ประเทศที่ค่าครองชีพสูงที่สุดในโลก

ในยุคนี้ที่ค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันไม่ว่าจะค่าอาหาร ค่ารถ ข้าวของเครื่องใช้ นับวันยิ่งสูงและแพงมากขึ้นเรื่อยๆ ล่าสุดหน่วยงานวิเคราะห์เศรษฐกิจ Economist Intelligence Unit (EIU) ได้ทำการสำรวจข้อมูลใน 173 เมืองทั่วโลก ทำรายงานว่า “ค่าครองชีพ เมืองใด ประเทศใด แพงที่สุดในโลก” ซึ่งประเทศที่มีค่าครองชีพแพงที่สุดเป็นอันดับ 1 ในโลกของปีนี้ ตกเป็นของเมืองเทลอาวีฟ ประเทศอิสราเอล โดยม ปารีส ฝรั่งเศสและ สิงคโปร์ตามมาเป็ฯอันที่ 2 และ 3 ตามอันดับ ซึ่งนับป็นครั้งแรกของเมืองเทลอาวีฟ จากที่ปีแล้วที่อยู่อันดับที่ 5

มืองที่ค่าครองชีพสูงที่สุดในโลก 10 อันดับ ได้แก่    

1.เทลอาวีฟ (อิสราเอล)

2.ปารีส (ฝรั่งเศส)

3.สิงคโปร์

4.ซูริก (สวิตเซอร์แลนด์)

5.ฮ่องกง (ประเทศจีน)

6.นิวยอร์ก (สหรัฐอเมริกา)

7.เจนีวา (สวิตเซอร์แลนด์)

8.โคเปนเฮเกน (เดนมาร์ก)

9.ลอสแองเจลิส (สหรัฐอเมริกา)

10.โอซาก้า (ญี่ปุ่น)

*กรุงดามัสกัส สาธารณรัฐอาหรับซีเรีย ถูกจัดให้เป็นเมืองที่มีค่าครองชีพต่ำที่สุด

       ทุกวันนี้ค่าใช้จ่ายในการกิน การนอน ใช้สอยจิปาถะสิ่งต่างๆ หรือค่าพักที่อยู่อาศัย นับวันยิ่งสูงและแพงมากขึ้นเรื่อยๆ ล่าสุด ในรอบ 30 ปี Economist Intelligence Unit (EIU) ได้ทำการสำรวจและทำรายงานว่า “ค่าครองชีพ เมืองใด ประเทศใด แพงที่สุดในโลก” ซึ่งประเทศที่มีค่าครองชีพแพงที่สุด 3 อันดับของโลก ตกเป็นของประเทศสิงคโปร์ ฮ่องกง-จีน และปารีส-ฝรั่งเศส โดยประเทศสิงคโปร์ครองอันดับ 1 ที่มีค่าครองชีพแพงที่สุดมาเป็นเวลานานแล้ว

       โดยในการทำรายงานเรื่องนี้มีกระบวนการด้วยกันหลายส่วน เริ่มตั้งแต่สำรวจและเปรียบเทียบราคาสินค้าและบริการที่คนใช้ในการอุปโภคและบริโภคเป็นพื้นฐาน กว่า 400 รายการ  รวมถึงค่าใช้จ่ายพื้นฐานในชีวิตประจำวันต่างๆ ด้วย เช่น ขนมปัง ยาสูบ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ค่าเดินทาง ค่าตัดผม ค่าที่พักอาศัย นอกจากนี้ยังรววมไปถึงจำนวนโรงเรียนเอกชน ความช่วยเหลือในประเทศ และค่าใช้จ่ายด้านการสันทนาการด้วย  โดยเก็บข้อมูลจาก 133 เมืองทั่วโลก โดยเอาราคาของนิวยอร์ค ประเทศสหรัฐอเมริกาเป็นตัวตั้งต้นในการเปรียบเทียบ เพราะประเทศสหรัฐฯ มีเกณฑ์ที่ได้มาตรฐานในการจัดอันดับค่าครองชีพ

       โดย 10 อันดับเมืองที่มีค่าครองชีพแพงที่สุดในปี 2019 มีดังนี้

อันดับ 1

สิงคโปร์  ฮ่องกง และปารีส

อันดับ 4

ซูริก (สวิตเซอร์แลนด์)

อันดับ 5

เจนีวา (สวิตเซอร์แลนด์) และโอซาก้า (ญี่ปุ่น)

อันดับ 7

กรุงโซล (เกาหลีใต้) โคเปนเฮเกน (เดนมาร์ก) และนิวยอร์ก (สหรัฐ)

อันดับ 10

เทลอาวีฟ (อิสราเอล) และลอสแองเจลิส (สหรัฐ)

       โดยจากรายงานของ EIU ชี้ให้เห็นว่า จากข้อมูลที่เห็นในปีันี้สิ่งที่น่าสนใจคือ  ค่าครองชีพในฝั่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้เพิ่มสูงขึ้นๆ ด้วยสาเหตุจากการที่เศรษฐกิจขยายตัวอย่างแข็งแรงในปีที่แล้ว ทั้งนี้ฝั่งประเทศไทยเอง เมืองกรุงเทพฯ ถึงจะไม่ติดใน 10 อันดับ แต่อยู่ในอันดับที่ 41 ร่วมกับบริสเบน - ออสเตรเลีย และ เวลลิงตัน - นิวซีแลนด์ ด้วย

อ้างอิง: BBC, VOA, CNN 

ภาพ: Unsplash, Angeltourthailand, Gostudyamerica

Julius Baer ธนาคารในสวิตเซอร์แลนด์ เปิดเผยรายงาน Global Wealth and Lifestyle Report 2022 หรือ “ดัชนีไลฟ์สไตล์ (Lifestyle Index)” เพื่อจัดอันดับเมืองที่ค่าครองชีพสูงที่สุดในโลก

โดยดัชนีนี้พิจารณาจากค่าใช้จ่ายในการซื้อสินค้าและบริการเพื่อการดำเนินชีวิตตามไลฟ์สไตล์ 19 รายการ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นสินค้า-บริการกลุ่มฟุ่มเฟือย ระหว่างเดือน พ.ย. 2021 ถึง เม.ย. 2022 ใน 24 เมืองใหญ่ทั่วโลก

จับตา กนง.เร่งขึ้นดอกเบี้ย หวั่นไม่ทันเงินเฟ้อพุ่ง ทำข้าวของแพง-ค่าครองชีพสูง

เทียบค่าครองชีพ เม.ย.-พ.ค.65 เพิ่มขึ้นอีกเกือบ 300 บาท

ค่าครองชีพพุ่ง กำลังซื้อหด ร้านค้าปลีกกระทบหนัก ความเชื่อมั่นวูบ

โดยผลการสำรวจพบว่า กรุงเทพฯ ถูกจัดอยู่ในอันดับที่ 15 เมืองที่มีค่าครองชีพสูงที่สุดในโลก ร่วงลงมาจากอันดับ 11 ในปีที่แล้ว โดยมีสินค้า-บริการใน 5 รายการที่ปรับตัวสูงขึ้น คือ ค่าจ้างทนายความ (สูงขึ้น 7%) จักรยาน (สูงขึ้น 18%) สินค้าเทคโนโลยี จำพวกไอโฟน ไอแพด (สูงขึ้น 39%) ตั๋วเครื่องบินชั้นธุรกิจ (สูงขึ้น 51%) และวิสกี้ (สูงขึ้น 55%)

ส่วนสินค้า-บริการที่ปรับราคาลดลงมามากที่สุดในกรุงเทพฯ คือ ประกันสุขภาพ (ลดลง 31%) และค่าห้องพักโรงแรม (ลดลง 26%) โดยค่าห้องพักโรงแรมของกรุงเทพฯ ถือว่าถูกที่สุดใน 24 เมืองที่มีการสำรวจ

แต่สินค้า-บริการกลุ่มที่แพงของกรุงเทพฯ คือ ราคาวิสกี้ ราคารถยนต์ ราคารองเท้าผู้หญิง และราคาค่าบริการทำเลสิก ซึ่งรายการเหล่านี้ของกรุงเทพฯ สูงเป็นอันดับ 3-4 ของโลก

Julius Baer ชี้ว่า กรุงเทพฯ เป็นเมืองระดับกลางที่มีค่าครองชีพถูกลงอย่างเห็นได้ชัดเมื่อเทียบกับเมืองอื่น ๆ ในภูมิภาคเอเชีย โดยมีราคาสินค้า-บริการหลายรายการต่ำกว่าราคาเฉลี่ยของภูมิภาค อาจเป็นเพราะประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวที่สำคัญ และอุตสาหกรรมซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่จากการระบาดของโควิด-19

ดัชนีไลฟ์สไตล์ระบุว่า เซี่ยงไฮ้ของจีน เป็นเมืองที่ค่าครองชีพสูงที่สุดในโลก โดยระบุว่า แม้แต่คนรวยที่ร่ำรวยที่สุดก็หนีไม่พ้นจากแรงกดดันจากภาวะเงินเฟ้อ ซึ่งทำให้สินค้าฟุ่มเฟือยมีราคาแพงขึ้นมาก

เซี่ยงไฮ้ครองตำแหน่งเมืองค่าครองชีพสูงที่สุดในโลกเป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน โดยมีสินค้า-บริการปรับราคาขึ้นถึง 16 รายการจาก 19 รายการ

ที่น่าสังเกตคือ ใน 5 อันดับแรกของดัชนีไลฟ์สไตล์นี้ เป็นเมืองในภูมิภาคเอเชียถึง 4 เมือง คือ เซี่ยงไฮ้ (อันดับ 1) ไทเป (อันดับ 3) ฮ่องกง (อันดับ 4) และสิงคโปร์ (อันดับ 5)

ส่วนอันดับที่ 2 นั้นตกเป็นของ ลอนดอน สหราชอาณาจักร ซึ่งอันดับพุ่งพรวดมาจากอันดับ 8 ในปีที่แล้ว จากราคาสินค้า-บริการที่เพิ่มขึ้นถึง 15 รายการจาก 19 รายการ โดยเฉพาะค่าบริการห้องพักโรงแรมที่พุ่งทะยานกว่า 225%

ขณะที่โตเกียวซึ่งถูกแย่งอันดับ 2 ไปนั้น มีค่าครองชีพตกลงมามากที่สุด โดยร่วงลงมาอยู่ที่อันดับที่ 8 ส่วนใหญ่เกิดจากวิกฤตการอ่อนค่าของสกุลเงินเยนของญี่ปุ่น

เมื่อเปรียบเทียบแล้ว จะพบว่า ไม่มีเมืองใดในสหรัฐฯ หรือทวีปอเมริกาอยู่ใน 10 อันดับแรกของดัชนีนี้เลย ซึ่งเมืองเหล่านี้จะถูกมองว่า “มีค่าครองชีพถูกมาก” ในสายตาของคนที่มีเงิน

โดยสรุปในภาพรวม รายงานระบุว่า ผลกระทบจากการระบาดใหญ่ของโควิด-19 ประกอบกับอัตราเงินเฟ้อที่มีแนวโน้มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมาและการหยุดชะงักของห่วงโซ่อุปทาน ทำให้ต้นทุนสินค้าและบริการสูงขึ้น รวมถึงสินค้า-บริการ 19 รายการที่ Julius Baer ทำการสำรวจด้วย สะท้อนวิกฤตค่าครองชีพทั่วโลกปรับตัวสูงขึ้น

โดยสินค้ากลุ่มเทคโนโลยี เช่น ไอโฟน ไอแพด แมคบุ๊ก มีการปรับราคาเพิ่มขึ้นมากที่สุดในบรรดาสินค้า-บริการ 19 รายการ เฉลี่ยทั้งโลกเพิ่มขึ้น 41% รองลงมาคือค่าจ้างทนายความที่ทั่วโลกสูงขึ้น 32.6%

ในทางตรงกันข้าม รายงานพบว่า สินค้ากลุ่มไวน์และประกันสุขภาพีการปรับราคาลดลงมากที่สุดในโลกในปีนี้ โดยลดลง 26.1% และ 24.4% ตามลำดับ

เรียบเรียงจาก CNBC

ภาพจาก AFP

10 อันดับอาชีพร้อนแรง อัตราการ “จ้างเด็กจบใหม่” พุ่งสูง

วอลเลย์สาวไทย ปลอดโควิดยกทีม พร้อมดวลญี่ปุ่น เย็นนี้

อัปเดตข่าวล่าสุดก่อนใคร Add friend ได้ที่ @PPTVOnline