แอปเปิ้ลวอชสามารถวัดอุณหภูมิร่างกายได้ไหม

Apple Watch Series 8 ซึ่งเตรียมวางจำหน่ายในช่วงปลายปีนี้ เตรียมเพิ่มความสามารถใหม่ นั่นคือ การตรวจวัดอุณหภูมิ โดยจะมีการแจ้งเตือนผู้ใช้งานทันทีที่มีไข้ จากนั้นระบบจะแนะนำให้ใช้เทอร์โมมิเตอร์ หรือการไปพบแพทย์

มาร์ค เกอร์แมน จากสำนักข่าวบลูมเบิร์ก รายงานว่า Apple Watch Series 8 ซึ่งจะมาพร้อมกับการเปิดตัว iPhone 14 ระบุว่า Apple Watch รุ่นใหม่ จะมาพร้อมกับเซนเซอร์อุณหภูมิร่างกายที่สามารถบอกได้ว่าผู้สวมใส่มีไข้หรือไม่

เมื่อระบบภายใน Apple Watch Series 8 บอกว่าคุณมีไข้ จะแนะนำให้ผู้สวมใส่ไปพบแพทย์ใช้เทอร์โมมิเตอร์วัดไข้อีกครั้งหนึ่ง เพื่อความถูกต้องชัดเจนอีกครั้งหนึ่ง

ข่าวลือเกี่ยวกับเซนเซอร์อุณหภูมิร่างกาย เป็นสิ่งที่ถูกพูดถึงมาสักระยะหนึ่งแล้วว่าจะต้องมาใน Apple Watch เพียงแต่จนแล้วจนรอดก็ยังไม่มีการเปิดตัวฟีเจอร์นี้เสียที แต่ก็พอมีความเป็นไปได้ที่จะปรากฏใน Apple Watch Series 8 เนื่องจากมีการทดสอบมาแล้วหลายครั้ง

นอกเหนือจากเซนเซอร์อุณหภูมิแล้ว เกอร์แมน ระบุว่า Apple Watch Series 8 น่าจะมีการเปลี่ยนแปลงด้านฮาร์ดแวร์เพียงเล็กน้อยเท่านั้น

อย่างไรก็ตาม เกอร์แมน รายงานว่า ชิปเซต Apple S8 มีประสิทธิภาพที่ไม่ต่างจาก Apple S7 มากนัก นั่นเป็นเพราะว่า แอปเปิล มีแนวคิดที่จะอัปเกรดครั้งใหญ่ในการเปิดตัวในผลิตภัณฑ์ใหม่ในปี 2023

ถ้าอยากรู้ว่ามีไข้ หรือมีอาการคล้ายวัด คล้ายติดไวรัสโคโรน่า (COVID-19) ลองตรวจเช็กจาก Apple Watch ได้นะคะ

นอกจาก Apple Watch จะปรับตั้งค่าให้เช็กอัตราการเต้นของหัวใจ วัดระดับความเครียด บันทึกการออกกำลังกาย เฝ้าสังเกตพฤติกรรมการนอนว่ามีคุณภาพมากน้อยแค่ไหน เป็นอุปกรณ์สร้างเสียงเพลงระหว่างออกกำลังกาย และอื่น ๆ อีกมากมายแล้ว

ตอนนี้ Apple Watch ยังใช้เฝ้าสังเกตร่างกายของคุณว่ามีแนวโน้มจะเป็นไข้หวัดหรือไม่ ซึ่งเหมาะกับสถานการณ์ตอนนี้มากเพราะอาการไข้หวัดคล้ายกับอาการแรกเริ่มของผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโคโรน่า (COVID-19)   

แอปเปิ้ลวอชสามารถวัดอุณหภูมิร่างกายได้ไหม

แต่ก่อนอื่น เพื่อน ๆ ต้องโหลดแอพ Cardiogram: Heart Rate Monitor ลง Apple Watch ก่อนนะคะ แอพนี้จะแสดงอัตราการเต้นของหัวใจแบบเรียลไทม์ ณ ตอนนั้น และยังเก็บข้อมูลมาแสดงเป็นกราฟเพื่อเรียกดูทีหลัง หรือเซฟข้อมูลเป็นไฟล์ PDF ส่งให้คุณหมอใช้วิเคราะห์อาการร่วมด้วยได้  

แต่สิ่งที่ทำให้แอพ Cardiogram น่าสนใจเป็นพิเศษก็เพราะแอพได้อัพเดตฟีเจอร์ใหม่ชื่อ Sleeping BPM ซึ่งจะเก็บข้อมูลการอัตราการเต้นของหัวใจระหว่างที่หลับ หากว่าคุณเป็นหวัดหรือร่างกายผิดปกติใด ๆ มันจะแสดงออกมาให้เห็นทางกราฟการเต้นของหัวใจในระหว่างที่ร่างกายพักผ่อน ซึ่งจะเห็นความแตกต่างอย่างชัดเจนเมื่อนำกราฟไปเทียบกับช่วงเวลาร่างกายแข็งแรงปกติ และข้อมูลเหล่าอาจบอกได้ว่าคุณป่วยเป็นโรคอะไร

Sleeping BPM จะบอกได้ว่าตอนนี้ร่างกายมีอาการของไข้หวัดหรือไม่ ซึ่งอาการของไข้หวัดจะคล้ายกับอาการเบื้องต้นของการติดเชื้อไวรัสโคโรน่า (COVID-19) เมื่อมีอาการคล้ายไข้หวัด ตัวร้อน มีไข้ แอพจะแจ้งเตือนคุณทันทีเลย

แอปเปิ้ลวอชสามารถวัดอุณหภูมิร่างกายได้ไหม

นอกจากนี้แอพ Cardiogram ยังเก็บข้อมูลอัตราการเต้นของหัวใจระหว่างวัน ตอนออกกำลังกาย ตอนเครียด ตอนดื่มแอลกอฮอล์ และตอนอื่น ๆ อีกด้วย โดยจะแสดงออกมาเป็นกราฟ เพื่อให้นำไปเทียบดูความแตกต่างของแต่ละช่วงเวลาได้ง่าย ๆ ค่ะ

แต่ทั้งนี้ผู้สร้างแอพก็ขอเตือนไว้ก่อนว่า แอพจะแจ้งเตือนเพราะคุณมีอาการไข้หวัด แต่ไม่ได้ระบุว่าคุณติดไวรัสโคโรน่า (COVID-19) ดังนั้นอย่าเพิ่งตะหนกตกใจ ให้รีบไปหาหมอเพื่อเช็กอาการอย่างละเอียดจะดีกว่า 

ทั้งนี้เมื่อร่างกายติดเชื้อโคโรน่า (COVID-19) อัตราการเต้นของหัวใจในช่วงที่ร่างกายพักผ่อนจะเปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด เพราะร่างกายกำลังต่อสู้กับไวรัสอย่างหนัก ดังนั้นแอพอื่น ๆ ที่จับอัตราการเต้นของหัวใจช่วงเวลาหลับก็แสดงข้อมูลนี้ได้เช่นกัน ผู้ใช้อาจต้องนำข้อมูลย้อนหลังมาเทียบกันด้วยเพื่อความแน่นใจก่อนจะไปพบคุณหมอเพื่อตรวจอาการอย่างละเอียดอีกครั้ง   

สำหรับอาการเบื้องต้นของการติดไวรัสโคโรน่า (COVID-19) คือ มีไข้สูงกว่า37.5 องศา ไอ เจ็บคอ น้ำมูกไหล หายใจเหนื่อยหอบ หายใจลำบาก หากมีอาการเหล่านี้และมีประวัติอยู่ใกล้กับผู้ป่วยหรือบุคคลกลุ่มเสี่ยง ขอแนะนำให้ไปพบคุณหมอทันทีค่ะ

ดาวน์โหลดแอพที่ได้ >> Cardiogram: Heart Rate Monitor  

ที่มา t3.com 

Apple watch สามารถวัดอุณหภูมิร่างกายได้ไหม

Apple Watch รุ่นใหม่ จ่อมาพร้อมฟีเจอร์วัดระดับความดันในเลือด และเซ็นเซอร์เทอร์โมมิเตอร์วัดอุณหภูมิร่างกาย

อุณหภูมิของร่างกายใช้อะไรวัด

การวัดอุณหภูมิร่างกายเป็นการใช้เทอร์โมมิเตอร์ส าหรับวัดอุณหภูมิใส่เข้าไปในส่วนหนึ่งส่วนใดของ ร่างกาย เพื่อประเมินระดับอุณหภูมิ ซึ่งเกิดจากความสมดุลระหว่างความร้อนที่ร่างกายผลิตขึ้นกับความร้อนที่ เสียไปจากร่างกาย ค่าปกติอุณหภูมิร่างกายแต่ละวัยมีความแตกต่างกัน ดังนี้ ทารก (Infant) 36.5 – 37.5oC(98.24 – 99.5oF) เด็ก ( ...

วัดไข้ทางไหนดีสุด

วัดทางปาก เหมาะสำหรับเด็กอายุ 5 ปีขึ้นไป เพราะเด็กต่ำกว่า 5 ปี อาจยังอมปรอทไม่เป็นและอาจกัดปรอทแตก และควรให้อมไว้ใต้ลิ้น เพราะมีเส้นเลือดจำนวนมาก จะทำให้ได้อุณหภูมิที่ถูกต้องที่สุด อมปรอทไว้นาน 3 นาที ขณะวัดไม่ควรหายใจทางปากและไม่ดื่มน้ำเย็นหรือน้ำร้อนก่อนจะวัดปรอท อย่างน้อย 10-15 นาที

วัดอุณหภูมิทางทวารหนักกี่นาที

วัดไข้ทางทวารหนัก เป็นวิธีที่นิยมใช้ในเด็กเล็ก โดยก่อนวัดไข้ให้เช็ดทำความสะอาดและทาสารหล่อลื่นที่ปลายปรอทก่อนเพื่อป้องกันการบาดเจ็บ จากนั้นสอดปรอทวัดไข้เข้าไปในรูทวารลึกประมาณ 1.25 - 2 เซ็นติเมตร รอประมาณ 2 นาทีให้แถบปรอทหยุดนิ่งก่อนจึงอ่านค่าอุณหภูมิ วิธีนี้ควรทำอย่างระมัดระวังเพราะอาจทำให้บาดเจ็บได้