เป็นวิธีที่ช่วยลดโอกาสการตั้งครรภ์อย่างหนึ่งที่เมื่อร่วมเพศไปในระยะแรกจะเป็นไปอย่างปกติ (ฝ่ายชายจะไม่ได้สวมถุงยางอนามัย) จนกระทั่งฝ่ายชายรู้สึกใกล้จะหลั่งน้ำอสุจิ ฝ่ายชายจะถอนอวัยวะเพศออกจากช่องคลอดก่อนที่จะถึงจุดสุดยอด และหลั่งน้ำอสุจิออกมาภายนอกช่องคลอดของฝ่ายหญิงแทน โดยไม่ให้น้ำอสุจิเปื้อนบริเวณปากช่องคลอด เพราะอาจจะทำให้เชื้ออสุจิเข้าไปในช่องคลอดได้ โดยคิดไปเองว่าจะไม่ทำให้อสุจิเข้าไปผสมกับไข่ของฝ่ายหญิงได้และไม่เกิดการตั้งครรภ์ ซึ่งนั่นเป็นความเข้าใจที่ผิดครับ !! เพราะในระหว่างที่เรากำลังมีเพศสัมพันธ์ อาจจะมีเชื้ออสุจิออกมากับน้ำเมือกบ้างแล้วบางส่วน หรือเมื่อใกล้ถึงจุดสุดยอดแล้วแต่ฝ่ายชายถอนอวัยวะเพศไม่ทัน จนหลั่งน้ำอสุจิเข้าไปภายในช่องคลอดหรือบริเวณปากช่องคลอด เหล่านี้เชื้ออสุจิก็สามารถผ่านเข้าไปในช่องคลอดได้แล้วครับ จึงมีโอกาสเสี่ยงต่อการตั้งครรภ์สูง Show สำหรับสาเหตุที่วิธีการหลั่งนอก (แตกนอก) เป็นที่นิยมกันมากโดยเฉพาะในกลุ่มวัยรุ่น ก็คงมาจากความง่าย ความสะดวกสบาย ไม่ต้องเตรียมอุปกรณ์ป้องกันใด ๆ แถมยังให้ความรู้สึกถึงอารมณ์แบบเนื้อแนบเนื้ออีกต่างหาก อีกทั้งวัยรุ่นส่วนใหญ่ก็อายที่จะไปซื้อถุงยางอนามัยในร้านสะดวกซื้อมาใช้ หรือบางครั้งก็ฉุกเฉินเกินกว่าจะเตรียมอุปกรณ์ป้องกันได้ทันที ส่วนอีกสาเหตุสำคัญก็คงมาจากความมั่นอกมั่นใจของฝ่ายชายนี่แหละที่บางคนคิดเอาแต่ได้ โดยไม่คิดถึงผลที่จะตามมา หรือมาจากความมั่นใจแบบผิด ๆ ว่าปล่อยนอกยังไงก็ไม่ท้องอย่างแน่นอน คราวนี้เรามาดูข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการหลั่งนอกกันเลยดีกว่า จะได้หายสงสัยสักทีว่าทำไมหลั่งนอกแล้วแต่ก็ยังท้องได้อยู่ !! ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการหลั่งนอก
ประสิทธิภาพในการคุมกำเนิดของการหลั่งนอกข้อมูลจาก Contraceptive technology (20th revised ed.) ระบุว่าตามหลักแล้วการหลั่งภายนอกช่องคลอดอย่างถูกต้อง (Perfect use) ตามหลักทฤษฎีเป๊ะ ๆ จะมีโอกาสล้มเหลวทำให้เกิดการตั้งครรภ์ได้ประมาณ 4% ซึ่งหมายความว่าการตั้งครรภ์จากการคุมกำเนิดด้วยการหลั่งนอกจำนวน 100 คน จะมีโอกาสตั้งครรภ์ได้ประมาณ 4 คน แต่โดยทั่วไปหรือในโลกความเป็นจริงแล้ว มันก็ต้องมีเป๊ะบ้าง ไม่เป๊ะบ้างเป็นธรรมดา ทำให้การคุมกำเนิดด้วยวิธีนี้ (Typical use) มีอัตราการล้มเหลวทำให้เกิดการตั้งครรภ์ได้สูงมากขึ้นเป็น 22% หรือคิดเป็นเกือบ 1 ใน 4 คน จากผู้ที่คุมกำเนิดด้วยวิธีนี้ ส่วนด้านล่างนี้เป็นตารางเปรียบเทียบระหว่างการคุมกำเนิดด้วยวิธีการหลั่งนอกกับวิธีการคุมกำเนิดแบบอื่น ๆ เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจครับ วิธีคุมกำเนิด|การใช้แบบทั่วไป|การใช้อย่างถูกต้อง|ระดับความเสี่ยง ถ้าจะให้เข้าใจง่าย ๆ ตามภาษาชาวบ้านก็ตามด้านล่างนี้เลยครับ 🙂
ข้อดีของการหลั่งนอก
ข้อเสียของการหลั่งนอก
หลากหลายคำถามเกี่ยวกับการหลั่งนอกมีอะไรกันแล้วแตกนอกจะท้องหรือเปล่า ?
มีอะไรกับแฟน โดยที่ไม่ได้ป้องกันอะไรเลย แต่หลั่งนอกจะมีโอกาสเสี่ยงไหม ?
มีอะไรกับแฟน แต่ทำไม่เสร็จ ในช่วงที่สอดใส่ อยากรู้ว่าจะมีน้ำอสุจิปะปนมากับน้ำหล่อลื่นหรือเปล่า เครียดมากกลัวท้อง ?
ไม่ได้สอดใส่อวัยวะเพศเข้าไปในช่องคลอดและหลั่งนอก จะมีโอกาสตั้งครรภ์หรือไม่ ?
มีอะไรกับแฟน โดยสอดใส่เข้าไปข้างใน แต่หลั่งข้างนอก กลัวท้องมาก อยากทราบว่ามีความจำเป็นต้องกินยาคุมฉุกเฉินหรือไม่ ?
ครั้งแรกเขาหลั่งนอก แต่พอครั้งที่ 2 เขาใส่ถุงยางอนามัย จะมีโอกาสท้องหรือเปล่า ?
มีอะไรกันวันที่ประจำเดือนหมดพอดีและหลั่งข้างนอก จะมีโอกาสตั้งครรภ์สูงไหม ?
สามีหลั่งนอกแต่หลั่งอยู่บริเวณปากช่องคลอดจะท้องหรือเปล่า ?
แฟนหลั่งนอก แต่หลั่งใส่กางเกงในตรงบริเวณจุดนั้นพอดี แต่หนูไม่ได้อาบน้ำทันที จะมีโอกาสท้องหรือไม่ ?
มีอะไรกับแฟนเสร็จแล้ว เอาออกมาหลั่งข้างนอก แล้วเอากระดาษทิชชูเช็ด แล้วมีเพศสัมพันธ์กันต่อ จะท้องหรือเปล่า ?
มีเพศสัมพันธ์กับแฟนครั้งแรกแล้วหลั่งนอก จากนั้นจึงไปล้างหัวออกและลองรีดตรงหัวดูและไม่พบน้ำอสุจิ แล้วไปมีเพศสัมพันธ์ต่อในทันทีจะมีโอกาสท้องรึเปล่า ?
มีอะไรกับแฟนไม่ได้ใส่ถุงและหลั่งนอกตลอด พอจะแตก ก็ชักออกมาแล้ววิ่งไปชักต่อในห้องน้ำจนเสร็จ + ฉี่และล้างทำความสะอาดอย่างดี แล้วมาทำต่อรอบสอง แบบนี้จะมีโอกาสท้องหรือเปล่า ?
แฟนบอกว่ามีน้ำแตกนิดเดียวแล้วเอาออกจะมีสิทธิ์ท้องหรือไม่ ?
มีเพศสัมพันธ์กับแฟนติดกันหลายวัน โดยไม่ได้ใส่ถุง แต่แตกนอกตลอด จะท้องหรือเปล่า ?
นอนกับแฟนมาหลายวัน แตกนอกตลอด ประจำเดือนไม่มา จะท้องหรือเปล่า ?
สามีชอบหลั่งนอก แต่ดิฉันอยากมีลูกมาก เพราะอายุมากแล้ว บางครั้งใช้นิ้วป้ายอสุจิที่หลั่งนอกแล้วสอดเข้าไปในช่องคลอด ก็ยังไม่ท้องสักที ควรจะทำยังไงดี ?
สำหรับใครที่มีถำถาม ก็ถามมาได้ใต้โพสต์นี้เลยนะครับ !
ข้อพึงระลึก
สรุป สำหรับใครที่คิดจะถามคำถามเดิม ๆ ว่าจะท้องหรือไม่ คำตอบแบบฟันธงว่าท้องหรือไม่ท้องคงไม่มีหรอกครับ เพราะหลาย ๆ คู่ ตั้งใจจะมีลูกปล่อยในตลอดทั้งเดือนก็ยังไม่มีสักที ทั้ง ๆ ที่ไม่ได้มีปัญหาสุขภาพใด ๆ ส่วนโอกาสท้องที่จะคิดเป็นเปอร์เซ็นต์ก็คงวัดกันได้ยาก เพราะแต่ละคู่มีปัจจัยแตกต่างกัน เช่น สุขภาพของทั้งคู่, รอบเดือนของฝ่ายหญิง, ระยะเวลาการมีเพศสัมพันธ์, จังหวะการปล่อยนอก, จำนวนครั้งที่มีเพศสัมพันธ์, การเช็ดล้างทำความสะอาด, ฝ่ายชายพลาดปล่อยในไปบ้างแล้วแต่ไม่บอกฝ่ายหญิง ฯลฯ เรื่องเหล่านี้คงไม่มีใครรู้เท่าตัวเราเองหรอกจริงไหมครับ แต่เท่าที่ผมรู้ได้อย่างหนึ่งก็คือ ถ้ายิ่งทำแบบนี้บ่อย ๆ และไม่ระวัง โอกาสเสี่ยงก็เพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ สุดท้ายก็อยากจะฝากบอกน้อง ๆ ที่ยังไม่พร้อมจะมีลูกนะครับ ว่าอย่าคิดทำอะไรเสี่ยง ๆ หาทางป้องกันไว้จะดีกว่า เพราะถ้าพลาดมาแล้วชีวิตเราทั้งชีวิตอาจเปลี่ยนไปเลยก็ได้ ขอให้โชคดีครับ เรียบเรียงข้อมูลโดยเว็บไซต์เมดไทย (Medthai) เมดไทย เมดไทย (Medthai) ให้ข้อมูลที่ถูกต้องและเป็นอิสระเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพ การรักษาโรค การใช้ยา สมุนไพร แม่และเด็ก ฯลฯ เราร่วมมือกับแพทย์และผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านเพื่อให้มั่นใจว่าคุณจะได้รับข้อมูลที่ถูกต้องและดีที่สุด มีอะไรกับแฟน หลังประจำเดือนหมด1วัน หลั่งนอกมีเพศสัมพันธ์หลังจากประจําเดือนหมด 1วัน ไม่ใส่ถุงแต่หลั่งนอก จะท้องหรือไม่ หมอ ในช่วงประจำเดือนใกล้มา หรือใกล้หมด โอกาสในการตั้งครรภ์มีน้อยเพราะผนังโพรงมดลูกไม่พร้อมที่จะฝังตัวของอสุจิ แต่ไม่ว่ายังไงการหลั่งนอกไม่ถือว่าเป็นการคุมกำเนิด เพราะสามารถมีโอกาสพลาดได้สูง
ประจำเดือนหมดกี่วันถึงจะมีเพศสัมพันได้ระยะปลอดภัยนั้น คืออยู่ในช่วง 1-7 วัน นับจากวันแรกที่มีประจำเดือนมา (ไม่ใช่วันที่ประจำเดือนหมด) ดังนั้น หากยังไม่เกิน 7 วัน ก็ยังถือว่าอยู่ในระยะปลอดภัย อย่างไรก็ตาม หากโดยปกติ มีระยะห่างระหว่างรอบประจำเดือนที่น้อยกว่า 24 วัน (นับจากวันแรกของประจำเดือนในรอบก่อน จนถึงก่อนวันแรกของประจำเดือนในรอบถัดไป) การนับระยะปลอดภัย ...
มีเพศสัมพันตอนเป็นประจําเดือนวันสุดท้ายปล่อยนอกจะท้องไหมวิธีการหลั่งนอกนั้น ถือเป็นวิธีการคุมกำเนิดที่ไม่มีประสิทธิภาพนัก โดยมีโอกาสที่จะตั้งครรภ์ได้ตั้งแต่ 4%-22% ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความรวดเร็วในการนำอวัยวะเพศออกก่อนที่จะมีการหลั่งน้ำอสุจิเกิดขึ้น และหากมีการหลั่งน้ำอสุจิไปแล้ว และมีเพศสัมพันธ์ต่อ อสุจิที่อาจยังตกค้างอยู่ในท่อปัสสาวะ อาจออกมาปนกับน้ำหล่อลื่นของฝ่ายชาย ซึ่ง ...
มีอะไรกับแฟนประจำเดือนหมด1วันโดยทั่วไปการมีเพศสัมพันธ์หลังประจำเดือนหมด 1 วันไม่ทำให้ตั้งครรภ์ การกินยาคุมกำเนิดฉุกเฉินให้กินเม็ดแรกให้เร็วที่สุดหลังจากมีเพศสัมพันธ์และไม่เกิน 72 ชั่วโมง ส่วนเม็ดที่สองกินหลังยาเม็ดแรก 12 ชั่วโมง การกินยาคุมกำเนิดฉุกเฉินอาจทำให้มีเลือดออกผิดปกติหรือมีรอบประจำเดือนคลาดเคลื่อนได้ การมีเลือดผิดปกตินี้สามารถหายไปได้เอง ...
|