ถ้าหากจะพูดว่า แท็บเล็ต (Tablet) เป็นอุปกรณ์ที่ได้รวบรวมเอาข้อดีของหลาย ๆ อุปกรณ์ มารวมไว้ในตัวมันเองก็ไม่ผิดนักครับ เพราะภายในแท็บเล็ตมีหน้าจอสัมผัสเหมือนกับสมาร์ทโฟน สามารถใช้งานด้วยปลายนิ้วมือ หรือใช้กับปากกาสไตลัส เพื่อจดบันทึกหรือวาดภาพก็ได้ แต่ข้อดีที่ทำให้แท็บเล็ตเหนือกว่าสมาร์ทโฟน คือ การมีหน้าจอที่ใหญ่กว่า ทำให้การดูหนัง, ฟังเพลง, เล่นเกม หรือแม้แต่ทำงาน แท็บเล็ตย่อมทำได้ดีกว่าครับ ซึ่งแท็บเล็ตบางรุ่นมีหน้าจอใหญ่จนเกือบจะเท่ากับโน้ตบุ๊คอยู่แล้ว แต่กลับมีขนาดเล็กกว่ามาก ทำให้พกพาได้สะดวกกว่าโน้ตบุ๊คครับ อีกทั้งในปัจจุบันแท็บเล็ตระดับไฮเอนด์หลาย ๆ รุ่น มักมาพร้อมกับสเปกที่แรงเองเรื่องเลย ช่วยให้คุณสามารถคีย์บอร์ด, เมาส์ หรืออุปกรณ์อื่น ๆ มาเชื่อมต่อเพิ่มเติม เพียงเท่านี้ แท็บเล็ต มันก็จะกลายเป็นแล็ปท็อปให้คุณได้ใช้งานทันทีครับ Show
ในปัจจุบัน แท็บเล็ต มีอยู่หลายรุ่น หลายยี่ห้อ อย่างในฝั่ง แท็บเล็ตแอนดรอยด์ ก็มีทั้ง Samsung, Huawei, Xiaomi และรุ่นอื่น ๆ อีกมากมายครับ แต่หากจะพูดถึง แท็บเล็ตดี ๆ ที่มีประสิทธิภาพสูง ๆ ใช้งานได้นาน สามารถใช้งานได้อย่างลื่นไหล พร้อมระบบปฎิบัติการที่เสถียร คนส่วนใหญ่จะต้องนึงถึง “iPad” เป็นอันดับแรกอย่างแน่นอน เนื่องจาก iPad ถือเป็นผู้บุกเบิกตลาดนี้รุ่นแรก ๆ เลยครับ ดังนั้นด้วยชื่อเสียงที่สั่งสมมานาน มันก็ไม่แปลกที่หลาย ๆ คนจะไว้วางใจ เราต้องยอมรับเลยครับว่า iPad ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก มาตั้งแต่รุ่นแรก ๆ ซึ่ง Apple ก็ได้เปิดตัวรุ่นย่อยออกมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ไอแพดสามารถตอบโจทย์การใช้งานของคนได้ทุกกลุ่ม ไม่ว่าจะเป็น เด็ก ๆ วัยเรียน วัยทำงาน หรือแม้แต่คนวัยเกษียณ แต่ด้วยความที่มันมีตัวเลือกเยอะขึ้น หลาย ๆ คนจึงมีคำถามว่า รุ่นไหนที่เหมาะสมกับการใช้งานของเรา และมีความคุ้มค่าต่อการลงทุนซื้อมากที่สุด ? วันนี้เราขอมาสรุปให้คุณได้อ่านกันครับ การจะเลือกซื้อ iPad ในปีนี้ถือว่าไม่ใช่เรื่องที่ง่ายเลยครับ เนื่องจาก Apple ได้ออก iPad มาหลายรุ่น หลายซีรี่ส์มาก ๆ ทำให้ผู้ซื้ออย่างเรางงไปตาม ๆ กัน และสับสนว่า จะซื้อรุ่นเก่าหรือรุ่นใหม่ดี ? รุ่นไหนจะคุ้มค่าที่สุด ? แถมแต่ละรุ่นมีจุดแตกต่างกันน้อยมาก บวกกับลักษณะภายนอกก็ยังเหมือน หรือคล้าย ๆ กันอีกด้วย (ต่างกันตรงชื่อรุ่นและปีที่ออก) และรวมไปถึง iPad ทุกรุ่น จะใช้ระบบปฎิบัติการ Apple iPadOS ซึ่งออกแบบมาสำหรับไอแพดโดยเฉพาะ iPad ทุก ๆ รุ่นจะมีทั้งข้อดีและข้อเสียแตกต่างกันไปครับ เพราะมันถูกออกแบบมาเพื่อให้ตอบโจทย์กลุ่มคนในแต่ละกลุ่ม ฉะนั้นเพื่อให้ได้ไอแพดรุ่นที่คุ้มค่า และตรงกับความต้องการของคุณมากที่สุด คุณก็จะต้องทราบและทำความเข้าใจก่อนว่าในแต่ละรุ่นมันเหมาะกับคนกลุ่มไหนบ้าง ? Apple ได้แบ่งกลุ่ม iPad ออกเป็น 4 กลุ่มคุณรู้หรือไม่ครับว่า Apple ได้มีการแบ่งกลุ่ม iPad ออกเป็น 4 กลุ่ม ด้วยกัน ซึ่ง iPad แต่ละกลุ่มนั้น ก็จะถูกออกแบบให้มีความเหมาะสมกับการใช้งานของผู้ใช้มากที่สุด ทำให้คุณมีตัวเลือกมากขึ้น และนั้นทำให้ iPad สามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ในทุกระดับ ทั้ง นักเรียน นักศึกษา รวมไปถึงกลุ่มคนทำงาน โดยทั้ง 4 กลุ่ม มีดังนี้
iPad แต่ละรุ่น เหมาะสำหรับกลุ่มผู้ใช้งานใดบ้าง ?iPad แต่ละรุ่น เหมาะสำหรับกลุ่มผู้ใช้งานใดบ้าง ?เรียงลำดับ iPad รุ่นที่ดีที่สุด โดยสรุป
iPad แต่ละรุ่นมีราคาที่แตกต่างกันมากพอสมควรครับ โดยราคาจะสูงตามฟังก์ชันการใช้งานต่าง ๆ ดังนั้นหากฟังก์ชันไหนที่คุณคิดว่าไม่ได้ใช้งานก็ให้คุณตัดรุ่นนั้นออกไป เช่น หากคุณจะหา iPad ไปให้ลูกดูการ์ตูน iPad Mini ดูเหมาะที่สุด เพราะขนาดเล็กน้ำหนักเบา และมีราคาไม่สูงมากนัก หรือหากคุณเป็นคนที่ทำงานด้านกราฟฟิก ต้องสเก็ต ต้องจดอะไรอยู่ตลอดเวลา iPad Pro ก็จะเหมาะสมกับคุณที่สุดครับ รีวิว Apple iPad 10.2 (9th Gen 2021)รูปภาพจาก apple.comราคา 11,400 บาท* iPad 10.2 (9th Gen) ถือเป็นไอแพดรุ่นเริ่มต้น ที่คุ้มค่ามากที่สุดครับ แม้ดีไซน์ตัวเครื่องยังคงเดิม แต่ภายในได้มีการอัปเกรดขึ้นหลายจุดด้วยกัน ช่วยให้มันมีประสิทธิภาพที่สูงขึ้น มีฟีเจอร์ต่าง ๆ จัดเต็มมากขึ้น สำหรับไอแพดเจนฯ ใหม่นี้ยังคงใช้ดีไซน์แบบเดิม เน้นการใช้งานที่ง่าย คุ้นมือ มาพร้อมหน้าจอขนาดใหญ่ 10.2 นิ้ว ชนิด Retina Display ซึ่งแสดงผลได้อย่างสวยงาม และมีความสว่างที่ 500 นิต ช่วยให้ภาพสว่างสดใส คมชัด และใช้งานง่าย ขับเคลื่อนการทำงานด้วยชิป A13 Bionic ที่เป็นตัวเดียวกันกับที่ใช้อยู่ใน iPhone 11 ทำให้มันมีความเร็วเพิ่มขึ้นกว่าเจนฯ ก่อนถึง 20% ตอบโจทย์ในการใช้งานเทคโนโลยีใหม่ ๆ ได้เป็นอย่างดี โดยทำงานอยู่บนระบบปฏิบัติการ iPadOS 15 ที่ได้มีการเพิ่มเติมฟีเจอร์ใหม่เข้าไปมากมายครับ และในส่วนที่โดดเด่นที่สุดของ iPad 10.2 (9th Gen) ก็คือ กล้องหน้า ที่จัดเต็มมาให้แบบสุด ๆ ซึ่งตอบสนองกลุ่มผู้ใช้ส่วนใหญ่ที่เน้นการวิดีโอคอลได้อย่างยอดเยี่ยม ด้วยกล้องหน้าแบบอัลตร้าไวด์ สุดล้ำสมัย ความละเอียด 12MP โดดเด่นด้วย ฟีเจอร์จัดให้อยู่ตรงกลาง (Center Stage) ช่วยให้เสมือนคุณมีช่างภาพส่วนตัวมาคอยจับภาพ และควบคุมมุมกล้องให้ ในขณะที่คุณวิดีโอคอล เหมาะมากทั้งการพรีเซ็นต์งานออนไลน์ หรือใช้เรียนออนไลน์ ส่วนกล้องหลังยังคงเหมือนเดิมครับ ความละเอียด 8MP ที่พอใช้งานได้ สำหรับ iPad 9th Gen นี้ถือเป็นไอแพดรุ่นเริ่มต้นที่มีความคุ้มค่ามาก ๆ ครับ โดยเราได้ทำการรีวิวอย่างละเอียดเอาไว้แล้ว สามารถอ่านต่อได้ที่ Apple iPad Gen 9 (2021) ข้อดี
ข้อควรพิจารณา
รีวิว Apple iPad mini Wi-Fi 2021 (6th Gen)รูปภาพจาก apple.comราคา 17,900 บาท* เพิ่งเปิดตัวไป เมื่อเดือนกันยายน 2021 ที่ผ่านมาครับ สำหรับ iPad Mini 6 (6th Gen) ไอแพดยอดนิยม ขนาดกะทัดรัด พกพาสะดวก มาพร้อมประสิทธิภาพการทำงานที่สูง โดยคราวนี้มาในดีไซน์แบบใหม่ทั้งหมด โดยได้ปรับไปใช้ดีไซน์ทิศทางเดียวกับรุ่นพี่ ที่เน้นความเป็นเหลี่ยม เป็นมุม ดูดีทุกมุมมอง มีหน้าจอแบบใหม่ แบบขอบจรดขอบ ตัดปุ่มโฮมออก ทำให้ดูเข้ากับยุคสมัยมากขึ้น มีการปรับขนาดให้ใหญ่ขึ้นเป็น 8.3 นิ้ว ชนิด IPS แบบ Full Lamination ซึ่งสามารถรองรับ Apple Pencil (รุ่นที่ 2) ได้ พร้อมกับการแสดงผล แบบ True Tone ให้ขอบเขตสีสันกว้าง P3 และลดการสะท้อนของแสงได้อย่างยอดเยี่ยม ทำให้แสดงผลตัวหนังสือได้คมชัด มีสีสันสดใส แม่นยำ และใช้งานได้อย่างลื่นไหล ขับเคลื่อนด้วยชิปฯ A15 Bionic รุ่นใหม่ โดยเป็น CPU แบบ 6 คอร์ GPU แบบ 5 คอร์ และ Neural Engine แบบ 16 คอร์ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานให้สูงมากยิ่งขึ้น โดยทำงานเร็วขึ้น 40% และมีกราฟฟิกที่เร็วขึ้นถึง 80% ทำงานบนระบบ iPadOS 15 ซึ่งมีความเสถียรมากกว่าเดิม พร้อมฟีเจอร์อีกเพียบ ส่วนกล้องหลัง เป็นเลนส์ไวด์ 12MP แฟลช True Tone พร้อมออโต้โฟกัส ด้วย Focus Pixels และกล้องหน้าเลนส์อัลตร้าไวด์ 12MP โดยมีมุมมองภาพ 122 องศา และมีวิดีโอไทม์แลปส์ พร้อมกับระบบป้องกันภาพสั่นไหวอัตโนมัติ ทั้งหน้าและหลัง และมีฟังก์ชันอื่น ๆ อีกมากมายครับ ใครที่ต้องการไอแพดสำหรับพกพา ขอบอกเลยว่า ไม่มีรุ่นไหนเหมาะเท่ากับรุ่นนี้อีกแล้วครับ จะดูหนังก็สนุกเต็ม ๆ ตา หรือจะเล่นเกมก็ทำได้อย่างลื่นไหล ไม่มีสะดุดแน่นอนครับ ข้อดี
ข้อควรพิจารณา
รีวิว Apple iPad Air 2022 (5th Gen)รูปภาพจาก apple.comราคา 20,900 บาท* iPad Air (5th Gen) เป็นไอแพดรุ่นใหม่ที่คุ้มค่าที่สุด เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมานี่เองครับ โดยยังคงมาในดีไซน์เรียบหรู และบางเบาแบบเดิม ซึ่งแทบไม่ต่างไปจาก iPad Air (4th Gen) เจนฯ ก่อนหน้าเลย หน้าจอก็ยังใช้เป็นจอ Retina แบ็คไลท์แบบ LED 10.9 นิ้ว พร้อมเทคโนโลยี IPS ที่มีเขตสีกว้าง (P3) การแสดงผลแบบ True Tone มอบความสว่าง 500 นิต ช่วยมอบภาพที่คมชัด สีสันสดใสเป็นธรรมชาติ อีกทั้งยังมีการเคลือบสารป้องกันแสงสะท้อน และสารกันรอยนิ้วมือให้ด้วย ช่วยให้การใช้งานกับปากกา Apple Pencil 2 ได้ถนัดมากยิ่งขึ้นครับ แม้ว่าดีไซน์ ขนาดตัวเครื่อง และหน้าจอ ยังเหมือนเดิมแทบทุกประการ แต่ความพิเศษคือ การอัปเกรดสเปกภายในใหม่ โดยเฉพาะชิปเซ็ต Apple M1 ซึ่งเป็นชิปฯ ตัวเดียวกับที่ใช้อยู่ใน iPad Pro (5th Gen) ครับ พร้อมกับเพิ่มแรมอีกเท่าตัวเป็น 8GB ทำให้มันมีประสิทธิภาพสูงขึ้นกว่ารุ่นเดิมถึง 60% ช่วยให้คุณใช้งานประมวลผลด้านต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ยังมีการอัปเกรดกล้องหน้าเป็นเลนส์ Ultra Wide 12MP พร้อมฟีเจอร์ Center Stage จัดให้อยู่ตรงกลาง เพิ่มคุณสมบัติใหม่ให้กับการ FaceTime เพื่อรองรับการวิดิโอคอล ที่สมบูรณ์แบบมากขึ้น และยังรายละเอียดอื่น ๆ อีกมากมายครับ ซึ่งเราได้รีวิวแบบเจาะลึกไว้แล้ว สามารถอ่านต่อได้ที่ เปิดตัว iPad Air 5th Gen ที่ใช้ชิป M1 อันทรงพลัง ข้อดี
ข้อควรพิจารณา
รีวิว Apple iPad Air Wi-Fi 2020 (4th Gen)รูปภาพจาก apple.comราคา 20,990 บาท* iPad Air Wi-Fi (4th Gen) ไอแพดรุ่นที่คุ้มค่าที่สุด มาในดีไซน์ใหม่ ดูเรียบหรู สวยงาม และบางเบา แต่ยังคงไว้ซึ่งคุณภาพของแท็บเล็ตทุก ๆ อย่างไว้อย่างยอดเยี่ยมเช่นเดิม มาพร้อมหน้าจอ Liquid Retina แบ็คไลท์แบบ LED ขนาด 10.9 นิ้ว พร้อมกับเทคโนโลยี IPS และเทคโนโลยีการผลิตที่ทำให้ขอบจอเล็กลงได้ ช่วยให้คุณดูหนัง หรืออ่านหนังสือ ด้วยภาพที่คมชัด สีสันสดใส เต็ม ๆ ตามากขึ้น และยังทำให้การใช้งานได้กับปากกา Apple Pencil ได้ถนัดมากขึ้นด้วยครับ ในด้านสเปกมาพร้อมกับชิปฯ A14 ที่มีความเร็วในการประมวลผลสูง ช่วยให้คุณใช้งานในด้านต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็ว ถือเป็นรุ่นที่มีหน้าจอสวย แบตเตอรี่อึด เหมาะกับคนที่มองหาแท็บเล็ตที่มีประสิทธิภาพ แต่ราคาไม่สูงจนเกินไป สามารถใช้ทำงานหนัก ๆ ได้ ไม่ว่าจะเป็น แต่งรูปภาพ ตัดต่อวิดีโอทั่ว ๆ ไป หรือจะใช้เล่นเกม iPad Air ก็สามารถทำได้อย่างลื่นไหล ซึ่งราคาในระดับนี้ มันถือว่าเป็นรุ่นที่คุ้มค่ากับราคามาก ๆ ครับ ข้อดี
ข้อควรพิจารณา
รีวิว Apple iPad Pro 11-inch Wi-Fi 2021 (3rd Gen)รูปภาพจาก apple.comราคา 26,700 บาท* Apple iPad Pro 11 inch (3rd Gen) เป็นไอแพดรุ่นใหม่ล่าสุด ซึ่งมาในดีไซน์ที่เรียบหรู ขนาดกำลังดี บางเบา พกพาง่าย ยังคงใช้ขอบเหลี่ยมเป็นดีไซน์พื้นฐาน มาพร้อมหน้าจอแสดงผลมัลติทัช แบ็คไลท์แบบ LED ขนาด 11 นิ้ว ชนิด Liquid Retina ความละเอียดสูง ส่งผลให้รุ่นนี้แสดงผลภาพได้สวยงามมาก ๆ ครับ มีสีสันเป็นธรรมชาติ และมีเทคโนโลยี ProMotion ทำให้สามารถแสดงผลแบบ True Tone ช่วยทำให้สีสันมีความแม่นยำสูงขึ้น ไม่ผิดเพี้ยน ในด้านสเปก มาพร้อมกับชิปฯ ประสิทธิภาพสูง Apple M1 แบบ 8 คอร์ ทำงานคู่กับ GPU แบบ 8 คอร์เช่นกัน ทำให้มีประสิทธิภาพในด้าน CPU เร็วขึ้นถึง 50% และมีประสิทธิภาพด้านกราฟฟิกเร็วขึ้นอีก 40% พร้อม Neural Engine แบบ 16 คอร์ ทำให้ iPad Pro รุ่นใหม่นี้เป็นหนึ่งในแท็บเล็ตที่ทำงานได้รวดเร็วที่สุด นอกจากนี้ยังสามารถประหยัดพลังงานได้อย่างน่าทึ่งอีกด้วยครับ ส่วนการเชื่อมต่อก็มาครบครัน โดยเฉพาะการรองรับ Thunderbolt 3 และ USB 4 พอร์ตที่เร็วแรง และมีความอเนกประสงค์ที่สุด ซึ่งสามารถใช้ร่วม USB‑C ได้ ซึ่งมีแบนด์วิดท์สำหรับการเชื่อมต่อสูงสุดถึง 40 Gbps สำหรับ iPad Pro 11-inch (3rd Gen) ด้านสเปกไม่ต้องพูดถึงครับ รุ่นนี้มีทั้งความเร็วและความแรงไม่ต่างจาก iPad Pro 12.9-inch (5th Gen) รุ่นพี่เลย ฉะนั้นใครต้องการไอแพดประสิทธิภาพสูง อยู่ในบอดี้ที่สามารถพกพาได้ง่าย iPad รุ่นนี้เหมาะมาก ๆ ครับ ข้อดี
ข้อควรพิจารณา
รีวิว Apple iPad Pro 12.9-inch Wi-Fi 2020 (4th Gen)รูปภาพจาก apple.comราคา 34,500 บาท* iPad Pro 12.9-inch (4th Gen) เป็นไอแพดรุ่นที่เคยได้ชื่อว่า ดีที่สุด และราคาสูงที่แล้ว ก่อนที่ iPad Pro 12.9 นิ้ว (5th Gen) จะเปิดตัวออกมาแทนที่ ซึ่งเป็นรุ่นแรก ๆ ที่มาในดีไซน์ตัวเครื่องที่ปรับใหม่ โดยได้รับแรงบันดาลใจจาก iPhone 5 ที่ปรับขอบตัวเครื่องให้เป็นเหลี่ยมคม ทำให้ดูโดดเด่น ล้ำสมัย ต่างจากรุ่นก่อน ๆ มาก โดย iPad Pro (4th Gen) มาพร้อมกับจอภาพ Multi-Touch ชนิด Liquid Retina แบ็คไลท์แบบ LED ขนาดใหญ่ 12.9 นิ้ว พร้อมเทคโนโลยี IPS ช่วยให้สามารถแสดงผลภาพได้สวยงามมาก อีกทั้งยังมี ProMotion แสดงผลแบบ True Tone ช่วยมอบความแม่นยำของสีสูงขึ้น เหมาะมากสำหรับใช้ในงานด้านการตกแต่งภาพ ด้านกราฟิก หรืองานด้านอื่น ๆ ที่ต้องการความแม่นยำของสีสูง ๆ ในด้านสเปกรุ่นนี้ใช้ ชิปฯ A12Z Bionic chip สถาปัตยกรรม 64 บิต พร้อม Neural Engine ที่ช่วยให้มีประสิทธิภาพที่สูงขึ้น ทำให้ iPad Pro รุ่นนี้ได้กลายเป็นหนึ่งในอุปกรณ์ที่เคยมีประสิทธิภาพสูงที่สุด สามารถประมวลผลสิ่งต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็วและยังประหยัดพลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย เหมาะสำหรับนักออกแบบ กราฟฟิกดีไซน์ โปรแกรมเมอร์ หรือใช้ทำงานอื่น ๆ สำหรับ Apple iPad Pro (4th Gen) ถือแม้จะค่อนข้างเก่าไปแล้ว แต่ด้วยสเปกที่ค่อนข้างสูง บวกกับราคาที่ปรับลดลงมาก็ถือว่าน่าสนใจมาก ๆ ครับ สำหรับคนที่กำลังมองหาไอแพด เพื่อนำไปใช้พิมพ์งาน แต่งภาพ ทำเพลง หรือตัดต่อวิดีโอ บอกเลยว่ารุ่นนี้เหมาะมาก ๆ ครับ ข้อดี
ข้อควรพิจารณา
รีวิว Apple iPad Pro 12.9-inch Wi-Fi 2021 (5th Gen)รูปภาพจาก apple.comราคา 35,399 บาท* iPad Pro 12.9-inch (5th Gen) เป็นไอแพดโปรรุ่นล่าสุด ซึ่งมีสเปกและประสิทธิภาพเร็วแรงที่สุด ในบรรดาไอแพดทุกรุ่นที่เคยมีมาและมีราคาสูงที่สุดด้วย โดยมาในดีไซน์ที่เรียบหรู และพรีเมี่ยมดังเดิม ใช้หน้าจอมัลติทัช Liquid Retina XDR แบ็คไลท์แบบ Mini‑LED ขนาด 12.9 นิ้ว พร้อมระบบแบ็คไลท์ 2D ที่มาพร้อมโซนหรี่แสงเฉพาะที่ ซึ่งช่วยให้แสดงผลได้เป็นธรรมชาติมากขึ้น มีสีสันที่สมจริง และมีเทคโนโลยี ProMotion แสดงผลแบบ True Tone ช่วยให้การแสดงสีสันมีความแม่นยำสูง เหมาะสำหรับงานที่ต้องการสีสันที่เที่ยงตรง โดยความพิเศษของ iPad Pro ก็คือ ชิปฯ M1 ตัวใหม่ที่ช่วยให้มีประสิทธิภาพที่สูงขึ้นถึง 50% ทำงานคู่กับ GPU แบบ 8 คอร์ ส่งผลให้มีประสิทธิภาพด้านกราฟิกสูงขึ้นถึง 40% เช่นกัน พร้อม Neural Engine แบบ 16 คอร์ ทำให้ iPad Pro รุ่นนี้กลายเป็นอุปกรณ์ที่มีประสิทธิภาพสูงที่สุด และทำงานได้รวดเร็วที่สุดด้วย และยังสามารถประหยัดพลังงานได้อย่างน่าทึ่งครับ สำหรับ Apple iPad Pro (5th Gen 2021) แม้จะมีราคาที่สูงที่สุด แต่ก็คุ้มค่ากับราคามาก ๆ ครับ เพราะมันสามารถทำทุก ๆ อย่างที่คุณต้องการได้ ด้วยสเปกที่สูง มันจึงสามารถจะช่วยให้งานของคุณเสร็จได้อย่างรวดเร็วขึ้น ข้อดี
ข้อควรพิจารณา
* หมายเหตุ: ราคาสินค้าอาจมีการเปลี่ยนแปลง ขึ้นอยู่กับเงื่อนไข และโปรโมชั่นของแต่ละร้านค้า สเปคของ iPad รุ่นต่าง ๆ ในปี 2022สเปคของ iPad ในปี 2022วีดีโอสรุป ซื้อ iPad รุ่นไหนดีและเหมาะสำหรับคุณสำหรับใครที่กำลังมองหาแท็บเล็ตที่มีราคาถูกกว่า iPad คุณอาจคงจะต้องลองเปลี่ยนใจไปดูแอนดรอยด์แท็บเล็ตแทน ซึ่งก็มีให้เลือกหลากหลายยี่ห้อ หลายรุ่น คุณสามารถดูรีวิวเพิ่มเติมรุ่นที่ดีที่สุดจากทีมเบสท์รีวิว เอเชีย ได้ที่ รีวิว แท็บเล็ต สำหรับดูหนัง เรียนออนไลน์ ยี่ห้อไหนดี บทส่งท้ายแบรนด์ Apple เป็นแบรนด์ที่มีชื่อเสียงด้านฮาร์ดแวร์อยู่แล้ว เนื่องจากฮาร์ดแวร์มีสเถียรภาพมาก ใช้งานได้เป็นอย่างดี และใช้วัสดุที่แข็งแรง ทนทาน วัสดุที่มีคุณภาพทั้งหมดในการผลิต ทั้ง CPU กล้องหน้า-หลัง หน้าจอ แบต หรืออื่น ๆ ทั้งหมดนี้ทำให้ผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ของ Apple ได้รับความนิยมไปทั้วโลก หากคุณเป็นสาวก Apple คุณจะเข้าใจดีสินค้าของ Apple ดีอย่างไร ใช้งานง่ายแค่ไหน แต่หากคุณยังไม่เคยใช้ของ Apple เลย เราอยากแนะนำให้คุณของใช้ดูแล้วคุณจะติดใจ (จริง ๆ นะ)
Apple Pencil 1 ใช้ กับ iPad gen 8 ได้ไหมApple Pencil รุ่นแรก ใช้กับ iPad Gen 6,7,8,9 iPad Air 3 และ mini 5 ได้ ฿3,400. 4.9.
Apple Pencil ใช้กับไอแพดรุ่นไหนบ้างApple Pencil (รุ่นที่ 1)
iPad mini (รุ่นที่ 5) iPad (รุ่นที่ 6 และใหม่กว่า) iPad Air (รุ่นที่ 3) iPad Pro 12.9 นิ้ว (รุ่นที่ 1 และรุ่นที่ 2)
iPad GEN 9 รองรับ Apple Pencil รุ่นไหนรองรับปากกา Apple Pencil 1
รุ่น WiFi ความจุ 64GB ราคา 11,400 บาท
ไอแพดเจน 8 มีปากกาไหมสรุปสเปค iPad (รุ่นที่ 8) Wi‑Fi + Cellular
หน้าจอแสดงผล Retina ชนิด IPS ขนาด 10.2 นิ้ว ความละเอียด 2160 x 1620 พิกเซล, 264ppi, ความสว่าง 500 นิต และรองรับ Apple Pencil (รุ่นที่ 1) หน่วยประมวลผล : A12 Bionic. ROM 32/128GB.
|