อธิบดีกรม ทางหลวง คน ที่ 31

อธิบดีกรม ทางหลวง คน ที่ 31

วันนี้นายสราวุธ ทรงศิวิไล อธิบดีกรมทางหลวง ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการ เจาะลึกทั่วไทย Inside Thailand ระบุยอมรับว่าการประชาสัมพันธ์ และสมัครสมาชิกของโครงการ M-Flow มีปัญหา แต่กำลังเร่งปรับปรุงแก้ไข และผู้สมัครสมาชิกกำลังเพิ่มขึ้นเรื่อย

ในส่วนของค่าปรับ นายสราวุธเปิดเผยว่ามีแนวโน้มคือเลื่อนการเก็บค่าปรับ 10 เท่าสำหรับผู้ที่ไม่มีเจตนาหลีกเลี่ยงการชำระเงิน สำหรับผู้ที่ไม่ได้สมัครเข้าเป็นสมาชิกและชำระค่าผ่านทางหลังจากใช้งานในระยะเวลา 1 สัปดาห์ ไปเป็นหลังวันที่ 31 มีนาคม

อธิบดีกรม ทางหลวง คน ที่ 31

ส่วนผู้ที่จ่ายค่าปรับไปแล้ว ราว 20,000 ราย นายสราวุธระบุว่าจะทยอยคืนเงินค่าปรับให้ แต่ระบุว่ายังอยู่ระหว่างนำเข้าที่ประชุม แต่หลังจากนายสราวุธให้สัมภาษณ์ ในช่วงสายมีข่าวยืนยันจากสำนักข่าวต่างๆ อีกครั้ง ระบุว่านายศักดิ์สยาม ชิดชอบ อธิบดีกระทรวงคมนาคม มีคำสั่งชะลอการเก็บค่าปรับเป็นหลัง 31 มีนาคม และเตรียมทยอยคืนเงินค่าปรับ

ผู้ใช้งานที่ขับรถผ่านไปแล้ว สามารถตรวจสอบเพื่อชำระเงิน ได้ที่ www.mflowthai.com เลือกเมนู : ค้นหาเพื่อชำระเงิน : https://mflowthai.com/mflow/unuserpayment และทำตามขั้นตอน สำหรับผู้ที่ต้องการลงทะเบียนเพื่อเป็นสมาชิก สามารถลงทะเบียนได้ 3 ช่องทาง คือ ผ่านเว็บไซต์ www.mflowthai.com แอป MFlowThai หรือลงทะเบียนผ่านไลน์ @mflowthai แต่วิธีที่สามใช้ได้เฉพาะการจ่ายแบบผูกบัตรเครดิตเท่านั้น

ข้อมูลเพิ่มเติมสอบถามได้ที่ โทร 1586 กด 1 หรือไลน์ @mflowthai

ที่มา - รายการ เจาะลึกทั่วไทย Inside Thailand ช่วงหลังจาก 1 ชั่วโมง 14 นาที, ผู้จัดการออนไลน์

Get latest news from Blognone Follow @twitterapi

กรมทางหลวง ปฏิบัติการฟื้นฟูสภาพผิวจราจรหลังน้ำลดอย่างต่อเนื่อง พร้อมเร่งสำรวจความเสียหายจากทางหลวงที่ได้รับผลกระทบทั้งหมด 806 แห่ง

พร้อมทั้งรายงาน สถานการณ์อุทกภัยและดินสไลด์บนทางหลวง โดยสถานการณ์ประจำวันที่ 31 ตุลาคม 2565 เวลา 14.00 น. พบทางหลวงถูกน้ำท่วม/ดินสไลด์ ในพื้นที่ 3 จังหวัด จำนวน 3 สายทาง 3 แห่ง ที่การจราจรผ่านไม่ได้ 3 แห่ง

นายสราวุธ ทรงศิวิไล อธิบดีกรมทางหลวง กระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า จากสถานการณ์น้ำท่วมบนทางหลวงที่ผ่านมาตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2565 จนถึงปัจจุบัน ส่งผลกระทบให้ประชาชนในพื้นที่ได้รับความเดือดร้อน ซึ่งกรมทางหลวง (ทล.) ได้ให้ความช่วยเหลือประชาชนอย่างต่อเนื่อง โดยได้สั่งการหน่วยงานในพื้นที่ดำเนินการให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัยทั้งกรณีเร่งด่วนและต่อเนื่องตามสถานการณ์อย่างเต็มกำลัง สำหรับมาตรการที่มีการดำเนินการอยู่ในปัจจุบันหลังระดับน้ำลดลง ได้เข้าฟื้นฟูและซ่อมแซม เพื่อเร่งคืนสภาพผิวจราจร เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนผู้ใช้เส้นทางให้เดินทางได้อย่างสะดวกปลอดภัย โดยดำเนินการตามนโยบายของนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ที่มีความห่วงใยประชาชนที่ได้รับผลกระทบต่อสถานการณ์อุทกภัยในหลายพื้นที่ยังคงมีน้ำท่วมขังอยู่ โดย ทล. กำลังเร่งสำรวจตรวจสอบความเสียหายทางหลวงในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบหลังสถานการณ์กลับสู่ปกติซึ่งขณะนี้มีจำนวน 238 สายทาง 806 แห่ง เพื่อจัดสรรงบประมาณในการซ่อมบำรุงต่อไป

พร้อมกันนี้ ทล. ได้ทำการสรุปสถานการณ์อุทกภัยและดินสไลด์บนทางหลวง โดยสถานการณ์ประจำวันที่ 31 ตุลาคม 2565 เวลา 14.00 น. พบทางหลวงถูกน้ำท่วม/ดินสไลด์ ในพื้นที่ 3 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดกาฬสินธุ์ พระนครศรีอยุธยา และภูเก็ต จำนวน 3 สายทาง 3 แห่ง ที่การจราจรผ่านไม่ได้ 3 แห่ง ดังนี้

1. จังหวัดกาฬสินธุ์ จำนวน 1 แห่ง บนทางหลวงหมายเลข 214 ตอน บ้านหลุบ - ลำชี ในพื้นที่ อำเภอกมลาไสย ช่วง กม. ที่ 23+200 - 24+800 ระดับน้ำ 40 - 65 เซนติเมตร ให้ใช้ทางเลี่ยงทางหลวงหมายเลข 23 213 และ 12 คาดว่าการจราจรจะผ่านได้วันที่ 1 พฤศจิกายน 2565

2. จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จำนวน 1 แห่ง บนทางหลวงหมายเลข 3412 ตอน อยุธยา - บางบาล ในพื้นที่อำเภอบางบาล ช่วง กม. ที่ 13+500 - 15+950 ระดับน้ำ 30 เซนติเมตร ให้ใช้ทางเลี่ยง เลี้ยวซ้ายเข้าวัดบ้านขวางออกทางหลวงชนบท 4038 คาดว่าการจราจรจะผ่านได้วันที่ 1 พฤศจิกายน 2565

3. จังหวัดภูเก็ต จำนวน 1 แห่ง บนทางหลวงหมายเลข 4029 ตอน กะทู้ - ป่าตอง ในพื้นที่ อำเภอกะทู้ ช่วง กม. ที่ 0+000 - 0+005 พื้นผิวจราจรเกิดการสไลด์ตัว ให้ใช้ทางเลี่ยง ทล.4025 ทล.4028 และ ทล.4030 อยู่ระหว่างการซ่อมแซม คาดว่าผ่านได้วันที่ 10 พฤศจิกายน 2565

จากสถานการณ์อุทกภัยจากอิทธิพลพายุไต้ฝุ่นโนรูที่ผ่านมา ตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2565 ถึงปัจจุบันทำให้ทางหลวงได้รับผลกระทบทั้งหมด จำนวน 238 สายทาง จำนวน 63 จังหวัด จำนวน 806 แห่ง อย่างไรก็ตามยังคงมีน้ำท่วมเหลืออีกเพียง 3 จังหวัด ทั้งนี้ ทล. ได้สั่งการให้สำนักงานทางหลวง แขวงทางหลวง หมวดทางหลวงทั่วประเทศ เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด หากมีพื้นที่ใดประสบปัญหา เจ้าหน้าที่จะเข้าพื้นที่ เพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนทันที โดยขอให้ประชาชนผู้ใช้ทางโปรดใช้ความระมัดระวังในการเดินทาง ปฏิบัติตามป้ายเตือน ป้ายแนะนำ และคำแนะนำของเจ้าหน้าที่อย่างเคร่งครัด หากประชาชนต้องการสอบถามสภาพเส้นทาง สภาพการจราจร หรือต้องการความช่วยเหลือสามารถติดต่อได้ที่สำนักงานทางหลวง แขวงทางหลวง หมวดทางหลวงในพื้นที่ และสายด่วนกรมทางหลวง โทร. 1586 (โทรฟรีทุกเครือข่ายตลอด 24 ชั่วโมง) และสามารถติดตามการรายงานสถานการณ์สภาพเส้นทางและเส้นทางเลี่ยงได้ที่ทวิตเตอร์กรมทางหลวง @prdoh2