ช่วงนี้กระแสอยู่บ้านแล้วทำอาหารแบบโฮมคุกกิ้งกำลังมาแรงเลยนะคะเพื่อน ๆ ยิ่งคนไหนแต่งรูปสวย ๆ มีพร็อบเก๋ ๆ นี่ยิ่งทำให้อาหารน่าสนใจขึ้นมาอีกหลายเท่าตัวเลยค่ะ! คนที่มีครัว มีอุปกรณ์ต่าง ๆ ครบเซตก็อาจจะเข้าถึงเทรนด์นี้ง่ายหน่อยเพราะแค่ซื้อวัตถุดิบเล็ก ๆ น้อย ๆ ก็ได้รูปสวย ๆ ลงไอจีแล้ว แต่คนที่อยู่หอหรือไม่มีครัวนี่สิ… อยากเก๋แบบเขาแต่เรามีแค่หม้อหุงข้าว เห้อเศร้าใจ… 😞 ถ้าเพื่อน ๆ คิดแบบนี้อยู่เราบอกเลยว่าพลาดมาก คุณรู้ไหมคะว่าเราสามารถทำอาหารนานาชาติด้วยหม้อหุงข้าวเพียงใบเดียว!! งงล่ะสิว่ามันจะทำได้ยังไง ขอบอกก่อนเลยว่าไม่ยากและไม่ง่ายค่ะ เพียงแค่ขั้นตอนต่าง ๆ อาจจะเยอะขึ้นสักหน่อย แต่บอกเลยว่าหม้อหุงข้าวของคุณเนี่ยสามารถทำทั้งอาหารคาวและอาหารหวานเลยแหละ Show
เนื่องจากเดี๋ยวนี้เทคโนโลยีต่าง ๆ ก็เปลี่ยนไปตามยุคสมัยและการพัฒนาของมนุษย์ สิ่งต่าง ๆ รอบ ๆ ตัวเราก็เริ่มเปลี่ยนไปทำให้ชีวิตของพวกเราเนี่ยสะดวกสบายมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า, จักรยานไฟฟ้าที่ทำให้คุณแทบจะไม่ต้องออกแรงปั่น, ไม่ต้องเดินให้เมื่อยขาเพราะเดี๋ยวนี้เรามีสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าใช้ หรือแม้กระทั่งเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านเองก็มีการพัฒนาให้ทันสมัยมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นทีวีที่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้, ก๊อกน้ำพร้อมระบบเซนเซอร์เปิดปิด, เครื่องชงกาแฟอัตโนมัติ หรือแม้แต่วงการ “หม้อหุงข้าว” เองก็ไม่น้อยหน้าขยันผลิตหม้อหุงข้าวรุ่นใหม่ที่ไม่ได้ใช้หุงข้าวเพียงอย่างเดียวอีกต่อไปแล้วค่ะ แต่มันสามารถเนรมิตเมนูอาหารที่หลากหลายมาให้คุณได้ฝึกทักษะการเข้าครัว เพื่อให้แต่ละเมนูมีความสร้างสรรค์มากยิ่งขึ้น ยิ่งเป็นหม้อหุงข้าวดิจิตอลก็จะยิ่งช่วยให้การทำอาหารของคุณสนุกมากยิ่งขึ้นค่ะ ไม่ว่าจะเป็นเมนูซุป, โปรแกรมทำโจ๊ก, โปรแกรมเบเกอรี, โปรแกรมนึ่ง หรือโปรแกรมตุ๋นก็สามารถทำได้อย่างง่ายดาย ยิ่งไปกว่านั้นหม้อหุงข้าวบางรุ่นยังสามารถสั่งงานผ่านโทรศัพท์มือถือได้อีกด้วยนะคะ เมนูอาหารจากหม้อหุงข้าวหม้อหุงข้าวสมัยนี้มาพร้อมกับฟังก์ชันที่พร้อมจะเป็นตัวช่วยให้คุณสามารถทำอาหารได้หลากหลายมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการหุงข้าวปกติไปจนถึงทำเค้กหอมกรุ่น บางคนอาจจะยังไม่เคยลองทำอาหารด้วยหม้อหุงข้าวเลยใช่ไหมล่ะคะ? แต่ต้องกังวลไปค่ะเพราะวันนี้เรารวบรวมเมนูอาหารมากมายที่ทำได้ด้วยหม้อหุงข้าวมาฝากเพื่อน ๆ จะมีเมนูอะไรบ้างไปดูกันเลย
1. ข้าวอบกุนเชียงข้าวอบกุนเชียงเปิดเมนูแรกกันด้วยอาหารเหลาที่หลายคนบ่นว่าทำยากทำเย็น แต่วันนี้คุณสามารถทำข้าวอบกุนเชียงได้ด้วยหม้อหุงข้าวเพียงใบเดียวค่ะ เพียงแค่ผัดส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากัน จากนั้นเติมน้ำเปล่าแล้วปล่อยให้เครื่องทำงานจนข้าวสุก ใช้เวลาไม่นานข้าวอบร้อน ๆ หอม ๆ ก็พร้อมรับประทานแล้วค่ะ บอกเลยว่าเมนูนี้อัดแน่นไปด้วยสารอาหารที่ดีต่อสุขภาพ ข้าวจะร่วน หอมนุ่ม ได้รสชาติอร่อยกลมกล่อม มีครบเครื่องทั้งกุนเชียง, เนื้อหมู, แครอท และเห็ดนุ่ม ๆ หวาน ใครที่เป็นสายรักสุขภาพไม่ควรพลาดค่ะ วัตถุดิบข้าวอบกุนเชียง
วิธีทำข้าวอบกุนเชียงก่อนอื่นให้เพื่อน ๆ ล้างทำความสะอาดหมูและปอกเปลือกแครอท จากนำเนื้อหมู, กุนเชียง และแครอทมาหั่นเต๋าเล็ก ๆ ขนาดเท่า ๆ กัน นำกระเทียมมาปอกเปลือกแล้วสับหยาบ ๆ เสร็จแล้วนำเห็ดหอมแช่น้ำจนนิ่ม นำมาหั่นเป็นเส้นเตรียมไว้ ส่วนแปะก๊วยก็ต้มอีกสักหนึ่งครั้งค่ะ จากนั้นเตรียมหม้อหุงข้าวให้พร้อม กดหม้อข้าวให้ร้อน จากนั้นใส่น้ำมันงาลงไปนิดหน่อย นำเนื้อหมู, กุนเชียง และแครอทลงไปผัดจนสุกหอมค่ะ ปรุงรสด้วยเกลือและพริกไทย จากนั้นนำแปะก๊วย, เห็ดชิเมจิ, กระเทียม และเห็ดหอมตามลงไป ผัดต่อจนนุ่มเลยค่ะ ส่วนผสมทุกอย่างในหม้อสุกดีแล้วให้เพื่อน ๆ หันมาล้างข้าวสารสัก 2 รอบ จากนั้นเอาข้าวสารใส่หม้อหุงข้าวตามด้วยน้ำเปล่าในปริมาณที่พอเหมาะ เพิ่มรสชาติด้วยซอสหอยนางรมและซีอิ๊วขาว คนให้ทุกอย่างเข้ากันแล้วปิดฝารอจนกว่าข้าวจะสุก หลังจากข้าวสุกดีแล้วตักใส่จานพร้อมรับประทานได้เลยค่ะ 2. กุ้งอบวุ้นเส้นกุ้งอบวุ้นเส้นตามมาติด ๆ กับเมนูง่าย ๆ แต่อร่อยสุด ๆ กุ้งอบวุ้นเส้นเป็นเมนูที่มีกลิ่นหอมชวนรับประทานและสามารถทำได้ง่ายมาก ๆ เลยค่ะ สูตรนี้เราจะผสมซอสให้อร่อยกลมกล่อม วุ้นเส้นก็เหนียวนุ่ม หลังจากอบในหม้อหุงข้าวเสร็จแล้ว แค่เปิดฝาออกมากลิ่นความอร่อยก็หอมเตะจมูก มีกลิ่นของน้ำมันงา, ข่า และกระเทียมพริกไทยเบา ๆ ช่วยกระตุ้นความอยากอาหาร กุ้งสุกกำลังดีให้เนื้อหวานฉ่ำ ยิ่งเคี้ยวความหวานก็จะแผ่กระจายไปทั่วทั้งปาก ส่วนวุ้นเส้นเหนียวนุ่มหนึบนับ ราดน้ำจิ้มซีฟู้ดอีกนิดบอกเลยว่าอร่อยจนหยุดไม่ได้ วัตถุดิบกุ้งอบวุ้นเส้น
วิธีทำกุ้งอบวุ้นเส้นถ้าเพื่อน ๆ ซื้อวุ้นเส้นแบบเส้นแห้งแข็ง ๆ มาแนะนำให้เอาวุ้นเส้นมาแช่น้ำให้นิ่มก่อนนะคะ จากนั้นหันมาจัดการกับกุ้งต่อโดยการล้างทำความสะอาด ใช้ไม้จิ้มฟันแทงระหว่างข้อต่อเปลือกกุ้งแล้วงัดขึ้นเส้นดำจะหลุดออกมาค่ะ ดึงเส้นดำออกแล้วตัดกรีหรือส่วนแหลมตรงหัวกุ้งออกให้เรียบร้อย เสร็จแล้วฝานข่าและกระเทียมเป็นแว่น ๆ ส่วนพริกไทยและรากผักชีทุบให้พอแตก จากนั้นหั่นคึ่นฉ่ายเตรียมไว้ ต่อมาให้เพื่อน ๆ ทำซอสโดยการผสมน้ำตาล, ซอสหอยนางรม, ซอสปรุงรส, ซีอิ๊วขาว, ซีอิ๊วดำ และน้ำมันงาเข้าด้วยกัน เติมน้ำเปล่าลงไปพอประมาณจากนั้นคนให้เข้ากัน ชิมรสตามชอบ เสร็จแล้วนำวุ้นเส้นออกมาสะเด็ดน้ำแล้วแช่ในซอสรอไว้ก่อน คราวนี้ให้เพื่อน ๆ หยิบหม้อหุงข้าวออกมาค่ะ กดเปิดการทำงาน ใส่น้ำมันงาลงในหม้อเล็กน้อยแล้วนำมันหมู, รากผักชี, กระเทียม, พริกไทย และข่าแก่ลงผัดจนหมูสุกหอม จากนั้นเรียงกุ้งลงในหม้อ ตามด้วยวุ้นเส้นและซอส ปิดฝาแล้วปล่อยให้หม้อหุงข้าวทำงานค่ะ จากนั้นเพื่อน ๆ ก็คอยเช็กเป็นระยะว่าวุ้นเส้นสุกใสหรือยัง ถ้ายังก็ปล่อยให้หม้อหุงข้าวทำงานไปเรื่อย ๆ จนน้ำแห้งตามชอบเลย เมื่อกุ้งอบวุ้นเส้นได้ที่แล้วก็ตักใส่จาน โรยหน้าด้วยคึ่นฉ่าย พร้อมเสิร์ฟ 3. ข้าวอบไก่เทอริยากิข้าวอบไก่เทอริยากิเปลี่ยนมาฝั่งญี่ปุ่นกันบ้าง อยากกินไก่เทอริยากิแต่มีหม้อหุงข้าวใบเดียวก็ไม่ใช่ปัญหา เราจะทั้งหุงข้าวทั้งทอดไก่ในหม้อใบนี้แหละ เพียงแค่เพื่อน ๆ นำซอสเทอริยากิมาหมักไก่ จากนั้นทอดไก่ให้สุกนุ่มแล้วนำมาหุงพร้อมกับข้าวสวยหรือข้าวญี่ปุ่นเพิ่มความฟิน หลังจากข้าวสุกดีแล้วเพื่อน ๆ จะได้กลิ่นหอมขอซอสเทอริยากิและน้ำมันงาหอมตลบอบอวลไปทั้งห้องครัวเลยค่ะ เนื้อไก่ก็นุ่มกำลังดีและรสชาติก็อร่อยกลมกล่อม ส่วนข้าวเนื้อนุ่มหนึบหนับได้ความหวานและรสชาติของซอสเทอริยากิเบา ๆ ทานคู่กับผักลวกหรือวาซาบิตัดเลี่ยนก็อร่อย วัตถุดิบข้าวอบไก่เทอริยากิ
วิธีทำข้าวอบไก่เทอริยากิขั้นตอนแรกให้เพื่อน ๆ หมักไก่กับซอสเทอริยากิและน้ำมันงาก่อนค่ะ ใช้ส้อมจิ้มเนื้อไก่ให้ทั่ว จากนั้นนวดคลุกเคล้าให้ซอสซึมเข้าเนื้อไก่ หมักทิ้งไว้ 30 นาที ระหว่างนั้นก็หั่นบร็อกโคลีและแครอท ใส่น้ำเปล่าในหม้อหุงข้าว กดเปิดเครื่องจนน้ำร้อนดีแล้วก็นำผักลงไปต้มจนสุก ตักขึ้นมาพักให้สะเด็ดน้ำ ส่วนน้ำในหม้อหุงข้าวก็เททิ้งไป ครบ 30 นาทีแล้วนำไก่ลงทอดในหม้อหุงข้าวโดยการกดเปิดเครื่องให้หม้อร้อนก่อน ใส่น้ำมันงาลงไปนิดนึง นำไก่ลงไปทอดจนสุกเหลืองทั้ง 2 ด้านแล้วตักขึ้นมาพักไว้ หันมาล้างข้าวสารด้วยน้ำเปล่า 1 รอบแล้วเทใส่ในหม้อ ใส่ซอสเทอริยากินิดหน่อยและน้ำเปล่า นำเนื้อไก่วางเรียงลงไป กดเปิดเครื่องแล้วรอจนข้าวสุกสวย ตักใส่จาน นำเนื้อไก่มาหั่นเป็นชิ้นแล้วเรียงลงไปด้านบน วางผักต้มข้าง ๆ ราดซอสเทอริยากิลงไปอีกนิด โรยงาคั่วอีกหน่อย พร้อมรับประทานจ้า 4. พะแนงหมูพะแนงหมูแกงพะแนงหอม ๆ น้ำแกงสีแดงดูจัดจ้านแต่รสชาติอร่อยกลมกล่อม เนื้อหมูขนาดกำลังดี ชิ้นไม่หนาไม่บาง เนื้อนุ่มเข้ากับความเผ็ดหวานของน้ำแกงสีสวยที่มีกลิ่นหอมยวนใจ ไม่ว่าจะเป็นใบมะกรูดหรือโหระพาหอม ๆ ก็ช่วยทำให้เมนูนี้ดูน่ารับประทานจัดวางมาในถ้วยใบเล็ก ๆ พร้อมกับข้าวสวยร้อน ๆ อีกหนึ่งที่ เป็นองค์ประกอบที่ดูแล้วลงตัวสุด ๆ จนไม่อยากจะเชื่อว่าเมนูนี้ทำด้วยหม้อหุงข้าวเพียงใบเดียวเท่านั้น พูดแล้วก็หิวเราไปเข้าครัวกันเลยดีกว่าค่ะ วัตถุดิบพะแนงหมู
วิธีทำพะแนงหมูขั้นตอนแรกหั่นเนื้อหมูเป็นชิ้นพอดีคำ ไม่หนามากเกินไป เสร็จแล้วหั่นมะเขือเปราะเป็น 4 ส่วน แช่น้ำเกลือไว้ ตามด้วยเด็ดใบโหระพา ซอยพริกชี้ฟ้าและใบมะกรูด จากนั้นเปิดทำงานหม้อหุงข้าวแล้วใส่กะทิส่วนหนึ่งลงไปผัดจนแตกมัน ตามด้วยพริกแกงพะแนง ผัดจนพริดแกงส่งกลิ่นหอมเลยค่ะ ใส่เนื้อหมูตามลงไป ผัดต่อจนหมูสุกแล้วใส่กะทิส่วนที่เหลือ เพื่อน ๆ ชอบน้ำแกงมากน้อยแค่ไหนก็ใส่ได้ตามชอบเลยนะคะ ปรุงรสด้วยน้ำปลาและน้ำตาล ปิดฝาปล่อยให้นำแกงเดือดแล้วใส่มะเชือเปราะลงไป คนให้เข้ากันนิดหน่อย ปล่อยให้มะเขือสุก เมื่อมะเขือสุกดีแล้วให้เพื่อน ๆ ใส่พริกชี้ฟ้าและใบโหระพาลงในหม้อ คนให้ใบโหระพาสลด จากนั้นตักใส่ถ้วย โรยหน้าด้วยใบมะกรูดซอย ทานพร้อมกับข้าวสวยร้อน ๆ 5. สปาเก็ตตี้ซอสมะเขือเทศสปาเก็ตตี้ซอสมะเขือเทศหม้อหุงข้าวใบเดียวก็ทำอาหารฝรั่งได้เด้อ เมนูนี้ถูกใจเด็กหอแน่นอนค่ะ ไม่ว่าจะเป็นสปาเก็ตตี้, มักกะโรนี หรือเสต็กก็ไม่ยากเกินความสามารถถ้าคุณอยากทานจริง ๆ ค่ะ แต่วันนี้เรามาทำเมนูง่าย ๆ อย่างสปาเก็ตตี้กันก่อนค่ะ เราจะต้มเส้นสปาเก็ตตี้ให้สุกก่อน จากนั้นก็ทำซอสหมูสับมะเขือเทศสีแดงสดใส รสชาติเปรี้ยวอมหวาน ตัวซอสข้น ๆ หน่อย ซอสสุกได้ที่แล้วก็ตักซอสราดลงบนเส้นสปาเก็ตตี้เลยค่ะ เวลาทานก็คลุกให้เข้ากันนิดนึงแล้วก็เอนจอยจ้า วัตถุดิบสปาเก็ตตี้ซอสมะเขือเทศ
วิธีทำสปาเก็ตตี้ซอสมะเขือเทศขั้นตอนแรกเราพิจารณากล่องสปาเก็ตตี้ก่อนค่ะว่าเขาแนะนำให้ต้มกี่นาที จากนั้นก็ใช้เวลาต้มน้อยกว่านั้นประมาณ 1.30 นาทีค่ะ เสร็จแล้วก็เทน้ำใส่หม้อหุงข้าวเลย น้ำเดือดแล้วใส่เกลือลงไปประมาณ 1 ช้อนโต๊ะ น้ำเดือดอีกครั้งนำเส้นลงต้ม เส้นเริ่มนิ่มแล้วค่อย ๆ กดให้เส้นจมน้ำจนหมด เริ่มจับเวลาเลยค่ะ ครบตามที่กำหนดแล้วตักเส้นออกมาคลุกน้ำมันพืช เส้นจะเป็นแบบ Al Dente อร่อยมากค่ะ เทน้ำต้มเส้นใส่ถ้วยไว้ก่อนค่ะ หั้นมาปอกเปลือกและหั่นเต๋าแครอท จากนั้นเปิดเครื่องปกติเลย ใส่น้ำมันพืชลงในหม้อประมาณนึง น้ำมันร้อนแล้วนำหมูลงไปผัดจนสุกหอม ปรุงรสด้วยเกลือพริกไทยนิดหน่อย ผัดให้เข้ากันตามด้วแครอท แครอทสุกนิ่มแล้วใส่ซอสมะเขือเทศ ผัดให้เข้ากันอีกครั้ง ถ้าน้ำแห้งเกินไปหน่อยก็ตักน้ำต้มเส้นที่เราเก็บไว้ตอนแรกใส่ลงไปค่ะ ไม่ต้องใส่เยอะกะให้ซอสไม่ไหม้ก็พอค่ะ หลังจากซอสของเราได้ที่แล้วก็ตักราดลงบนเส้นสปาเก็ตตี้ที่เตรียมไว้ตอนแรก เสิร์ฟได้เลยค่ะ 6. ข้าวยำเกาหลีข้าวยำเกาหลีใครที่ชื่นชอบอาหารเกาหลีต้องถูกใจแน่นอนค่ะเพราะคุณสามารถทำอาหารเกาหลีได้ด้วยหม้อหุงข้าวเพียงใบเดียว และเมนูง่าย ๆ ยอดฮิตที่เราแนะนำก็คือเมนูบิบิมบับ หรือข้าวยำเกาหลีนั่นเองค่ะ เมนูนี้บอกลเยว่าอร่อยถูกปากหลายคนแน่นอนเพราะอัดแน่นไปด้วยผักนานาชนิดหลากสีที่นำไปผัดกับน้ำมันงาจนหอมกรุ่น มีเนื้อหมูหอม ๆ นุ่ม ๆ ไข่ดาวเพิ่มความนุ่มละมุน และที่ขาดไม่ได้เลยก็คือซอสโคชูจังรสเผ็ดร้อนช่วยให้รสชาติโดยรวมอร่อยกลมกล่อมค่ะ วัตถุดิบข้าวยำเกาหลี
วิธีทำข้าวยำเกาหลีขั้นตอนแรกให้เพื่อน ๆ ปอกเปลือกและซอยแครอทเป็นเส้น ๆ ก่อน ผักโขมเพื่อน ๆ สามารถเปลี่ยนเป็นผักที่ชอบได้เลยนะคะ ล้างให้สะอาดแล้วหั่นให้สั้นลงอีกหน่อย สับกระเทียมให้ละเอียด ส่วนเนื้อหมูนำมาหั่นเป็นเส้นไม่ยาวมาก เสร็จแล้วเปิดสวิตช์หม้อหุงข้าวเลยค่ะ ใส่น้ำมันงาลงไป น้ำมันงาร้อนดีแล้วก็ตอกไข่ลงไปทอดจนสุกตามต้องการค่ะ ตักขึ้นมาพักไว้ก่อน ถ้าน้ำมันงาในหม้อมีน้อยแล้วก็ใส่เพิ่มลงไปอีกนิด นำแครอทลงผัด ปรุงรสด้วยเกลือเล็กน้อย ผัดจนแครอทสุกนิ่ม ตักขึ้นมาพักไว้ ตามด้วยผักที่เหลือ ทำซ้ำขั้นตอนเดิมจนหมดค่ะ ปิดท้ายด้วยนำเนื้อหมูลงผัดกับกระเทียมเพื่อลดกลิ่นคาว ปรุงรสด้วยเกลือและพริกไทย ผัดจนสุกดีแล้วตักขึ้นมาพักไว้เหมือนกัน ส่วนผักเพื่อน ๆ สามารถเปลี่ยนมาใช้ผักที่ชอบได้นะคะ คราวนี้เราก็มาประกอบร่างกันค่ะ เริ่มจากตักข้าวสวยใส่ถ้วย วางเรียงผักลงไปรอบ ๆ ให้สวยงาม โปะด้านบนด้วยไข่ดาวและตักโคชูจังใส่ลงไปปิดท้าย ถ่ายรูปเสร็จแล้วก็คลุกเคล้าให้เข้ากันก่อนรับประทาน 7. บราวนี่บราวนี่หม้อหุงข้าวไม่ได้มีดีแค่อาหารคาว ของหวานคุณเขาก็ทำได้ค่ะ และขนมหวานยอดฮิตในพ.ศ.นี้ก็คงจะเป็นอะไรไปไม่ได้ถ้าไม่ใช่บราวนี่เนื้อหนึบหนับที่หลายคนชื่นชอบ แน่นอนว่าทางเราก็ไม่อยากจะตกเทรนด์หยิบเอาหม้อหุงข้าวขึ้นมาทำบราวนี่ทานเองซะเลย และบราวนี่ที่ได้จะเป็นเนื้อฟัดจ์แน่น ๆ ด้านนอกกรอบนิด ๆ แต่ด้านในยังมีความหนึบ มีความฉ่ำอยู่หน่อย ๆ รสชาติไม่หวานมากและเนื้อไม่ฟูเหมือนพวกเค้กบราวนี่ค่ะ ยิ่งโรยอัลมอนด์กรอบ ๆ ด้านบนหรือช็อกโกแลตชังค์ก็จะยิ่งฟิน ได้ทานกับนมอุ่น ๆ สักแก้วนี่อร่อยสุด ๆ วัตถุดิบบราวนี่
วิธีทำบราวนี่ขั้นตอนแรกผสมแป้งสาลีและผงโกโก้ก่อนค่ะ ร่อนแป้งประมาณ 2 ครั้งให้แป้งเข้ากันดี พักไว้ก่อน จากนั้นให้เพื่อน ๆ เติมน้ำในหม้อหุงข้าวแล้วกดปุ่มหุงจนน้ำร้อน หาถ้วยสักใบที่มีขนาดใหญ่กว่าหม้อหุงข้าวสักนิดมาใส่ช็อกโกแลตแล้ววางบนหม้อหุงข้าว คนไปเรื่อย ๆ จนช็อกโกแลตละลาย ใส่เนยแล้วคนต่อจนเนยละลายค่ะ
ช็อกโกแลตละลายดีแล้วนำออกจากหม้อ ใส่น้ำตาลเกลือลงไปเลยค่ะ ใช้ตะกร้อมือหรือตะกร้อไฟฟ้าตีจนน้ำตาลละลายเข้ากับช็อกโกแลตจนเนียนเป็นเนื้อเดียวกัน ช็อกโกแลตเย็นลงแล้วตอกไข่ตามลงไป คนไปเรื่อย ๆ จนส่วนผสมเนียนเป็นเนื้อเดียวเดียวกัน ตามด้วยแป้งที่ร่อนไว้ก่อนหน้าลงไปผสมเลยค่ะ ค่อย ๆ คนให้แป้งและส่วนผสมในภาชนะเนียนและแป้งไม่จับตัวเป็นก้อน
กลับมาที่หม้อหุงข้าวค่ะ ให้เพื่อน ๆ เทน้ำออก เช็ดด้านในหม้อให้แห้ง จากนั้นทาเนยให้ทั่วเพื่อกันไม่ให้บราวนี่ติดกับหม้อ ถ้าเพื่อน ๆ ใช้เนยที่ยังเป็นก้อนปาดลงไปเลยก็จะง่ายกว่าเนยละลายนะคะ จากนั้นเทแป้งบราวนี่ของเราลงไปเลย เกลี่ยให้ผิวด้านหน้าเรียบ อยากใส่พวกอัลมอนด์หรือช็อกโกแลตเพิ่มก็ใส่ไปได้เลยค่ะ ประแทกหม้อบนโต๊ะเบา ๆ เพื่อไล่ฟองอากาศ เอาหม้อใส่ตัวเครื่อง ปิดฝาแล้วกดเปิดการทำงานของหม้อหุงข้าวเลยค่ะ เมื่อครบเวลาแล้วให้นำไม้จิ้มฟันหรือไม้เสียบลูกชิ้นลองจิ้มดู ถ้ายังมีแป้งติดไม้ขึ้นมาให้เปิดเครื่องหุงต่อ ทำแบบนี้ไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะไม่มีแป้งติดไม้ เสร็จแล้วเอาบราวนี่ออกจากหม้อมาพักไว้ให้หายร้อนแล้วค่อยตัดแบ่งรับประทาน (สำหรับใครที่มีหม้อทอดไร้น้ำมัน เรามีวิธีทำบราวนี่ด้วยหม้อทอดไร้น้ำมันมาฝากด้วยนะคะ) 8. เค้กกล้วยหอมเค้กกล้วยหอมตามมาติด ๆ กับเมนูเค้กกล้วยหอม เมื่อพูดถึงเมนูเค้กหลายคนต้องคิดว่ามันจะอร่อยเท่าเตาอบไฟฟ้าเหรอ บอกเลยว่าต้องลองค่ะ เพราะสูตรนี้ทำง่าย ใช้วัตถุดิบเพียงไม่กี่อย่างเองค่ะ นอกจากวัตถุดิบน้อยแล้วยังใช้เวลาไม่นานอีกด้วย เนื้อเค้กข้องเราจะฟู นุ่ม ๆ เด้งดึ๋งเลยค่ะเพื่อน ๆ ตอนเพิ่งออกจากหม้อหุงข้าวนี่หอมฟุ้งไปทั้งครัว ส่วนของรสชาติก็อร่อยเลิศไม่แพ้กันค่ะ เนื้อเค้กนุ่ม ไม่ฝืดติดคอและรสหวานกำลังดีเลยค่ะ
วัตถุดิบเค้กกล้วยหอม
วิธีทำเค้กกล้วยหอมผสมแป้งเค้ก, เบกกิ้งโซดา และผงฟูเข้าด้วยกัน จากนั้นร่อนแป้งใส่ภาชนะเพื่อกันไม่ให้แป้งจับตัวเป็นก้อน จากนั้นหันมาปอกเปลือกกล้วยออก เพื่อน ๆ ควรใช้กล้วยสุกงอมแต่ไม่ถึงกับเละไปจุดช้ำ ๆ นะคะ กล้วยแบบนั้นจะทำให้สีของเค้กไม่สวยรวมถึงกลิ่นจะไม่หอมด้วยค่ะ เสร็จแล้วใช้ที่บดมันฝรั่งหรือส้อมบดจนเนื้อกล้วยเนียน
หันมาตอกไข่ใส่ภาชนะอีกหนึ่งใบ เติมน้ำตาลและเกลือ ใช้ส้อม, ตะกร้อมือ หรือตะกร้อไฟฟ้าปั่นจนน้ำตาลละลายและส่วนผสมทั้งหมดเนียนเป็นเนื้อเดียวกัน เมื่อส่วนผสมเนียนดีแล้วเอาแป้งแห้งใส่ลงไปค่ะ จากนั้นตีให้ส่วนผสมทั้งหมดเข้ากันดี ไม่จับเป็นก้อน หลังจากส่วนผสมทั้งหมดเนียนเป็นเนื้อเดียวกันแล้วให้เพื่อน ๆ ค่อย ๆ เทน้ำมันลงในชามผสม ขณะเดียวกันก็ยังต้องตีส่วนผสมทั้งหมดไปเรื่อย ๆ นะคะ เทน้ำมันหมดแล้วก็ตีต่อจนน้ำมันกับเนื้อขนมเนียนเป็นเนื้อเดียวกัน ไม่มีน้ำมันลอยแยกชั้น จากนั้นใส่เนื้อกล้วยลงไปเลยค่ะ ตีให้ส่วนผสมเข้ากัน ตัดกระดาษไขเป็นแผ่นเท่าก้นหม้อหุงข้าวแล้วนำมารองก้นเค้กจะได้ไม่ติดหม้อและนำออกจากหม้อง่ายขึ้นค่ะ จากนั้นเทเนื้อเค้กลงไปเลย เกลี่ยให้หน้าเนียนเท่า ๆ กัน กระแทกหม้อเล็กน้อย ๆ เพื่อไล่อากาศ จากนั้นกดเปิดทำงานหม้อตามปกติเลยค่ะ เมื่อหม้อทำงานเสร็จแล้วให้เพื่อน ๆ ลองใช้ไม้เสียบลูกชิ้นจิ้มลงไปในเนื้อเค้ก ถ้ามีเนื้อเค้กแฉะ ๆ ติดไม้ขึ้นมาให้เพื่อน ๆ กดหุงต่อค่ะ ทำซ้ำแบบนี้ไปเรื่อย ๆ จนไม่มีเนื้อเค้กเหลวติดไม้ นำเค้กออกจากหม้อ ลอกกระดาษไขออก จากนั้นผึ่งไว้ให้หายร้อนแล้วจึงตัดแบ่งรับประทานค่ะ 9. เค้กเนยสดเค้กเนยสดเค้กกล้วยหอมอาจจะไม่ถูกใจคนที่ชอบไม่ทานกล้วยสักเท่าไหร่ แต่สำหรับเค้กเนยสดแล้วคงไม่มีใครหักห้ามใจได้ค่ะ และแน่นอนว่าคุณสามารถทำเค้กเนยสดได้ง่าย ๆ ด้วยหม้อหุงข้าวที่บ้าน เพียงแค่คุณผสมแป้งเค้กและเทมันลงในหม้อหุงข้าว กดให้เครื่องทำงาน เพียงเวลาไม่นานเค้กก็สุกก็พร้อมรับประทานค่ะ เค้กที่ได้จะมีเนื้อเนียนและนุ่ม กลิ่นหอมเนยฟุ้งไปทั้งบ้านจนแทบจะห้ามใจไม่ไหว รสชาติหวาน ๆ เนื้อเค้กเบา เหมาะกับชาหรือกาแฟร้อน ๆ วัตถุดิบเค้กเนยสด
วิธีทำเค้กเนยสดขั้นตอนแรกเราจะทำส่วนผสมของแห้งก่อนค่ะ ผสมแป้งเค้ก, ผงฟู และน้ำตาลไอซิ่งเข้าด้วยกัน ร่อนของแห้งประมาณ 4 – 5 รอบเพื่อทำให้ส่วนผสมทั้งหมดเข้ากันดีค่ะ ให้พักแป้งไว้ก่อนค่ะ จากนั้นใส่เนยลงในชามผสมอีกหนึ่งใบ ใช้ตะกร้อมือหรือตะกร้อไฟฟ้าตีผสมเนยให้เนียนและขึ้นฟู จากนั้นค่อย ๆ ทยอยใส่ไข่และตีไปเรื่อย ๆ จนไข่เข้ากับเนยดีและเนื้อเนียนมากขึ้น จากนั้นทยอยใส่แป้งลงไปทีละนิดแล้วตีผสม ทำสลับไปมาจนแป้งและส่วนผสมในภาชนะเนียนเป็นเนื้อเดียวกันค่ะ
เนื้อเค้กเนียนเข้ากันดีแล้วก็หยิบหม้อหุงข้าวออกมา ทาเนยด้านในหม้อให้ทั่วเพื่อกันไม่ให้เค้กติดหม้อ จากนั้นเทแป้งลงในหม้อแล้วเกลี่ยหน้าเค้กให้เรียบเนียนแล้วกดเปิดการทำงาน รอให้หม้อหุงข้าวทำงานจนครบเวลาจากนั้นเปิดฝาหม้อ ใช้ไม้จิ้มฟันจิ้มลงไปในเนื้อเค้ก ถ้ามีแป้งเหลวติดไม้ก็เปิดเครื่องหุงต่อค่ะ ทำแบบนี้ไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะไม่มีแป้งติดไม้ จากนั้นเทเค้กออกมาพักไว้ให้หายร้อนแล้วตัดเสิร์ฟค่ะ ฟักทองเชื่อม ปิดท้ายกันด้วยขนมหวานสไตล์ไทย ๆ ที่ใครทำก็อร่อย นอกจากความอร่อยแล้วเมนูนี้ยังใช้วัตถุดิบน้อยและทำได้ง่าย ๆ ด้วยหม้อหุงข้าวเหมือนเดิมค่ะ เพื่อน ๆ บางคนอาจจะเคยทานฟักทองเชื่อมกันบ้างแล้วและคงจะรู้กันดีว่าเนื้อฟักทองเชื่อมนี่มันช่างนุ่มละมุนเสียเหลือเกิน และคุณเองก็ทำฟักทองเนื้อนุ่มได้ง่าย ๆ ด้วยหม้อหุงข้าวค่ะ สูตรของเราเนี่ยเนื้อฟักทองจะใสเป็นลิ่ม ไม่เละ รสชาติหวานกำลังพอดี เข้ากับกะทิเค็มปะแล่ม ๆ สุด ๆ ตักใส่น้ำแข็งทานตอนอากาศร้อน ๆ สดชื่นมาก วัตถุดิบฟักทองเชื่อม
วิธีทำฟักทองเชื่อมขั้นตอนแรกให้เพื่อน ๆ ล้างทำความสะอาดฟักทองก่อน จากนั้นหั่นให้เป็นชิ้นขนาดพอดีกับหม้อหุงข้าวนะคะ ถ้าชิ้นใหญ่เกินไปจะเชื่อมยาก เสร็จแล้วเทน้ำเปล่าใส่หม้อหุงข้าว ตามด้วยน้ำตาลมะพร้าวและน้ำตาลทราย นำหม้อใส่ลงในตัวเครื่องแล้วกดให้เครื่องทำงานค่ะ คนไปเรื่อย ๆ ให้น้ำตาลละลายดีและน้ำเชื่อมเหนียวขึ้นเล็กน้อย คราวนี้ให้เพื่อน ๆ ใส่ฟักทองลงในหม้อน้ำเชื่อมเลย เอาด้านที่เป็นผิวฟักทองลงก่อนนะคะ ต้มไปเรื่อย ๆ จนผิวฟักทองอ่อนนุ่มลง คอยตักฟองออกเป็นระยะด้วย เมื่อผิวฟักทองนุ่มดีแล้วก็พลิกเอาด้านเนื้อลง คราวนี้ต้มต่อจนเนื้อฟักทองสุกนิ่มและใสขึ้น อย่าลืมตักฟองออกเป็นระยะด้วยนะ ฟักทองใสดีแล้วปิดเครื่อง ทิ้งไว้ให้ฟักทองเย็นลงอีกหน่อย ระหว่างนั้นก็ผสมเกลือลงในหัวกะทิเล็กน้อยให้ออกรสเค็มอ่อน ๆ แล้วนำไปอุ่นหรือไม่อุ่นก็ได้ค่ะ คนให้เกลือละลายดีแล้วตักราดลงบนฟักทองเชื่อมชิ้นที่เราจะทานได้เลย เป็นอย่างไรกันบ้างคะกับเมนูจากหม้อหุงข้าวที่เรานำมาฝากเพื่อน ๆ ในบทความนี้ แต่ละเมนูนี่น่าอร่อยและทำตามได้ไม่ยากเลยใช่ไหมล่ะ ขอบอกว่านี่เป็นแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้นนะคะเพราะเมนูจากหม้อหุงข้าวนี่มีเยอะแยะมากกกกกก เพื่อน ๆ สามารถดัดแปลงเมนูธรรมดามาปรุงในหม้อหุงข้าวได้เลยค่ะ รับรองว่าทำไม่ยากและเพื่อน ๆ จะสนุกกับการทำอาหารมากขึ้นโดยที่ไม่จำเป็นต้องมีครัวชุดใหญ่หรือชุดเครื่องครัวแบบครบเซต ไม่ว่าจะเป็นข้าวผัด, ก๋วยเตี๋ยว, อาหารฝรั่ง, อาหารทะเล, เมนูต้ม ๆ , เมนูทอด หรือแม้แต่ขนมก็ไม่ยากเกินความสามารถของคุณแน่นอน วันนี้ต้องขอตัวไปก่อน ส่วนบทความหน้าจะเป็นเมนูเกี่ยวกับอะไรต้องมาลุ้นกันค่ะ |