มี คอม แต่ ไม่รู้ จะ ทํา อะไร

ถ้าอยากสนุกแบบรวดเร็วทันใจ ก็ไม่ต้องมองไกลเกินกว่าคอมพิวเตอร์ของคุณ แต่ไม่ว่าคุณจะชอบความสนุกแบบไหน ก็มีให้เลือกสารพัด อาจจะเข้าเว็บเล่นเกมใหม่ๆ แชทกับเพื่อนๆ หาความรู้ใส่ตัว สำรวจคอมเป็นงานอดิเรก ดูคลิปฮาๆ หรือจะสร้างสรรค์ผลงานแล้วแชร์ในเน็ตก็ดี ขอแค่คอมพิวเตอร์ของคุณใช้งานได้ตามปกติ คำว่า "เบื่อ" ไม่มีในสารบบของคุณแน่นอน

1. 

   1

   เล่นเกมออนไลน์มันส์ๆ. เบื่อเมื่อไหร่ทางแก้ยอดนิยมคือหาเกมออนไลน์หนุกๆ เล่นกันดีกว่า[1] ไม่ว่าคุณจะชอบเล่นเกมแนวไหน ถ้าหาดีๆ ก็จะเจอเกมฟรีที่ถูกใจแน่นอน

   • เข้าเว็บรวมเกมฟรีเลย
     • Addicting Games
     • Newgrounds
     • Miniclip
     • PC Gamer
     • ROBLOX
     • FreewareGames
   • ถ้าเป็นคอเกม RPG เกมต่อไปนี้พลาดไม่ได้
     • Minecraft
     • Clash of Clans
     • World of Warcraft
     • เกมไหนก็ได้ในตระกูล Blizzard

2. 

   2

   เล่นเกมตู้ที่เคยฮิตติดลมบนสมัยก่อน เดี๋ยวนี้เขาเอามาทำเป็นแฟลชเกมเยอะแยะ. เคยเล่น Asteroids (เกมยิงอุกกาบาต) หรือ Centipede (เกมยิงตะขาบ) ไหม? ถ้าไม่เคยนี่เสียชาติเกิดมาก! ถ้าอยากได้เกมแบบโหลดเล่นเร็วทันใจ ต้องเว็บ Andkon เลย หรือจะเว็บ 8Bit.com ก็ได้ เขารวมเกม arcade สุดคลาสสิคต่อไปนี้ไว้ในเวอร์ชั่น flash ให้คุณได้เล่นกัน

   • Super Mario Bros.
   • Missile Command
   • Contra
   • Donkey Kong
   • Carnage
   • Galaga
   • Pac-Man
   • Tetris
   • Ms. Pac-Man

3. 

   3

   เข้า Steam แล้วลงเกมในคอมเลย. ถ้ายังเล่นเกมฟรีไม่จุใจพอ ต้องใช้เว็บ/โปรแกรม Steam โลด! ดาวน์โหลดกันได้ฟรีที่ steampowered.com ติดตั้งง่าย ไม่เข้าใจก็หาวิธีในเว็บหรือในเน็ตได้ เกมดังๆ ที่น่าลองก็เช่น

   • Team Fortress 2
   • League of Legends (ต้องลงโปรแกรมแยก เล่นผ่าน Steam ไม่ได้)
   • War Thunder
   • DOTA 2

4. 

   4

   สร้างเกมเองซะเลย. ถ้าเบื่อจะเล่นเกมคนอื่น แถมความคิดสร้างสรรค์มันพลุ่งพล่าน จะลองออกแบบเกมง่ายๆ ด้วยเว็บ MIT Scratch ก็ได้ คลิกเลย Scratch ให้คุณสร้างเกมไว้เล่นเองหรือแบ่งคนอื่นเล่นได้ จะแชทหรือแชร์เกมกันเล่นก็ได้ ช่วยกันดูแลสตูดิโอก็ดี บอกเลยว่าสนุกลืม! ยิ่งคุณเป็นคอเกมยิ่งไม่ต้องพูดถึง

   โฆษณา

1. 

   1

   ดูคลิปใน YouTube. YouTube มีสารพัดคลิปเท่าที่คุณจะจินตนาการได้ (หรือเกินกว่า!) ตั้งแต่คลิปตะมุตะมิอย่างแมวทำเสียงประหลาด ไปจนถึงคลิปทรงคุณค่าอย่างการปล่อยยานอะพอลโล 11 ยังไงลอง search หาคลิปที่คุณสนใจ ว่ามี channel ไหนเข้าตา จากนั้นก็กด subscribe เลย [2] channel ดังๆ ของ YouTube ก็เช่น

   • Pewdiepie — แนะนำและรีวิวเกม
   • HolaSoyGerman — คลิปฮาๆ ภาษาสเปน
   • Smosh — คุยเรื่องเกมแบบฮาปนเนิร์ด
   • EpicMealTime — อาหารจานยักษ์แบบจัดหนัก
   • CollegeHumor — พาโรดี้สะท้อนชีวิตวัยรุ่นวุ่นใจ
   • JennaMarbles — สาวสวยรวยอารมณ์ขัน
   • Nigahiga — หนุ่มตี๋เจ้าของคลิปพาโรดี้ฮาๆ กับ vlogging โดนใจ
   • Machinima — รีวิวหนังและเกม
   • Markiplier - พาโรดี้ฮาๆ ผสม musical กับรีวิวเกม

2. 

   2

   อัดคลิปตัวเองลง YouTube. อยากมีคลิปไวรัลฮิตทั่วบ้านทั่วเมืองกับเขาไหม? หนึ่งในความบันเทิงที่คอมสร้างได้ ก็คืออัดคลิปในแบบคุณเองแล้วอัพโหลดขึ้นเว็บเลย ไอเดียเจ๋งๆ ที่น่าลองก็เช่น

   • ทำคลิป vlogging (ประมาณว่า blog แบบวีดีโอไง)
   • รีวิวอาหาร ขนม หรือเครื่องดื่มต่างๆ
   • ชวนเพื่อนทำคลิปล้อคนดังหรือเรื่องเด่นตอนนั้น
   • ทำคลิปเปิดกระเป๋า/กระเป๋าตังค์ตัวเอง
   • ทำคลิป "haul" รีวิวของที่ซื้อหลังช้อปปิ้ง ซื้อของเข้าบ้าน หรือรีวิวหนังสือใหม่
   • ทำคลิป life hack สอนทริคเด็ดให้ชีวิตง๊ายง่าย

3. 

   3

   ดูหนังออนไลน์. เว็บดีๆ ดังๆ ส่วนใหญ่จะมีค่าบริการรายเดือน เพราะหนังใหม่และชัดกว่า แต่เดี๋ยวนี้หนังฟรีก็มีให้ดูถมไป

   • เว็บดูหนังแบบมีค่าบริการก็เช่น (บางเว็บยังดูในไทยไม่ได้ แต่ก็พอมีทริค ลองหาช่องทางในเน็ตดู)
     • Netflix
     • Hulu Plus
     • Amazon Prime
     • Vudu
     • iTunes
   • ส่วนเว็บดูหนังฟรีแถมไม่มีสแปมและโฆษณาก็เช่น (บางเว็บดูในไทยไม่ได้เช่นกัน)
     • Hulu
     • YouTube
     • Folkstreams
     • UbuWeb
     • MetaCafe
     • Veoh
     • Vimeo

4. 

   4

   ฟังเพลงออนไลน์. ตั้งแต่มีคอมพิวเตอร์ การฟังเพลง (กระทั่งวงการเพลง) ก็เปลี่ยนไปตลอดกาล ตั้งแต่วิธีอัดเสียงทางผู้ผลิตไปจนถึงการฟังเพลงในฝั่งคุณ ถ้าคิดถึงดนตรีแล้วขาดกีต้าร์ไม่ได้ เดี๋ยวนี้เทคโนโลยีดิจิตอลก็สำคัญไม่แพ้กัน เว็บดังที่ฟังเพลงได้ฟรี (หรือเสียเงินนิดหน่อย) ก็เช่น

   • Pandora Radio
   • Spotify
   • Soundcloud
   • Bandcamp
   • DatPiff

5. 

   5

   ฟัง podcast. Podcast ก็เหมือนรายการวิทยุฟรี แต่มีหัวข้อให้เลือกฟังกันได้มากมายมหาศาล ลองเข้าไปที่ PodcastOne หรือ PodBay ดู แล้วจะรู้ว่ามี podcast ฟรีแถมน่าสนใจเยอะแยะไปหมด ตั้งแต่นักมวยปล้ำอย่าง Stone Cold Steve Austin ไปจนถึงนักเขียนนิยายอย่าง Bret Easton Ellis เพราะเดี๋ยวนี้คนดัง (ฝรั่ง) เขาหันมาทำ podcast ของตัวเองกันทั้งนั้น [3] podcast ที่น่าสนใจก็เช่น

   • RadioLab
   • This American Life
   • The Moth
   • The Nerdist
   • Hardcore History
   • Stuff You Should Know
   • Adventure Zone
   • Joe Rogan Experience
   • Savage Lovecast

   โฆษณา

1. 

   1

   นั่งดูสินค้าออนไลน์. เวลาน่ะมีเย๊อะเยอะ แต่เงินน่ะมีไหม? ถ้าคำตอบนั้นรู้ดีแก่ใจ ก็ "window shopping" คือนั่งดูสินค้าออนไลน์เพลินๆ ซะเลย เดี๋ยวนี้คุณซื้อได้แทบทุกอย่างจากในเน็ต แค่เข้าเว็บนู้นออกเว็บนี้ หรือสำรวจเพจขายของใน Facebook ไปเรื่อยๆ ยังไม่ทันได้ซื้ออะไรจริงๆ ก็ตื่นตาตื่นใจแล้ว ที่สำคัญคือคุณเปรียบเทียบราคาก่อนซื้อได้สะดวก ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า รองเท้า หรือที่ดินและคอนโดก็ตาม ตอนนี้ยังไม่มีทุนทรัพย์ก็นั่งทำ wish list ของที่อยากได้ไปก่อน รอวันเงินเดือนออกก็ยังไม่สาย

2. 

   2

   แพลนทริปในฝัน. ใช้ Google Maps สำรวจพื้นที่ที่ไม่คุ้นเคย หรือจะศึกษาสถานที่ดังๆ และน่าสนใจใน Wikipedia ก็ได้ สุดท้ายก็โดดมาเว็บ Expedia หาตั๋วเครื่องบินราคาโดนใจ แล้วไปเช็คที่พักเก๋ๆ แถมถูกใน AirBnB ถ้าชอบแบบลุยๆ ก็ต้อง CouchSurfer เลย พอรู้จุดหมายปลายทาง ที่สำคัญคืองบคร่าวๆ แล้ว ก็เริ่มเก็บเงินกันเลย!

3. 

   3

   ท่องเว็บใหม่ๆ. มีหลายเว็บใช้ "สุ่ม" เว็บต่างๆ ขึ้นมาได้ เผื่อจะเจอเว็บแปลกๆ ใหม่ๆ แต่น่าสนใจ บอกเลยว่าเผลอแป๊บเดียวไม่รู้เวลาไปไหนหมด เว็บสำหรับสุ่มเว็บที่เราว่าก็เช่น

   • The Useless Web - theuselessweb.com
   • Pointless Sites - pointlesssites.com
   • StumbleUpon - stumbleupon.com
   • Reddit FIR (Funny/Interesting/Random) - reddit.com/r/firwebsites/

4. 

   4

   หัดเล่นมายากล. อยากเซอร์ไพรซ์เพื่อนจนตกเก้าอี้ไหม? ลองหามายากลเด็ดๆ มาโชว์ดู จะกลไพ่กลเหรียญหรืออะไรก็ได้ เดี๋ยวนี้มีสารพัดเว็บที่เผยความลับของมายากลต่างๆ แบบที่คุณตามทีละขั้นตอนได้เลยทีเดียว เว็บดังๆ ก็เช่น GoodTricks (goodtricks.net) หรือง่ายกว่านั้นคือ search ใน YouTube เอาเลย

5. 

   5

   สร้างสรรค์ผลงานศิลปะ. อยู่ๆ ก็มีอารมณ์ศิลปินขึ้นมาเหรอ? บอกเลยว่ามีเว็บสอนวาดรูประบายสีเต็มไปหมด จะวาดแบบขำๆ หรือจริงจังเข้าขั้นประกวดก็เลือกได้ตามใจ เว็บสอนพวกนี้ไม่ต้องติดตั้งลงเครื่องแต่อย่างใด เปิดแล้ววาดตามได้เลย เว็บดังๆ ที่น่าสนใจก็เช่น

   • DoodleToo - doodletoo.com
   • iScribble - iscribble.net
   • Queeky - queeky.com
   • Sketchpad - sketch.io/sketchpad
   • DrawIsland - drawisland.com

   โฆษณา

1. 

   1

   สำรวจโลกด้วย Google Earth. Google Earth ให้คุณซูมดูสถานที่ต่างๆ ที่น่าสนใจตามสะดวก อย่างฟังก์ชั่น Street View ก็พาคุณไปเตร็ดเตร่ตามถนนในโตเกียวได้แบบสมจริง หรืออยากส่องบ้านดาราฮอลลีวู้ดก็ไม่มีใครว่า ว่างๆ ลอง Google บ้านตัวเองดูซิ ว่าคนที่บ้านลืมปิดหน้าต่างหรือเปล่า

   • ถ้าอยากทดสอบความรู้ด้านภูมิศาสตร์ของตัวเอง ลองเข้าเว็บ GeoGuessr ดู เขาจะสุ่มรูปถนนจาก Google Earth มาให้ดู แล้วคุณก็ทายเลยว่ารูปนั้นมาจากมุมไหนในโลก ยิ่งคุณทายใกล้เคียงที่สุดก็ยิ่งได้คะแนนมาก [4]

2. 

   2

   อ่าน listicle. อยากเห็น .gif ของแซนวิชอร่อยที่สุดในโลก 25 อันดับไหม? หรือของเล่นยุค 90 ที่เด็กฮิตกันมากที่สุด 20 อย่าง พวกเว็บ Buzzfeed, Upworthy, Slate, The Awl หรืออะไรทำนองนี้เป็นเว็บที่เด่นดังเรื่อง listicle คือรวม "list" (รายชื่อ) ของเรื่องต่างๆ ที่น่าสนใจมาเขียนเป็น "article" หรือบทความให้คุณได้อ่านกัน ทั้งสนุกและได้ความรู้เลย ตอนแรกก็กะจะอ่านแค่บทความเดียว ไปๆ มาๆ กลับนั่งอ่านไปทั้งวันซะงั้น!

3. 

   3

   อ่านข่าวออนไลน์. ถ้ากำลังติดตามข่าวที่กำลังเป็น talk of the town คงไม่พ้นตามติดอัพเดทใหม่ๆ แบบทันใจในเว็บข่าวออนไลน์ สมัยนี้ไม่ว่าจะอยู่ส่วนไหนของประเทศไทย คนก็ไม่ค่อยซื้อหนังสือพิมพ์มาเปิดอ่านกันแล้ว เพราะไม่ว่าข่าวไหนก็รู้เร็วทันใจจากในเน็ตทั้งนั้น (โดยเฉพาะซุบซิบดารา และดราม่าร้อน) ถ้าหมั่นติดตามเว็บข่าวก็ไม่ตกยุคแน่นอน

4. 

   4

   ลงเรียนออนไลน์. มาเรียนรู้ทักษะใหม่ หรือพัฒนาทักษะเก่า แถมยังได้ความสนุกในเวลาเดียวกัน MOOC (Massively open online courses) ก็คือคอร์สออนไลน์ฟรีที่คุณหาเรียนได้ทั่วไป ความรู้ที่คุณจะได้นั้นไม่ต่างจากการไปนั่งฟังเลคเชอร์ในมหาวิทยาลัยดัง (เช่น Harvard) เลย ทั้งๆ ที่นั่งดูนั่งฟังอยู่หน้าคอมในห้องนอน คุณหา MOOC ที่น่าสนใจได้ที่เว็บนี้เลย (ภาษาอังกฤษนะ)

5. 

   5

   เรียนรู้วัฒนธรรมและความรู้ใหม่จากบล็อก. ลองหาตามความสนใจของคุณเลย เดี๋ยวนี้มีชุมชนออนไลน์ของคนหลายความชอบความสนใจ ถ้าคอเกมก็เข้าเว็บ PC Gamer หรือ IGN บอกเลยว่าอัพเดทข่าวเกมแบบทันใจ ส่วนคอเพลงต้องเว็บ Pitchfork, Aquarium Drunkard และ Brooklyn Vegan ยังไงลองท่องเว็บไปเรื่อยๆ จนเจอคนคอเดียวกัน เผื่อจะพูดคุยและแบ่งปันประสบการณ์กันไง

6. 

   6

   ย้อนเวลาหาเว็บเก่า. ถ้าอยากรู้ว่า 10 - 15 ปีก่อน โลกออนไลน์หน้าตาประมาณไหน ก็ย้อนเวลาไปดูได้ด้วยเว็บ The Internet Archive เลย เขามีเครื่องมือให้คุณย้อนดูเว็บสมัยก่อนได้

7. 

   7

   อ่านและเขียนบทความให้เว็บแนว wiki ต่างๆ. ไหนๆ ก็อ่านบทความของเราอยู่เลย ว่างๆ ลองเขียน How To แบบนี้ดูบ้างสิ เว็บแนว Wiki อย่าง wikiHow ของเราและ Wikipedia นั้นอยู่ได้เพราะมีคนอ่านอย่างคุณคอยสร้างสรรค์เนื้อหาให้ คอยสอดส่องดูแลความถูกต้องและทันสมัย รวมถึงเรื่องอื่นๆ สรุปแล้วเป็นเหมือนชุมชนคนอ่าน-เขียนที่คอยแบ่งปันเรื่องน่าสนใจและความรู้ใหม่ๆ กันนั่นแหละ เรียกว่าทั้งสนุกและได้ความรู้เลย

   โฆษณา

1. 

   1

   แชทกับเพื่อน. คุณกำลังจะบอกว่า "แหงล่ะ" ใช่ไหม แต่เดี๋ยวก่อน เพราะเรารู้ว่ามีวิธีการแชทใหม่ๆ ที่คุณอาจยังไม่เคยลอง เช่น UberFacts[5] เอาไว้แชร์ fact หรือเกร็ดความรู้ต่างๆ แข่งกัน จะลิงค์ รูป หรือคลิปฮาๆ ก็ได้

   • Facebook, Skype, Kik Messenger แล้วก็ Google Mail เป็นช่องทางที่คนนิยมแชทกันมากที่สุด แต่ใครอยากย้อนความหลังโปรแกรมแชทเก่าๆ ต้องแชทผ่าน Yahoo, AOL หรือบางเว็บอีเมลเลย
   • ถ้าอยู่คนเดียวเหงาๆ จะ video chat กับเพื่อนก็สนุกดี เหมือนกำลังแฮงก์เอาท์กันตัวเป็นๆ ไง แต่อย่าพยายาม video chat กับคนแปลกหน้าหรือคนที่ไม่สนิทล่ะ หรือจะรวมตัวเพื่อนเก่าทาง Facebook video chat หรือ Skype ก็สะดวกดี

2. 

   2

   สมัครใช้ Facebook. Facebook นี่แหละเล่นแล้วลืมเวลาไปเลย จะอัพโหลดรูป/คลิป เผือกเรื่องคนอื่น หรือแชทกับเพื่อนก็ตามสะดวก เรียกว่าทั้งสนุกและอัพเดทไปในเวลาเดียวกัน

   • ถ้าเบื่อจะอ่านฟีดตัวเอง ก็ลองไปส่อง Facebook คนแปลกหน้าหรือไม่สนิทดู ประมาณว่าแฟนของญาติเพื่อนอะไรงี้ รับรองว่าจะเปิดหูเปิดตาหน้าดู หรือจะขุดรูปที่ไปเที่ยวมาเมื่อ 10 ปีก่อนกลับมาดูก็ได้
   • ไม่งั้นก็โพสต์อะไรบ้าง เพราะเขาวิจัยกันมาแล้วว่าพวกที่เอาแต่ส่อง Facebook คนอื่น ไม่ค่อยโพสต์เรื่องตัวเองนั้นมีแนวโน้มจะรู้สึกหดหู่เหนื่อยหน่ายกว่าคนอื่น [6] หัดอัพเดทสถานะ อัพรูป หรือไปโพสต์ไปเม้นท์ทักทายคนอื่นบ้าง

3. 

   3

   ใช้ Twitter. สมัคร Twitter แล้วไปติดตามดารานักร้อง เพื่อนฝูง หรือคนอื่นที่น่าสนใจเลย จะได้ไม่ตกเทรนด์เวลาเขาฮิตใช้ hashtag ใหม่ๆ กัน ถ้ารู้จักทวีตฮาๆ แฝงความฉลาดแถมอินเทรนด์ ดีไม่ดีจะได้ follower ใหม่ๆ มาอื้อ แล้วอย่าลืมอัพเดทให้ได้ทุกวันล่ะ เผื่อจะดังแข่งกับดารานักร้องเขาได้บ้าง

4. 

   4

   เขียนรีวิวใน Pantip. ไปเปิดซิงร้านอาหารใหม่มาเป็นไงบ้าง? ถ้าอร่อยอยากบอกต่อก็รีวิวลง Pantip ซะเลย นอกจากสนุกแล้วยังอาจเปิดเพจหรือทำเป็นอาชีพได้ด้วย แต่ต้องหมั่นรีวิวอย่างจริงใจ ไม่สาดโคลน เล่นมุขได้ยิ่งดี

5. 

   5

   Pin รูปสวยๆ ใน Pinterest. Pinterest เป็นเหมือนคลังแสงรวมสูตร (และรูป) อาหารสวยๆ คำคม ไปจนถึงแฟชั่น และ life hack เคล็ดลับทุ่นแรงต่างๆ ประมาณว่าเป็นสนามปล่อยของแบ่งปันของสวยๆ งามๆ กัน เว็บนี้รวมรูปแล้วเรียงไว้ให้คุณเลื่อนดูสะดวก ถ้านึกไม่ออกบอกไม่ถูกก็เข้ามาหาไอเดียในนี้ได้ตลอด ว่าแล้วก็สมัครแล้วเริ่ม pin เลย!

6. 

   6

   อ่านกระทู้ในเว็บบอร์ด. ถ้าไม่มีเว็บบอร์ดอย่าง Pantip (และอื่นๆ) เราคงไม่รู้ว่าตอนนี้คนไทยเขาฮิตอะไรกัน ทั้งข่าวสาร ดราม่า และคำฮิตติดปากทั้งหลาย อย่าง Pantip เองก็มีหลายห้องให้คุณได้สำรวจ เช่น ห้องโต๊ะเครื่องแป้ง ห้องก้นครัว ห้องเฉลิมไทย ซึ่งก็แบ่งกันไปตามความชอบและความสนใจร่วมกัน เอาเป็นว่าสมัคร Pantip เลือกห้องที่สนใจ แล้วเข้าไปอ่าน คอมเม้นท์ หรือตั้งกระทู้กันเลย

   โฆษณา

1. 

   1

   เปลี่ยน screensaver หรือภาพพื้นหลัง. ถ้าเปิดคอมมาทีไรเบื๊อเบื่อ ก็แปลงโฉมให้คอมตัวเองซะเลย เรียกกันแบบทางการก็คือเปลี่ยน "ธีม" ของคอมนั่นเอง ให้คลิก My Computer แล้วเข้า Control Panel (PC) หรือเลือก System Preferences (Mac) แค่แปลงโฉมคอมก็มีอะไรให้ทำหลายอย่างแล้ว เช่น

   • เปลี่ยนหน้าตาและสีของเมนูต่างๆ ในคอม
   • เปลี่ยนเสียงประกอบ
   • เปลี่ยนเคอร์เซอร์
   • เปลี่ยน display settings (ตัวเลือกการแสดงภาพ)

2. 

   2

   เปลี่ยนภาพพื้นหลัง. หารูปที่ชอบใน Google หรือเว็บรวม wallpaper ต่างๆ แล้วตั้งรูปโดนใจเป็นภาพพื้นหลังของคอม (ฉลามใส่หมวกปาร์ตี้ไรงี้) เลือกได้ตามใจชอบเลย จะดารานักร้อง ลายแจ่มๆ กระทั่งปกแมกกาซีน หรือโฆษณาของแบรนด์โปรด

3. 

   3

   เปลี่ยน screensaver. หาแล้วเลือก screensaver ที่ใช่จากในคอม หรือจะดาวน์โหลดมาเพิ่มเติมก็ได้ จะสร้างสไลด์โชว์จากรูปในคอมก็สะดวกดี หรือลายโค้ดคอมยึกยือเหมือนในเรื่อง Matrix ก็เท่ไม่หยอก

4. 

   4

   พลิกภาพหน้าจอกลับหัว. ไม่ว่าจะเป็น PC หรือ Mac ก็กด CTRL + ALT + ลูกศรชี้ลง ได้เลย

5. 

   5

   ฟังเพลง. เปิดไฟล์เพลงที่มีในคอม หรือจะสร้าง playlist ตามอารมณ์ตอนนั้น จะอกหักรักคุด หรือแดนซ์สุดเหวี่ยงก็ตามสะดวก บางคนเขาก็รวมเพลงผ่อนคลายไว้นั่งสมาธิ อีกคนก็จัดเพลงสำหรับกระตุ้นตัวเองตอนทำงาน แค่เลือกเพลงใส่ playlist บางทีก็หมดวันแล้ว ลองปรับ iTunes เป็น random ดูสิ จะได้ shuffle สุ่ม/สลับเพลงออกมาเป็น playlist ใหม่ๆ ให้ได้แปลกใจ หรือเปิด iTunes ไม่ก็ Windows Media Player แล้วใช้ฟังก์ชั่น visualizer ให้ได้แสงสีสวยๆ เอาไว้ดูเพลินๆ ตอนฟังเพลง แต่จริงๆ แค่เปิดเพลงที่ชอบฟังก็จบแล้ว

6. 

   6

   ถ่ายรูปเล่น. ถ้าติดเว็บแคมไว้หรือใช้แล็ปท็อปแบบมีกล้องหน้า ก็ถ่ายเซลฟี่รัวๆ แล้วตั้งเป็นภาพหน้าจอฮาๆ หรือแต่งรูปเล่นด้วยฟิลเตอร์ต่างๆ ก็เพลินดี เดี๋ยวนี้รูปสวยๆ คนไม่ค่อยลงกัน ชอบลงพวกหน้าเบี้ยวหรือจมูกโต ไม่ก็แต่งสีซะจนนึกว่าเมาเรือ

7. 

   7

   แต่งรูปด้วย Photoshop. ถ้าคุณลง Adobe Photoshop ไว้ ก็ตัดต่อรูปทำ meme เล่นซะเลย ประมาณว่าหน้ายายแต่ตัวล่ำเป็นเทรนเนอร์ฟิตเนส (นี่เราเปล่าเสี้ยมนะ)

8. 

   8

   เขียนไดอารีออนไลน์. ยุคที่เด็กติด iPad สมัยนี้ยังไม่เกิด (30 - 40 ปีก่อน) รุ่นพ่อแม่ย่ายายเขาก็มีกิจกรรมน่าสนใจอย่างการ "จดไดอารี" นะหนูๆ เป็นการจดบันทึกเรื่องราวที่เกิดขึ้นในชีวิตโดยละเอียดเอาไว้ย้อนดูทีหลัง (คุ้นๆ ว่าเหมือน blog ไหม?) เพราะงั้นถ้าโดนพ่อแม่ตัดเน็ต จะรออะไรก็เริ่มเทรนด์ retro อย่างการจดไดอารีเลย แค่เปิดโปรแกรม word-processor ที่ถนัด แล้วสร้างไฟล์ใหม่ไว้เขียนเรื่องประจำวัน หมั่นเขียนเรื่อยๆ ดีไม่ดีจะติดลมจนขยับขยายไปเขียนบล็อกให้คนอื่นเขาอ่านกัน

9. 

   9

   ร้องเพลงแล้วอัดไว้. คอมรุ่นใหม่ๆ จะมีไมค์กับโปรแกรมอัดเพลงในตัว (หรือโปรแกรมอัดเสียงทั่วไป) แค่เปิดก็พร้อมอัดในไม่กี่นาที ไม่ต้องร้องเก่งเว่อร์หรือมีเครื่องดนตรีไหนก็อัดเสียงร้องเป็นเพลงได้ ร้องสดแล้วเข้าไปปรับแต่งเสียง เพิ่มลูกเล่นให้ออกมาเพราะๆ (หรือแปลกๆ) จะอัดเสียงสวดมนต์ทำวัตรเช้าไว้ให้คุณแม่คุณยาย หรือเสียงน้องหมาทะเลาะกับน้องแมวก็ไม่ว่ากัน จะได้ไม่เบื่อแถมผลงานแปลกใหม่ไม่ซ้ำใคร

   • อัด podcast อารมณ์ดีเจประมาณพี่อ้อยพี่ฉอด เล่าถึงเพลงโปรดคั่นการเปิดเพลงจาก playlist โดยเลือกเพลงเป็นธีมๆ ไป แล้วอัดเสียงพูดคุยคั่นเพลงแยกอีกที ชวนเพื่อนมาร่วมด้วยช่วยกันอัดก็น่าสนุก
   • มิกซ์เพลงในแบบของคุณ จะเปลี่ยนเพลงพี่ตูนเป็นแนวแดนซ์ หรือเปลี่ยนหมอลำเป็นเฮฟวี่เมทัลก็ลองดู หมู่นี้คนเขาก็ฮิตปรับเพลงให้ช้าลง 700% บางทีจากเพลงมันส์ๆ อาจกลายเป็นสยองขวัญแทน [7]

   โฆษณา

1. 

   1

   หัดเขียนโค้ดสร้างโปรแกรม. ถ้าเล่นสนุกกับคอม "แบบเดิมๆ" จนเบื่อแล้ว ทำไมไม่ลองขยับขยายไปอีกระดับ หัดเขียนโค้ดแล้วออกแบบโปรแกรมคอมของตัวเองมันซะเลย ก็อารมณ์เดียวกับเวลาเรียนภาษาต่างประเทศนั่นแหละ มันก็จะท้าทายหน่อย แต่ผลที่ได้รับนั้นเกินคาด (ที่สำคัญคือต่อยอดเป็นอาชีพได้ด้วยนี่สิ) [8]

   • ในโลกนี้มีภาษาเขียนโปรแกรมให้เลือกเรียน เยอะมาก ถึงจะไม่มีวิธีการเรียนรู้ที่ "ตายตัว" มาแนะนำ แต่เราก็ยกตัวอย่าง 5 ภาษาที่เดี๋ยวนี้เขาฮิตใช้เขียนโปรแกรมมาให้ดูกัน มือใหม่เชิญทัศนา [9]
     • Python
     • C/C++
     • Java
     • Javascript
     • Ruby
   • ลองเข้าเว็บ CodeAcademy.com ไปดู tutorial สอนเขียนโค้ดฟรีแบบ interactive ได้ มีให้เลือกเรียนหลายภาษาเลย

2. 

   2

   หัดออกแบบเว็บไซต์. พอคิดดูให้ดี เราก็ใช้เน็ตทั้งวัน ถ้างั้นทำไมไม่ลองเรียนออกแบบเว็บไปซะเลย จะได้สร้างเว็บออกมาตรงใจ แถมเป็นการคืนกำไรให้สังคมออนไลน์! ทักษะการออกแบบเว็บบางอย่างจะทับซ้อนกับภาษาเขียนโปรแกรมเบื้องต้นที่บอกไป (เช่น หลายเว็บใช้ Javascript) แต่ถ้าคุณเขียนโค้ด HTML ได้ ก็จะเน้นไปทางการออกแบบเว็บมากกว่า

   • นี่คือบางเว็บที่สอนออกแบบเว็บฟรี
     • GeekChamp.com[10]
     • WebPlatform.org
     • Berkeley.edu[11]
     • Learn.ShayHowe.com[12]

3. 

   3

   ลองเปลี่ยนระบบปฏิบัติการ. รู้เปล่า คุณไม่จำเป็นต้องทู่ซี้ใช้แต่ระบบปฏิบัติการที่ติดมากับคอมแต่แรก บอกเลยว่าเครื่อง Mac ใช้ Windows ได้ ส่วนใครมี PC ก็ใช้ Mac ได้เหมือนกัน และทั้ง 2 เครื่องที่ว่าถ้าคุณจะเปลี่ยนไปใช้ระบบปฏิบัติการอื่นก็ทำได้ด้วย! แต่ต้องทำหลายขั้นตอนหน่อย เพราะงั้นให้ศึกษาข้อมูลจากเว็บของโปรแกรมที่ใช้ (หรือลองค้นในบรรดาบทความของเรา) ถ้าสงสัยหรือมีปัญหาตรงไหน

   • ถ้าอยากใช้ Windows ใน Mac ให้ใช้
     • Boot Camp (ปกติมีมาในเครื่องอยู่แล้ว หรือจะไปดาวน์โหลดมาฟรีก็ได้)
     • โปรแกรม Parallels เช่น Parallels Desktop 10 ของ Mac
   • ถ้าอยากใช้ Mac OS ใน PC ให้ใช้
     • USB สำหรับบูทเครื่อง[13]
     • โปรแกรมสร้างระบบเสมือน เช่น Virtualbox[14]
   • หรืออาจเปลี่ยนไปใช้ระบบปฏิบัติการอื่น เช่น Linux, Ubuntu แล้วก็ Haiku ซึ่งเป็นระบบปฏิบัติการฟรีที่ใช้ได้ทั้งในเครื่อง Mac และ Windows เลย!

4. 

   4

   ปรับแต่งคอม. ถ้าคอมทำงานไม่ได้ดั่งใจ ให้ลองเปิดเคสแล้วเปลี่ยนชิ้นส่วนบางอย่าง แล้วแต่ว่าต้องการจะแก้ไขเรื่องอะไร บางเรื่องก็ทำง่าย แต่ก็ต้องระวังเพราะชิ้นส่วนต่างๆ ในคอมค่อนข้างบอบบาง ต้องพอมีความรู้ด้านนี้บ้างถึงจะลงมือปรับเปลี่ยนอะไร

   • นี่คือบางชิ้นส่วนที่คุณปรับแต่งหรือเปลี่ยนใหม่ได้เพื่อให้คอมทำงานได้ดียิ่งขึ้น
     • Graphics card (การ์ดจอ)
     • Sound card (การ์ดเสียง เปลี่ยนแล้วไม่ได้เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของคอม แต่คุณภาพเสียงอาจจะดีขึ้นบ้าง)
     • ระบบพัดลมระบายอากาศ
     • RAM
     • Processor/CPU
     • จริงๆ แล้วถ้ากำจัดฝุ่นสะสมในเคสคอมก็ทำให้คอมเร็วขึ้นได้เหมือนกัน แต่อย่าลืม ground หรือต่อสายดินให้ตัวเองกันไฟดูด (จับเคสส่วนที่เป็นโลหะไว้) เพราะไฟฟ้าสถิตแวบขึ้นมานิดเดียวก็ทำบางชิ้นส่วนของคอมเสียได้เลย!
   • ถ้าร้อนวิชาอยากปล่อยของ ก็ยึดการแต่งคอมเป็นงานอดิเรก (หรืออาชีพ) ซะเลย บางคนเขาก็สลับสับเปลี่ยนอะไหล่กระทั่งประกอบคอมได้เอง เหมือนพวกคนที่ชอบแต่งรถไง ยิ่งทำบ่อยๆ ก็ยิ่งรู้จักแต่ละส่วนของคอมดีแบบที่คนอื่นไม่รู้เลย

   โฆษณา

เคล็ดลับ

• ถ้ารักแฟชั่นและมีความคิดสร้างสรรค์ ลองเล่น Polyvore ดู เป็นเหมือนเกมที่ให้คุณได้เป็นสไตลิสต์ มิกซ์แอนด์แมทช์เสื้อผ้าให้ตัวเองและคนอื่น แต่ถ้ารักอนิเมชั่นต้องไปเว็บ animate ทั้งฟรีแถมฮาอีกต่างหาก
• ถ้าทำอย่างหนึ่งแล้วเบื่อ ก็เปลี่ยนไปทำอีกอย่าง ในบทความนี้เราแนะนำไว้เต็มไปหมด!
• แต่ถ้าทุกอย่างที่เราแนะนำมาไม่เข้าท่าสำหรับคุณซะเลย ให้ลอง search หาโปรแกรมหนุกๆ ใน Google เจอแล้วกลับมาบอกเราบ้างก็ดีนะ
• ถ้าบ้านคุณมีเด็กๆ แล้วเขาใช้คอมด้วย ลองแอบดูประวัติการท่องเว็บของเขาบ้างก็ดี บอกเลยว่าถ้าไม่น่ารักก็น่าตี มี 2 แบบ!
• จะว่าไปแล้ว ลองเข้าไปเล่นในเว็บต่างๆ สำหรับเด็กดูบ้างสิ! บางเกมก็สนุกนะจะบอกให้
• ลองสร้างเว็บไว้แชร์เรื่องน่าสนใจของคุณดูก็ได้

โฆษณา

คำเตือน

• ตอนเข้าเว็บใหม่ๆ หรือจะโหลดเกมฟรี ต้องเช็คดูให้ดีก่อน เพราะบางเกมที่ "โหลดฟรี" ก็มาพร้อมไวรัสและ/หรือมัลแวร์ ถ้าข้องใจลองเอาชื่อเว็บนั้นไป search ดู เผื่อจะมีใครเคยโดนหลอก (Wikipedia จะมีบทความเกี่ยวกับเว็บและโปรแกรมอันตรายอยู่) ไม่งั้นก็เล่นแต่เกมแบบ "open source" ไปแล้วกัน
• ใช่ว่าทุกเรื่องที่คุณเจอในเน็ตจะจริงหรือน่าเชื่อถือ ยังไงหนังสือเล่มๆ ก็จริงแท้แน่นอนกว่าเยอะ!

โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 7,602 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม