ผลกระทบของเทคโนโลยี ด้านบวก ด้านลบ รถไฟฟ้า

Source

ยานพาหนะส่วนมากที่ใช้เพื่อการขนส่ง ณ ปัจจุบันในประเทศไทยเป็นรถยนต์เครื่องยนต์สันดาปภายใน หรือ Internal Combustion Engine (ICE) ซึ่งส่งผลร้ายที่ไม่ใช่แค่ปล่อยก๊าซ CO2 ที่ทำให้โลกร้อนขึ้นเรื่อยๆ (Global Warming) แต่ยังทำลายสุขภาพของเราและคนที่อยู่รอบข้างที่สูดอากาศที่เป็นพิษนั้นเข้าไปอีกด้วย

รัฐบาลไทย บริษัทเอกชล และประชากรล้วนแต่เห็นถึงปัญหานี้ และพยายามที่จะหาทางแก้ไขปัญหาของมลภาวะที่เกิดจากส่วนของการขนส่ง ดังนั้นการที่พวกเราจะเปลี่ยนไปใช้รถยนต์ไฟฟ้า หรือ Electric Vehicle (EV) ก็เป็นทางเลือกที่ตอบโจทย์ในการแก้ปัญหาดังกล่าวได้อย่างดี

แต่ทว่าการเปลี่ยนแปลงนี้ส่งผลกระทบต่อหลายๆอย่าง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของไฟฟ้าที่ผลิตจากการไฟฟ้า ด้านสิ่งแวดล้อม หรือด้านของเศรษฐกิจในประเทศไทย ดังนั้น ในบทความนี้ ผมจะมาพูดถึงผลกระทบที่จะมากับเจ้า EV (แบบที่เข้าใจง่าย) กันนะครับ

1. ผลกระทบกับการไฟฟ้า

ผลกระทบที่ไม่ดีต่อการไฟฟ้า

เนื่องจากรถ EV นั้นถือว่าเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดใหญ่ที่กินพลังงานเยอะ ทำให้การไฟฟ้าต้องจ่ายมาให้บ้านเราเยอะขึ้น (ถ้าชาร์จที่บ้าน) ขนาดของสายไฟในปัจจุบันก็ต้องใหญ่ขึ้น หม้อแปลง อุปกรณ์ตัดไฟ เต้าเสียบต่างๆก็ต้องใหญ่ขึ้นตาม ดังนั้น ถ้าคนส่วนมากหันมาใช้ EV ราคาของโครงสร้าง (Infrastructure Cost) จะเพิ่มขึ้นอย่างมาก

แล้วถ้าคนไทยที่หันมาใช้รถ EV ที่ต้องการพลังงานเยอะๆ ได้ทำการชาร์จรถ EV เป็นจำนวนมากพร้อมกัน ทำให้การไฟฟ้าจะต้องผลิตไฟมากขึ้นเพื่อมารองรับให้แก่ผู้ใช้ นั่นก็หมายความว่า ขนาดของโรงไฟฟ้าก็จะต้องใหญ่ขึ้น อุปกรณ์ไฟฟ้าที่ใช้อยู่ในโรงไฟฟ้าปัจจุบันก็ต้องเปลี่ยนให้ใหญ่ขึ้นทั้งหมด Infrastructure Cost ยิ่งพุ่งขึ้นไปอีก

ยิ่งไปกว่านั้น ถ้าผู้คนดึงไฟจากการไฟฟ้าเป็นจำนวนมากในเวลาสั้นๆในกรณีของ Fast Charging อาจทำให้การไฟฟ้าผลิตไฟฟ้าไม่ทัน (Shortage of Energy) ทำให้เกิดการเสียสมดุลในการจ่ายไฟ (Load Unbalance) ทำให้คุณภาพของการจ่ายไฟฟ้าแย่ลง (Degradation in Power Quality) ซึ่งทำให้ไฟตกหรือไฟดับเป็นบางพื้นที่ ส่งผลให้ ความน่าเชื่อถือ (Reliability) และเสถียรภาพ (Stability) ของการไฟฟ้าลดลง

ณ ตอนนี้ ทั่วโลกได้ทำการวิจัยวิธีที่จะสามารถควบคุมและจัดการการชาร์จของ EV แต่ละคันที่เรียกว่า Smart Charging โดยวิธีนี้จะทำการจัดการการชาร์จของรถยนต์ไฟฟ้า EV เป็นจำนวนมากกับปริมาณพลังงานไฟฟ้าที่มีอยู่ (คิดง่ายๆ เหมือนคนที่มาสลับรางรถไฟ แต่ในที่นี้สลับการชาร์จไปมาระหว่างวัน)

ผลกระทบที่ดีต่อการไฟฟ้า

เทคโนโลยีของ EV ก็ไม่ใช่ว่ามีแต่ผลกระทบทางลบนะครับ ผลกระทบทางบวกก็คือ EV นี้จะช่วยผลักดันเทคโนโลยี Smart Grid และ Renewable Energy ให้เกิดขึ้น และยังเพิ่มโอกาสที่จะได้ใช้สิ่งที่เรียกว่า Vehicle-to-Grid (V2G) อีกด้วย

ผมขอพูดถึง Smart Grid หน่อยนะครับ ซึ่งมันก็คือ สิ่งที่นักวิจัยหลายท่านมองว่าจะเป็น “ระบบพลังงานแห่งอนาคต” ของการแจกจ่ายพลังงานไฟฟ้าจากการไฟฟ้า โดยเจ้า Smart Grid จะใช้ระบบ Intelligent Communication มาควบคุมทำให้ไฟฟ้าที่จ่ายไปมี Reliability มากขึ้น และเจ้า Smart Grid ยังเป็น Key ที่อยู่เบื้องหลังพลังงานทดแทนต่างๆ (Renewable Energy) อีกด้วย เพราะฉะนั้นการผลักดันให้เกิด Smart Grid จึงเป็นผลพลอยได้ที่ยอดเยี่ยมของการหันมาใช้ EV

เนื่องจากแสงแดดไม่ได้ส่องตลอดเวลา และลมไม่ได้พักตลอดเวลา ทำให้การลงทุนติดตั้งพลังงานทดแทน (Renewable Energy) จึงยังคงต่ำอยู่ เนื่องจากปัญหาความไม่ต่อเนื่อง (Intermittency) ของแหล่งพลังงาน ซึ่งถ้าจะใช้เทคโนโลยี Renewable Energy ให้เกิดประโยชน์สูงสุดจะเกิดได้ต้องมีแหล่งเก็บพลังงาน เหตุผลนี้ทำให้ Battery ที่เป็นแหล่งเก็บพลังงานขนาดกลางใน EV (แต่ถ้า EV หลายๆคัน ก็จะเก็บพลังงานได้เยอะมาก) มีประโยชน์ต่อการผลักดัน Renewable Energy อย่างมาก

คราวนี้พูดถึง V2G กันบ้างนะครับ ซึ่งมันคือ วิธีที่รถ EV สามารถจ่ายพลังงานกลับให้แก่การไฟฟ้าได้ พูดง่ายๆก็ประมานว่า เนื่องจากแบตเตอรี่ใน EV นี้เปรียบเสมือนที่เก็บพลังงานขนาดกลางก้อนหนึ่ง แล้วคนส่วนมากก็ไม่ได้ขับรถตลอดเวลา ส่วนมากก็จะใช้รถแค่ตอนเช้า ทำงานในออฟฟิศ แล้วใช้อีกทีตอนเย็น หรือตอนที่จอดรถอยู่เฉยๆ พลังงานจากแบตเตอรี่ใน EV ของคุณสามารถเอามาช่วยจ่ายไฟฟ้าได้ในตอนที่มีความต้องการใช้ไฟฟ้าสูงๆ ซึ่งการไฟฟ้าควรจะคิดวิธีการให้รางวัล ในความร่วมมือนี้ด้วย (เหมือนเล่นหุ้นอะครับ ซื้อๆขายๆ)

ผมอยากจะชี้ให้เห็นว่า เรากำลังพูดถึงเงินในการเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยีที่มีค่าเป็นแสนๆล้านบาท เพราะฉะนั้น ผลกระทบกับการไฟฟ้าจึงเป็นสิ่งที่สำคัญมากครับ

2. ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม

สิ่งที่สำคัญที่สุดในการผลักดันเทคโนโลยีของ EV ก็คือ การที่ EV นี้ไปลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก หรือ Greenhouse Gases (GHG) ได้นั่นเอง ซึ่งรถยนต์สันดาป ICE รถยนต์ Hybrid หรือแม้กระทั่งรถยนต์ Plug-In Hybrid นั้นปล่อยก๊าซพิษที่อันตรายต่อโลกและต่อคน

หลายคนมีข้อวิจารณ์ที่ว่า ในการผลิตไฟฟ้าก็มีการปล่อย CO2 จากการเผาถ่านหินเหมือนกัน ซึ่งสามารถโต้แย้งได้คือ พลังงานสะอาดของ Renewable Energy มีปริมาณเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง, ปริมาณ CO2 ที่ปล่อยจากการไฟฟ้าสามารถควบคุมได้ง่ายกว่าที่ปล่อยออกจากท่อไอเสียของรถยนต์สันดาป ICE, พลังงานที่การไฟฟ้านี้ถูกผลิตเป็นจำนวนมหาศาลต่อครั้ง ทำให้ลดการปล่อย GHG ต่อหน่วยลดลง, การปล่อยก๊าซ GHG จากกระบวนการทั้งหมดในชีวิตของ EV หรือเรียกว่า Well-to-Wheel นั้นมีค่าน้อยกว่าของ ICE มาก

ยิ่งไปกว่านั้น มลภาวะทางเสียงนี้ลดลงอย่างมาก จากการใช้รถ EV ซึ่งเหมาะสมกับในเมืองที่มีประชากรสูง แต่ก็ยังมีวิจารณ์ในเรื่องของการ Recycle ตัวแบตเตอรี่ที่ยังคงเป็นผลกระทบทางลบทางด้านสิ่งแวดล้อมของรถ EV อยู่ เนื่องจากองค์กรการ Recycle ของแบตเตอรี่ในรถยนต์ที่มีอยู่น้อยมากในปัจจุบัน แต่ทว่า ในอนาคตองค์กรเหล่านี้จะมีมากขึ้นนะครับ

3. ผลกระทบต่อเศรฐกิจ

ในมุมมองของผู้ใช้คือ EV สามาระลดค่าใช้จ่ายต่างๆในระยะยาวได้ เนื่องจาก EV นี้เป็นรถที่มีประสิทธิภาพมากกว่า ICE มาก และหลีกเลี่ยงค่าน้ำมันที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ราคาเริ่มต้นของ EV นี้ก็จะลดลงเรื่อยๆ เพราะมีการ Optimization Design และ Mass Production ของบริษัทเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เทคโนโลยีของ Smart Charging จะช่วยลดค่าไฟตอนที่ชาร์จลงได้ และเทคโนโลยีของ V2G ยังช่วยในเรื่องของการเพิ่มรายได้ให้แก่ผู้ใช้ได้

ถ้าหากมีการผลักดันเทคโนโลยีของ Smart Grid, Smart Charging, Renewable Energy และ V2G แล้วละก็ ในมุมมองของการไฟฟ้าคือ ความต้องการของพลังงานไฟฟ้าลดลง, เงินลงทุนเปลี่ยน Infrastructure จะลดลงอย่างมาก, Reliability ของระบบไฟฟ้าจะเพิ่มขึ้น ปัญหาต่างๆที่เกิดที่การไฟฟ้าก็จะลดลง

แถมไว้ให้คิดนิดนึงนะครับ ในมุมมองของประเทศไทย ถ้ารัฐบาลออกนโยบายให้คนไทยหันไปใช้ EV กันหมด อุตสาหกรรมรถยนต์ในประเทศไทยและตัวเศรษฐกิจของประเทศเองก็จะมีปัญหาอย่างมาก เนื่องจากธุรกิจของชิ้นส่วนรถยนต์ ตัวรถยนต์ สถานีบริการรถยนต์มีอยู่เป็นปริมาณที่มาก ยิ่งไปกว่านั้น จำนวนผู้เชี่ยวชาญใน EV ที่เป็นคนไทยอาจจะยังมีน้อยอยู่ ทำให้ต้องไปจ้างคนต่างชาติ ซึ่งจะส่งผลถึงปัญหาการว่างงานและเศรษฐกิจของประเทศ ไหนจะยังมีปัญหาของภาษีการนำเข้าชิ้นส่วนของ EV ที่ประเทศไทยยังมีเทคโนโลยีในการผลิตไม่พอ (ซึ่งในประเทศไทยยังขาดอยู่มากครับ) เพราะฉะนั้นเราจึงต้องค่อยๆปรับตัวนะครับ

โดยรวมแล้ว ส่วนตัวผมคิดว่า ผลกระทบทางลบในปัจจุบันนี้จะหมดไปในอนาคต เนื่องจากเทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็ว และการปรับตัวต้อนรับเทคโนโลยีของประชากรที่รวดเร็ว แล้วผลกระทบทางบวกจะเด่นขึ้นเรื่อยๆ เพราะฉะนั้น ขอให้ทุกท่านโชคดีกับการเตรียมตัวที่จะรับผลกระทบต่างๆนะครับ

ถ้าชอบโพสนี้ และอยากได้อัพเดทข้อมูลเกี่ยวกับเทคโนโลยีของ EV ในอนาคต ก็สามารถกด Follow ได้เลยนะครับบ :)