Show ด้วยเหตุปัจจัยต่างๆ ทำให้เศรษฐกิจของแต่ละประเทศมีกราฟที่ขึ้น-ลงแตกต่างกันไป ทำให้ค่าสกุลเงิน เงินเฟ้อ เงินฝืด ของแต่ละประเทศก็ไม่เท่ากัน แต่แน่นอนว่าปัจจัยทางด้านเศรษฐกิจส่งผลกระทบต่อชีวิตของคนในประเทศอย่างมีนัยสำคัญ ที่แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนเลยนั่นก็คือ ‘ค่าครองชีพ’ Employment Conditions Abroad Limited: ECA บริษัทที่ปรึกษาทางด้านเศรษฐกิจ ได้สำรวจค่าครองชีพของประเทศต่างๆ ทั่วโลก โดยคิดคำนวณจากหลากหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็น ค่าเช่าที่อยู่อาศัย, ค่าเล่าเรียน, ราคาน้ำมัน, ราคาการบริการขนส่งสาธารณะ และราคาของชำต่างๆ ในชีวิตประจำวัน ในปี 2022 เป็นปีที่มีอัตราเงินเฟ้อเพิ่มสูงขึ้นอย่างมากทั่วโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศแถบทวีปเอเชีย โดยมีเมืองติดอันดับ Top 10 ถึง 6 อันดับ ‘ฮ่องกง’ ยังคงรักษาอันดับที่ 1 ไว้เช่นเคย ถ้าจะพูดว่าทวีปเอเชียเป็นทวีปที่ใช้ชีวิตในราคาแพงที่สุดในโลกก็ไม่แปลกนัก ส่วนอันดับ 2 และ 3 เป็นนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา และเจนีวา สวิตเซอร์แลนด์ ตามลำดับ อย่างไรก็ดี ตามเมืองใหญ่ทางฝั่งยุโรป ไม่ว่าจะเป็นปารีส, มาดริด, โรม และบรัสเซลส์ กลับมีอัตราค่าครองชีพที่ต่ำลง อันเนื่องมาจากค่าเงินยูโรอ่อนค่าลงในรอบ 12 เดือนที่ผ่านมา ขณะเดียวกัน หนึ่งในประเทศสมาชิกสหภาพยุโรปอย่างสวิตเซอแลนด์ซึ่งใช้สกุลเงินฟรังก์ กลับมีลิสต์ติดอันดับ Top 10 ถึง 2 เมืองด้วยกัน สำหรับทางยุโรปตะวันออก เมืองใหญ่อย่างมอสโก และเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก ในรัสเซีย ก็มีอัตราค่าครองชีพต่ำลงเช่นกัน เหตุอันเนื่องมาจากการรุกรานยูเครนของรัสเซียเอง ผู้อ่านท่านใดสนใจดูอันดับอื่นๆ และอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม สามารถเข้าไปดูได้ที่ www.eca-international.com/news/june-2022/london-is-fourth-most-expensive-city-in-worldส่วน 10 อันดับแรกจะมีที่ไหนบ้างนั้น ไปดูกัน 10 อันดับเมืองที่มีอัตราค่าครองชีพสูงที่สุดในโลก
ภาพประกอบ: นิสากร ฤทธาภัย ภาพ: Shutterstock อ้างอิง:
ในยุคที่ข้าวยากหมากแพง
รายจ่ายในชีวิตประจำวันไม่ว่าจะค่าอาหาร ค่ารถ ค่าน้ำมัน ข้าวของเครื่องใช้ นับวันยิ่งสูงและแพงมากขึ้นเรื่อยๆ หน่วยงานวิเคราะห์เศรษฐกิจ Economist Intelligence Unit (EIU) ได้ทำการสำรวจข้อมูลใน 173 เมืองทั่วโลก ได้เปิดเผย 10 อันดับเมืองที่มีค่าครองชีพสูงที่สุดในโลก ประจำปี 2022 ออกมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งประเทศที่มีค่าครองชีพแพงที่สุดเป็นอันดับ 1 ในโลกของปีนี้ ตกเป็นของฮ่องกง โดยในปีนี้มีเมืองใหญ่ๆ ในทวีปเอเชียติดเข้ามาในท็อป 10 ถึง 5 เมืองด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นโซล, กวางโจว, เซี่ยงไฮ้, โตเกียว
และฮ่องกง เรามาดูทั้ง 10 อันดับเมืองที่มีค่าครองชีพแพงที่สุดในโลกกันว่า เมืองไหน อยู่อันดับที่เท่าไหร่กันบ้าง? 10. Seoul9. Guangzhou8. Shanghai7. Zurich6. Tel Aviv5. Tokyo4. London3. Geneva2. New York1. Hong Kongเผยแพร่ 17 มิ.ย. 2565 ,14:15น. รายงานใหม่จากธนาคารในสวิตเซอร์แลนด์เผย กรุงเทพฯ เป็นเมืองที่มีค่าครองชีพสูงเป็นอันดับ 15 ของโลก Julius Baer ธนาคารในสวิตเซอร์แลนด์ เปิดเผยรายงาน Global Wealth and Lifestyle Report 2022 หรือ “ดัชนีไลฟ์สไตล์ (Lifestyle Index)” เพื่อจัดอันดับเมืองที่ค่าครองชีพสูงที่สุดในโลก โดยดัชนีนี้พิจารณาจากค่าใช้จ่ายในการซื้อสินค้าและบริการเพื่อการดำเนินชีวิตตามไลฟ์สไตล์ 19 รายการ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นสินค้า-บริการกลุ่มฟุ่มเฟือย ระหว่างเดือน พ.ย. 2021 ถึง เม.ย. 2022 ใน 24 เมืองใหญ่ทั่วโลก จับตา กนง.เร่งขึ้นดอกเบี้ย หวั่นไม่ทันเงินเฟ้อพุ่ง ทำข้าวของแพง-ค่าครองชีพสูง เทียบค่าครองชีพ เม.ย.-พ.ค.65 เพิ่มขึ้นอีกเกือบ 300 บาท ค่าครองชีพพุ่ง กำลังซื้อหด ร้านค้าปลีกกระทบหนัก ความเชื่อมั่นวูบ โดยผลการสำรวจพบว่า กรุงเทพฯ ถูกจัดอยู่ในอันดับที่ 15 เมืองที่มีค่าครองชีพสูงที่สุดในโลก ร่วงลงมาจากอันดับ 11 ในปีที่แล้ว โดยมีสินค้า-บริการใน 5 รายการที่ปรับตัวสูงขึ้น คือ ค่าจ้างทนายความ (สูงขึ้น 7%) จักรยาน (สูงขึ้น 18%) สินค้าเทคโนโลยี จำพวกไอโฟน ไอแพด (สูงขึ้น 39%) ตั๋วเครื่องบินชั้นธุรกิจ (สูงขึ้น 51%) และวิสกี้ (สูงขึ้น 55%) ส่วนสินค้า-บริการที่ปรับราคาลดลงมามากที่สุดในกรุงเทพฯ คือ ประกันสุขภาพ (ลดลง 31%) และค่าห้องพักโรงแรม (ลดลง 26%) โดยค่าห้องพักโรงแรมของกรุงเทพฯ ถือว่าถูกที่สุดใน 24 เมืองที่มีการสำรวจ แต่สินค้า-บริการกลุ่มที่แพงของกรุงเทพฯ คือ ราคาวิสกี้ ราคารถยนต์ ราคารองเท้าผู้หญิง และราคาค่าบริการทำเลสิก ซึ่งรายการเหล่านี้ของกรุงเทพฯ สูงเป็นอันดับ 3-4 ของโลก Julius Baer ชี้ว่า กรุงเทพฯ เป็นเมืองระดับกลางที่มีค่าครองชีพถูกลงอย่างเห็นได้ชัดเมื่อเทียบกับเมืองอื่น ๆ ในภูมิภาคเอเชีย โดยมีราคาสินค้า-บริการหลายรายการต่ำกว่าราคาเฉลี่ยของภูมิภาค อาจเป็นเพราะประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวที่สำคัญ และอุตสาหกรรมซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่จากการระบาดของโควิด-19 ดัชนีไลฟ์สไตล์ระบุว่า เซี่ยงไฮ้ของจีน เป็นเมืองที่ค่าครองชีพสูงที่สุดในโลก โดยระบุว่า แม้แต่คนรวยที่ร่ำรวยที่สุดก็หนีไม่พ้นจากแรงกดดันจากภาวะเงินเฟ้อ ซึ่งทำให้สินค้าฟุ่มเฟือยมีราคาแพงขึ้นมาก เซี่ยงไฮ้ครองตำแหน่งเมืองค่าครองชีพสูงที่สุดในโลกเป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน โดยมีสินค้า-บริการปรับราคาขึ้นถึง 16 รายการจาก 19 รายการ ที่น่าสังเกตคือ ใน 5 อันดับแรกของดัชนีไลฟ์สไตล์นี้ เป็นเมืองในภูมิภาคเอเชียถึง 4 เมือง คือ เซี่ยงไฮ้ (อันดับ 1) ไทเป (อันดับ 3) ฮ่องกง (อันดับ 4) และสิงคโปร์ (อันดับ 5) ส่วนอันดับที่ 2 นั้นตกเป็นของ ลอนดอน สหราชอาณาจักร ซึ่งอันดับพุ่งพรวดมาจากอันดับ 8 ในปีที่แล้ว จากราคาสินค้า-บริการที่เพิ่มขึ้นถึง 15 รายการจาก 19 รายการ โดยเฉพาะค่าบริการห้องพักโรงแรมที่พุ่งทะยานกว่า 225% ขณะที่โตเกียวซึ่งถูกแย่งอันดับ 2 ไปนั้น มีค่าครองชีพตกลงมามากที่สุด โดยร่วงลงมาอยู่ที่อันดับที่ 8 ส่วนใหญ่เกิดจากวิกฤตการอ่อนค่าของสกุลเงินเยนของญี่ปุ่น เมื่อเปรียบเทียบแล้ว จะพบว่า ไม่มีเมืองใดในสหรัฐฯ หรือทวีปอเมริกาอยู่ใน 10 อันดับแรกของดัชนีนี้เลย ซึ่งเมืองเหล่านี้จะถูกมองว่า “มีค่าครองชีพถูกมาก” ในสายตาของคนที่มีเงิน โดยสรุปในภาพรวม รายงานระบุว่า ผลกระทบจากการระบาดใหญ่ของโควิด-19 ประกอบกับอัตราเงินเฟ้อที่มีแนวโน้มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมาและการหยุดชะงักของห่วงโซ่อุปทาน ทำให้ต้นทุนสินค้าและบริการสูงขึ้น รวมถึงสินค้า-บริการ 19 รายการที่ Julius Baer ทำการสำรวจด้วย สะท้อนวิกฤตค่าครองชีพทั่วโลกปรับตัวสูงขึ้น โดยสินค้ากลุ่มเทคโนโลยี เช่น ไอโฟน ไอแพด แมคบุ๊ก มีการปรับราคาเพิ่มขึ้นมากที่สุดในบรรดาสินค้า-บริการ 19 รายการ เฉลี่ยทั้งโลกเพิ่มขึ้น 41% รองลงมาคือค่าจ้างทนายความที่ทั่วโลกสูงขึ้น 32.6% ในทางตรงกันข้าม รายงานพบว่า สินค้ากลุ่มไวน์และประกันสุขภาพีการปรับราคาลดลงมากที่สุดในโลกในปีนี้ โดยลดลง 26.1% และ 24.4% ตามลำดับ เรียบเรียงจาก CNBC ภาพจาก AFP 10 อันดับอาชีพร้อนแรง อัตราการ “จ้างเด็กจบใหม่” พุ่งสูง วอลเลย์สาวไทย ปลอดโควิดยกทีม พร้อมดวลญี่ปุ่น เย็นนี้ อัปเดตข่าวล่าสุดก่อนใคร Add friend ได้ที่ @PPTVOnline |