ปฏิเสธไม่ได้ว่าแท็บเล็ตได้กลายเป็นหนึ่งในอุปกรณ์จำเป็นในชีวิตประจำวันไม่แพ้สมาร์ทโฟนหรือแล็บท็อปไปแล้ว ด้วยความสามารถในการพกพาที่สะดวกกว่าแล็บท็อปแต่ทำงานได้เหมือนกัน ขณะเดียวกันในแง่ของความบันเทิงก็ได้เปรียบเหนือสมาร์ทโฟนในเรื่องขนาดหน้าจอ Show
ทว่าเมื่อพูดถึงแท็บเล็ต iPad ของแอปเปิลน่าจะเป็นตัวเลือกแรกๆ ที่คนส่วนใหญ่นึกถึง ไม่ว่าจะด้วยชื่อแบรนด์ของแอปเปิล หรือการเริ่มทำตลาดแท็บเล็ตก่อนคนอื่น แต่เชื่อหรือไม่ว่าแท็บเล็ตแอนดรอยด์ ยังมีข้อดีที่เหนือ iPad อยู่ แถมยังเป็นปัจจัยสำคัญในการพิจารณาซื้อแท็บเล็ตด้วยซ้ำไป หากจะนำ iPad มาเปรียบเทียบกับแท็บเล็ตแอนดรอยด์รุ่นท็อปๆ แบบหมัดต่อหมัด คงยากจะหาข้อแตกต่างชัดๆ เพราะด้วยความสามารถหรือฟังก์ชันของ iOS และแอนดรอยด์เองก็แทบจะไม่แตกต่างกันมากเท่าไหร่นักในปัจจุบัน ไม่ว่าจะการใช้งานทั่วไป, การทำงาน, ทำ multi-task, การรองรับปากกา หรืออายุการใช้งานแบตเตอรี่ ทว่าสิ่งที่แตกต่างและสร้างความได้เปรียบให้แท็บเล็ตแอนดรอยด์ เมื่อมองจากมุมของผู้ใช้งานที่จำเป็นต้องเลือกซื้อแท็บเล็ตสักเครื่อง คือเรื่องของราคาและตัวเลือกที่มีหลากหลายกว่า iPad มีขนาดหน้าจออยู่ 4 ขนาดคือ iPad mini ขนาด 7.9 นิ้ว (ที่แอปเปิลมีทีท่าว่าจะไม่ทำต่อแล้ว), iPad ขนาด 9.7 นิ้ว, iPad Pro 10.5 นิ้วและ 12.9 นิ้ว ส่วนราคาเริ่มที่หลักหมื่นต้นๆ ไปจบที่สูงสุดราว 4 หมื่นบาท ส่วนแท็บเล็ตแอนดรอยด์ ผู้ใช้มีตัวเลือกมากมายหลากหลายแบรนด์ แต่ละแบรนด์ก็มีขนาดและราคาแยกย่อยลงไปตามความต้องการและรูปแบบการใช้งาน และงบประมาณที่มี ไล่ไปตั้งแต่ราคา 2-3 พันบาท ไปจบที่หลัก 2 หมื่นบาท ส่วนความกว้างหน้าจอเริ่มที่ 7 นิ้วไปจนถึง 10 นิ้วขึ้นไป ยกตัวอย่างแบรนด์ Lenovo ซึ่งเป็นหนึ่งในแบรนด์ที่ทำตลาดแท็บเล็ตแข็งขันที่สุดรายหนึ่ง ก็มีตัวเลือกแท็บเล็ตให้เลือกในตลาด ณ ตอนนี้ถึง 7 รุ่นใหญ่ 11 รุ่นย่อย อาทิ TAB4 Essential ขนาด 7 นิ้ว ราคา 3,990 บาท, TAB4 8 ขนาด 8 นิ้ว ราคา 6,290, TAB 3 10 Business ขนาด 10 นิ้ว กันน้ำกันฝุ่น ราคา 7,490, TAB 4 10 Plus ขนาด 10.1 นิ้วราคา 11,990 และรุ่นท็อปอย่าง Yoga Book แท็บเล็ตระดับธุรกิจมัลติฟังก์ชัน รองรับปากกา แถมเขียนบนกระดาษจริงแล้วที่เขียนทั้งหมดจะไปปรากฎบนจอแท็บเล็ตได้ด้วย ราคา 19,990 บาท และ 22,990 บาท ประเด็นเรื่องราคาของ iPad เมื่อเทียบกับแท็บเล็ตแอนดรอยด์ไม่ได้จบแค่เพียงราคาตัวเครื่องเท่านั้น เพราะหากต้องการ iPad ที่มีความจุมากขึ้น รวมถึงหากต้องการรุ่นที่ใส่ซิมได้ก็ต้องจ่ายเงินเพิ่มอีกและเป็นจำนวนเงินที่ไม่น้อยเลย ส่วนแท็บเล็ตแอนดรอยด์สามารถเพิ่มความจุได้ง่ายๆ จาก microSD การ์ด ที่สำคัญคือราคา microSD การ์ดถูกกว่ามาก เมื่อเทียบกับจำนวนเงินที่ต้องเพิ่มหากต้องการเพิ่มความจุของ iPad ส่วนเรื่องการใส่ซิมได้ แทบจะเป็นฟีเจอร์พื้นฐานที่แท็บเล็ตแอนดรอยด์ทุกเครื่องทำได้ด้วยซ้ำไป ที่น่าสนใจกว่านั้นคือแท็บเล็ตของ Lenovo หลายรุ่น ไม่เพียงแค่ใส่ซิมใช้อินเทอร์เน็ตได้ แต่ยังสามารถโทรออกได้ด้วย อาทิ TAB3 7, TAB4 8 Plus และ TAB4 10 Plus เท่ากับว่าพกแท็บเล็ตเครื่องเดียว สามารถใช้งานแทนโทรศัพท์ได้เลย สรุปถึงแม้ปัจจัยการเลือกแท็บเล็ตจะอยู่ที่ความชอบและการใช้งานเป็นหลัก ทว่าราคาก็เป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อการตัดสินใจซื้ออยู่ไม่ใช่น้อย เห็นได้ชัดว่าแท็บเล็ตแอนดรอยด์ได้เปรียบกว่ามาก จะเพิ่มความจุก็เสียเงินน้อยกว่า และที่สำคัญคือไม่ต้องจ่ายเงินเพิ่ม แต่ก็สามารถใส่ซิมหรือกระทั่งโทรออกในตัว จอแสดงผล (Display)
วัสดุตัวเครื่อง (Body)
เครือข่าย (Network)
ระบบปฏิบัติการ (OS, CPU, GPU)
กล้องหลัง (Rear Camera)
กล้องหน้า (Front Camera)
บันทึกวิดีโอ (Video Recording)
เซ็นเซอร์ (Sensor)
เชื่อมต่อ
แบตเตอรี่ - ระบบชาร์จ
iPad GEN 10 RAM กี่ GBขณะที่ iPad Gen 10 จะได้ CPU รุ่นเดอะอย่าง A14 แต่การทำงานถือว่าไม่ช้ามากกับ RAM 4GB อาจจะไม่เหมาะกับการทำงานหนักมากนัก แต่ก็มีหลากหลายสีและกล้องที่กว้างกว่า iPad Air ทำให้เหมาะกับการใช้ Video Conference มากกว่า iPad 10.5 คือรุ่นไหนiPad Pro (10.5 นิ้ว) ความจุ: 64 GB, 256 GB, 512 GB. หมายเลขรุ่น (บนฝาครอบด้านหลัง): A1701 บน iPad Pro. iPad Air RAMเท่าไรCPU แบบ 8-core ซึ่งมีคอร์ด้านประสิทธิภาพ 4 คอร์ และคอร์ด้านประหยัดพลังงาน 4 คอร์ GPU แบบ 8-core. Neural Engine แบบ 16-core. RAM ขนาด 8GB. ไอแพดมินิ 1 แรมเท่าไรสเปค Apple iPad mini. |