การ ซ่อม อุปกรณ์ ไฟฟ้า เบื้องต้น

เครื่องใช้ไฟฟ้าของใกล้ตัวที่ทุกบ้านต้องมีไว้เพื่ออำนวยความสะดวกสบายในชีวิตประจำวัน เช่น เตาอบ ไมโครเวฟ เครื่องซักผ้า ทีวี ตู้เย็น เตารีด และอื่นๆอีกมากมาย เพราะฉะนั้นการเสียของเครื่องใช้ไฟฟ้าเหล่านี้ก็อาจเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อและบางทีมันก็เสียเล็กๆน้อยๆจนไม่อยากไปส่งร้านซ่อมซึ่งก็เสียทั้งเวลาและเสียทั้งเงิน จึงอยากจะลองซ่อมเองบ้างจะได้ไม่ต้องเสียทั้งเงินและเวลา ลองมาดูวิธีการกันดีกว่าครับ
1. ตรวจสอบปลั๊กไฟอย่างสม่ำเสมอ การตรวจสอบปลั๊กไฟนั้นเป็นสิ่งสำคัญที่จะต้องทำอย่างสม่ำเสมอว่ามีรอยไหม้รอยขาดหรือรอยที่เกิดจากการกัดแทะของสัตว์หรือไม่ เพราะอาจเป็นเหตุให้เกิดไฟช๊อตและลุกลามให้เกิดอัคคีภัยได้ในที่สุด
2. เช็คกระแสไฟ การเช็คกระแสไฟเป็นประจำนั้นอาจทำให้ท่านรู้ว่าไฟวิ่งเท่าไหร่สม่ำเสมอหรือไม่หรือมีกระแสไฟแปรปรวนและอาจเป็นเหตุให้เกิดการเสียเงินค่าไฟเกินเหตุความจำเป็นอีกด้วย
3. ดูฟิวและเบรกเกอร์ ฟิวส์และเบรกเกอร์นั้นควรเช็คบ้างเพราะหากเกิดการชำรุดมันอาจจะทำให้ท่านไม่มีไฟใช้นอกจากท่านจะมีฟิวส์และเบรกเกอร์สำรองมาทดแทนหรือเปลี่ยนนั้นเอง
4. เติมเชื้อเพลิงทุกครั้ง หากเครื่องใช้ไฟฟ้าของท่านจำเป็นจะต้องเติมเชื้อเพลิงแล้วละก็ควรหมั่นตรวจเช็คเพื่อท่านจะได้ไม่ต้องมานั่งหงุดหงิดเวลาเชื้อเพลิงหมด
5. ปลอดภัยไว้ก่อน หากตรวจสอบเครื่องใช้ไฟฟ้าแล้วพบว่าทุกอย่างเป็นปกติแต่มันไม่ทำงานก็ต้องถึงเวลาที่ท่านจะต้องซ่อมกันแล้วล่ะครับ แต่ก่อนจะซ่อมเครื่องใช้อะไรก็แล้วแต่ควรตรวจสอบเรื่องไฟฟ้าว่ามีการตัดแล้วแน่นอนนะครับถึงจะเริ่มขั้นตอนการทำได้
6. ซื้ออะไหล่มาเปลี่ยน การซื้ออะไหล่สำรองมาเปลี่ยนก็เป็นอีกหนึ่งอย่างที่สำคัญนะครับเพราะหากเวลามีสิ่งไหนในบ้านชำรุดไปก็จะได้นำมาเปลี่ยนทดแทนในทันที ยกตัวอย่างเช่นหลอดไฟฟ้านะครับ

เพื่อความปลอดภัยแก่สวัสดิภาพของตัวท่านเอง และเกี่ยวกับความปลอดภัยในเครื่องใช้นั้น ๆ ด้วย ประการแรกที่สุดคือ ควรตัดสวิตซ์ทางเดินของกระแสไฟเสียก่อนทุกครั้ง หรือนำเอาเครื่องใช้นั้น ๆ ออกมาจากแหล่งที่มีกระแสไฟฟ้า เพื่อความปลอดภัยทั้งสองประการในชั้นต้น แล้วให้ปฏิบัติการซ่อมโดยลำดับขั้นดังต่อไปนี้

1. ได้แก่ การระวังรักษาเครื่องใช้ และร่างกายของตัวท่านเองเป็นประการแรก คือ ให้ปลดเอาเครื่องใช้นั้น ๆ ออกจากทางเดินของกระแสไฟฟ้า

2. ข้อเสีย  หรือข้อบกพร่องของเครื่องใช้ไฟฟ้าใด ๆ ขึ้นอยู่กับลักษณะของเครื่องใช้นั้น ๆ เช่น ถ้าเป็นเครื่องใช้ประเภท Heater ย่อมมีข้อเสียหายเกี่ยวกับตัวแผ่นธาตุของฮีตเตอร์นั้น ๆ หรือข้อต่อต่าง ๆ ถ้าเป็นเครื่องใช้ประเภทมอเตอร์ขับ มักจะเสียตรงส่วนที่มีการเคลื่อนไหว

3. ชิ้นส่วนของไฟฟ้า ควรจะต้องตรวจข้อบกพร่องเป็นอันดับแรกตามที่กล่าวมาแล้วในข้อ 1 และข้อ 2 ปรากฏว่า พบข้อบกพร่องที่เกิดขึ้นต่างชนิดของเครื่องใช้ที่จะต้องซ่อมหรือเปลี่ยน ก็ควรรีบทำการซ่อมหรือเปลี่ยนทันที

4. ก่อนที่จะถอดชิ้นส่วนออกซ่อมหรือเปลี่ยน ควรทำเป็นบันทึกแผนผังไว้ หรือทำเครื่องหมายบนชิ้นส่วนนั้น ๆ เสียก่อน เพื่อมิให้เกิดสับสนหรือเสียเวลาในการประกอบภายหลัง แต่ถ้าปรากฏว่าชิ้นส่วนของเครื่องใช้ชนิดนั้นพัง ควรหาเครื่องใช้ที่คล้ายกันมาเปรียบเทียบเอาไว้

5. ชิ้นส่วนบางชนิด เมื่อถอดออกแล้วแต่ไม่สามารถจะซ่อมได้หรือเป็นชิ้นส่วนที่ชำรุดไม่เหมาะแก่การซ่อม หรือนำกลับมาใช้ใหม่ควรเปลี่ยนได้ก็เปลี่ยนเสีย เช่น สายไฟ หรือปลั๊ก เป็นต้น

6. การประกอบชิ้นส่วนเข้าที่เดิมให้ทำงานทีละขั้นช้า ๆ และต้องตรวจสอบสภาพแต่ละชิ้นส่วนนั้นให้ดีเสียก่อนที่จะประกอบเข้า หรือควรทำความสะอาดประการใดก็ควรทำเสียด้วย เมื่อประกอบเข้าที่เดิมแล้วให้ตรวจดูอีกครั้ง ก่อนที่จะปล่อยกระแสไฟฟ้าเข้าไปในเครื่องใช้นั้น ๆ เพื่อความปลอดภัยของท่านและเครื่องใช้นั้น ๆ ด้วย

เชียงใหม่แอร์แคร์เอ็นจิเนียริ่ง

จำหน่าย ติดตั้ง รับเหมา วางระบบ เครื่องปรับอากาศ เครื่องทำน้ำอุ่น จำหน่ายอะไหล่แอร์ราคาส่งทั่วประเทศ พร้อมบริการหลังการขายครบครัน

เครื่องใช้ไฟฟ้า เป็นสิ่งที่สำคัญและจำเป็น พูดได้เต็มปากว่าหากเราไม่มีโทรทัศน์ พัดลม แอร์ เตารีด เครื่องซักผ้า ฯลฯ เราไม่สามารถใช้ชีวิตได้เป็นปกติสุขอย่างแน่นอน และแน่นอนอีกเช่นกันว่าเครื่องใช้ไฟฟ้าก็มีวันที่จะต้องชำรุดเสียหาย

ดังนั้นอาชีพช่างซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้าจึงเป็นอีกหนึ่งอาชีพที่น่าสนใจ คนที่มีสกิลด้านนี้รับรองว่าไม่มีคำว่าอดตายเพราะสามารถหางาน หาเงินได้เรื่อยๆ ยิ่งรู้จักการทำตลาดประชาสัมพันธ์ตัวเองให้คนรู้จักมากขึ้น ทั้งงาน ทั้งเงินก็จะเข้ามาหาเรามากขึ้นเช่นกัน

www.ThaiSMEsCenter.com ได้รวบรวมเอาแนวทางของการเป็นช่างซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้าที่น่าสนใจเป็นข้อมูลให้เราลองคิดและตัดสินใจเผื่อเราจะเลือกทำเป็นธุรกิจให้ตัวเองได้

สิ่งสำคัญที่ “ช่างซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้า” ควรปฏิบัติ

ภาพจาก bit.ly/3nkqLPp

โดยเครื่องใช้ไฟฟ้าแต่ละชนิดมีวิธีการทำงานที่แตกต่างกัน ระบบวงจรภายในก็แตกต่างกัน การซ่อมบำรุงก็จะมีวิธีการที่แตกต่างกันไปด้วย โดยเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มักจะมีปัญหาเช่น เตารีด หม้อหุงข้าว กระติกน้ำร้อน โทรทัศน์ พัดลม เป็นต้น

ซึ่งรูปแบบการซ่อมเราต้องเรียนรู้องค์ประกอบภายในของสินค้าแต่ละประเภท และบางทีต้องรู้ข้อมูลแยกย่อยลงไปในแต่ละรุ่นด้วย เพื่อวิเคราะห์ปัญหาว่าเกิดจากสาเหตุใด อาจต้องมีการไล่วงจรไฟฟ้าว่าส่วนใดที่เสียหาย

นอกจากนี้ช่างซ่อมยังต้องสามารถอธิบายสภาพปัญหาของเครื่องใช้ไฟฟ้าให้ลูกค้าทราบได้ว่าเกิดจากอะไร และทำไมถึงได้เป็นอย่างนั้น รวมถึงต้องประเมินวิธีการแก้ปัญหาได้อย่างถูกต้องด้วย

อุปกรณ์สำคัญสำหรับ “ช่างซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้า”

ภาพจาก bit.ly/2GhyBZL

เครื่องมือและอุปกรณ์ของช่างซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้ามีอยู่จำนวนมาก แต่ในที่นี้เราจะมายกตัวอย่างของเครื่องมือพื้นฐานที่สำคัญและจำเป็นได้แก่

มัลติมิเตอร์ เป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่างซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้าควรมีใช้สำหรับวัดแรงดันไฟฟ้า กระแสไฟฟ้า และความต้านทานทางไฟฟ้า

1. ไขควง มีทั้งไขควง ปากแบบ ปากแฉก ขึ้นอยู่กับการใช้งานในแต่ละสถานที่
2. ไขควงวัดไฟ แตกต่างจากไขควงสกรู เพราะไขควงวัดไฟจะมีหลอดไฟอยู่ที่ด้าม ใช้ในการทดสอบวงจรไฟฟ้า
3. มีดคัตเตอร์ สำหรับใช้ในการปอกฉนวน ตัด หรือควั่นสายไฟฟ้า
4. คีม มีทั้งคีมตัด คีมปากแบน คีมปากจิ้งจก คีมปอกสาย คุณประโยชน์ในการใช้งานจะแตกต่างกันออกไป
5. หัวแร้ง เป็นอุปกรณ์สำคัญใช้สำหรับการบัดกรี เชื่อมสายไฟเข้ากับวงจรเครื่องใช้ไฟฟ้า

นอกจากนี้ก็ยังมีเครื่องมืออีกหลายชนิด ที่อาจจะต้องนำมาใช้ร่วมกันในระหว่างปฏิบัติงาน ซึ่งการซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้าในแต่ละเคสอาจเจอปัญหาที่แตกต่างกันการเลือกเครื่องมือเพื่อใช้งานให้ถูกต้องจึงเป็นสิ่งที่จำเป็นมาก

ตัวอย่างการซ่อม “เตารีด”

ภาพจาก bit.ly/3nhjYWX

และเพื่อให้มองเห็นภาพชัดเจนว่า “ช่างซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้า” ทำงานอย่างไร และทำอะไรบ้าง เราจะลองยกเคสตัวอย่างของการซ่อมเตารีดแบบง่ายๆมาฝากกัน เริ่มจาก

1. เช็คสายปลั๊กว่าสายไฟขาดหรือเปล่า โดยใช้มิเตอร์วัดหัวท้ายของสายปลั๊ก โดยไม่ต้องถอดขั้วปลั๊กก็ได้
2. ถ้าหลอดไฟไม่ติดแต่เตารีดร้อนอาจเป็นได้ว่า “หลอดไฟขาด”
3. ถ้าเตารีดไม่ร้อน ตรวจเช็คสายปลั๊กแล้วไม่ขาด อาจมีปัญหาที่ฮีทเตอร์ขาด สามารถเช็คโดยใช้มิเตอร์วัดคร่อมขั้วฮีทเตอร์
4. หรืออาจตรวจเช็คเทอร์โมสตาร์ท โดยใช้มิเตอร์วัดหน้าสัมผัส ขั้ว 1-2 แล้วลองหมุนปรับอุณหภูมิเตารีด (แกนทองเหลือง)

นี่คือตัวอย่างของอาการและการทำงานเบื้องต้นของช่างซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้า ซึ่งแต่ละเคสจะมีการซ่อมที่ไม่เหมือนกัน ความยุ่งยากก็แตกต่างกัน ดังนั้นประสบการณ์จึงเป็นสิ่งที่ช่างซ่อมทุกคนควรมีเพื่อประเมินปัญหาและแก้ไขได้อย่างถูกต้อง

แนวทางการสร้างรายได้จากการเป็น “ช่างซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้า”

ภาพจาก bit.ly/3nkqLPp

ปัจจุบันคนที่สนใจอยากเป็นช่างซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้า สามารถเลือกเรียนได้จากสถาบันฝึกอาชีพทั้งของภาครัฐและเอกชน โดยส่วนใหญ่จะกำหนดชั่วโมงการเรียนไว้ชัดเจน เช่นคอร์ส 50 ชั่วโมง

โดยอาจแบ่งเป็นภาคทฤษฏี 25 ชั่วโมงเพื่อเรียนรู้หลักการเบื้องต้น เครื่องมือ วิธีการซ่อมในรูปแบบต่างๆ และอีก 25 ชั่วโมงสำหรับการฝึกปฏิบัติที่ถือว่ามีความสำคัญมาก

โดยราคาเรียนของแต่ละสถาบันก็อาจจะแตกต่างกันไปแต่เชื่อได้ว่าหากฝึกฝนจนชำนาญ อาชีพช่างซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้าจะสามารถสร้างรายได้หลายทางเช่น

เปิดร้านรับซ่อม เครื่องขยายเสียง เครื่องเสียงรถยนต์ โทรทัศน์สี เครื่องเล่นดีวีดี ฯลฯ

1. เปิดร้านติดตั้งบริการล้างแอร์
2. เปิดร้านติดตั้งและซ่อมเครื่องซักผ้า
3. เป็นช่างซ่อมบำรุงประจำ บริษัท ห้างสรรพสินค้า โรงภาพยนตร์ โรงพยาบาล และโรงแรม
4. เป็นช่างอิเล็กทรอนิกส์ ประจำโรงงานผลิต วิทยุ โทรทัศน์ หรือประจำโรงงานอุตสาหกรรม
5. งานอดิเรก รับซ่อม เครื่องขยายเสียง เครื่องเสียงรถยนต์ โทรทัศน์สี เครื่องเล่นดีวีดี พัดลม เตารีด ฯลฯ

โดยรายได้หากเป็นพนักงานประจำโรงงานหรือฝ่ายซ่อมบำรุงก็มีเงินเดือนตามประสบการณ์และโครงสร้างของแต่ละบริษัท แต่ส่วนใหญ่คนที่มีความรู้ทางด้านนี้มักจะออกมาทำธุรกิจของตัวเอง

อัตราค่าซ่อมก็จะแตกต่างกันไปตามชนิดสินค้า ตามความยากง่ายในการซ่อม วิธีการหารายได้จากการเป็นช่างซ่อมสามารถใช้ตลาดออนไลน์ในการรับงานนอกสถานที่ หรือหากมีความรู้มากพออาจเปิดคอร์สสอนให้กับคนที่สนใจก็ถือเป็นอีกหนึ่งช่องทางในการสร้างรายได้ที่น่าสนใจอย่างมาก

ทั้งนี้การเป็นช่างซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้าก็ต้องเป็นคนที่กระตือรือร้น ขยันหาข้อมูลใหม่ๆ เพราะเครื่องใช้ไฟฟ้าก็มีการพัฒนาตัวเองไปอย่างต่อเนื่อง คนเป็นช่างต้องสามารถแก้ไขปัญหาเครื่องใช้ไฟฟ้าได้ทุกชนิด หากเรายิ่งเก่ง ลูกค้าจะยิ่งติดใจและจะทำให้เรากลายเป็นช่างที่มีชื่อเสียง ทั้งงานทั้งเงินไหลมาเทมา ถือเป็นอาชีพที่ไม่ดังแต่รายได้ดีเกินคาด

ผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจ แฟรนไชส์ และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน
ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise

ต้องการข้อมูลข่าวสาร ต้องการอัพเดทข้อมูลการตลาด หรือแนวทางการทำธุรกิจ ติดตามได้ที่ https://bit.ly/3corFV2
รับฟังบทความต่างๆ ผ่านทาง PodCast ไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ https://soundcloud.com/thaifranchisecenter

ขอบคุณข้อมูล https://bit.ly/33YiEPK , https://bit.ly/3iZiaPQ , https://bit.ly/32XEjsg , https://bit.ly/32UIEfA