ปัจจุบันมีพื้นที่ปลูกกว่า 12,000 ไร่ กระจายอยู่ 7 จังหวัด ได้แก่ เชียงราย เชียงใหม่ ลำปาง ลำพูน พะเยา และอุทัยธานี มีเกษตรกรที่เข้าร่วมทำคอนแทรคฟาร์มมิ่ง ประมาณ 2,000 ครอบครัว โดยเกษตรจะมีกำไรจากการปลูกถั่วแระญี่ปุ่นเฉลี่ย 7,000-10,000 บาท/ไร่ (70 วันได้ผลผลิต) ขณะที่ถั่วแระญี่ปุ่นจะชอบอุณหภูมิกลางๆ ไม่ร้อนและหนาวเกินไป ต้องการน้ำเพียง 30% ของการปลูกข้าวเท่านั้น "ปัจจุบันถั่วแระญี่ปุ่น ขึ้นชื่อว่าเป็น Super Food เป็นแหล่งของโปรตีน มีกรดอมิโน และมีคุณค่าทางอาหารสูง แต่ไขมันต่ำ ไม่มีคอลเลสเตอรอล ป้องกันโรคหัวใจ กระดูกพรุน ลดความดันโลหิต และป้องกันมะเร็ง ซึ่งคนญี่ปุ่น นิยมรับประทานมานานกว่า 100 ปี และสหรัฐฯ ก็เริ่มเป็นที่นิยม เมื่อ 10-15 ปีที่ผ่านมา ขณะที่ประเทศไทยก็เริ่มที่นิยมมากขึ้น" ดังนั้นเมื่อตลาดในไทยถั่วแระญี่ปุ่นมีโอกาสเติบโต ทางบริษัทฯ จึงสร้างแบรนด์ "มินนะมาเมะ" ขึ้น เพื่อให้คนไทยได้รับประทานผักสีเขียวที่มีประโยชน์บ้าง เน้นการรับประทานง่ายเพียงเปิดถุงทิ้งให้น้ำแข็งละลายเล็กน้อยก็รับประทานได้ทันที ซึ่งนอกจากคุณค่าของถั่วแระญี่ปุ่นที่ธรรมชาติมอบให้แล้ว ความโดดเด่นในเรื่องของบรรจุภัณฑ์ก็ไม่แพ้กัน ที่ดูเรียบหรู แต่น่าหยิบจับมาลิ้มลอง โดยมีการใช้ถั่วแระญี่ปุ่นฝักเขียว โค้งมน มาสร้างรอยยิ้ม บนแพคเกจที่มีพื้นหลังเป็นสีขาวนวล สื่อถึงความจริงใจที่ต้องการให้คนไทยมีสุขภาพดี ในราคาที่เข้าถึงได้โดยไม่ต้องลังเล และเพื่อให้สอดคล้องกับความหมายของคำว่า มินนะมาเมะ ถอดความได้ว่า 'ถั่วแระของทุกคน' และเมื่อพลิกไปด้านหลังของแพคเกจ จะพบ QR code ที่เมื่อสแกนจะพบว่าถั่วแระญี่ปุ่นที่ลูกค้ากำลังรับประทานกันอย่างเพลิดเพลินนั้น เกษตรกรผู้ใดเป็นคนปลูก ถิ่นกำเนิดของถั่วแระ รวมถึงยังได้รู้จักครอบครัวของพวกเขาด้วย ซึ่งแนวคิดนี้ คุณกรกช บอกว่า ต้องการให้กระดูกสันหลังของชาติได้มาอยู่เบื้องหน้า หลังจากที่พวกเขาเป็นผู้พิทักษ์ดิน และรังสรรค์ผลผลิตที่ดีมีคุณภาพให้คนไทยและทั่วคนทั่วโลกมายาวนาน แต่กลับไม่เป็นที่รู้จัก รวมถึงต้องการสื่อว่าพวกเขารักในอาชีพ และมีความสุขในการส่งมอบผลผลิตคุณภาพแก่ผู้บริโภค สำหรับราคาจำหน่ายเริ่มต้นที่ 20 บาท สำหรับถุงขนาดเล็ก 120 กรัม และ 55 บาท ขนาด 400 กรัม หาซื้อได้ที่ Gourmet Market, Home Fresh Mart, Food Land, Lawson’s และริมปิงซูเปอร์มาร์เก็ต จ.เชียงใหม่ แผนธุรกิจในอนาคตทางบริษัทฯ เตรียมเพิ่มสัดส่วนการจำหน่ายถั่วแระญี่ปุ่นในไทยให้มากขึ้น รวมถึงประเทศในเออีซี ที่มีอัตราการเติบโตของตลาดประมาณ 10% ต่อปี ซึ่งขณะนี้แหล่งปลูกถั่วแระญี่ปุ่นได้กระจายในหลายประเทศ อาทิ ญี่ปุ่น จีน (มณฑลฟูเจี้ยน) ไต้หวัน (ทางตอนใต้) อินโดนีเซีย ส่งเข้าญี่ปุ่นปีละ 3,000 ตัน เวียดนาม 200-300 ตัน/ปี และสหรัฐฯ ยังปลูกไม่มากนัก ส่วนไทยปลูกได้ 30,000 ตัน/ปี (ติดอันดับ 3 ของโลก) ***สนใจติดต่อ บริษัท ลานนาเกษตรอุตสาหกรรม จำกัด 106/5 หมู่ 8 ถ.เชียงใหม่-ลำปาง ต.สารภี อ.สารภี จ.เชียงใหม่ โทร.0-5342-1389-65 หรือที่ www.lannaagro.com ผลผลิตของเราส่งออกไปยังหลายประเทศทั่วโลก ความสัมพันธ์อันดีกับลูกค้าประจำ และการได้รับมาตรฐานระดับสากลอย่างต่อเนื่อง ทำให้จำนวนลูกค้าใหม่ของเราเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทั้งในและต่างประเทศ โดยผ่านระบบการตรวจสอบทุกกระบวนการผลิตและบรรจุ ให้ได้สินค้าที่มีคุณภาพอย่างมากที่สุด GROW TOGETHER 5 CARE - EDAMAME SHARING SUSTAINABILITY บริษัท ลานนาเกษตรอุตสาหกรรม จำกัด ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2536 บนผืนดินอันอุดมสมบูรณ์ จังหวัดเชียงใหม่ ภาคเหนือของประเทศไทย เป็นผู้ผลิตและส่งออกอาหารระดับโลก ซึ่งการส่งออกเราเน้นกลุ่มตลาด ญี่ปุ่น อเมริกา และเอเชีย ส่วนตลาดในอนาคต คือ ตะวันออกกลาง ยุโรป และอเมริกาใต้ ขอบคุณข้อมูลจาก: LANNA AGRO INDUSTRY CO LTD (LACO) |