จัดงานแต่งงานอิสลาม คู่รัก ต่างศาสนา

ในการจัดงานแต่งงานของคู่รักแต่ละคู่ นอกจากการจัดเลี้ยงฉลองสมรสอันเป็นภาพงานแต่งงานสุดคลาสสิคอันประกอบไปด้วยการรวมตัวผู้คนที่รักของคู่บ่าวสาวมาร่วมเป็นพยานและยินดี พร้อมทั้งจัดเลี้ยงอาหาร ตัดเค้ก และเทแชมเปญเฉลิมฉลองแล้ว พิธีแต่งงานอันเป็นดั่งสัญลักษณ์ของวาระเริ่มต้นที่คู่รักตัดสินใจอยู่ร่วมคู่ สร้างครอบครัวด้วยกัน ท่ามกลางความยอมรับของครอบครัว ที่แตกต่างกันไปในแต่ละสังคมและศาสนาก็สำคัญไม่แพ้กัน

วันนี้ Weddinglist จึงอยากกล่าวถึงการจัดแต่งงานของคู่รักชาวมุสลิม หรือพิธีแต่งงานที่เรียกว่า “พิธีนิกะห์” ซึ่งมีความสง่างาม โรแมนติกตามครรลองวัฒนธรรมที่แตกต่างออกไปค่ะ

“พิธีนิกะห์” พิธีแต่งงานแบบฉบับชาวมุสลิม

“พิธีนิกะห์” คือพิธีแต่งงานของชาวมุสลิม ที่ทั้งเจ้าบ่าวและเจ้าสาวต้องนับถือศาสนาอิสลามทั้งคู่ ใจความสำคัญและนิยามของพิธีนี้คือความเรียบง่าย และการยืนยันความรักเคารพกันในฐานะสามีภรรยาตามหลักศาสนาอิสลาม ซึ่งเส้นทางแห่งพิธีนิกะห์นี้ประกอบไปด้วย 3 ขั้นตอนด้วยกัน ตั้งแต่

การสู่ขอ เป็นพิธีที่ฝ่ายชายนำญาติผู้ใหญ่ซึ่งเป็นผู้หญิง ไปพบกับญาติผู้ใหญ่ของฝ่ายหญิง เพื่อพูดจาสู่ขอว่าที่เจ้าสาวไปเป็นภรรยา ซึ่งตามธรรมเนียมแล้ว ฝ่ายหญิงและญาติ ๆ จะใช้เวลาปรึกษากันไม่เกิน 7 วันเพื่อตอบตกลง หรือหากปฏิเสธฝ่ายหญิงจะแสดงท่าทีนิ่งเฉยเพื่อเป็นการปฏิเสธไปในตัว
การหมั้น จะเกิดขึ้นเมื่อฝ่ายหญิงตอบตกลงแต่งงาน กระนั้นฝ่ายชายจึงจัดขบวนขันหมากไปยังบ้านของฝ่ายหญิง ซึ่งขันหมากพึงประกอบด้วยพาน 3 พาน คือ พานหมากพลู พานข้าวเหนียวเหลือง และพานขนม เป็นหลัก หรือจะเพิ่มเติมแล้วแต่ฐานะของฝ่ายชาย

ส่วนพิธีนิกะห์ ซึ่งเป็นพิธีแต่งงาน ตามธรรมเนียมควรเกิดขึ้นหลังจากพิธีหมั้นภายใน 2 สัปดาห์ ซึ่งด้วยยุคสมัยที่เปลี่ยนไป และความสะดวกครบครันของสถานที่จัดงานแต่งงานหรือโรงแรมที่สามารถรองรับการจัดพิธีทั้ง 3 ขั้นตอนในวันเดียวกัน งานแต่งงานแบบมุสลิมนี้ก็สามารถเกิดขึ้นและเสร็จสิ้นภายในวันเดียวได้อย่างสะดวก และถูกต้องตามหลักศาสนาอีกด้วยค่ะ

พิธีนิกะห์ เริ่มต้นการอัญเชิญพระคัมภีร์อัลกุรอ่าน และเจ้าบ่าวและเจ้าสาวกล่าวมอบ “โต๊ะอิหม่าม” ซึ่งเป็นผู้หลักผู้ใหญ่ หรือผู้นำศาสนา เป็นเสมือนศาสนาจารย์นำปฏิบัติละหมาดหรือสอนศาสนาในชุมชน มาเป็นประธานในพิธีนิกะห์
จากนั้นโต๊ะอิหม่ามจะนำอ่านพระคัมภีร์ ที่มีเนื้อความเกี่ยวกับการสมรส และการครองชีวิตคู่ ต่อด้วยการให้โอวาทคู่บ่าวสาว เพื่อครองคู่และสร้างครอบครัวในแบบฉบับมุสลิม หลังจากนั้นผู้ปกครองของเจ้าสาว ซึ่งอาจเป็นพ่อ หรือญาติผู้ใหญ่ที่อาวุโส จะกล่าวบทนิกะห์โต้ตอบกับเจ้าบ่าว เป็นเนื้อความฝากฝังและมอบผู้เป็นลูกสาวให้เป็นภรรยาของเจ้าบ่าว ปิดท้ายด้วยการขอพรจากพระผู้เป็นเจ้า(ดูอา)

ซึ่งหลังจากนี้คู่บ่าวสาวอาจเพิ่มเติมพิธีอื่น ๆ ทั้งในรูปแบบของการแสดงความเคารพผู้ใหญ่จากทั้งสองฝ่าย ด้วยการเสิร์ฟอินผลัม และนมสด แก่ญาติผู้ใหญ่ หรือพิธียกน้ำชา หากมีฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดมีครอบครัวหรือญาติผู้ใหญ่ที่มีเชื้อสายจีน หรือสามารถเพิ่มเติมพิธีแลกแหวนแบบสากล เพื่อเพิ่มสัญลักษณ์พิเศษระหว่างกัน และสร้างช่วงเวลาแสนโรแมนติกน่าจดจำให้กับพิธีแต่งงานศักดิ์สิทธิ์ขึ้นไปอีก ไปจนถึงจัดเลี้ยงฉลองสมรส ตัดเค้กแต่งงาน หรือจัด After Party แบบไร้แอลกอฮอล์ ฯลฯ ก็สามารถดัดแปลงเพิ่มเติมได้ตามยุคสมัย และตามสไตล์ของบ่าวสาว โดยยังอยู่ในขอบเขตของศาสนาค่ะ

ด้วยความที่พิธีแต่งงานของชาวมุสลิม(พิธีนิกะห์) มีธรรมเนียมในพิธีต่าง ๆ ที่มีรายละเอียดมาก และมีกฎเกณฑ์เคร่งครัดเฉพาะตัว การเลือกสถานที่สำหรับจัดงานแต่งงาน(พิธีนิกะห์) ให้ถูกต้องตามหลักศาสนา และไม่มีข้อกังขาสำหรับญาติผู้ใหญ่และแขกเหรื่อ จึงเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อและต้องใส่ใจเป็นอย่างมาก ตั้งแต่การเลือกสถานที่ ๆ สามารถรองรับแขกจำนวนมากได้ เพราะสังคมมุสลิมนั้นมีความอบอุ่นแบบครอบครัวใหญ่ ไปจนถึงทีมงานจัดเลี้ยงความรู้เกี่ยวกับพิธีการและธรรมเนียมต่าง ๆ เพื่อดูแลลำดับงานและรายละเอียดต่าง ๆ ได้อย่างมืออาชีพ รวมทั้งอาหารและเครื่องดื่มที่ได้มาตรฐานฮาลาลตามหลักศาสนา ให้การเฉลิมฉลองเป็นไปได้อย่างราบรื่นและอุ่นใจได้ค่ะ

ทำไมคู่รักชาวมุสลิมจึงไว้วางใจจัดงานแต่งงาน(พิธีนิกะห์) ณ โรงแรมอัล มีรอซ กรุงเทพฯ รามคำแหงซอย 5

ศักยภาพในการรองรับการจัดงานแต่งงานแบบมุสลิม(พิธีนิกะห์) อย่างมืออาชีพ ครบครันในที่เดียว

ด้วยความที่โรงแรมอัล มีรอซ กรุงเทพฯเป็นโรงแรมมาตรฐานฮาลาลแบบ 100% และเพียบพร้อมไปด้วยทีมงานมืออาชีพชาวมุสลิมที่เข้าใจธรรมเนียมและข้อปฏิบัติต่าง ๆ ไปจนถึงพิธีการแต่งงานแบบมุสลิมเป็นอย่างดี ที่นี่จึงสามารถให้บริการจัดงานแต่งงานแบบมุสลิมได้อย่างครบครัน เรียกได้ว่าตอบได้ทุกโจทย์ที่ว่าที่บ่าวสาวมุสลิมมีเลยก็ว่าได้
ไม่ว่าจะด้วยสถานที่จัดงานแต่งงานที่สง่างามตามแบบมุสลิม สามารถจัดเตรียมพิธีแต่งงาน และงานจัดเลี้ยงได้แบบสมบูรณ์ ตั้งแต่การจัดสถานที่ เฟอร์นิเจอร์ อุปกรณ์พิธี ซึ่งรวมไปถึงสามารถรองรับการจัดงานแต่งงานในแบบที่ไม่ใช่มุสลิมได้อีกด้วย โดยมีทีมงานมืออาชีพที่สามารถเป็นดั่งที่ปรึกษา และพี่เลี้ยงให้แก่ว่าที่บ่าวสาวตลอดการเตรียมงาน ไปจนถึง ณ วันงานที่ทีมงานโรงแรมสามารถช่วยรันคิว และดูแลลำดับงานต่าง ๆ ในพิธีได้อย่างแม่นยำอีกด้วยค่ะ

ห้องจัดเลี้ยงสง่างามตามสไตล์อารบิก

โรงแรมอัล มีรอซ กรุงเทพฯ มีกลิ่นอายของมนต์เสน่ห์แบบ Islamic ทั่วทั้งโรงแรม ตั้งแต่รูปตึกโดมสีทองสง่างาม ไปจนถึงการตกแต่งภายในทั้งหมด รวมทั้งห้องจัดเลี้ยงหลากหลายขนาด ซึ่งมีห้อง Grand Meroz Banquet Hall เป็นห้องบอลรูมใหญ่ที่สุดของโรงแรม ตกแต่งด้วยดีไซน์แบบ Islamic ได้กลิ่นอายแบบอารบิคเต็มขั้น สีสันแดง-ทองมีชีวิตชีวาและดูภูมิฐาน ตัวห้องเพดานสูง ไร้เสา ดูโอ่โถง ทั้งยังสามารถรองรับแขกได้สูงสุดถึง 900 ท่านภายในห้อง โดยหากใช้พื้นที่ทั้งชั้นรวมทั้งบริเวณ Foyer ไปจนถึงชั้น 2 ซึ่งเป็นชั้นล่างลงมา ก็สามารถรองรับแขกได้เพิ่มขึ้นถึงหลักพันเลยทีเดียวค่ะ

 เปลี่ยนบรรยากาศโรแมนติกแบบชิล ๆ ด้วยการจัดเลี้ยงแบบ Outdoor บนดาดฟ้าได้

หลังจากพิธีแต่งงานในรูปแบบพิธีการ คู่บ่าวสาวสามารถเลือกจัดงานเลี้ยงฉลองตามสไตล์ตัวเอง ให้ได้เพิ่มความสนุกสนานขึ้นมานิด ด้วยปาร์ตี้รื่นเริงกับเพื่อน ๆ ต่อได้เลยในที่เดียวกัน เพราะโรงแรมอัล มีรอซ กรุงเทพฯ ยังมีพื้นที่ดาดฟ้าดีไซน์เก๋ ณ โดมสีทอง ไว้สำหรับรองรับการจัดงานเลี้ยงฉลองแบบ Outdoor ให้คู่บ่าวสาวได้จัดปาร์ตี้ชิล ๆ หรือเปิดฟลอร์เต้นรำสุดโรแมนติกใต้แสงดาว ซึ่งดาดฟ้าแห่งนี้ไม่ได้มีเพียงแต่คู่บ่าวสาวชาวมุสลิมเท่านั้นที่ถูกใจ แต่ยังมีคู่รักอีกมากมายที่แอบลิสต์ดาดฟ้าสุดเก๋แห่งนี้ไว้เป็นสถานที่จัดแต่งงานสุดโรแมนติกแบบ Open Air ในบรรยากาศแบบไม่ซ้ำใครค่ะ

อาหารจัดเลี้ยงมาตรฐานฮาลาล 100%

ด้วยข้อจำกัดพิเศษเฉพาะตัวของอาหารแบบมุสลิม การจัดเลี้ยงอาหารในงานแต่งงานที่ต้องรองรับแขกเหรื่อที่ส่วนใหญ่เป็นชาวมุสลิม จึงเป็นเรื่องที่ต้องพิถีพิถัน ซึ่งโรงแรมอัล มีรอซ กรุงเทพฯ สามารถตอบโจทย์นั้นได้อย่างสมบูรณ์แบบ นอกจากมีครัวมาตรฐานฮาลาล 100% แล้ว ยังมีเชฟชาวโปรตุเกส อาหรับ และอินเดีย ที่สามารถรังสรรค์อาหารได้หลากหลายแบบนานาชาติ อีกทั้งยังมั่นใจได้ถึงมาตรฐานการเสิร์ฟเครื่องดื่มที่ไร้แอลกอฮอล์ 100% ทำให้ทั้งคู่บ่าวสาวและแขกต่างวางใจได้ถึงมาตรฐานที่รองรับงานแต่งงานแบบมุสลิมได้อย่างเคร่งครัดพร้อมกับรสชาตที่ประทับใจได้ค่ะ

แพ็คเกจแต่งงาน(พิธีนิกะห์) โรงแรมอัล มีรอซ กรุงเทพฯ รามคำแหงซอย 5

 ราคาต่อท่าน

 950 บาท

 อาหาร

 โต๊ะจีน 

 บุฟเฟ่ต์ไทย, นานาชาติ

 ค็อกเทล

  ซิทดาวน์ ดินเนอร์

 ที่จอดรถ

 700 คัน

รองรับแขก

 สูงสุด 1,200 ท่าน

การเดินทาง

 รถไฟฟ้า Airport Rail Link (รามคำแหง)

 รถ TAXI 

 รถส่วนตัว

บริการอื่น ๆ

 จัดประชุมสัมมนา, Event, งานปาร์ตี้