวันนี้ผมจึงถือโอกาสมาแชร์ข้อมูลที่น่าสนใจ รวมไปการแนะนำประเภทของยาที่ทุกคนควรซื้อเก็บเอาไว้ ซึ่งจะมีอะไรบ้างมาดูไปพร้อมกันเลยครับ ยาสามัญประจำบ้าน คืออะไร ?หากพูดให้เข้าใจได้ง่าย “ยาสามัญประจำบ้าน” เป็นยาที่สามารถซื้อได้ทั่วไป โดยที่ร้านค้าต่าง ๆ ไม่จำเป็นต้องขอใบอนุญาตขายยา เพราะประชาชนทั่วไปสามารถที่จะนำเอายาสามัญประจำบ้านมาดูแลอาการป่วยในเบื้องต้นได้ เรียกว่าเป็นการเพิ่มเข้าถึงมากขึ้นกว่าเดิม ไม่จำเป็นจะต้องเดินทางไปขอยาสามัญประจำบ้านหรืออยู่ในการดูแลจากทางแพทย์และเภสัชกร แต่อย่างไรก็ดีตัวยาที่เข้าค่ายว่าเป็นยาสามัญประจำบ้านนั้นก็จะต้องได้รับการตรวจสอบและอยู่ในหลักของความปลอดภัยเป็นสิ่งสำคัญ (1) อาการเจ็บป่วยรวมไปถึงอุบัติเหตุเล็ก ๆ น้อย ๆ เป็นอะไรที่สามารถเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา แม้ว่าคุณจะอยู่ภายในบ้านก็ตาม ไม่ว่าจะเป็น อาการไข้ขึ้น, อาการปวดหัว, อาการปวดตัว, อุบัติเหตุจากมีดบาด, โดนน้ำร้อนลวก หรืออื่น ๆ อีกมากมาย ซึ่งการที่เรามียาสามัญประจำบ้านติดไว้ในบ้าน จะช่วยให้เรารักษาอาการและบรรเทาได้ในทันที โดยที่ไม่ปล่อยทิ้งไว้ให้อาการหนักขึ้น ในขณะเดียวกันหากเป็นอุบัติเหตุมันก็เหมือนเป็นการปฐมพยาบาลในเบื้องต้นนั่นเองครับ วิธีการเลือกยาสามัญประจำบ้านอย่างที่ได้บอกไปในเบื้องต้นครับว่ายาสามัญประจำบ้านหาได้ทั้งในร้านสะดวกซื้อหรือร้านทั่วไปใกล้บ้าน แต่การที่จะซื้อมาในแต่ละครั้ง เราควรที่จะต้องเช็กให้ถี่ถ้วนว่าตัวยาดังกล่าวได้ผ่านการตรวจสอบและผ่านมาตรฐาน เพื่อให้มั่นใจว่ายาที่เรารับประทานไปจะไม่มีผลกระทบต่อร่างกายทั้งในระยะต้นและระยะยาว นอกจากนี้ยังต้องดูรายละเอียดอื่นอีกด้วย ซึ่งจะมีอะไรบ้างมาดูกันเลยครับ 1. เลขทะเบียนต้นตำรับยา (2,3)ไม่ว่ายาตัวไหนก็แล้วแต่สิ่งที่สำคัญมากที่สุดเลยคือมันจะต้องมี “เลขทะเบียนต้นตำรับยา” ยกตัวอย่างเช่น 1A 12/47 เป็นต้น ซึ่งการที่ผลิตภัณฑ์ยามีเลขทะเบียนนั้นก็เป็นการบ่งบอกว่ามันได้ผ่านมาตรฐานและการตรวจสอบมาเป็นที่เรียบร้อยแล้วจากสำนักงานคณะกรรมการองค์อาหารและยา ทั้งนี้อยากจะแชร์ความรู้ที่น่าสนใจเกี่ยวกับตัวเลขและตัวอักษรของเลขทะเบียนด้วย ยกตัวอย่างเช่น 1A 12/47
2. จะต้องเขียนบนฉลากว่าเป็น “ยาสามัญประจำบ้าน”หากเป็นยาสามัญประจำบ้านจริง ๆ บนฉลากหรือผลิตภัณฑ์ของตัวยาจะต้องมีกรอบสีเขียวพร้อมกับคำว่า “ยาสามัญประจำบ้าน” กำกับไว้อย่างชัดเจน เพื่อให้เรามั่นใจได้ว่าเมื่อรับประทานเข้าไปแล้วจะปลอดภัยและไม่เกิดผลข้างเคียงที่เป็นอันตรายขั้นรุนแรง 3. ปริมาณยาและวิธีการกินถึงแม้ว่ายาสามัญประจำบ้านจะไม่จำเป็นต้องอยู่ในการดูแลกำกับโดยแพทย์หรือเภสัชกร แต่อย่างไรก็ดีเราควรจะต้องกินตามคำแนะนำบนฉลากอย่างเคร่งครัด เพื่อให้ตัวยาออกฤทธิ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพและป้องกันไม่ให้ร่างกายได้รับตัวยาเกินปริมาณ นอกจากนี้ยังดูสังเกตปริมาณของยาด้วยเพื่อให้เราได้วางแผนในการรับประทานได้ครับ 4. คำเตือนของยาควรอ่านในส่วนของคำเตือนอย่างละเอียด เพราะมันเป็นจุดที่เราจะต้องปฎิบัติตามอย่างเคร่งครัด อย่างเช่น ยาบางตัวไม่สามารถให้เด็กรับประทานได้ หรือบางคำเตือนก็อาจจะเขียนว่า ไม่ควรกินยาเกินกี่เม็ดต่อวัน รวมไปถึงคำเตือนอื่น ๆ ที่แตกต่างกันออกไป เพื่อที่เราจะได้หลีกเลี่ยงและระมัดระวังในการรับประทานยา 5. วันหมดอายุยาก็เหมือนกับอาหารที่จะมีวันหมดอายุ เมื่อถึงเวลาหนึ่งประสิทธิภาพหรือการออกฤทธิ์ต่าง ๆ ก็จะหมดไป ซึ่งเมื่อรับประทานเข้าไปแล้ว นอกจากที่จะไม่สามารถรักษาอาการในเบื้องต้นได้แล้ว มันยังเป็นพิษต่อร่างกาย ที่อาจจะทำให้เกินการอาเจียนหรือท้องเสียได้ ดังนั้นควรเช็กทุกครั้งก่อนจะซื้อยาอะไรก็แล้วแต่ครับ 1. ยาดมและยาหม่องแก้วิงเวียนศีรษะอาการนี้อาจเกิดขึ้นได้จากหลากหลายสาเหตุไม่ว่าจะเป็นโรคประจำตัวหรือการพักผ่อนที่ไม่เพียงพอ ซึ่งตัวช่วยที่สามารถบรรเทาอาการนี้ได้ดีขึ้นได้คือ ‘ยาดม’ หรือ ยาหม่อง ก็สามารถใช้ได้เช่นเดียวกันครับ
2. ยาลดไข้และบรรเทาอาการปวดอาการไข้คือร่างกายของเราจะมีอุณหภูมิตั้งแต่ 37.2 องศาขึ้นไป (วัดจากปรอทวัดไข้) โดยสาเหตุของการเกิดไข้สามารถเกิดได้จากหลากหลายอย่าง ซึ่งการยาสามัญประจำบ้านที่คนเลือกใช้กันก็จะเป็น ‘พาราเซตามอล’ อย่างไรก็ดีการรับประทานนั้นก็จะต้องใช้อย่างถูกวิธี โดยภายในหนึ่งวันไม่ควรจะกินเกิน 8 เม็ด เพราะหากใช้เกินกำหนดมันอาจทำให้เสียชีวิตจากอาการตับวายได้ (4)
3. ยาและเกลือแร่แก้ท้องเสียเชื่อว่าหลายคนคงจะเคยเกิดอาการท้องเสีย เนื่องจากรับประทานอาหารหรือน้ำดื่มที่มีการเจือปนสิ่งสกปรกอยู่ ดังนั้นสิ่งที่ควรจะต้องมีติดบ้านคือ ผงถ่านแก้ท้องเสีย เพื่อดูดซับเอาพิษและสารเคมีออกไปจากร่างกาย รวมไปถึงผงน้ำตาลเกลือแร่เพื่อป้องกันไม่ให้ร่างกายเกิดการช็อกจากการขาดน้ำ
4. ยาลดน้ำมูกและแก้แพ้เนื่องจากจมูกเป็นส่วนที่ใช้สำหรับการกรองอากาศ ดังนั้นเมื่อเราสูดฝุ่นหรือสิ่งสกปรกเข้าไป อาจทำให้เกิดการระคายเคืองและอักเสบ จนเกิดภูมิแพ้และมีน้ำมูกตามมา โดยยาที่บรรเทาอาการเหล่านี้ได้คือ ‘คลอร์เฟนิรามีน’ แต่อย่างไรก็ดีคุณไม่ควรจะกินเมื่อต้องขับรถหรือมีกิจกรรมสำคัญ เพราะมันอาจทำให้คุณเกิดอาการง่วงนอนได้ (4)
5. ยาแก้ไอน้ำดำยาแก้ไอน้ำดำจะมีฝิ่นซึ่งเป็นตัวออกฤทธิ์หลักในการหยุดอาการไอ เป็นยาที่นิยมใช้กันมาตั้งแต่ในอดีต แต่อย่างไรก็ดีการรับประทานก็จะต้องรับประทานให้ถูกต้อง คือ 3 – 4 ครั้งต่อวัน แต่ถ้าให้แนะนำควรที่จะจิบเวลาเกิดเวลาไอเท่านั้นครับ (4)
6. ยาธาตุน้ำแดงสำหรับลดอาการท้องอืดอาการท้องอืดเกิดจากภายในล้ำไส้และกระเพาะอาหารมีลมอยู่ ซึ่งลมจะทำให้เรามีความรู้สึกไม่สบายตัว จนอาจทำให้เรานอนไม่หลับและกระทบต่อการทำงาน ทั้งนี้การช่วยบรรเทาอาการตรงนี้ได้คือการรับประทานยาธาตุน้ำแดง เพราะมันจะเข้าไปขับลมออกจนเรารู้สึกดีขึ้น
7. ยาทารักษาแผลสดแผลที่เกิดจากอุบัติเหตุเล็ก ๆ น้อย ๆ เกิดขึ้นได้เสมอ ไม่ว่าจะเป็น การหกล้มหรือโดนมีดบาด โดยเหตุการณ์เหล่านี้เกิดขึ้นได้แม้จะอยู่ภายในบ้าน ดังนั้นสิ่งที่ควรมีติดไว้นั่นคือยาทารักษาแผลสด จากนั้นตามด้วยการปิดแผลด้วยพลาสเตอร์ยา เพื่อที่จะทำให้แผลหายได้เร็วขึ้น รวมไปถึงป้องกันสิ่งสกปรกมาเกาะแผล
8. ยาลดกรดคนที่มีการรับประทานไม่ค่อยตรงเวลาหรือเกิดความเครียดสะสม อาจเกิดปัญหาหนึ่งที่พบเจอได้บ่อยนั่นคือกรดภายในกระเพาะจนเกิดแผล รวมไปถึงอาการอย่างหนึ่งที่เรียกว่ากรดไหลย้อน ซึ่งการที่จะบรรเทาได้อาจต้องรับประทานยา อะลูมินา-แมกนีเซีย ครับ (5)
9. น้ำเกลือล้างแผลก่อนที่เราจะทำการทายาอะไรก็ตามบนแผล เราควรที่จะกำจัดสิ่งสกปรกออกด้วยน้ำเกลือล้างแผลก่อนครับ เพราะน้ำเกลือเป็นน้ำสะอาดและบริสุทธิ์ ไม่ทำลายเนื้อเยื่อของเรา ถือเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดในการล้างแผล
10. ยาสำหรับทาผิวหนังปัญหาผดผื่นและระคายเคืองผิวหนังจนเกิดรอยแดงบนร่างกาย เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นกับใครหลายคน ดังนั้นคาลาไมน์โลชั่น ก็เป็นอีกอย่างหนึ่งที่จะต้องมีติดบ้าน เพราะมันใช้งานง่ายและไม่มีผลข้างเคียง
11. ยาระบายอาการท้องผูกเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นกับใครหลายคน ซึ่งการปล่อยไว้ให้เกิดบ่อย ๆ อาจไม่เป็นผลดีสักเท่าไหร่ครับ ซึ่งยาสามัญประจำบ้านแผนโบราณอย่างหนึ่งที่ช่วยคุณได้นั่นคือ ‘ยาระบายมะขามแขก’ เพราะเมื่อรับประทานไปแล้วมันจะกระตุ้นให้เกิดการเคลื่อนตัวของลำไส้ จนเกิดการขับถ่ายออกมา อย่างไรก็ดีคุณไม่ควรจะรับประทานติดต่อกันเป็นเวลานาน 5 – 7 วัน เพราะผลที่ตามมาในอนาคตคือคุณอาจไม่สามารถขับถ่ายออกได้ด้วยตัวเองหากไม่ใช้ยาระบาย (6)
12. ยาแก้เมารถ เมาเรือ หรือการเดินทางอื่น ๆการเดินทางไปเที่ยวตามจังหวัดต่าง ๆ ถือเป็นกิจกรรมหนึ่งที่หลายคนชอบทำกัน เพื่อที่จะได้สัมผัสกับธรรมชาติและหลีกหนีความวุ่นวายในตัวเมือง แต่ปัญหาอย่างหนึ่งที่ไม่ทำเอาทริปเที่ยวกร่อยมานักต่อนักแล้วนั่นคืออาการเมารถหรือเมาเรือ ที่ทำให้เกิดอาการเวียนศีรษะอย่างรุนแรง ในบางคนอาจรุนแรงถึงขั้นเกิดการอาเจียนได้เลยทีเดียว ดังนั้นยาที่ผมอยากแนะนำให้เก็บเอาไว้นั่นคือ ‘ไดเมนไฮดริเนท’ สำหรับบรรเทาอาการข้างต้น
วิธีการเก็บรักษายาที่ถูกต้อง (7)1. เก็บยาให้พ้นจากแสงแดดไม่ว่าจะเป็นยาอะไรก็แล้วเมื่อโดนกับแสงแดดโดยตรงแล้ว มันจะทำให้ประสิทธิภาพของยาแย่ลง เมื่อรับประทานเข้าไปแล้ว ตัวยาอาจไม่สามารถออกฤทธิ์เข้าไปรักษาอาการต่าง ๆ ได้ ดังนั้นคุณควรเก็บยาให้พ้นจากแสงแดด และไม่ควรแกะยาออกมาจากแผงหากถึงเวลารับประทานยาครับ 2. เก็บยาให้พ้นความชื้นเมื่อยาโดนเข้ากับความชื้นอาจทำให้ตัวยาละลายไป อีกทั้งตัวเคลือบที่เป็นแคปซูลอาจเกิดการพองตัวขึ้นได้ ดังนั้นคุณควรเก็บไว้ภายในตู้อย่างมิดชิด เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้ตัวยาสัมผัสกับความชื้น 3. เก็บยาไว้ในอุณหภูมิที่เหมาะสมโดยปกติแล้วการเก็บยาจะมีคำแนะนำอยู่บนฉลากอยู่แล้ว ดังนั้นคุณสามารถเก็บได้ตามที่ผู้ผลิตบอกเลยครับ ทั้งนี้ส่วนใหญ่แล้วอุณหภูมิที่เหมาะสมจะอยู่ที่ 18 – 25 องศาครับ 4. เก็บยาไม่ให้สัมผัสกับอากาศการเก็บยาที่ถูกต้องควรจะต้องเก็บไว้ในภาชนะที่ปิดอย่างแน่นหนาไม่ให้สัมผัสกับอากาศ เนื่องจากภายในอากาศต่าง ๆ จะมีก๊าซซึ่งอาจทำให้ยาหมดอายุเร็วกว่าที่ควรจะเป็นนั่นเองครับ References :
|